“พรจากฟ้า” ของจีดีเอชจะเข้าฉายในบ้านเราสุดสัปดาห์หน้านี้แล้ว นี่เป็นโครงการหนังที่ทางค่ายหนังอยากมอบให้เป็นของขวัญปลายปีแก่ผู้ชมชาวไทยโดยได้รับแรงบันดาลใจจากเพลง”พรปีใหม่“ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ที่พระราชทานเพลงนี้ให้แก่ปวงชนชาวไทยในวันที่ 1 มกราคม 2495 ครับ
หนังเล่าเรื่องราวความรักของคู่รัก 3 คู่ ที่มอบของขวัญให้กันและกันด้วย 3 บทเพลงพระราชนิพนธ์ อันได้แก่ เพลงยามเย็น, เพลง Still on My Mind และ เพลงพรปีใหม่ ซึ่งทั้งสามคู่มีฉันทวิชช์ ธนะเสวี, หนึ่งธิดา โสภณ, ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์, วิโอเลต วอเทียร์
, ณภัทร เสียงสมบุญ และ นิษฐา จิรยั่งยืน รับบท ภายใต้การกำกับของ 4 ผู้กำกับแถวหน้าของค่าย จิระ มะลิกุล, นิธิวัฒน์ ธราธร, ชยนพ บุญประกอบ และ เกรียงไกร วชิรธรรมพร ครับ
หนังได้มีการแถลงข่าวไปก่อนหน้านี้ พร้อมกับปล่อยคลิปสัมภาษณ์และคลิปเบื้องหลังเล่าความเป็นมาของหนังให้รับรู้ที่มาที่ไปและเกร็ดเกี่ยวกับหนังครับ เราจะมาสรุปให้ฟังว่ามีอะไรบ้างที่น่าสนใจ
- ผู้อำนวยการสร้างวรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์ เล่าว่า ผู้กำกับเก้ง จิระ มะลิกุล เล่ามาหลายปีแล้วว่าอยากจะทำหนังสักเรื่องหนึ่ง ที่เป็นโปรเจ็คต์เพลงพระราชนิพนธ์ แล้วก็เริ่มชวนผู้กำกับที่มีความรักในดนตรีมาร่วมมือกันทำ
- นักแสดงนำในเรื่องจะต้องเล่นเครื่องดนตรีได้จริงๆ จึงต้องมีการฝึกเครื่องดนตรีกัน โดยซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ กับ นิษฐา จิรยั่งยืน ต้องฝึกเล่นเปียโนคู่กัน, ฉันทวิชช์ ธนะเสวี กับ หนึ่งธิดา โสภณ ต้องฝึกเล่นเครื่องเป่า, และ ณภัทร เสียงสมบุญ กับ วิโอเลต วอเทียร์ ต้องฝึกเล่นบอดี้เพอร์คัชชัน
- ดนตรีประกอบและเพลงในหนังบรรเลงโดย ไทยแลนด์ ฟิลฮาร์โมนิก ออร์เคสตรา
- ราคาบัตรชมภาพยนตร์ทุกเครือทุกโรงจะอยู่ที่ 99 บาท รายได้จากบัตรทุกใบหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้วสมทบให้มูลนิธิชัยพัฒนาฯ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแก่ในหลวง
- โครงการหนังเริ่มต้นทำงานตั้งแต่ธันวาคมของปีที่แล้ว ได้แนวคิดกันตอนธันวาคม แล้วเริ่มเขียนบทกันมกราคม
- “พรปีใหม่” เป็นหนังรักแบบจีดีเอช
- แนวคิดของหนังเริ่มต้นจากคุณเก้งไปเรียนทรอมโบน และเลือกเพลงพระราชนิพนธ์มาใช้ฝึก จึงได้รู้เบื้องหลังเกี่ยวกับเพลง “พรปีใหม่” ว่าเป็นของขวัญที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานให้ประชาชน จึงรู้สึกว่าการมอบเพลงให้เป็นของขวัญเป็นสิ่งที่สร้างสรรค์มาก จึงเกิดความคิดว่าจะทำงานเกี่ยวกับเพลงพระราชนิพนธ์ “ที่ว่าด้วยการให้เพลงเป็นของขวัญ“
- ผู้อำนวยการสร้างวรรณฤดี เล่าว่า ปกติแล้ว หนังของจีดีเอชจะใช้เวลาในการเตรียมการนาน เขียนบทกันนาน แต่เมื่อจะเริ่มทำหนังเรื่องนี้ที่กำหนดแน่นอนว่าจะต้องฉายในเดือนธันวาคมให้ได้ จึงคิดว่าจำเป็นที่จะต้องแบ่งเป็น 3 ตอน และที่สำคัญก็คืออยากให้หนังมีหลากหลายมากกว่าหนึ่งเพลง
- เลือกผู้กำกับจากความรักในดนตรีก่อนเป็นอันดับแรก ถึงจะเล่าหนังเกี่ยวกับเพลงพระราชนิพนธ์ได้ดี
- ผู้กำกับจิระเล่าว่า แม้หนังจะเป็นตอนๆ แต่อยากให้มีความเกี่ยวพันกันเป็นเรื่องเดียวกัน จึงให้ตัวละครมีความผูกพันกัน เป็นญาติกันบ้าง เป็นเพื่อนร่วมงาน เป็นพี่น้อง
- ผู้กำกับแต่ละตอนเลือกเพลงกันเอง และต้องมาคุยกันว่าใครเลือกเพลงไหน ว่าแต่ละเพลงเหมาะสมและเกี่ยวข้องกันไหม คุณวรรณฤดีให้โจทย์ผู้กำกับในการเลือกเพลงว่า ถ้าอยากเลือกเพลงเป็นของขวัญ จะเลือกเพลงอะไร แล้วได้มาเป็นเพลงสามเพลงตามเรื่องนี้
- เพลงที่ผู้กำกับเลือก เป็น first choice ของแต่ละคนเลย
- ผู้กำกับจิระ มะลิกุล เลือก ฉันทวิชช์ ธนะเสวี และ หนึ่งธิดา โสภณ มาแสดงในตอน”พรปีใหม่” เพราะประทับใจการแสดงที่เข้าขากันของทั้งคู่จาก “กวนมึนโฮ” ที่คุณเก้งเรียกว่า “เคมีเต๋อ+หนูนา” เป็นการเข้าขากันของทั้งคู่แบบที่หาไม่ได้จากการไปประกบกับคู่อื่น และผ่านมาหกปีแล้วก็ไม่มีใครนำทั้งคู่กลับมาเล่นด้วยกันอีก จึงได้นำมาพบกันในหนังเรื่องนี้
- นักแสดงสมทบในตอน “พรปีใหม่” ก็เล่นดนตรีได้จริงหมด ทั้งหมดผ่านการคัดเลือกให้ดูมีภาพลักษณ์แบบผู้บริหารบริษัท ไม่ใช่ดูเหมือนนักดนตรีจริงๆ
- ใน “Still On My Mind” มีฉากที่ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ กับ นิษฐา จิรยั่งยืน ต้องเล่นเปียโนคู่กัน ฉากที่ใช้ในหนังเป็นเทคแรก
- ณภัทร เสียงสมบุญ ต้องรับบทหนุ่มเจ้าชู้ ในตอน”ยามเย็น” ซึ่งขัดกับบุคลิกจริงที่ค่อนข้างขี้อายและสุภาพ สองผู้กำกับจึงให้ไปทำการบ้าน โดยให้ไปถามเพื่อนหรือผู้ใหญ่เรื่องการจีบสาว และมุมมองความรัก
- ผู้กำกับหมู ชยนพ บอกว่าบทของวิโอเลต วอเทียร์ จะใกล้เคียงกับบุคลิกจริงของนักแสดงมากกว่าหนังสองเรื่องก่อนหน้านี้ของเธอ และเลือกเธอมารับบทเพราะการที่มีความสามารถด้านการร้องเพลงด้วย
“พรปีใหม่” เข้าฉาย 1 ธันวาคมนี้ครับ ชมคลิปแถลงข่าวและที่มาของหนังได้ที่ด้านใน
หลักๆ ผมแค่อยากรู้ว่า
หนังจะฉายที่สกาล่าหรือลิโด้มั้ยน่ะครับ
ถ้าไงผมอยากให้ฉายนะครับ
เพราะเป็นโรงภาพยนตร์แห่งแรกๆ ของไทย
คู่รัชสมัยของพระองค์ท่านด้วยน่ะครับ