ข้ามไปยังเนื้อหา

โซนี่อาจเสียสิทธิ์จัดจำหน่ายหนังเจมส์ บอนด์ หลังจาก Spectre

spectre sonyโซนี่ พิคเจอร์ส ได้ลิขสิทธิ์จัดจำหน่ายหนังชุดเจมส์ บอนด์ มาหลายปี และหลายภาค แต่สิทธิ์ในการจัดจำหน่ายตามข้อตกลงกับผู้สร้างหนัง EON Productions และ เอ็มจีเอ็ม จะหมดไปหลังจาก Spectre หนังเจมส์ บอนด์ ภาคล่าสุด เข้าฉายในสหรัฐครับ ซึ่งอาจทำให้โซนี่หมดโอกาสที่จะได้จัดจำหน่ายต่อในอนาคตด้วย

รายงานจากเดดไลน์บอกว่าทีมผู้อำนวยการสร้างกำลังจะเปิดโอกาสให้ค่ายหนังอื่นๆ เข้ามามีส่วนในการประมูลลิขสิทธิ์จัดจำหน่าย และหาก Spectre ทำรายได้งดงาม ก็ยิ่งจะทำให้ทีมผู้สร้างมีอำนาจต่อรองสูงเพื่อให้ได้ข้อตกลงที่ดีขึ้นกับค่ายหนังใหม่ “พวกเขาอาจไม่ได้บอกว่าจะเปิดโอกาสให้ประมูลในตอนนี้ แต่ก็ให้เป็นที่รู้กันว่าสัญญาใกล้จะหมดอายุแล้ว และจะเปิดโอกาสให้ประมูลแน่ๆ” แหล่งข่าวบอก

ค่ายหนังใหม่ที่อาจได้สิทธิ์จัดจำหน่ายแทนอาจเป็นวอร์เนอร์ บราเธอร์ส ที่มีความสัมพันธ์อันดีกับเอ็มจีเอ็มในการสร้างหนังชุด The Hobbits หรืออาจเป็นฟ็อกซ์ที่จัดจำหน่ายโฮมวิดีโอให้เอ็มจีเอ็ม หรืออาจแม้แต่ดิสนี่ย์ ที่กว้านซื้อบริษัทใหญ่ๆ เข้าไปอยู่ในเครือ ทั้งมาร์เวลและลูคัส ฟิล์ม

โซนี่เองก็ทำหน้าที่ด้านการจัดจำหน่ายและการตลาดหนังชุด James Bond ได้ดีมาตลอดระหว่างที่ลิขสิทธิ์อยู่ในมือ และภาค Skyfall ก็ช่วยสร้างรายได้ให้ แต่ข้อตกลงดังกล่าวทำโดยเอมี่ พาสคัล ซึ่งตอนนี้ได้ลาออกจากโซนี่ไปแล้ว คงต้องมารอดูต่อกันว่าทิม ร็อธแมน ที่เป็นซีอีโอคนใหม่จะยอมสู้หรือเสียลิขสิทธ์หนังไหม

 

 

1 ความเห็น »

  1. หลังจากชมภาค SPECTRE แล้ว ในฐานะแฟนที่ชมมาทุกภาคและชอบ Bond แต่ละคนที่มีเอกลักษณ์ จุดแข็งต่างกัน ผมว่า Bond น่าจะหยุดอยู่เพียงแค่ตรงนี้แล้วครับ จริงๆ ส่วนตัวผมอยากให้ Bond ของ Daniel Craig จบไปตั้งแต่ภาค Skyfall แล้ว เพราะมันเชื่อมกับภาคเริ่มของ Sean Connery พอดี แต่พอมามี SPECTRE ซึ่งเหมือนภาคเสริมที่ทำขึ้นมาเพราะได้ลิขสิทธิ์ชื่อ ‘SPECTRE’ คืนมาก็กลับทำอะไรไม่ได้ดีไปกว่าการยำ ‘Medley’ ฉากเด่นๆ ของภาคก่อนๆ จนแทบไม่มีอะไรให้จดจำเลย แถมยังใช้นักแสดงได้ทิ้งๆ ขว้างๆ มาก SPECTRE มีวัตถุดิบให้เล่นเยอะมาก ผมอยากให้มันอยู่ในมือของ Martin Campbell (Goldeneye, Casino Royale) มากๆ เพราะเขาเป็นคนชุบชีวิตให้ Franchise นี้ในโลกหลังยุคสงครามเย็น

    แต่เมื่อ SPECTRE ออกมาเป็นแบบนี้ ทำลาย Blofeld เสียจนหมดความน่าเกรงขาม ใส่รายละเอียดแบบทิ้งๆ ขว้างๆ ผมมาหยุดอยู่เพียงแค่นี้น่าจะดีกว่า ไม่ก็ย้อนกลับไปเป็น ‘Young Bond’ หรืออะไรก็ว่าไป แต่กระแสพวก ‘Origin’ ตอนนี้ก็เกร่อเต็ม Hollywoods ไปหมด

    ลอง ‘ตีความ’ ให่ดูก็ดีครับ สร้าง Alternative Universe

  2. จะสวยมาก หากให้ตัวละคร Kincade ใน Skyfall รับบทโดย ฌอน คอนเนอรี่ ตามที่ออกแบบไว้ตอนแรก
    แล้วก็ปิด Timeline นี้ไปเลย เส้นเรื่องใหม่ ให้ Christopher Noland ซึ่งเกริ่นว่าคลั่งไคล้ 007 มาแต่เดิม มากุมบังเหียนแทน ทำเป็นไตรภาค แทน Dark Knight Trilogy
    ดู Spectre รู้เลยว่าผู้สร้างหมดมุก แรงบันดาลใจใหม่ๆ ในเฟรนด์ไชน์นี้ไปเรียบร้อย

    สปอยด์

    มุก NSA นี่ ใช้ตั้งแต่ Captain America ยัน Fast 7 ลามมาถึง Spectre

    • Spoiler Alert:

      เห็นด้วยทุกประการครับ ตอนดู Mission Impossible V เมื่อกลางปีก็ยังเป็นห่วง SPECTRE อยู่ว่าจะสามารถรื้อฟื้นองค์กรลับต้นแบบขึ้นมาอย่างไรให้ยิ่งใหญ่กว่า syndicate หรือองค์กรลับอื่นๆ ที่เกริ่อออกมาเต็มไปหมด ส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากความคลาสสิคของ Spectre เอง แต่ Blofeld ก็ถูกยำแหลกไปแล้วใน Austin Power จนแทบไม่เหลืออะไรให้เล่น ส่วนตัวอยากเห็น Spectre กลับมาอีกครั้ง แต่ถ้ากลับมาแบบนี้อย่าทำเลยน่าจะดีกว่า เพราะมันซ้ำซาก เบาหวิว (จริงๆ Bond ก็เน้นมันส์อยู่แต่เดิมแล้ว) แต่ที่ผมเสียดายที่สุดคือการได้นักแสดงอย่าง Waltz, Bellucci, Batista, Seydoux มาใช้แบบไม่ถึงศักยภาพเลยสักคน

      รายละเอียดก็ใส่มาแบบขอให้ได้ใส่ มันแย่ไปหมดเลยจริงๆ ครับ SPECTRE เป็นหนังไม่กี่เรื่องที่ผมตั้งตารอชมอย่างใจจรดใจจ่อ เพราะชอบ Bond ของ Connery มากๆ จริงๆ อยากเห็นแค่ให้ภาคนี้แนะนำ SPECTRE ให้คนดูรู้จักแล้วให้ Blofeld ตัวจริงออกมาให้เห็นแค่แมวในตอนท้ายมากกว่า ส่วน Seydoux ก็ถูก Blofeld สั่งเก็บในตอนท้ายเหมือนภาค On Her Majesty’s Secret Service น่าจะดีกว่า ส่วน Waltz ก็ให้เป็น Oberhauser พี่ชายบุญธรรมไปเหมือนเดิมพอ อย่ามาแบบนี้เลยครับ แค้นเพราะถูกแย่งความรัก โห่! คนเขียนบทคิดได้ยังไง? บ้าไปแล้ว

      รอบที่ผมไปดูมีแต่แฟนบอนด์รุ่น Sean Connery ไปดูกันครับ แต่ละคนไม่ต่ำกว่า 60 ปี บางคนต้องพยุงกันไปดู ไม่มีใครนั่งตรงกลางเลย มีแต่คนนั่งริม เพราะคนสูงวัยเข้าห้องน้ำบ่อย

      รู้สึกเสียใจแทนเลยครับ เพราะขนาดผมยังผิดหวังกะ Spectre แฟนรุ่นนั้นจะเซ็งขนาดไหน

      จบลงที่ Office M รุ่นคลาสสิคในภาค Skyfall เถอะครับ Ralph Finnes หน้าคล้ายๆ Bernard Lee ‘M’ รุ่นแรกด้วย เป็นการลงตัวที่สุดแล้ว หากว่าได้ Sean มารับบท Kincade จริงๆ เพื่อปิด Franchise ‘Skyfall’ จะเป็นตำนานเลยครับ ไม่ถูก overrated เหมือนที่เป็นอยู่

      • เห็นด้วยครับ..ในฐานะแฟนบอนด์รุ่นเก่าดูมาทุกตอน..บางตอนสนุกบางตอนไม่ แต่ก็ยังมีเอกลักษณ์ของบอนด์อยู่ทุกตอนก็ไม่ว่ากัน หลังจากตกต่ำ Goldeneyeก็มาชุบชีวิต แต่ในยุคเครก (หลัง Casino Rayale) ผู้สร้างคงต้องการให้หนังหนักแน่นขึ้นเน้นดราม่ามากขึ้น (หลายคนคงชอบผกกแซม เมนเดสที่ดังมาจากAmerican Beautyแต่ผมกลับไม่ชอบหนังแกเลยซักเรื่องมันครึ่งๆกลางๆ ไปไม่สุด ดูอย่างRoad to Perditionเป็นต้น) บทเรื่องนี้ดูแล้วกลับไม่พัฒนาไปไหนมันดูง่ายๆดาดๆเหมือนหนังสายลับในท้องตลาดหลายๆเรื่อง (เสียดายบทผู้ร้ายสุดๆ) แต่เมื่อทำรายได้ดีและคิดว่าคงถูกใจผู้ชมรุ่นใหม่ ก็คงสร้างแบบนี้ต่อไปอีกเรื่อยๆ สำหรับผมคงต้องหาแผ่นBDบอนด์ตอนเก่าๆมาดูที่ดูกี่ครั้งก็ยังไม่เบื่อ สำหรับบอนด์สองสามเรื่องหลัง ผมดูในโรงแล้วหลับๆตื่นๆและคงไม่หาแผ่นมาดูซ้ำอีก

  3. ****spoil**
    เท่าที่ผมดูมาเหมือนกัน ผมยังคิดว่าเคร็กยังเป็น007 ได้อยู่นะครับ มาดบุคลิคดูดีอยู่ แอ็คชั่นยังได้ แต่ตัวร้าย(ผมไม่ค่อยได้ดูblofeldคนเดิม เลยไม่ค่อยรู้ว่าเค้าร้ายแค่ไหน แต่ก็น่าสงสารที่ตัวblofeldถูกยำเละในออสติน เลยมารู้แค่dr.evil) บทจริงๆเค้าน่าจะให้น่ายำเกรงกว่านี้ในฐานะของหน.องค์กรเบื้องหลังตั้งแต่ในcasino royal แต่ทำมาแบบก็องแก็งมาก เลยเสียดายฝีมือของwalt ที่น่าจะโชว์ได้มากกว่านี้
    แต่ไม่แน่นะคับ ถ้ามีต่อ ตัวละครตัวนี้เหมือนจะเป็นมนุษย์พันหน้า ภาคต่อไปอาจจะมีนักแสดงที่เด็ดกว่า บทคงร้ายขึ้น เพราะตอนจบ ตัวร้ายรอด

  4. ภาคนี้ชอบแค่โลเคชั่น การจัดมุมกล้อง ส่วนการแสดงก็ดีเยื่ยม ดูเป็น 007 ที่ฉลาด จนบางคนอาจไม่ชอบ โดยเฉพาะคนที่ไม่ชอบความบังเอิญ เพราะภาคนี้ความบังเอิญเยอะมาก จนทำให้บทมันดูง่ายไปนิดดดด

  5. ผมเฉยๆกับ แซม เมนเดส นะ แปลกใจที่ skyfall ทำเงินทั้งๆที่ผมคิดว่าฉากแอ๊คชั่นมันธรรมดามาก

    ส่วนภาคนี้็ก็เช่นกัน เปิดตัวมาดี ออกแนวลึกลับ สั่นประสาทนิดๆ แต่ทุกอย่างก็จัดการได้อย่างง่ายดายเพียงเพราะบอนด์แม่นปืนสุดๆ ทำให้ฉากไคลแมกซ์มันเรียบง่ายเหลือเกิน ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า ผกก แกไม่เก่งเรื่องฉากบู๊จริงๆ

    ส่วนที่ดีของหนังคือความสวยงามของโลเกชั่น รถยนต์ คนแสดง ทุกอย่างดูดีมาก

    ถือว่าเป็นบอนด์ที่ดูเพลิน สนุกใช้ได้ แต่ไม่ได้ประทับใจอะไรมากมายครับ

  6. ไม่น่าเชื่อว่า = Spretre จะกลายเป็นหนังระเบิดภูเขาเผากระท่อมไปได้ แบบ quantum of solace
    เสียดาย = ประเด็นการแอบสอดแนมประชาชนด้วย “โดรน” น่าจะมีโดรนไล่ล่าบอนด์ให้สมกับความน่าหวาดหวั่นของSpretre
    รู้สึก = ตื้น! แผ่ว! ง่าย! ง่วง!

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.