Captain America: Civil War – ในความเห็นของคุณ

captain america civil war imax poster headerCaptain America: Civil War เปิดฉายทั่วโลกแล้วตั้งแต่วันพุธที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา ใน 38 ประเทศ โดยรายได้ 3 วันอยู่ที่ $84 ล้าน คาดว่ารายได้ 5 วันจนถึงวันอาทิตย์ในตลาโลกน่าจะอยู่ที่ราว $200 ล้าน ใกล้เคียงกับ Avengers: Age of Ultron ครับ ตามรายงานจาก boxofficemojo และคงต้องมารอดูกันว่าในสุดสัปดาห์หน้าที่หนังเข้าฉายในสหรัฐ รายได้จะสร้างสถิติอะไรหรือไม่

คำวิจารณ์โดยรวมของหนังอยู่ในเกณฑ์ดี ถ้าวัดที่ Metacritic ซึ่งเป็นการรวมเอาบทวิจารณ์จากนักวิจารณ์ชั้นนำมา หนังมีคะแนนอยู่ที่ 81/100 ถือเป็นหนังที่ออกฉายแบบทั่วไปที่มีคะแนนสูงที่สุดอันดับ 2 ของปี 2016 จนถึงตอนนี้ครับ เป็นรองเรื่อง The Witch ที่ได้ 83/100 (ซึ่งจะเข้าฉายในบ้านเราสัปดาห์หน้า)

สำหรับผมแล้ว ถือว่าเป็นหนังที่สนุกมากเรื่องหนึ่ง อาจไม่ใช่หนังที่ชอบที่สุดของมาร์เวล แต่ก็น่าจะอยู่อันดับ 2-3 ได้ รู้สึกว่าอารมณ์ขององก์สามของหนังหน่วงลงมานิดหนึ่ง ไม่พีคในระดับเดียวกับ The Avengers ภาคแรก บทหนังมีความหลวมอยู่บ้างเมื่อดูจบแล้วกลับมานั่งคิด แต่ระหว่างที่ชมอยู่ไม่รู้สึกอะไร เพระาผู้กำกับเล่าเรื่องได้น่าติดตามจนเราลืมมองจุดนั้นระหว่างที่ชม

มันเป็นหนังที่ตีโจทย์ตัวเองแตก และทำทุกหน้าที่ที่ต้องทำในฐานะเรื่องราวที่อยู่บนจักรวาลมาร์เวลได้ครบถ้วน อันได้แก่เล่าเรื่องหลักของตัวเองอย่างน่าติดตาม และปูสู่เรื่องราวในอนาคตได้แบบค่อนข้างกลมกลืน และชวนให้อยากดูหนังเรื่องหน้าได้อีกด้วยการแนะนำตัวละครใหม่ได้อย่างมีเสน่ห์และขโมยซีนมากๆ 8/10

มาใส่ความเห็นกันครับ เทียบกับหนังมาร์เวลด้วยกันแล้วชอบในระดับไหน และให้คะแนนหนังกันเท่าไหร่ครับ

 

28 comments

  1. ผมกับเห็นต่างครับ เอวนเจอร์ภาคแรกน่าจะรองภาคนี้มากกว่า เพราะอารมณ์คนละโทนเลยทีเดียว ภาคนี้ดูจริง จัง เข้มข้น เหมือนหนัง thriller อาชญากรรม มีมุขตลกสอดแทรกนิดหน่อยบ้าง ซึ่งผมอาจจะชอบการดำเนินเรื่องแบบนี้เลยทำให้อินและชอบมากกว่า เอวนเจอร์ภาคแรก แต่ผมก็ยังชอบน้อยกว่า winter soldier ซึ่งกล่มกล่อมกว่าภาคนี้แต่ก็แค่นิดเดียวเท่านั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็แล้วแต่คนชอบครับ

  2. จากการไม่คาดหวังในพลังของตัวร้าย กลับกลายเป็นหลงรักตัวร้ายตัวนี้ไปได้ยังไงไม่ทราบ
    ขัดใจเรื่องการจับยัดสไปเดอร์แมนมามากๆ แต่ด้วยความสนุกของหนังระหว่างดู จู่ๆ ก็ลืมจุดนั้นไป
    จุดแตกหักสุดท้ายนั้นทำออกมาได้ดี จนต้องมีการตั้งคำถามในใจ

    8/10 เช่นกันครับ

  3. ผมให้ 9/10 หัก 1 คะแนนเพราะ CG บางฉากลอยไปหน่อย

    ตัวหนังภาคนี้อารมณ์หนังฉีกจากหนัง Marvel เรื่องอื่นเยอะมาก

  4. 8.5/10 ครับ
    ชอบในการกระจายบทของหนังส่งไปยังตัวละครที่มีเยอะมาก และใส่อารมณ์ของหนังและเหตผลของแต่ละตัวละครซึ่งไม่มีใครผิด หรือถูกซะทีเดียว มีฉากขโมยซีนมากมาย แต่ก็มีข้อด้อยบางเหตการณ์ก็ยังไม่ค่อยสมเหตสมผล และCG ค่อนข้างทำได้ไม่ดีเท่าไรนัก แต่ทั้งหมดทั้งมวลโดยรวมหนังดูสนุก และโชว์ของ ไหลลื่น ทำออกมาได้ดีมากทีเดียว (ในใจลึกๆแอบหวังไว้ว่าหนังทำออกมาได้ดาร์กและพีคกว่านี้ แต่อาจจะกั๊กๆไว้เล่นในส่วนของ infinity war1-2)สำหรับผม ถือว่าเป็นหนังที่ดีที่สุด 1ใน3 ของ Marvel ณ ขณะนี้ก็ว่าได้

  5. ผมว่าคะแนน 8 เต็มสิบก็สมเหตุสมผลดีครับ….ถ้าเอาส่วนที่ชอบมาหักลบกับส่วนที่ไม่ชอบ….
    สรุปแล้วสงครามม มันก็ไม่ใช่เรื่องส่วนรวมเลย เรื่องส่วนตัวล้วนๆ…
    เอาจริงๆนะสุดท้าย การตบตีกันของกัปตันกับโทนี่ ครั้งนี้ ก็ทำให้ คนดูและทั้งสองฝ่ายก็คงคิดกันได้ว่า
    จริงๆแล้ว อะไรคือสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ ไม่ใช่ อะไรคือสิ่งที่ถูกและผิด

  6. หนังเรื่องนี้เป็นประสบการณ์ครั้งแรกที่ทำให้ผมเกือบร้องไห้ในโรงได้!

    หนังเรื่องนี้ทำให้ผมเหมือนย้อนกลับไปเป็นเด็ก ที่นั่งดูสารพัดหนังยอดมนุษยฺทั้งหลายจาก วีดีโอสแควร์ civil war สามารถทำให้ผมหวนไปรำลึกถึงความสุขและช่วงเวลาของชีวิตในวัยเด็กผมได้จริงๆ……

    ไม่สำคัญแล้วว่าคนอื่นจะคิดกับหนังเรื่องนี้อย่างไร ผมรักหนังเรื่องนี้เพราะมันทำให้ผมมีความสุขมากๆครับ…….

  7. มันเยอะมาก ความสนุก การเดินเร่องต่อเนื่องและการปูไปเรื่องต่อๆไป
    ให้คะแนนเต็มครับ ถือว่าทำได้ตามที่รอคอย ^_^

  8. ผิดหวังหน่อยๆ เพราะคนอวยเยอะ ทั้งๆที่ผมไม่ได้คาดหวัง // คือดูหนังแนวพวกนี้มาก็เยอะ การไม่รู้อะไรเลยมันจะสนุกกว่า แต่อย่างว่า หนังมันดีจริงๆ เค้าชอบเค้าก็อยากให้คนไปดูเยอะๆ ดันไม่เผื่อใจเอง 5555

    เอาแค่ตัวหนัง มันทำหน้าที่ได้ดีครับ ชอบทุกส่วน ตัวร้ายนี่ คือมีที่มาที่ไป และมีเหตุผลในการกระทำของตัวเองมาก หลายคนอาจจะแบบ เฮ้ย แค่นี้เหรอวะ แต่ลองคิดถึงว่าเราเป็นคนปุถุชน แล้วเจอแบบนี้ ก็ไม่น่าแปลกใจที่จะมีใครซักคนทำแบบที่ซีโม่ทำ

    ส่วนตัวคิดว่าจังหวะผ่อนของหนัง มันโดดออกจาก theme ไปนิดนึง แบบโทนหลักคือ civil war แล้วซีนบางซีนอารมณ์มันหลุดไป แล้วจังหวะผ่อนของหนังมันน้อยไปนิด มีเรื่องราวอัดกันตลอด ยังไม่ทันได้ซึมซาบถึงความสะเทือนใจ ยาวอีกหน่อยน่าจะดี ประมาณนี้ครับ

    ในบล็อกให้ไว้ 9.5/10 เพราะตอนดูสมาธิหลุด(คิดถึงแต่ที่เคยอ่านมา)ไปเยอะ ถ้าดูอีกทีคงให้เต็มครับ หนังตอบโจทย์จนมองจุดเล็กๆน้อยๆได้ (ชารอนน่ารัก)

    อ้อ สตูดิโอที่ทำ VFX นี่ ตอนรอดู End-Credit เห็นว่ามีเยอะพอสมควร …. แมงมุมสีสดเชียวครับ สดกว่าตัวอย่าง ^^

  9. ความเห็นส่วนตัวฉากสนามบิน ฮีโร่สู้กันไม่เอาจริง มันเลยไม่ค่อยพีค ไม่มีอารมณ์ร่วมๆปกับการต่อสู้ ( ตรงนี้ก็เข้าใจว่าทุกคนเป็นเพื่อนกัน ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ด้วยกันมา จะมาห้ำหั่นกันให้ถึงตาย ก็คงจะไม่ใช่ ) ทำให้เป็นหนังที่ดูได้ไปเรื่อยๆ สนุกแบบระนาบเดียว ส่วนปะทะกันนะหว่างกัปตันและไอรอนแมนตอนท้ายมันสะเทือนใจ แต่ก็สะเทือนใจเล็กน้อยเท่านั้น เพราะหนังยังไม่มีจุดพีคเท่าที่ควร แต่โดยรวมเนื้อเรื่องถือว่า โอเคมากแม้ว่าจะมีจุดบกพร่องบ้าง โดยรวมให้ 7.5 เต็ม 10 ครับ ( ส่วนภาควินเทอร์โซลเยอร์เป็นหนังมาเวลที่ดีที่สุดอันดับ 2 ครับ ส่วนอันดับ 1 เอเวนเจอร์ภาคแรก อันดับที่3 ไอรอนแมนภาคแรก อันดับ4 ซีวิลลอร์ อันดับ 5 การ์เดี้ยน)

    • ฝ่ายไอออนแมนเขาแค่มาหยุดไม่ให้แคปพาWinter Soldierหลบหนีหรอกครับ ตามคำสั่งเบื้องบนแค่มาจับกุมเท่านั่้น ไม่ให้ถึงกับตาย

  10. หนังสนุกดีครับ 8/10 เป็นรอง Iron Man ภาคแรก กับ Winter Soilder และ Avenger ภาคแรก อยู่บ้าง แต่ดีกว่า Age Of Ultron เยอะเลยครับ

  11. หนังสนุกและทำได้อย่างที่ควรเป็น ฉากเท่ๆ มีเพียบ แม้จะมีตัวละครเยอะและต้องแนะนำตัวละครใหม่ แต่ก็เฉลี่ยบทได้ดีทีเดียว แต่ก็มีหลายฉากที่รู้สึกว่าตัดอารมณ์มากๆ จนทำให้คิดในใจตอนดูว่า “เอ้ย แกรู้ไหมเนี่ยว่าทางโน้นเขาจะเป็นจะตายกันอยู่” แต่พอมาคิดอีกทีหลังดูจบ ในความเป็นจริงก็คงเป็นแบบนั้น เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าอีกที่หนึ่งในโลกเกิดอะไรขึ้นบ้าง
    ถ้าเทียบกับภาค Winter Soldier ที่เป็นผลงานของ 2 ผู้กำกับนี้แล้วไม่แน่ใจว่าชอบภาคไหนมากกว่ากัน เพราะส่วนตัวรู้สึกว่ามันคนละอารมณ์กัน ส่วนตัวร้ายยังเถียงกับน้องอยู่ ว่าเป็นตัวร้ายที่ดีหรือแย่ แต่ที่รู้สึกตอนดูฉากที่เผยความจริงเกี่ยวกับตัวร้ายว่า “นี่แหละ ตัวร้ายที่สมจริงมากๆ” และ “นี่แหละ คือวิธีที่คนธรรมดาจะต่อกรกับ superhero ได้”
    สรุปว่า หนังสนุก ฉากบู๊ทำได้ดี หลายฉากตลก และสำหรับคนที่ไม่ใช่แฟนคอมมิค แต่พอจะรู้เรื่องราวในคอมมิคมาบ้าง จะสนุกกับหลายอย่างที่หนังซ่อนไว้ เปิดประเด็นที่ชวนให้ลุ้นและคาดเดาว่าเรื่องราวต่อไป

    — spoil —
    ในฐานะติ่ง winter soldier ฉบับภาพยนต์ ส่วนตัวเลยลุ้นคู่บัคกี้กับนาตาชา เพราะประโยค “ต้องจำฉันได้สิ” มาก ประกอบกับข่าวที่นักแสดงมีสัญญา 9 เรื่อง เลยแอบหวังไว้ว่า “อาจจะ” ได้เห็น 2 ตัวละครนี้มีภาคของตัวเองร่วมกัน เอาแนวหนังสายลับ จารกรรม จะฟินมาก 😊😊😊

  12. ดูรอบแรกผมให้ 8/10 ดูรอบสองผมให้ 9/10 ครับ

    ผมชอบทั้งงานบทที่ดูหนักแน่นและฉากต่อสู้ท่ยังคงความดุความสมจริงไว้เหมือนตอน Winter Soidler
    ที่สำคัญมากคือการเกลี่ยบทให้กับทุกคนอย่างเหมาะสม แต่ก็ยังคงแบ่งสัดส่วนใหห้กับ Steve เป็นหลัก จนไม่ออกมาเป็น Avengers 2.5 แต่ยังเป็น Captain America ตามชื่อได้

    ในแง่เหตุผลของการปะทะผมชอบที่หนังให้เหตุผลการต่อสู้ในองค์ 2 และ 3 อย่างแตกต่างกันโดยสิ้งเชิงนะ
    องค์สองกับฉากสนามบิน ต่อสู้เพราะอุดมการณ์และความเข้าใจผิด
    รูปเกมส์จึงออกมาเป็นการปราบจราจลมากกว่าฆ่ากัน

    แต่พอมาถึงองค์ 3 มันกลายเป็นเรื่องส่วนตัวล้วนๆ
    เมื่ออารมณ์อยู่เหนือเหตุผล ความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างมิตรภาพหายไป
    มันก็กลายเป้นการต่อสู้ที่กะเอาชีวิตอีกฝ่าย
    ฉากต่อสู้สุดท้ายแม้จะไม่อลังการ แต่มันเต็มไปด้วยความสะเทือนใจแบบที่ไม่เคยเห็นในจักรวาล Marvel มาก่อน
    ชื่นชม ผกก. ที่ตัดสินใจเดินสูตรหนังแบบนี้ครับ

    ในแง่จุดติ ส่วนตัวผมมองแค่ 3 อย่างหลักๆ
    1. การเดินเรื่ององค์แรก ค่อนข้างเร่งรีบไปหน่อย
    2. CG ที่ไม่เนียนเอาซะเลย หลายต่อหลายฉาก หวังว่าตอน Infinity War จะเปลี่ยนทีมกราฟฟิคนะ
    3. การตัดสินใจ+การกระทำของบัคกี้ในองค์ที่ 3 ทั้งๆ ที่มีเวลาอธิบายและขอโทษในสิ่งที่เกิดขึ้นแต่ทำไมเลิกที่จะนั่งเฉยซะงั้น ทำไมปล่อยให้เหตุการณ์มันเลยเถิด ไม่เช้าใจเลยจริงๆ

    • เห็นด้วยกับคุณทุกอย่างเลย
      แต่ในเรื่ององค์3 บัคกี้คงโทษตัวเองแหละ ถึงจะไม่ได้เต็มใจฆ่าแต่ก็เป็นร่างกายตัวเอง ไม่อยากแก้ตัวมากกว่า สตีฟเองก็ไม่ได้บอกเพราะอยากปกป้องเพื่อน ในองค์3เราเลยมองว่าผิดกันทั้งคู่ ไม่เหมือนองค์2

  13. ให้9/10
    ข้อดี
    *เนื้อหาจริงจังกว่าเดิมแต่ยังมีอะไรฮาๆอยู่บ้าง
    *ชายใต่กำแพง เสือดำ ซีโม่มีบทมากกว่่าทีคิด
    *ความสัมพันธ์ตัวละครแต่ละจุดทำออกมาได้ดี
    *ฉากต่อสู้ที่สนามบินคือเริ่ดมาก
    *วากันดา

    ข้อเสีย
    *ข้อตกลงโซโคเวียมาอย่างใหญ่แต่ละลายไปตามเรื่องอย่างรวดเร็ว
    *เจ้าหน้าที่UNรอส(ไม่ใช่พ่อตาของแบนเนอร์)บทน้อยกว่าที่คิด(จำได้แต่ไดอะล็อคช่วงหนังใกล้จบ
    *ช่วงท้ายดูอืดๆไปหน่อย

    mighty and secret

  14. 9.5/10 ครับ
    สำหรับผม คือ มันสนุกมากๆ ครบรสจริงๆครับ ว่าจะไปจัดอีกสัก 2 รอบ ไม่ผิดหวัง เกินที่ผมคาดไว้ด้วยซ้ำ ไม่รู้จะติต้องใหนเลยครับ ทั้งอารมณ์แอ็คชั่น ทริลเลอร์ มุขตลก ดราม่า จุดพีค มันกลมกล่อมมาก ให้ความบันเทิงอย่างมาก

  15. 10/10
    ดูจบเหมือนจะไม่สุด แต่พอกลับมาคิดทบทวนทุกอย่าง แม้ว่าหนังไม่ได้เพอร์เฟกต์ แต่หนังสามารถรวมเนื้อหาหลายประเด็นกับตัวละครหลายตัว มารวมกันได้อย่างแนบเนียน ความสนุก ความดาร์ค เนื้อเรื่องที่สะเทือนใจ ฉากตลก ฉากที่ทำให้เซอร์ไพรส์ ทำได้ดีมากๆ ในความรู้สึกของผม หนังไม่ได้สุดยอดในแง่ใดแง่หนึ่ง แต่หนังสุดยอด ที่ทำให้ทุกอย่างมารวมกันได้อย่างสมดุล

    ไม่มันใจว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นอันดับ 1 ของมาเวลที่ผมชอบที่สุดหรือไม่ ขอพิสูจน์อีกครั้งรอบสองนะครับ

  16. ได้เลื่อนเป็นอันดับหนึ่งในใจผม เคียงข้าง Avenger เลยครับ
    ส่วนอันดับสอง คือ CAP2, Antman และ Gardian ให้เท่ากัน เพราะเลือกไม่ได้ 555
    อันดับต่อจากนั้น ไม่ขอกล่าวถึง 555

  17. ให้ 8/10 ครับ ถ้าถามว่าสนุกไหม สนุกมากๆโดยเฉพาะฉากรวมตัว-เลือกข้างตีหัวกันพัลวัน ปล่อยของกันเต็มที่ มีแม้กระทั่งยักษ์วัดแจ้ง 555+ แต่ในความสนุกนั้นกลับไม่ให้อารมณ์ที่จริงจังหนักแน่นพอเหมือนภาคที่แล้ว ทำให้เราไม่ต้องมาคอยลุ้นอะไรเลย ดูแค่เอาสนุก แล้วประเด็นที่น่าจะต้องเน้นให้หนักอย่างสนธิสัญญาโซโกเวียแอบหายเข้ากลีบเมฆ และกลายเป็นแค้นส่วนตัวซะงั้น หนังยังมีบางจุดที่ไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ โดยเฉพาะด้านอารมณ์ของตัวละครที่ขัดกับบุคลิกอันโดดเด่นของตัวเอง หนังมีเส้นเรื่องเส้นเดียว ที่ตรงแหน่ว มาแต่ไกล ทำให้คนที่ไม่ใช่แฟนหนังซุปเปอร์ฮีโร่อย่างแฟนผมแอบหาวในบางช่วง( แต่พอถึงฉากแอคชั่นก็ตาเป็นประกายเลยล่ะ )
    โดยรวมเป็นหนังสนุกที่พยายามใส่ความดราม่ามากไปนิดเลยไม่ค่อยกลมกล่อมเหมือน เรื่องก่อนๆที่มีโทนแค่โทนเดียว แต่ทำได้ดีกว่า age of ultron 100 เท่าได้มั้ง อิ อิ
    อันดับ 1.the guardian 2.iron man ภาคแรก 3.winter soldier 4.Civil War/avengers(เฉือนชนะเป็นจุดทศนิยมเลยให้เท่ากัน 555+)

  18. การที่ตัวร้ายมันไม่ใช่ตัวหลัก ทำให้อารมณ์ร่วมมันน้อยลงครับ กลายเป็นว่ามาดูการสู้กันเองของฮีโร่
    ทำให้มันยิ่งรู้สึกแปลกๆ ผมให้แค่ 7/10 ล่ะกันครับ สำหรับผมให้เยอะเพราะจัดแอคชั่นมาเยอะดีฮาๆๆๆ
    แต่ผมว่าถ้าตัดเรื่องมุขตลกไป BvS ดูดีกว่าหน่อย
    ปล.ความเห็นส่วนตัวผมอย่าดราม่าเรื่องค่ายนะครับ

    • ผมว่าดีแล้วนะที่เขาใส่ตัวร้ายเข้ามา แล้วก็ทำให้เนื้อเรื่องเนียนดี
      เพราะถ้าจำไม่ผิด ฉบับคอมิคส์ไม่มีตัวร้ายเลย ฮีโร่สู้กันอย่างเดียวจริงๆครับ

  19. คนอวยเเยอะมาก เเต่ให้เเค่พอผ่าน CG , ฉาก ด้อยกว่าเดิม มีจุดบกพร่องหลายจุดกับบท ตัวเเสดงที่ใส่เข้ามา เหมือนตอบสนองเเฟน comic 7/10 อาจจะหวังเรื่องนี้มากไป เพราะชอบ winter soldier สุดๆๆ

  20. มันกลายเปน Avenger 2.5 ไปสะจริงๆ แต่ใส่เรื่องของ บัคกี้ กับ ฉนวน สงครามภายใน ลงไปแทน ซึ่งไม่น่าเชื่อว่า คนโนเนม จะสามารถทำไปได้…!?! แบลึแพนเตอร์ โผล่มาได้ดีกว่า สไปดี้คิดส์ รายหลังนี่ ควรโผล่มาจาก รายการทีวี สิงพิมพ์ หรือ คลิป บางส่วน ก่อนหน้า ที่จะมาตามคำหลอกล่อของ ไอออนแมน แม้จะดูไม่ขัดความสนุก แต่ในความรุสึกลึกๆคือ… “มันมาได้ใงฟร่ะ!?!”….7.5/10 ^^

    ป.ล. กัปตัน 4 ขายได้เนียนๆ แต่ต้องเปน สตีฟ โรเจอร์ ของ คริส อีแวนส์ นะครับ.

Leave a Reply to Vp.VCancel reply