ตัวอย่างฉบับเต็มของ Star Wars: The Force Awakens อุบัติแล้ว

star wars 7 full trailerหลังจากที่ปล่อยให้รอคอยกันมาเกือบทั้งเช้า ดิสนี่ย์ก็ปล่อยตัวอย่างแรกของ Star Wars: The Force Awakens ออกมาในที่สุดครับ ที่ให้อารมณ์ทั้งการย้อนนึกถึงอดีต และการเล่าขานตำนานแก่คนรุ่นใหม่ ผสมกันทั้งฉากเทคนิคพิเศษน่าตื่นเต้นทันสมัย ความรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ และฉากสะเทือนใจ แม้จะยังขาดโฉมหน้าของลุค สกายวอล์คเกอร์ ไป หนังเรื่องนี้จะสร้างปรากฏการณ์ของปีนี่้แน่ๆ พร้อมกับสร้างตำนานบทใหม่ให้แก่หนัง

ดูเหมือนว่าโลกในหนังฉบับนี้ “เจได” กับ “ด้านมืด” จะกลายเป็นเพียงแค่ตำนาน หรือผู้คนไม่เชื่อว่ามีอีกแล้ว ตามที่ฮัลโซโลบอกฟินน์กับเรย์ว่า “มันมีอยู่จริง” และสองตัวละครนี้ก็สะท้อนความเป็นลุค สกายวอล์คเกอร์ ในภาค New Hope ที่เป็นเหมือนคนไม่สำคัญ คนที่ทุกคนคาดไม่ถึง แต่แฝงซึ่งพลังและความสามารถพิเศษ ซึ่งเราได้เห็นต่อมาว่าฟินน์กับเรย์ทำอะไรได้บ้าง ขณะที่ด้านมืดก็มีเป้าหมายชัดเจนในการสืบทอดสิ่งที่ดาร์ธเวเดอร์เริ่มต้นไว้

การหายไปของลุค สกายวอล์คเกอร์ ในตัวอย่างหนัง อาจเข้ากับโลกของหนังก็ได้ที่ไม่มีผู้คนเชื่อเรื่องเจไดอีกแล้ว ลุคอาจหายตัวไปยาวนานและฟินกับเรย์ต้องตามหาเพื่อจะเรียนรู้การเป็นเจไดจากเขา เหมือนที่ลุคเรียนรู้จากโอบีวันและโยดา

Star Wars: The Force Awakens  นำแสดงโดยจอห์น บอเยกา, เดซี่ ริดลี่ย์, ออสการ์ ไอแซ็ค, แอนดี้ เซอร์กีส, อดัม ไดรเวอร์, ดอมห์เเนลล์ กลีสัน และ แม็กซ์ ฟอน ซิโดว์, ลูปิตา ยองโก และ เกวนเดอลีน คริสตี้ พร้อมการกลับมารของนักแสดงชุดเก่าจากไตรภาคคลาสสิค  ได้แก่ แฮริสัน ฟอร์ด, แครี่ ฟิสเชอร์, มาร์ค แฮมิลล์, แอนโธนี แดเนียลส์, ปีเตอร์ เมย์ฮิว และเคนนี เบเกอร์

หนังใช้ชื่อไทยว่า “สตาร์ วอร์ส: อุบัติการณ์แห่งพลัง” กำกับโดยเจ.เจ. เอบรามส์ เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในบ้านเรา 17 ธันวาคม 2558 คลิกชมตัวอย่างด้านใน

 

ซับไทย

38 comments

  1. มันช่างน่าดูเหลือเกิน ได้เห็น ฮัน โซโล อีกครั้งแล้วขนลุก แว่บเดียวก็ทำให้ ตย นี้ทรงพลังขึ้นเยอะ

    เหลือแต่นักแสดงวัยรุ่นแล้ว ว่าจะมีเสน่ห์ขนาดไหน

  2. มันคือที่สุดแห่งความฟิน 10 ปีที่ห่างหายไปจากเพื่อนเก่า อีกไม่ถึง2เดือนเราจะได้เจอกันอีกครั้ง. พร้อมเพื่อนใหม่อีกเป็นโขย่ง

  3. น่าจะเป็นการสั่งลา Star Wars รุ่น Classic จริงๆ อีกสองภาคที่เหลือ John Williams ไม่น่าจะไหวแล้วคงส่งไม้ให้ Giacchino แทน Star Wars ที่ไม่มี John Williams นี่ไม่อยากคิดเลยครับ

  4. เป็นอะไรที่แบบว่า..ทรงพลังมากกกกกก!
    ผมเดาว่าไตรภาคใหม่นี้ต้องมีตัวเอกแขนขาดอีกแน่นอน!

    17 ธันวาคมนี้ แฟนๆสตาร์ วอร์ส ห้ามพลาดดดด! ^^

  5. แทบไม่ยอมเปิดเผยอะไรเลย นี่อาจเป็นจิตวิทยาอย่างหนึ่งที่เล่นกับความคาดหวังของเหล่าสาวกที่สูงลิบ!

    คล้ายเนื้อเรื่องจะดำเนินรอยตามองก์ที่๔ วนกลับไปอีกครั้ง เปลี่ยนตัวละคร และยุคสมัย
    แต่ใหม่ด้วยบางสิ่งที่ยังไม่เปิดเผย

    แต่ที่แน่ เจเจ ถนัดที่จะทำหนังออกมาสนุกครบรส และตัวละครที่มีเสน่ห์
    แล้วจะลงตัว หรือยิ่งใหญ่เท่าของเก่าหรือไม่ มิอาจคาดเดา
    ดนตรีของคุณปู่จอห์น ดูทันสมัย โฉบเฉีียวขึ้น แม้นยังไม่ได้ยลธีมใหม่
    แต่เชื่อว่าต้องมีท่วงทำนองสุดคลาสสิคที่ติดหูเหมือนทุกภาค

    เป็นกำลังใจให้ทีมงานสร้างทุกท่านได้ทำในสิ่งที่พวกเขารักและศรัทธา
    ขอพลังจงสถิตย์กับทีมงานและสาวก(ทั้งเก่าและกำลังจะเป็น)ทุกๆท่าน

  6. เทคนิคดีมากเลย ละเอียด แม้กระทั้งแสงสะท้อนของ’กระบี่แสง’ก็สะท้อนตกกระทบตัวละครด้วย ต่างจากภาคก่อนๆ นี่จะเป็นภาคแรกที่สตาร์วอร์สจะมีการเคลื่อนมุมกล้องถ่ายตัวละครแบบหวือหวาและมาพร้อมภาพสโลโมชั่น

  7. ผมว่านี่อาจจะเป็นหนังทำเงินอันดับ 1 ในอเมริกปีนี้ เพราะความฟินน ได้กลุ่มคนที่มากกว่า ทีเร็ค

  8. ต้องออกตัวก่อนว่าไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ – ตอนแรกรู้สึกขัดใจกับการเลือกนักแสดงนำรุ่นใหม่ ดูตัวอย่างนี้แล้วต้องคิดใหม่ แต่ละคนดูมีเสน่ห์ขึ้นเยอะ เอ๊ะ หรือคิดไปเอง

    • งานถนัดอย่างนึงของผกก.เจเจ นอกจากจะทำหนังได้ครบรส และสนุกแล้ว ยังสามารถสร้างเสห่น์ให้กับตัวละครค(ความรู้สึกผูกพันธ์ระหว่างคนดูกับตัวละคร)ได้อย่างรวดเร็ว แน่นแฟ้น และมากด้วย ในแทบจะทุกๆเรื่องที่เขากำกับ (เช่น star trek ตอนดูหนังตัวอย่างจะดูสึกขัดๆ ซึ่งตรงข้ามกับตอนดูหนังจริง) หนังตัวอย่างหลายครั้งบอกอะไรเราไม่ได้มากเท่ากับรู้ว่าใครคือทีมงานสร้างโดยเฉพาะใครคือผู้กำกับครับ ^^

  9. ผมว่าคนไทยเข้าใจผิดเยอะนะครับเรื่องบทบาทของตัวละคร Trinity ในหนัง Star Wars
    Star Wars มันไม่เคยมีพระเอก-นางเอก อยู่แล้ว ตัวเอกหลักของไตรภาคจะมี 3 คน โดยจะมี 1 คนที่เป็นจุดศูนย์กลางของเรื่อง

    Original – ลุค (ตัวเอกหลัก), เลอา, ฮัน
    Prequel – แอนาคิน (ตัวเอกหลัก), โอบีวัน, แพดเม่
    Sequel – เรย์ (ตัวเอกหลัก), ฟินน์, โพ

    ฉะนั้น ถึงฟินน์จะได้จับไลท์เซเบอร์ประจำตระกูลสกายวอร์คเกอร์ก็จริง แต่เขาก็ไม่ใช่ตัวเอกหลักของหนัง ตัวเอกที่เป็นจุดศูนย์กลางของหนังคือน้องเงิง เรย์ ครับ (บ้านเรายังยึดติดคำว่า พระเอก-นางเอก กันอยู่นะ แต่บ้านเขาเชาใช้คำว่า Main Protagonist ตัวละครผู้ขับเคลื่อนเรื่องราว ซึ่งอาจจะมีคนเดียว หรือสองคนก็ได้)

    • เห็นด้วยครับ น้องเรย์คือ ตัวหลักของภาคนี้ คือ ตัวละครที่รออยู่บนดาวทะเลทราย รอให้ตัวละครอื่น ลงมาที่ดาวนี้ แล้วพอนางออกไปจากดาวนี้ในที่สุด แบบที่ ลุคและอนาคิน เคยรอมาครับ

  10. Luke น่าจะทำหน้าที่ jedi master หรืออาจารย์ของเจไดมากกว่าครับ เพราะ luke เองหลุดพ้นจากด้านมืดไปแล้ว

  11. (ทุกสิ่งคือการคาดเดาจากหนังตัวอย่าง ด้วยความเคารพในทีมงานสร้าง)
    ทุกอย่างแทบจะย้อนรอยองก์ที่ ๔

    เรย์=ลุค คือแกนกลางของเรื่อง คือตัวเดินเรื่อง (ไม่ใช่นางเอกและพระเอก) น่าจะเป็นเจไดในอนาคต

    ฟิน อาจเป็นคู่หูร่วมผจญภัยกับเรย์ (แบบลุคกับฮัน โซโล) เสน่ห์ของฟินอาจเป็นสิ่งใหม่ๆที่เราไม่เคยพบมาก่อน และอาจจะ มีกรณี ชาย2 หญิง 1 ชอบคนๆเดียวกัน

    เรย์อยู่อย่างโดดเดี่ยวนดาวทาทูอิน ไม่รู้จักที่มาที่ไปของตน = ลุค ในองก์ที่๔

    ยานฟินระเบิด(ข้างบนคือจากยานพิฆาตดารา)ตกลงมาบนดาวทาทูอินมาเจอกับฟิน = r2d2 และ c3po หลุดจากยานพิฆาตดารา มาตกบนดาวทาทูอิน มาพบกับลุค บอกข่าวสารบางอย่าง

    เรย์มาเจอ bb8 ช่วยและอาจจะซื้อกลับมา ได้รับข่าวสารบางอย่าง = ลุคช่วย r2d2 และ c3po และนำกลับมาที่บ้าน ลุคได้รับข่าวสารบางอย่าง

    ฟินกับเรย์เจอกัน พากันออกมาจากดาวทาทูอิน ด้วยภารกิจบางอย่างโดยยานมิเลนเนียมฟอลคอน(ฉากฮันโซโลหนียานไทท์บนดาวทาทูอินใกล้ๆซากยานพิฆาตดารา ในขณะที่เรย์กำลังเขาไปสำรวจที่ยานนั้นเหมือนกัน) = ลุคและโอบีวัน หายานที่จะพาไปนอกดาว โดยไปเจอฮันโซโล แล้วทั้งหมดก็เริ่มผจญภัย

    บนยานมิเลนเนียมฟอลคอน เรย์และฟิน ได้รับข้อมูลหลายอย่างที่ไม่เคยรู้ นำไปสู่การเรียนรู้ใหม่ๆ เรื่องของเจได กับวิธีการพัฒนาไปสู่พลังนั้น = ลุคเริ่มเรียนรู้จากโอบีวัน บนยานมิลเนเนียมฟอลคอน

    ที่น่าสนใจมาก คือสิ่งที่เรย์ถืออยู่ตลอดเวลา(คล้ายอาวุธ) คืออะไร เหมือนสิ่งที่เป็นของคู่กาย เครื่องราง สิ่งที่เรย์รักมากเชื่อว่าสิ่งนี้ ต้องมีการพัฒนา มีกุญแจบางอย่างไปสู่การพัฒนาเนื้อเรื่อง

    แล้วใครเล่า จะเป็นคนสอนเรย์ให้ก้าวสู่การเป็นเจได(หรือว่าลุค หรือมาสเตอร์’บางท่าน’ที่ยังเหลือรอดอยู่ แบบโยดาในองก์ที่๕) ส่วนฟินไม่น่าจะเป้นเจได เพียงแต่ได้มีโอกาศจับดาบเท่านั้น(ในอนาคตอาจไม่แน่เพราะ ตัวละครในสตาร์วอร์สมีการพัฒนาในภาคถัดๆไป ในแบบที่คาดไม่ถึง)

    มีต่อครับ

    จากหนังตัวอย่าง
    เราได้เห็นบรรยากาศร้อนๆ บนดาวทาทูอิน โทนสีเหลืองส้ม(แบบองก์ที่๔ เดิม)

    เราได้เห็นบรรยากาศหนาวๆบนดาวดวงหนึ่ง โทนสีขาวโพลน พร้อมกองทัพ(แบบฉากเปิดเรื่องในองก์ที่๕ เดิม)

    เราได้เห็นบรรยากาศแม็กไม้เขียวที่ยานรบx wing บินอย่างสนุก บนดาวดวงหนึ่ง โทนสีเขียวชอุ่ม(แบบฉากสำคัญท้ายเรื่องในองก์ที่๖ เดิม)

    (คาดเดา)
    นี่คือการรำลึก และ’คารวะ ‘จอร์จ ลูคัสผู้ให้กำเนิด starwars นำทั้งหมดในองก์ ๔ ๕ ๖ มารำลึกในภาคเดียว
    แล้วจากนั้นก็…ดำเนินเรื่องต่อไป ในแนวทางใหม่ต่อไป ในแบบที่ให้เกียรติ แต่ไม่ยำเกรง! (คล้ายกับสิ่งที่เจเจ. เลยพูดไว้ก่อนที่จะสร้าง)

    ทุกภาคของสตาร์วอร์สเล่นเรื่องด้านมืด ด้านสว่าง การสลับด้านกัน
    ที่เราเห็นมีแค่การสลับด้านจากสว่างไปมืด
    แต่ไตรภาคนี้อาจได้เห็นการสลับด้านมืดไปสว่าง !
    อาจได้เห็นบางสิ่งที่ฝืนขนบเดิม !

    กลิ่นไอของ star wars ไตรภาคนี้ จะออกมาแบบยุค 80 แค่ไหน เหมือนทีมงานจะพยายามคงสิ่งที่ดีที่สุด(ดั้งเดิม)ไว้ พร้อมกับการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆที่คาดไม่ถึงไว้ในเวลาเดียวกัน แต่เชื่อว่าในการรักษาขนบเดิมไว้ คงต้องมีหลายสิ่งที่ใหม่และคาดไม่ถึงแน่นอน(เชื่อมือ วิธีคิดของทีมงาน น่าจะถกและวิจัย หาแนวทางกันนาน เพราะแทบทุกคนน่าจะเป็นแฟนสตาร์วอร์ส) คล้ายกับไม่รื้อของเก่าทิ้ง แต่นำของเก่ามาปัดฝุ่น ทาสี ปรับปรุงให้ดีขึ้น เป็นของ vintage ที่มีคุณค่ากว่าของใหม่ๆที่ชินตา

    ต้องมีหลายสิ่งที่ใหม่ และยากจะคาดเดา…

    ขอพลังสถิตย์กับทีมงานและสาวกทุกท่านครับ ^_^

Leave a Reply to zack2029 (@zack2029)Cancel reply