Suicide Squad คาดว่าจะทำรายได้เปิดตัวทุบสถิติ แต่ได้รับคำวิจารณ์ด้านลบเป็นส่วนใหญ่

suicide squad new pic 01มีข่าวดีและข่าวร้ายสำหรับหนัง Suicide Squad ครับ ข่าวดีซึ่งน่าจะดีต่อวอร์เนอร์ฯ เป็นหลัก หนังได้รับการคาดการณ์ว่าน่าจะทำเงินเปิดตัวด้วยรายได้ล้นหลามในสัปดาห์แรก และมากกว่าที่คาดไว้ในทีแรกด้วย

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีรายงานจากเดอะแรปว่าหนังน่าจะทำรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกราว 115 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ด้วยกระแสที่ทวีมากขึ้นระหว่างสัปดาห์จากการเดินสายประชาสัมพันธ์หนังของทีมนักแสดงอย่างหนัก มีรายงานใหม่ออกมาในวันนี้ว่าหนังน่าจะทำเงินเปิดตัวทุบสถิติที่ Deadpool ทำไว้ครับ และน่าจะทำเงินถึง 140 ล้านเหรียญเลย ยอดจองตั๋วล่วงหน้าของ Fandango ก็ทุบตลอดกาลของเดือนสิงหาคมเลย

ส่วนข่าวร้ายน่ะหรือ นักวิจารณ์ได้ชมหนังกันเมื่อราววันจันทร์ตามเวลาของบ้านเรา และอนุญาตให้ปล่อยบทวิจารณ์ได้ในวันนี้ ปรากฏว่าคำวิจารณ์ส่วนใหญ่เป็นลบครับ โดยจาก 44 บทวิจารณ์ในตอนนี้ที่ Rotten Tomatoes มีคะแนนรวมอยู่ที่ 5.3 / 10 และมีนักวิจารณ์ชอบราว 34% ซึ่งถ้าไม่ได้เปลี่ยนแปลงเท่าไหร่หลังจากนี้ ก็ถือว่าคำวิจารณ์ดีกว่า Batman v Superman: Dawn of Justice ที่ได้ 4.9/10 และมีนักวิจารณ์ชอบ 27% ดูแล้วก็ดีกว่านิดหน่อย

ในบรรดาคำวิจารณ์ที่ออกมาโดยรวมๆ ค่อนข้างชอบช่วงการรวมทีมในช่วงแรก มีการสร้างตัวละครที่น่าสนใจและแข็งแรงจากทีมนักแสดงที่เก่งกาจ แต่เมื่อเรื่องราวเข้าสู่องก์สองกลับมีความน่าเบื่อ ไม่ค่อยมีบทอะไรที่น่าสนใจให้นักแสดงเล่น ฉากบู๊ไม่น่าสนใจ และตัวร้ายจืดชืด ส่วนในแง่นักแสดง มาร์โก้ ร็อบบี้ได้รับการกล่าวถึงมากที่สุดในการรวมบทเป็นฮาร์ลี่ ควินน์

คำวิจารณ์บางส่วนอยู่ด้านในครับ

“มันไม่ใช่การเล่าเรื่องที่น่าพึงพอใจ มันเป็นการแฟลชแบล็คที่ใส่เข้าๆ ออกๆ เพื่ออธิบายมากเกินไปหรือน้อยเกินไป และฉากบู๊อาจดูรุนแรง แต่กลับไม่น่าสนใจ” – Chicago Tribune

“หนังทั้งเรื่องบอกเราว่า ตัวละครเหล่านี้คือพวกที่เลวร้ายยิ่งกว่าเลวร้าย พวกโรคจิตโฉดชั่วที่ใช้พลังพิเศษไปในการฆ่า ขโมย และสร้างความวุ่นวาย…แต่ปัญหาของ Suicide Squad ก็คือ สมาชิกเหล่านี้ยังไม่ร้ายพอ” – Independent UK

“มันทำลายล้าง ตลก มีสไตล์ และทำได้ถึงอย่างมากในช่วงองก์แรก แต่แล้วมันก็ย่ำอยู่กับที่ ทำตามสูตรหนังซ้ำซากทีละอย่าง และมีจุดหักเหของโครงเรื่องอย่างไร้ความสำคัญ ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่าส่วนที่น่าตื่นเต้นหายไปไหน…” – IGN

“เริ่มต้นอย่างมีรสชาติ ปิดท้ายอย่างจืดชืด กลุ่มวายร้ายเหล่านี้พิสูจน์ว่า ดีซียังตามมาร์เวลในแง่หนังแอ็คชั่นอยู่อีกหลายขุม” – Total Film

Suicide Squad เป็นหนังที่แย่ แย่แบบไม่สนุก แย่แบบไม่อาจซ่อมแซมได้ ไม่ใช่แย่แบบที่ศิลปินตั้งใจจะสร้างงานที่ทะเยอทะยานอย่าน่าเลื่อมใสแล้วเกิดพลาดพลั้งทำไม่ถึง มันแย่ล้วนๆ มันน่าเกลียดและน่าเบื่อ เป็นหนังที่คลั่งไคล้ที่จะรุนแรง แต่หาความตื่นเต้นจากการทำสิ่งชั่วร้ายหรือผิดศีลไม่ได้สักเดียว” – Vanity Fair

“ใครขโมยหัวใจของ Suicide Squad ผมคิดว่าเป็นเอเยอร์ที่ตั้งใจจะยอมอะลุ่มอล่วยและลดทอนความเป็นหนังบู๊เลือดสาดของเขาให้เหลือเป็นหนังเรต PG-13 เพื่อเอาใจผู้ชมส่วนใหญ่ ที่ยอมยั้งมือแทนที่จะกรีดลงไปให้ลึก หรือยอมกรีดเลยด้วยซ้ำ หัวใจของผมหล่นตุบในฉากต่อสู้ใหญ่ระหว่างทีมเดนตายกับทหารซอมบี้ คุณได้ยินถูกแล้ว ซอมบี้ ผีดิบเดินได้ที่ไม่เพียงเป็นตัวละครซ้ำซากจำเจ แต่ยังกัดกินศักยภาพของวัตถุดิบเรื่องนี้ เหล่าจอมเพี้ยนกลายเป็นจอมอ่อนหวาน กับ Suicide Squad: Dawn of Dullness (ชื่อสร้อยของผม) ทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ลืม Batman v Superman ไปก่อน อย่างน้อย มันก็พยายาม แต่หนังแย่เรื่องนี้ทำให้ Fantastic Four ดูดีไปเลย” – Rolling Stone

“ฉากแอ็คชั่นกลางเรื่องและท้ายเรื่องที่อยู่ท่ามกลางความมืดอึมครึมทำให้นึกถึงฉากในหนังไซไฟแฟนตาซีที่เคยดูมาก่อนแล้วหลายเรื่อง และเมื่อถึงจุดนั้น ร่องรอยของอารมณ์ขันในฉากเปิดได้หายไปหมดสิ้น Suicide Squad อาจไม่ถึงกับขั้นฮาราคิรีตัวเอง แต่ก็กินยานอนหลับเข้าไปมากเกินไปแน่ๆ” – ท็อด แม็คคาร์ธี THR

Suicide Squad อาจไม่ใช่หนังซูเปอร์ฮีโร่ที่มืดหม่นที่สุด หรือหนังบู๊ที่มืดหม่นที่สุดที่มีแบทแมนอยู่ในหนัง แต่ก็เป็นหนังสนุกเอามันส์แบบที่ไม่แคร์โลก มันพาหนังซูเปอร์ฮีโร่ไปในหนทางที่แตกต่างจากจุดที่ถ้าไม่พัฒนาต่อไปก็คงตาย” – HitFix

“เหมือน Avengers ที่รวมพลกันผ่านการเสียโฉมแบบ Deadpool หนัง Suicide Squad ให้ชีวิตใหม่แก่จักรวาลดีซี มันดีเข้ากระดูกดำเลย” – Empire

Suicide Squad เป็นหนังที่เละเทะ แต่ได้การแสดงของสี่นักแสดงนำมาช่วยกอบกู้จากการเป็นหนังแย่ขึ้นมา” – Birth.Movies.Death

“สำหรับดีซีแล้ว ซึ่งพลาดมากับหนัง Batman v Superman เมื่อฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา หนัง Suicide Squad อาจเป็นการเดินหน้าแค่ก้าวเล็กๆ แต่ก็อาจเป็นก้าวสำคัญอันยิ่งใหญ่” – EW

 

 

 

 

 

 

18 comments

    • ดี ไม่ดี อยู่ที่ค่าที่แต่ละกลุ่มคนตั้งไว้มากกว่าครับ รสชาติที่คนกลุ่มนึงว่าดีอาจจะไม่ถูกปากคนอีกกลุ่มนึงก็ได้ ผมไม่ได้ไม่ชอบมาร์เวล แค่ไม่ค่อยชอบสไตล์หนัง มันมีโมเมนท์พยายามขายสาวๆขาจรมากไปหน่อย สมมติถ้าหนังฮีโร่มันเป็นสไตล์มาร์เวลหมดแล้วผมจะเหลืออะไรให้ดูล่ะ ผมเคยแยกแยะองค์ประกอบหนังมาร์เวล ปรากฏว่ามันถอด วิธีคิด จริต มุมมองคนหนุ่มสาว เจ็นปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่มาเลย ไม่แปลกใจที่คนยุคนี้จะชอบเยอะ แต่ดีซีสำหรับผมมันมีองค์ประกอบที่หลายๆมุมมันตอบสนองมาตรฐานของคนอีกกลุ่ม เอาจริงๆมันอีกตลาดเลยนะถึงฉากหน้าจะเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่เหมือนกัน มันมีบางอย่างเฉพาะตัว ที่ถ้าใครไม่ชอบก็จะไม่ชอบเลยอยู่ เพราะงั้นสิ่งที่เป็นจุดที่เรียกว่าดีของดีซีแต่จะกลับสร้างความไม่พอใจให้คนอีกกลุ่มโดยธรรมชาติ มันเป็นปฏิกิริยาปกติ ไม่ได้บอกว่ารสนิยมแบบที่ผมชอบดีกว่า เพียงแต่อยากบอกว่า ให้มันแตกต่างไปเถอะ ทางค่ายทำกันมาขนาดนี้คงเลือกกลุ่มตลาดที่จะขายเรียบร้อยแล้วล่ะ ใครชอบแบบก็ดูแบบนั้น

      • เห็นด้วยนะ คือ marvel เลือกทางที่ถูกกับตลาดมากกว่า แต่เรื่องของเรื่องคือเค้าทำออกมาได้ชัดเจนกับเป้าหมายของตัวเอง
        DC เองเลือกมาอีกทางผมก็เห็นด้วยครับ มันไม่ควรจะมีรสชาติเดียวกัน แต่ก็ยังรู้สึกว่าทางที่ DC เลือกจะไป DC เองก็ยังหาจุดสมดุลในการเล่าเรื่องให้มันสุดในทางของตัวเองไม่ได้ซะที
        คือมันไม่ใช่ว่าห่วยนะ มันห่างไกลจากคำว่าห่วย แต่มันมี moment ที่ดูแล้วยังต้องแอบถอนหายใจแล้วร้องเฮ้อเบาๆอยู่หลายครั้ง กับความไม่กลมกล่อมในตัวหนัง เหมือนอาหารที่รสชาติมันขาดๆเกินๆ

        แต่ก็เป็นกำลังใจให้น่ะ อยากให้หนังออกมาดีๆ จะได้มีแรงทำหนังออกมาเยอะๆ

    • ถ้าเข้าไปอ่านเต็มๆจะเห็นว่ามีอยู่นะคะ แต่ในนี้ยกมาแค่ภาพรวมเฉยๆ ไม่ได้เจาะลึกลงไปที่ใครเป็นพิเศษ

    • ก็ไม่แน่อาจจะพูดถูกก็ได้นะครับ ขนาดตอน BvS นักวิจารณ์ว่าแย่ พอผมดูผมว่ามันแย่กว่าคำวิจารณ์อีก 5555

      ส่วนตัวผมว่าหนังของดีซีเดินไม่ถูกที่ถูกทางเท่าไหร่ อย่าง SS เนี่ย พอเห็นตัวอย่างก็เดาได้ว่าตัวร้ายมันไม่ร้ายพอ (ฉากที่เดทชอท กำลังะโดนส่งไป มันดูพระเอกเกิน)

  1. ผกก โลภมาก เอาตัวละครมาเล่นเยอะเกิน เสียเวลาเล่า อย่าง สลิปน๊อต ริก แฟรก ตัดทิ้ง ให้เดท ชอท นำทีม และ มิสเตอร์ บลูมมาแรง กะ มือพ่นไฟ ก็เลือกมาตัวเดียว แล้วใช้ ห่วงคล้องคอ กดระเบิด แบบใน comic ควบคุมดีกว่า ประหยัดซีนไปเยอะ ผมเข้าใจคนวิจารณ์เลย ที่สำคัญ งานออกมาแย่ ก็ทำร้ายจิตใจ แฟนคลับไปด้วย

  2. ไว้รอดูตัวหนังจริงดีกว่า แต่พอมาในลักษณะนี้แล้ว
    กระทู้ในพันทิป ตั้งประมาณว่า คะแนนวิจารณ์ไม่มีผลๆ อย่างนี้ อย่างนี้ ก็กลับมาอีกแล้ว เหมือนเมื่อตอน BVS เปี๊ยบ

    • การให้เหตุผลว่าคำวิจารณ์ไม่มีผล ผมว่าถูกแล้วนะครับ สมมติมีคนนึงชอบป๊อป แต่อีกคนชอบฮิปฮอป คนชอบป๊อปพยายามบอกว่า ฮิปฮอปเอ็งน่ะมันห่วย โดยใช้มาตรฐานป๊อปตัดสิน แต่คนชอบฮิปฮอปไม่ยอมเปลี่ยนตัวเอง คนชอบป๊อปก็ไม่หยุด หัวเราะเยาะว่าแถ แล้วไปอ้างอิงว่าเนี่ย ดูซิใครๆ เค้าก็ว่าทางที่เอ็งชอบอ่ะแย่ ยังไม่ยอมรับอีก(โดยกลุ่มคนที่อ้างอิง ก็เป็นชาวป๊อปใช้มาตรฐานป๊อปมาตัดสินเหมือนกันซะส่วนใหญ่) แล้วพอหนุ่ม ฮิปฮอปบอกว่าก็เอ็งเอามาตรฐานป๊อปมาตัดสินนี่ สุดท้ายหนุ่มป๊อปก็จะใช้วิธีตอบกลับไปว่า มันก็จัดว่าเป็นเพลงเหมือนกันละว้า ใช้มาตรฐานป๊อปตัดสินได้เฟ้ย——ก็เป็นมุมมองของผมล่ะนะครับ ไม่ถูกใจไม่ว่ากัน

      • เรื่องคำวิจารณ์ ไม่มีผล นี่ ผมไม่ได้ว่าอะไรเลยครับ
        แต่ถึงขนาดมาตั้งกระทู้อย่างนั้น อย่างนี้ ผมว่ามันกลายเป็นว่า ผลของคำวิจารณ์นั้นมีผลทำให้กลุ่มคน กลุ่มนึง ต้องออกมาเวิ่นเว้อครับ อย่างผม คำวิจารณ์ไม่ดี แต่อยากดู ผมก็คงไม่ไปตั้งกระทู้เวิ่นเว้ออย่างนั้น อยากไปดู ก็ไปดูเลย ไม่ต้องมาตั้งกระทู้ลักษณะนั้นไงครับ

      • อืม เข้าใจมุมมองคุณครับ ถ้าถึงขั้นตั้งกระทู้ออกตัวอะไรขนาดนั้น ผมก็ว่าดูเยอะเหมือนกัน เผอิญไม่ได้เข้าพันทิปนานแล้ว ตอนแรกเลยนึกบรรยากาศไม่ค่อยออก ขอบคุณที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นครับคุณสมาคมพ่อบ้านพิทักษ์น้องเมีย

      • คำวิจารณ์มันมีผลอยู่แล้ว กับกลุ่มที่ไม่ได้เป็นคนดูหนังแบบเอาจริงเอาจัง คนที่ดูหนังเพื่อความเพลิดเพลินไปเรื่อย เดวิด เอย่งเอเย่อร์คือใคร marvel กะ Dc คืออะไรเหรอ อะไรแบบนี้ คนกลุ่มนี้เค้าก็เงี่ยหูฟังเสียงวิจารณ์ว่าดีไม่ดีเพื่อมาตัดสินว่าจะดูไม่ดูกันเยอะพอสมควรครับ ส่วนคนที่เลือกที่จะตัดสินว่าหนังโอเคไม่โอเคสำหรับเค้า ด้วยการใช้ตัวเองตัดสิน ก็เป็นคนอีกกลุ่มนึง

      • จริง ๆ ส่วนหนึ่งก็เพราะพวกเราก็ตกอยู่ในแผนการตลาดแบบนี้ด้วยนั่นแหละครับ ต้องแยกฝั่งแยกฝ่าย ใครได้เปรียบก็ข่มอีกฝ่ายได้ ทั้งที่ความจริงก็เสียตังค์เข้าไปดูหนังเหมือน ๆ กันนั่นแหละ ข่มเขาได้เราก็ไม่ได้รวยขึ้น

        พอเวบ Rottentomatoes ที่มีเกณฑ์ให้คะแนนแบบเอาแพ้ชนะกันได้ชัดเจนแบบนี้ เลยกลายเป็นเครื่องมือช่วยโหมการตลาดแนวนี้เข้าไปอีก ก็คงต้องอยู่กับสภาวะแบบนี้ไปอีกซักพักแหละครับ

  3. ส่วนเรื่องเวิ่นเว้อ คงช่วยไม่ได้ คงทราบกันดีว่าคนเดี๋ยวนี้เวิ่นเว้อกันทั่วไปหมด
    เมื่อก่อนพันทิปมีอะไรแบบนี้น้อย เดี๋ยวนี้มันก็เป็นอีกแบบ พวกเซียนๆสมัยสิบกว่ายี่สิบปีที่แล้วเลิกเล่นพันทิปไปก็มากมายมหาศาล เพราะไม่ค่อยถูกจริตกับบรรยากาศที่เปลี่ยนไป

    ก็ชอบแบบไหนก็ไปทางนั้นน่ะแหละเนอะ

    • ทุกวันนี้กระทู้ “เล่น” ฝั่งตรงข้าม ก็ต้องเอากันให้ตายไปข้าง ใครตกเป็นเบี้ยล่างต้องรีบกระทืบให้เละ อย่าให้มันย้อนกลับมา “เล่น” คืนได้ ผมงี้อยู่ฝ่ายเบี้ยล่างเรื่องหนังฮีโร่ตลอด ก็เข้าใจนะฮะ

Leave a Reply to alcalshelCancel reply