นอกจากแบ่งภาคสุดท้ายเพื่อให้ได้เงินจากผู้ชมมากขึ้นแล้ว ไลออนส์เกตยังมีแผนจะสร้างกำไรเพิ่มด้วยการขยาย The Hunger Games ออกไปมากกว่าในนิยายอีกครับ ใช้สูตรเดียวกับการสร้างหนังชุด Harry Potter เลย นั่นก็คือการจะสร้างภาคต้นให้แก่หนัง
ในที่ประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาในนิวยอร์ก ไมเคิล เบิร์นส์ รองประธานของไลออนส์เกต บอกว่าอยากที่จะสร้างภาคต้น The Hunger Games และเทียบหนังเรื่องนี้ว่าเหมือน Harry Potter ที่ “จะมีต่อไปเรื่อยๆ”
เบิร์นส์บอกว่าหนังภาคสุดท้ายเปิดตัวในสหรัฐที่ราว 100 ล้านเหรียญนิดๆ ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ เขามองว่าน่าผิดหวัง แต่ก็ถือเป็นปัญหาระดับไฮคลาส และแฟนๆ ของแคทนิส เอเวอดีน ก็รอคอยที่จะพบภาคต้นของหนังได้ ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ผู้ชมจะได้เห็นมากขึ้นก็คือฉากสนามประลอง
“สิ่งหนึ่งที่เด็กๆ บอกว่าหายไปก็คือไม่มีฉากสนามประลอง ถ้าเราสร้างเรื่องราวย้อนกลับไป มันจะต้องมีฉากสนามประลองแน่ๆ”
ฉากสนามประลองเป็นฉากที่ผู้แข่งขันจากเขตต่างๆ จะต้องต่อสู้กันจนเหลือคนเดียวเป็นผู้ชนะ ซึ่งเป็นฉากที่มีอยู่ในสองภาคแรกของหนัง
เบิร์นส์ยังบอกด้วยว่ามีแผนจะเอาหนังเรื่องอื่นๆ ของบริษัทกลับมาสร้างใหม่ในรูปแบบภาคต้นด้วย ทั้ง Twilight, The Expendables และ Saw ครับ
อยากดูภาคต้นเหล่านี้กันไหมครับ
ที่มา: THR
มันคงจะดีไม่น้อย ถ้าได้ แกรี่ รอสทำงานของเขาต่อ คงไม่ทำให้ผมแหยะ หนังชุดนี้แบบนี้
พอเถ้อออ
ใจคอจะหากินกับของเก่าไปถึงไหนเนี่ย
หวังว่าจะใส่มุมมอง หรือ ไรใหม่ๆบ้างนะคับ
ปล.บางอย่างควรจบ ก้อไม่น่าไปแตะนะครับ
อานาจักรที่ยิ่งใหญ่มักล่มจากข้างใน
ถ้าลูกหลานเติบโตใหญ่ขึ้น แล้วมาดูประวัติศาสตร์หนังในช่วงนี้ คงมีอะไรให้รู้สึกฉงนใจ
สำหรับผม แฟนทาสติก บีสท์ ให้ความรู้สึกคลาสสิกน่าค้นหา..
แต่ภาคต้นฮังเก้อร์เกมส์ รู้สึกหดหู่หม่นหมองอึดอัดและยาวนาน..
เหมือนการเล่นพนัน จะทำจนกว่ามันจะเจ๊ง พอมองหันกลับมาอีกที อะไรที่มันเคยดีก็ไม่เหลือค่าแล้ว – -“