อัพเดท: กลายเป็นว่าบทวิจารณ์ด้านล่างมาจากผู้แอบอ้างว่าได้ชมตั้งแต่รอบทดลองฉาย แต่ความจริงแล้วแต่งเรื่องขึ้นทั้งหมด
ช่วงก่อนปีใหม่ วอร์เนอร์ บราเธอร์ส ได้เชิญผู้ชมในแอลเอจำนวนหนึ่งไปชมหนัง Batman v Superman: Dawn of Justice อันเป็นส่วนหนึ่งของรอบทดลองฉายซึ่งค่ายหนังมักทำกับหนังใหญ่ๆ แบบนี้เพื่อนำเอาความเห็นจากแบบสอบถามหลังชมไปปรับใช้ในการตัดต่อฉบับสุดท้าย หรือใช้ในการประชาสัมพันธ์ คล้ายๆ กับที่มาร์เวลเองก็ทำตอนฉายหนัง Avengers: Age of Ultron ที่หลังจากฟังความเห็นแล้วทำให้ต้องตัดฉากของโลกิออกไปจากหนัง เพราะผู้ชมสับสนว่าใครคือผู้ร้ายตัวจริงของหนังกันแน่ แต่ถ้าความเห็นโดยรวมออกมาเป็นบวกมากๆ ก็คงอาจไม่มีการตัดต่ออะไรจากเดิมมากครับ และบทวิจารณ์นี้ก็ออกมาเป็นบวกมากๆ โดยบอกว่า “เป็นหนังจากหนังสือคอมมิคที่ยอดเยี่ยมที่สุดนับจาก The Dark Knight” และบอกว่าเขาจะต้องไปชมอีกแน่ๆ เมื่อหนังฉายจริง
ผู้เขียนวิจารณ์ใช้นามแฝงว่า ViolatingNDA (นามแฝงแปลว่าละเมิดข้อตกลงปกปิดเป็นความลับ เพราะปกติผู้ที่ได้ชมรอบทดลองฉายมักต้องเซ็นยินยอมว่าจะไม่ไปเผยแพร่สิ่งที่ได้ชมที่ไหน) และลงบทวิจารณ์ไว้ใน Reddit ซึ่งเป็นเว็บบอร์ดที่ใครก็จะมาลงข้อความก็ได้ แต่ก่อนอ่านความเห็นของเขาก็ขอเตือนก่อนว่า เราไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร หรือเชื่อถือได้แค่ไหน และก็ถือเป็นความเห็นจากบุคคลเดียวเท่านั้น และการที่ออกมาเป็นบวกยิ่งทำให้เราคาดหวังต่อหนังสูงมากขึ้นด้วย
บทวิจารณ์แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่พูดถึงหนังโดยรวม กับส่วนที่บอกเนื้อหาสำคัญของหนัง (แต่ก็เป็นเนื้อหาส่วนที่มีข่าวลือมาก่อนแล้วทั้งนั้น บทวิจารณ์นี้มาช่วยยืนยันข่าวลือเหล่านั้น)
ในแง่หนังโดยรวม ผู้เขียนพูดถึงหนังว่า “ยาวมาก ยาวพอๆ กับ Star Wars: The Force Awakens เลย แต่ไม่รู้สึกว่ายืดยาด ทุกนาทีในนั้นถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพ” (ข่าวลือก่อนหน้านี้บอกว่าหนังยาว 151 นาที)
ส่วนใครโดดเด่นที่สุดในหนัง ดูเหมือนว่าเจสซี ไอเซนเบิร์ก จะได้รับคำชมมากที่สุด “เจสซี ไอเซนเบิร์ก เป็นตัวละครที่มีความซับซ้อนมากกว่าที่ตัวอย่างหนังเผยออกมา เมื่อหนังจบ คุณจะเกลียดเขา แต่ขณะเดียวกัน คุณอดชื่นชมความสามารถของหมอนี่ไม่ได้” ผู้เขียนยังเปรียบเทียบถึงบทโจ๊กเกอร์ของฮีธ เลดเจอร์ ด้วย “มีความซับซ้อนหลายชั้น ทำให้นึกถึงโจ๊กเกอร์ของฮีธ เขาขโมยทุกฉากที่มีเขาอยู่ เขาจะทำให้คุณอยากต้องการเขาอีก ผมชอบที่ผมเกลียดเขามาก”
บทแบทแมนและบรูซ เวย์น ของเบน แอฟเฟล็ค ได้ความเห็นว่า “เป็นการแสดงที่โดดเด่นแน่นอน ผมแปลกใจหรือกลัวเมื่อเขาเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงหลังจากสวมหน้ากากเลย แบทแมนคนนี้อาจจะถูกมองว่าเป็นผู้ร้ายเลยก็ได้สำหรับผู้ชมบางคน เขาสนุกในการสร้างความเจ็บปวดให้แก่อาชญากร”
ส่วนบทไดอานา พรินซ์ ของแกล แกโดท์ นั้น “ทุกประโยคที่เธอพูดมักมีความจริงและความบริสุทธิ์มาสนับสนุน แต่ก็มีน้ำหนักด้วย”
ที่นี้ก็ส่วนที่เกี่ยวกับเนื้อหาสำคัญของหนังครับ ถ้าคุณอยากรู้ก่อนชมหนัง อ่านต่อได้ที่ด้านใน
ส่วนที่บอกเนื้อหาสำคัญของหนังเป็นการยืนยันข่าวลือเก่าทั้งหมด จีนา มาโลน (The Hunger Games: Catching Fire) รับบทเป็นบาร์บารา กอร์ดอน เธอไม่ค่อยมีบทในหนังมากนัก แต่มีการเอ่ยถึงเหตุการณ์ในสวนสนุกตามเนื้อเรื่อง Killing Joke ที่เกี่ยวข้องกับจิม กอร์ดอน พ่อของเธอ ที่ตอนนี้เกษียณแล้ว (มีข่าวลือมาก่อนหน้านี้ด้วยว่าตัวละครบาร์บารา กอร์ดอน ใส่เข้ามาเพื่อวางสู่หนังซูเปอร์ฮีโร่รวมดาวหญิง Birds of Prey ที่จะสร้างต่อไป แต่ข่าวลือนี้ยังไม่ได้รับการยืนยัน)
ในหนังยังมีตัวละครช่าวภาพคู่หูของคลาร์ก เคนท์ ด้วย นั่นก็คือจิมมี่ โอลเซ่น รับบทโดยสคูท แม็คเนียรี ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ตอนท้ายของหนัง Man of Steel เขาไม่โทษซูเปอร์แมนเป็นต้นเหตุเหมือนคนอื่น แต่กลับสนับสนุนเขา และมองเป็นฮีโร่ ทั้งยังเขียนบล็อคเกี่ยวกับซูเปอร์แมนด้วย
องก์สามของหนังคือส่วนที่”น่าตื่นตะลึงที่สุด” และ “ดูมเดย์ที่ปรากฏตัวในตัวอย่างหนังเป็นแค่ส่วนน้อยนิดของสิ่งที่ใหญ่กว่ามากที่ยังถูกปกปิดไว้ มีฉากแอ็คชั่นเยอะมาก” และผู้เขียนเปรียบเทียบว่าสององก์แรกของหนังคือเรื่องราว “Batman v Superman” ส่วนองก์สามจริงๆแล้วคือเรื่องราว “Dawn of Justice” ที่ “ผู้ชมจะได้เห็นตัวละคร Justice League ออกมาผนึกกำลังกัน” ทั้งยังเป็นส่วนที่ผู้เขียนบทบอก “แปลกใจสุดๆ” ด้วย
ที่มา: Heroic Hollywood
เป็นหนังที่วอร์เนอร์คาดหวังไว้มากที่สุดในรอบหลายปี เพราะถือว่า ถ้าดังก็เก็บกินยาว ทั้งภาคหลัก ภาคเเยก ส่วนปีนี้ต้องบอกว่าปีมหานรกของวอร์เนอร์เลยหนังใหญ่ เจ๊ง กับ เสมอตัว ยังดีที่ได้นั่งกลางๆเล็กๆพยุง
– เปิดเรื่องมาด้วยฉากเหตุการณ์แบล็คซีโร่แต่เป็นมุมมองของบรู๊ซเวยน์แบบในตัวอย่าง
– หนังสององก์แรกคือBat v Sup องก์สามเป็นจัสติสลีค
– แบทสู้กับซุปสองครั้ง ครั้งแรกแพ้ ครั้งที่สองงัดเอาเกราะกับคริปโตไนท์มาสู้และชนะ และพูดประโยคคลาสสิคดั้งเดิมจาก dark knight returns
– เล็กซ์สร้างดูมส์เดย์ขึ้นมาเพื่อจัดการกับซุป เพราะแบทแมนไม่ได้ฆ่าซุป
– เล็กซ์คอร์ปเป็นผู้สร้างระบบโดรนที่เอาไว้ป้องกันจากเอเลี่ยนบุกโลก (น่าจะผลพวงจากเหตุการณ์แบล็คซีโร่)
– เล็กซ์หัวล้านเนื่องจากคริปโตไนท์
– จีน่ามาโลนเป็นโอราเคิลเรียบร้อย
– ดิคเกรย์สันยังอยู่ เจสันท็อดด์ตายไปแล้วเมื่อห้าปีก่อนฝีมือโจ๊กเกอร์
– ชุดเดอะแฟลชจะคล้ายๆกับซุปเปอร์แมนแต่จะมีชิ้นเกราะติดอยู่ มีแถบสีเหลืองๆเรืองแสง
– กรีนแลนเทิร์นก็อยู่ในหนังด้วย แสดงโดยDan Amboyer
– ชุดกรีนแลนเทิร์นไม่ใช่ซีจี แต่มีซีจีเสริมด้วยนิดนึง ถุงมือขาว หน้ากากโดมิโน่
– หลังจากหยุดดูมส์เดย์ได้ เล็กซ์ส่งโดรนที่สร้างจากเทคโนโลยีคริปตัน(ไอ้หุ่นโดรนจากในยานภาคแรกแหละ)เป็นพันๆตัวออกมา
– ทีมจัสติสลีค
– หนังจะจบประมาณหลังจากที่ทุกคนช่วยกันหยุดกองทัพหุ่นโดรนของเล็กซ์ได้แล้วก็คุยกันว่าประมาณถ้ามีภัยครั้งหน้า อาจจะมาร่วมมือกันอีก
ดูมเดย์เป็นเพียงแค่ส่วนน้อยนิด…
อ่านแล้วยิ่งเพิ่มความกระสัน ซอยยิกๆ
เข้าไปอ่านมาแล้ว ไม่เคยอ่านสปอยเยอะขนาดนี้มาก่อน 55
ไอ้แบบนี้เคยอ่านมาก่อนตอน FF รอดูหนังจริงอย่างเดียว ไม่เชื่อใครแล้ว
เชื่อนะ…แม้ว่าไม่รู้ ใคร อวยหนัง แต่ก็เชื่อจริงๆ ว่ามีของ ไม่แพ้ หนังมาเวล…
ป.ล. ความรู้สึกเหมือน มาร์เวล คือเพลงค่าย อาร์เอส
ส่วน ดีซี คือเพลงค่าย แกรมมี่…(คู่ฟัด เมื่อ 20+ปีก่อน) 😅😅😅
แถมมีข่าวว่ามีไอ้ตัวแสบบางตัวมาสปอยลงออนไลน์ซะด้วยนะ (เกี่ยวกับ แบทเกิร์ล และ จิมมี่ โอลเส็น) วอเนอร์น่าจะส่งมือปืนไปยิงมันทิ้งซักหน่อยนะ
Update สรุปว่าปลอมครับ ไอ้คนปล่อยข่าวมันไม่ได้ดูจริง และจริง ๆ อาจยังไม่มีการฉายรอบทดลองด้วยซ้ำ
แป่ว!
– เปิดเรื่องมาด้วยฉากเหตุการณ์แบล็คซีโร่แต่เป็นมุมมองของบรู๊ซเวยน์แบบในตัวอย่าง
– หนังสององก์แรกคือBat v Sup องก์สามเป็นจัสติสลีค
– แบทสู้กับซุปสองครั้ง ครั้งแรกแพ้ ครั้งที่สองงัดเอาเกราะกับคริปโตไนท์มาสู้และชนะ และพูดประโยคคลาสสิคดั้งเดิมจาก dark knight returns
– เล็กซ์สร้างดูมส์เดย์ขึ้นมาเพื่อจัดการกับซุป เพราะแบทแมนไม่ได้ฆ่าซุป
– เล็กซ์คอร์ปเป็นผู้สร้างระบบโดรนที่เอาไว้ป้องกันจากเอเลี่ยนบุกโลก (น่าจะผลพวงจากเหตุการณ์แบล็คซีโร่)
– เล็กซ์หัวล้านเนื่องจากคริปโตไนท์
– จีน่ามาโลนเป็นโอราเคิลเรียบร้อย
– ดิคเกรย์สันยังอยู่ เจสันท็อดด์ตายไปแล้วเมื่อห้าปีก่อนฝีมือโจ๊กเกอร์
– ชุดเดอะแฟลชจะคล้ายๆกับซุปเปอร์แมนแต่จะมีชิ้นเกราะติดอยู่ มีแถบสีเหลืองๆเรืองแสง
– กรีนแลนเทิร์นก็อยู่ในหนังด้วย แสดงโดยDan Amboyer
– ชุดกรีนแลนเทิร์นไม่ใช่ซีจี แต่มีซีจีเสริมด้วยนิดนึง ถุงมือขาว หน้ากากโดมิโน่
– หลังจากหยุดดูมส์เดย์ได้ เล็กซ์ส่งโดรนที่สร้างจากเทคโนโลยีคริปตัน(ไอ้หุ่นโดรนจากในยานภาคแรกแหละ)เป็นพันๆตัวออกมา
– ทีมจัสติสลีค
– หนังจะจบประมาณหลังจากที่ทุกคนช่วยกันหยุดกองทัพหุ่นโดรนของเล็กซ์ได้แล้วก็คุยกันว่าประมาณถ้ามีภัยครั้งหน้า อาจจะมาร่วมมือกันอีก
สุด……ยอด…..ส์ คับ
อ่านเสร็จ ก็ม่ต้องไปดูแล้วล่ะ เสียตัง
ของปลอม? เบะหน้า
ย้อนมาอ่านดูอีกที โคตรฮา
สปอย หลอก ดีกว่าบทหนังจริงๆอีก 555555