Rogue One: A Star Wars Story มีแววว่าจะสร้างสถิติบางอย่างด้านรายได้ครับ มีรายงานว่ารอบก่อนฉายจริงในคืนวันพฤหัสบดีของสหรัฐทำเงินไปราว 29 ล้านเหรียญสหรัฐ สูงกว่า Batman v Superman: Dawn of Justice ที่ทำไว้ 27.7 ล้านเหรียญ และ Captain America: Civil War ที่ทำไว้ 25 ล้านเหรียญ กระนั้นก็ยังถือว่าน้อยกว่า The Force Awakens อยู่ราว 49% ครับ เพราะเคยทำไว้ได้สูงถึง 57 ล้านเหรียญ
ในแง่คำวิจารณ์ คะแนนเป็นบวกค่อนข้างมากทั้งที่ Rotten Tomatoes กับ Metracritic ที่เป็นเว็บไซต์ประเมินผลการให้คะแนนของนักวิจารณ์ อย่างไรก็ดี ก็ยังต่ำกว่า The Force Awakens เช่นเดียวกับการเปิดตัวด้านรายได้ครับ The Force Awakens มีนักวิจารณ์ชอบ 92% ส่วน Rogue One มีนักวิจารณ์ชอบ 84% ที่ Rotten Tomatoes ส่วนที่ Metracritic นั้น คะแนนของ The Force Awakens อยู่ที่ 81/100 ส่วน Rogue One อยู่ที่ 65/100 ครับ
ผู้ชมรอบข้างผมส่วนใหญ่ที่ไปชมมา ชอบช่วงครึ่งหลังของหนังที่บู๊ ตื่นเต้น และมีฉากเอาใจแฟนๆ ขณะที่หลายคนก็มองว่าครึ่งแรกเป็นอะไรที่ย้วย และขาดชีวิตชีวา ตัวละครโปรดที่ชอบกันมากๆ ก็คือ K-2SO ที่ให้เสียงโดยอลัน ทูดิก กับชีรุตต์ ที่แสดงโดยดอนนี่ เยน ครับ
ผู้อ่านเว็บไซต์ของเราให้คะแนนหนังในระดับไหนกันบ้างครับ หนังมีส่วนไหนบ้างที่ชอบและไม่ชอบ มีตัวละครไหนบ้างที่ชอบ และชอบมากกว่าหรือน้อยกว่า The Force Awakens ครับ มาใส่ความเห็นกันโดยไม่ต้องสปอยล์
ส่วนตัวชอบกว่า Force Awakens ค่ะ
อาจจะด้วยบริบทภาคแยกที่ไม่ต้องไปตามธีมหลักๆมาก ทั้งการไม่ใช่ดาบเลเซอร์ มันรู้สึกได้ฟีลใหม่ๆแต่ก็ยังมีกลิ่นอายของจักรวาลสตาร์วอร์
แอบเนือยๆตอนแรก แต่ช่วงหลังนี่ตาโตเอาบ่อยมาก 555 นั่งดูก็นั่งเดาไปกันใหญ่ว่าใครจะออกมาบ้าง
ชอบทีมคาแรกเตอร์นี้ อยากให้กลับมาเล่นอีก ฮื่อออออ
ครึ่งแรก เนือย ครึ่งหลังตื่นตา ตอนจบประทับใจ
ช่วงแรกของหนังเสียเวลาปูเนื้อเรื่องไปกับสิ่งที่ไม่ค่อยมีความจำเป็นเท่าไหร่ เข้าใจว่าต้องการให้อินกับตัวละคร รู้พื้นเพนิสัย ปมของตัวละคร แล้วก็ค่อยบิ้วคนดูไปเรื่อยๆ แต่มันเกินความจำเป็นจนกลายเป็นเนือยๆ
ส่วนช่วงหลังของหนัง มีการเล่าเรื่องที่ไว กระชับ ตื่นตา น่าชื่นชม และมีฉากให้เซอร์ไพรส์เยอะจิงๆ(แนะนำว่าดูเส็จกลับมาดูภาค4ซ้ำเลยนะครับ จะว้าวมาก)
ส่วนตัวขอชื่นชมครับ วิสัยทัศน์ที่เยี่ยม ฉากหรือตัวละครต่างๆในหนังให้กลิ่นอายของไตรภาคแรกอย่างชัดเจน แต่ก็มีความเป็นตัวเอง หนังมอบประสบการ์ณ์อีกแบบหนึ่งของจักรวาล Star wars ได้อย่างดี สนุก และน่าตื่นตาตื่นใจ ทำให้หวังได้อีกไกลเลยกับซีรี่ย์นี้ รวมถึงภาคแยกที่จะตามมา
ส่วนตัวประทับใจมากกว่าสตาร์วอร์ภาค7ครับหนังภาคแยกไม่ใช่ภาคหลักหนังโดนตีกรอบด้วยโจทย์หลายอย่างเเล้วยังไม่มีองค์ประกอบที่เป็นหัวใจของมันคือเจไดกับซิธท์ด้วยใช้แค่ตัวละครบทรองของหนังสตาร์วอร์ทุกภาคคือมนุษย์ธรรมดามาเป็นตัวนำเรื่องแทนก็ยังพาให้หนััังออกมาดีได้น่าชื่นชมจุดนี้เเละปิดฉากได้เซอร์ไพรมากส่งต่อให้ภาค4เป็นภาคที่มีคุณค่ามากขึ้นกว่าเดิมทีเดียว
ความเห็นของผมรวม ๆ ให้ 7/10 ครับ หนังไม่เอื้อให้ผู้ชมทั่วไปเท่าไหร่ คนที่สนุกน่าจะต้องเป็นแฟนสตาร์วอร์สด้วย คะแนนผมให้ส่วนใหญ่มาจากครึ่งหลังของหนังที่ทำได้ดีมาก ตอนต้นมีความวุ่นวายตัดไปมา เนือย ๆ ออกแนวตามสูตร และไม่ได้สร้างพื้นหลังให้ตัวละครมากเท่าที่ควรจะเป็น ทั้งที่ส่วนนี้จะส่งผลให้คนดูมีอารมณ์ร่วมฉากท้าย ๆ ได้มากกว่านี้ สิ่งที่ชอบคือบรรยากาศที่เหมือนสงครามจริง ๆ ตัวละครสมทบที่ออกมาไม่เพียงแต่ขโมยซีน ยังมีความสำคัญต่อเรื่องราวในหนังด้วย
ให้ 8/10 และ ชอบกว่า ภาค 7 อาจเนือย บ้าง พอรับได้ ให้เห็นปูมหลัง ตัวละคร สำคัญ แบบ มีลุ้น ฉากจบ อี้งสุด ๆ ให้รีบ กลับมาดู a new hope เลยทีเดียว
Review : Rogue I
AxelMighty Power
รีวิว บ้านๆแบบไสตล์ผมเองนะครับอาจตรงหรือไม่ตรงกับใจท่าน แล้วแต่ครับ
เข้าประเด็นเลยครับ พึ่งได้ดูช้ากว่าคนอื่นไปเยอะเพราะติดงาน แต่ไปดูแล้ว เห็นอาการของหนังมันออก นี่คือหนังที่ผมกล้าบอกเลยว่า ไม่ชอบสตาร์วอส์ก็ดูได้ เหมือนหนังสงครามทั่วๆไปมากกว่า ไม่ฉากอภินิหารที่พระเอกกับผู้ร้ายเอาดาบไล่ฟาดฟันกันแบบดุเดือด มีแต่ยิงกันเสียมาก ไม่แนะให้เด้กดู มันดิบเกิ๊นไป เรื่องราวที่ต่อเนื่องกับภาค 4 A new hope แบบชนิดที่เรียกได้ว่า หายใจรดต้นคอเลย แต่ไม่เคยดู A new hope มาดูต่อจากหนังเรื่องนี้ ผมว่าก็ OK เลยครับ (เหมือนจงใจทำเพื่ออุด Plot hole ของ A new hope กลายๆด้วย) อย่ารอช้ามาดูข้อดีข้อเสียกันเลยครับ
ข้อดี
1. บทสดใหม่ไม่เหมือนภาค 7 (The Force Awakens) ที่ฉายเมื่อปีที่แล้ว ออกแนวรีเมคภาค 4 ชัดๆ ไม่เคยดู Starwars มาก่อนก็ดูได้ ไม่มีผลอะไรมากนัก แค่จะไม่เข้าใจ Ester Egg เท่านั้น
2. แอ๊คชั่นครึ่งหลังเรื่อง มันส์ สนุก จัดเต็ม จุใจ ทั้งยานอวกาศและ การรบบนพื้นดิน เป็นหนังสงครามที่อลัง โหดแต่ไม่สยอง
3. Ester Egg เยอะ ถูกใจแฟนบอย
4.(คหสต.) มุก ตลกขำใช้ได้ในบางฉากไม่ถึงกับเหวอ
5. Darth Vader ตัวละครสัญลักษณ์ของหนังชุดนี้ มีบทบาท ที่น่าประทับใจ โผล่มาไม่เยอะแต่อิมแพ๊ค มาก
6. นักแสดง ยอดเยี่ยมมาก มีบทให้จดจำทุกตัวละคร ทั้ง มนุษย์ที่มีทั้ง ผิวขาว ผิวสี ผิวเหลือง และ เอเลี่ยนแต่ละแบบก็น่าจดจำ ชอบตัว ปลาเผือกมากๆ คือบทน้อยแต่มีฉากที่น่าจดจำและดูกล้าหาญมากๆ
7. มีอะไรมากกว่าตัวอย่างเยอะ ไม่ใช่แค่เรื่องขโมยผังดาวมรณะ เพียงอย่างเดียว
ข้อเสีย
1. มุมกล้องไม่ใช่ Starwars เอาเสียเลย คนละแนวกับ ท่านผู้สร้าง Gorge Lucas เลยจริงๆ
2.ดนตรีประกอบที่ รวมๆไม่ทำให้หนังดีขึ้นแต่อย่างใด พลาดมากๆเลยตรงจุดนี้
3. CGI ที่แบบว่า รวมๆทั้งเรื่อง ผมให้ผ่านนะแต่ ตรงช่วงพีคของหนัง CGI ดันห่วยซะงั้น ฉากทั่วไปห่วย ผมไม่ว่าเลย จริงทำดีด้วยซ้ำ แต่ฉากที่กำลังพีค ดันงานห่วยแอบสตั๊นไปเลย
สรุป หากท่านใดมองข้ามข้อเสียของหนังไปได้ น่าจะชอบและให้คะแนนหนังเรื่องนี้เยอะนะครับ แต่ท่านใดรับไม่ได้กับข้อเสียที่ มีไม่เยอะแต่พีค อาจไม่ชอบเลยก็ได้ อันนี้แล้วแต่วิจารณญาณครับ ทำให้คะแนน เสียงแตกเป็นสองฝั่งพวกชอบจะชอบมากๆ พวกไม่ชอบจะไม่ชอบเลย
ผู้เขียนชอบที่สุดในหนังคือมุก คลุมทำไมตาบอดอยู่แล้วโว้ยมาก ขำจริงๆ ครับ
ช่วงแรกบอกเลยว่า ง่วงมาก ตัดไปตัดมาหลายดาวเหลือเกินจำไม่ได้สักดาว หาวไปหลายที
บางฉากก็ดูมืดๆเกินไป
เนื้อเรื่องดูเฉื่อยๆ ช้าๆ
ตัวละครนำหญิงก็ดูอยู่ดีๆก็เป็นผู้นำซะงั้น ไม่ค่อยอินเลย ด้วยพื้นฐานที่ไม่เก่งมาตลอดชีวิต
เป็นภาคที่ปิดจุดบอดของภาค 4 the new hope ได้ดีจริงๆ สมชื่อภาค 4 จริงๆ ความหวัง
ฉากรบถือว่าทำได้ดี ชอบยานฉลามหัวค้อนมาก จิ๋วแต่แจ๋ว
ตัวละครเก่าๆ ก็มาได้ในปริมาณที่ไม่มากเกินไป
ส่วนตัวให้ผ่านครับ แต่ไม่ถึงกับว่า ต้องเชียร์ให้ไปดู ห้ามพลาด
แดนนี่ เยน ขโมยซีนได้เยอะพอสมควร
เป็น STAR WARS ที่เหมาะสมกับคำว่า WAR ที่สุด
เป็น STAR WARS ที่กล้าหาญที่สุด กล้าที่จะฉีกแนวออกจากภาคหลัก กล้าที่จะใส่เนื้อเรื่องเข้มข้นและจริงจัง กล้าที่จะเสียสละตัวละครในฉากจบเพื่อปูทางสู่ภาคหลักอย่างไร้ที่ติ
สำหรับผม ภาคนี้เป็นมากกว่า Spin-off ธรรมดาๆ
ผมคิดว่าหนังทำพลาดตรงที่ไปเสียเวลาปูพื้นตัวละครมากเกินไป อันที่จริงไม่จำเป็นต้องปูนานขนาดนั้นก็ได้ แต่งให้ตัวละครอื่น ๆ นอกจากจินอยู่ในกลุ่ม Rebel อยู่แล้วยังจะดีซะกว่า แล้วก็น่าจะใส่ความสำคัญอะไรให้ตัวละครจินมากกว่านี้ เช่น ให้เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญการลอบเร้นและหลบหนีจากประสบการณ์ที่ผ่านมาในวัยเด็ก
แต่โดยรวมผมคิดว่าสนุกกว่า The Force Awaken ครับ เพราะผมไม่ค่อยชอบภาคนั้นเท่าไหร่ และอยากให้สร้างภาคแยกที่เป็นเหตุการณ์เชี่ยมโยงกับภาคหลักแบบนี้อีก ไม่อยากให้สร้างภาคแยกที่ทำขึ้นเพื่อเน้นตัวละครเดียวแบบ ฮัน โซโล มากนัก
1. ผมดู Rogue One ที่สิงคโปร์ครับ ถ้าใครไม่เคยดู SW มาก่อน อาจไม่เข้าใจว่าตัวละครหลายคนในเรื่องนี้อยู่ในตอนเดิม แต่ผมดูครบทุกตอน ทำให้ชอบมาก เพราะมีตัวละครเดิมๆ ออกมาหลายคน
2. ชอบที่หนังแสดงความสมจริงของฝ่ายกบฎมากขึ้น โดยเฉพาะหน้าที่ของสายลับ ข่าวกรอง แต่ยังไม่ค่อยประทับใจ Deathtrooper เกราะดำมากนัก
3. ประทับใจฉากจบที่สุดครับ ทำให้ชื่อ A New Hope มีความหมายมากขึ้น
4. ผมกำลังอ่านฉบับนิยายของหนังเรื่องนี้ครับ ฉบับนิยายมีการอธิบายบางฉากให้เข้าใจมากขึ้น เช่น ความสำคัญของ Mon Mothma ที่มีต่อฝ่ายกบฏ
ช่องโหว่ของภาคสี่ มีอะไรบ้างครับ
ใครขโมยแผนผังเดทสตาร์ ทำไมเดทสตาร์ใหญ่ขนาดนั้นโดนระเบิดลูกเดียวระเบิดหมด ชัยชนะครั้งแรกของกลุ่มกบฏคืออะไร
ส่วนตัวกลับชอบครึ่งแรกมากกว่านะ
มันดูมีความระแวงสงสัย ไม่ไว้ใจกันดี
ส่วนครึ่งหลังก็กลายเป็นหนังแอคชั่นตามสูตรไป
ตัวละครที่ตอนแรกปูเรื่องมาดี บทจะไปก็ไป
ไม่เค้นอารมณ์คนดูเท่าไหร่
อยากดูเวอร์ชั่นแรกก่อนถ่ายซ่อมจัง ว่าจะออกมาเป็นยังไง?
ผมกลับชอบเนื้อเรื่องของครึ่งแรกนะ
เพราะมันช่วยสนับสนุนการกระทำตอนท้ายดี
มีไม่ชอบตรงช่วงที่เมืองเจดาโดนทำลาย
ส่วนเรื่องที่ไม่ชอบเลยคือความสัมพันธ์ของพระนาง
ที่อยู่ๆมันก็รักกันคือเข้าใจว่าเดินทางในอวกาศน่าจะใช้เวลา
แต่ก็เล่าช่วงนี้ได้แปลกๆดี พระเอกเป็นตัวละครที่
เปลี่ยนแปลงแบบเบาที่สุดสำหรับผมแล้วเรื่องนี้
ตัวนักบินยังดูโอเคกว่า 555
แต่ก็ถือว่าสนุกกว่าภาค 7 ผมว่าสำหรับผมน่าจะสัก 7.5 นะ
หักตรงการกระทำของพระเอกนี่หละ
ธรรมดาครับ ความไม่สมเห็นสมผลของหนังมันเยอะเกินไป ครึ่งแรกที่พยายามปูทางที่มาตัวละครทำได้ไม่เข้าถึงครับ เลยทำให้ตอนจะตายมันไม่อินเอาซะเลยทั้งที่การตายของตัวละครเป็นไคล์แมกซ์ในหนังสงครามแท้ๆ สรุปชอบภาค 7 มากกว่าพอสมควรครับ
ให้แค่ 6 จากเต็ม 10
งานกำกับของ Gareth Edwards ถือว่าดีมากเทียบได้เลยกับงานที่ผ่านๆมาทุนน้อยแต่ออกมาดูดีแล้วยิ่งได้ทุนแบบ Star Wars เอาไปสร้างหนังเรื่องอื่นๆนะสุดยอด เนื้อเรื่อง เข้าไปดูแบบไม่ได้คาดหวังอะไร บทหนังพาทุกคนในเรื่องมาพบกันได้ด้วย “Force” ทุกตัวละครจบด้วย “Force” ไม่ได้หมายถึงพลังเจใดนะ
ฉากดวงดาวแต่ละดวงสวยมาก ยกเว้นในตัวเมือง Jedha ความรู้เหมือนอยู่ใน อิรัก, อัฟกานิสถาน ซะมากกว่า ยังดีนะที่ไม่มีJeremy Renner เดินชิวๆมากู้ระเบิดด้วย
ฉาก space battle ดูดีกว่า Force Awaken เยอะแต่มาเสียตรงที่ “ดับเครื่องชน” นี่ล่ะ
ส่วนผู้ร้าย
– Darth Vader ดูแล้วรู้เลยว่าโหดและน่ากลัว ไม่เหมือน Episode 4-6 ที่ดูแล้วรู้สึกเฉยๆ
– Director Krennic ชอบมากการทั้งการแสดงสีหน้าท่าทางและการพูด คอยจับตาไว้เลยต้องเป็นตัวเต็งชิงรางวัลในเรื่องต่อๆไปอนาคตชัวร์
ชอบ Jyn Erso มากๆ สวยเก่ง จบ
สรุป หนัง OK ผู้สร้างหนังคิดแต่จะทำเงินอย่างเดียวแต่ไม่ใส่ใจเนื้อเรื่อง ถ้าลองทำเหมือน Marvel ที่ให้ James Gunn มากำกับและอิสระในการตัดสินใจนะลองคิดดูว่าหนังจะเป็นไง เห็นคะแนนวิจารณ์หลายๆที่ว่าดีมากแต่เดี๋ยวพอเวลาผ่านไปเดี๋ยวก็จะมีคนออกมาพูดจิกกัดแทน.
อยากเห็นภาคต่อไป ซีรุค: A Star War Story เป็นตัวละครที่น่าสนใจมากสำหรับผม