ริดลี่ย์ สก็อต บอกว่าหนังซูเปอร์ฮีโร่ไม่ใช่แนว และหนังในปัจจุบันส่วนใหญ่แย่มาก

alien-covenant-new-set-picริดลี่ย์ สก็อต สร้างหนังทุนสูงและใช้เทคนิคพิเศษอลังการมาหลายเรื่อง แต่”หนังซูเปอร์ฮีโร่“ที่เป็นหนังทุนสูงและใช้เทคนิคพิเศษอลังการเหมือนกัน จะไม่ใช่หนังที่ผู้กำกับรางวัลออสการ์จาก Gladiator ท่านนี้ จะโดดไปทำครับ เพราะหวังที่จะทำ”หนังฉลาดๆ” ต่อไป

หนังซูเปอร์ฮีโร่ไม่ใช่หนังแนวของผม ผมจึงไม่เคยทำเลยสักเรื่อง ผมเคยถูกขอให้ทำหลายครั้งมาก แต่ผมไม่เคยเชื่อในสถานการณ์ที่คับขันอันบางเบาที่ไม่มีความเป็นจริงของซูเปอร์ฮีโร่ ผมเคยทำหนังแบบนั้นมาก่อน Blade Runner ถือเป็นหนังจากหนังสือคอมมิกได้เหมือนกันเมื่อคิดดูแล้ว มันเป็นเรื่องราวที่มีความมืดมนในโลกที่ไม่มีจริง คุณอาจใส่แบทแมนหรือซูเปอร์แมนเข้าไปในโลกนั้น ในบรรยากาศนั้นได้เลย เพียงแต่ของผมมีเรื่องราวที่ดีมาก ไม่ใช่ไม่มีเรื่องราวอะไรเลย

แต่ไม่ใช่แค่หนังซูเปอร์ฮีโร่ในปัจจุบันเท่านั้นที่ดูเหมือนไม่โดนใจท่านเซอร์สก็อต แต่ยังหมายถึงอุตสาหกรรมภาพยนตร์ยุคใหม่โดยรวมด้วยที่ส่วนใหญ่แล้ว”มีความแย่มากๆ” และเป็นห่วงอนาคตของอุตสาหกรรมด้วย “ผมอยากที่จะทำหนังต่อไป และผมหวังว่ามันจะไม่กระทบพวกเราที่ยังอยากทำหนังฉลาดต่อไป และหวังว่ามันจะไม่กระทบผม

Alien: Covenant ผลงานใหม่ของริดลี่ย์ สก็อต มีกำหนดฉายพฤษภาคม 2017 นี้ครับ

ที่มา: Digital Sky

11 comments

  1. ท่านผกก.ก็พูดถูกนะ
    นี่มันยุคของการ co กัน สร้างแฟรนไชส์
    รีบูท รีเมค สร้างจักรวาลร่วม
    เอาของเล่นมาทำหนัง
    เอานิยายเพ้อเจ้อมาทำหนัง
    ทำหนังจากอะไรก็ได้
    จนแทบจะไม่พยายามทำหนังจากแรงบันดาลใจ

  2. พูดแบบนี้ ท่านเซ่อ …ต้องมาดู อุตสาหกรรม หนังบ้านเรา

    มีอยู่สองแนว

    คือ หนัง พจน์ กับ หนัง GDH

    เผ่น!!

  3. หนังบางเรื่อง มันอาจจะไม่ได้มาจากจินตนาการสดๆใหม่ๆล้วนๆ แต่มันก็ไม่ได้แย่ …ไปซะทุกเรื่อง
    หลายๆเรื่องที่มันห่วย ก็เพราะองค์ประกอบอื่นก็มี…
    แต่เพราะ ที่มันขาดความสดใหม่ เพราะ ประเด็นต่างๆถูกยกมาใช้อ้างอิงและต่อยอดเป็นหนังหมดแล้วก็ได้..
    ลองงคิดดูดีกว่า ว่ามันยังเหลือหรือมีอะไรที่เอามาใช้สร้างจินตนาการใหม่ๆได้อีกบ้าง

  4. พอลองมาคิดๆดู ก็จริงตามที่ท่านเซอร์กล่าว พวกนายทุนก็ไปลงทุนกับอะไรไม่รู้ ทีมสร้างก็ไม่รู้คิดไงทำหนังแบบไม่สุด แล้วพูดชมกันเองว่าดีอย่างโน้นอย่างนี้

  5. เห็นด้วยเลยว่าหนังฮีโร่มันไม่ได้มีเนื้อหาสาระอะไรนัก แต่เพราะส่วนตัวดูหนังแนวนี้เพื่อสนองนี้ดอยู่แล้ว ปกติถ้าอยากได้มุมมอง สาระ ชั้นเชิง อะไร ส่วนตัวจะไปมองหาในชีวิตจริง ข่าวสาร ข้อมูลอะไรมากกว่า หรือไม่ถ้าหนังก็จะประเภทวางฟอร์มตัวเองในแนวขายเนื้อหาโดยตรงมากกว่า เลยไม่เดือดร้อนอะไร แต่เข้าใจมุมกับความเห็นต่างของเฮียนะ โอเคๆ แต่เดาว่าหลังจากความเห็นนี้ ต้องมีเด็กไบแอสบางกลุ่ม ดีใจ เพราะคิดว่าเฮียแอบจิก แบทซุป แน่เลย จากการกล่าวอ้างเปรียบเปรย แต่ส่วนตัวคิดว่า หนังฮีโร่ที่ออกมาเกลื่อนกลาดในยุคนี้แทบจะทุกเรื่องมันก็ไม่ได้มีอะไรนักแทบจะหมดแหละ เด็กคนไหนชอบเรื่องไหน สไตล์ไหน ค่ายไหน ก็จะรู้สึกไปเอง ว่าเรื่องนั้นเรื่องนี้มันช่างมี”อะไรๆ”เหลือเกิน แต่สำหรับเราบางเรื่องบางคนบอกไม่ดีแต่เรากลับได้มุมมองดีๆ ก็มี ในขณะที่บางเรื่องแห่แหนกันไปแต่เราไม่รู้สึกได้อะไรเลย เพียงแต่คนที่ถูกจริตก็บิ๊วท์ก็มโนกันไปเอง แต่ความจริงหนังแนวนี้มันก็ไม่จำเป็นต้องเป็นอะไรมากมาย แค่ขอมีคนใส่ชุดประหลาดๆ มาสู้กันเท่ๆตูมตามในสภาพแวดล้อมแฟนตาซี แล้วมีความฮึกเหิมแบบเด็กๆอยู่ ก็เพียงพอแล้ว จริงๆหนังแต่ละแนวมันก็มีสัดส่วนที่ต่างกันไป วัดด้วยเกณฑ์เดียวไม่ได้ ส่วนตัวเข้าใจองค์ประกอบ เลยได้เกือบหมด ถ้าสดชื่นอะนะ

  6. ก็แค่ความคิดเห็นของ ผกกที่ดีคนนึงครับ คำว่า “แย่” ก็เป็นมาตรฐานของลุงเค้า ซึ่งคำว่า “แย่” ในความหมายของแต่ละคน ก็ไม่สามารถเทียบกันได้อย่างชัดเจน สำหรับผม การที่ออกมาจากโรงแล้วรู้สึกอิ่มเอม เต็มความคาดหวัง ก็รู้สึกว่าหนังดีมากๆแล้ว และนั่นก็มาจากหนัง Super Hero หลายๆเรื่อง

  7. หนัง Super Hero แนวทางใหม่ๆ ก็มีนะครับ Deadpool ไง
    แล้วก็ Guardian of the galaxy / Ant man / Doctor strange เหล่านี้ก็มีแนวคิดที่ฉีกออกไปดีนะครับ
    ยกเว้นฝั่ง DC พอหมดยุค Dark knight แล้วก็ไม่มีหนังเรื่องไหน work เลย

    • ผมกลับมองว่าฝั่ง dc มีความสดหใม่มากกว่าแม้จะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร man of steel ก็ฉีกภาพเดิมของซุป BVS ก็ฉีกภาพเดิมของแบท ในขณะที่หนัง marvel แม้ประสบความสำเร็จ แต่กลับหาความสดใหม่ไม่ได้ทั้ง Guardian of the galaxy / Ant man / Doctor strange เนื้อเรื่องไม่มีไรนอกจากปราบวายร้ายไม่มีอะไรให้กลับมาคิดต่อ แม้ deadpool จะสดใหม่ก็จริงแต่แค่ในแง่ความเกรียนและ rate Rเท่านั้นตัวเนื้อเรื่องก็คือปราบวายร้ายอยู่ดี

Leave a Reply to Brian OconnerCancel reply