Fantastic Four – ในความคิดเห็น

the fantastic four reader reviewถ้าถามว่าหนัง Fantastic Four สนุกไหม สำหรับผมแล้วก็คือชมได้เพลินๆ ไม่ได้รู้สึกน่าเบื่อ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหนังเรื่องนี้มีความผิดพลาดสำคัญในแง่ทิศทางของหนังที่เหมือนขึ้นต้นอย่างหนึ่งแต่ลงท้ายอีกอย่าง

ผมชอบครึ่งเรื่องแรกเหมือนนักวิจารณ์ส่วนใหญ่ที่มันมีความเป็นหนังไซไฟ ธีม Mad Doctor หรือ “นักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง” แบบยุค 80-90 ที่นักวิทยาศาสตร์ได้รับผลกระทบจากงานวิทยาศาสตร์ที่พิศดารของตัวเอง แบบ The Fly, Hollow Man หรือ Altered States เปิดเรื่องคล้ายหนังของแอมบลินที่คิดถึง แต่ครึ่งหลังของหนังกลายเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ทั่วๆ ไป แถมเล่าเรื่องอย่างรวบรัด ห้วน เชย และไม่ได้สานต่ออะไรในสิ่งที่ปูมาครึ่งเรื่องแรกเลย สร้างหายนะให้องค์รวมของหนังแบบย่อยยับเหมือนชื่อตัวร้าย

คงดีถ้าหนังละทิ้งความเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ไปเลย แล้วให้ครึ่งหลังกลายเป็นหนังไซไฟเขย่าขวัญแบบเต็มตัวเหมือน The Fly ผสม Chronicle หรือให้ดูมมีพัฒนาการเป็นคล้าย Hollow Man ของเควิน เบคอน ซึ่งอาจขัดใจแฟนต้นฉบับอยู่บ้าง แต่ถ้าทำในโทนนี้ไปจนสุดแล้วทำได้ถึง ผมคิดว่าผู้ชมจะให้อภัยได้ นอกจากนี้ก็ยังจะทำให้กลายเป็นหนังที่ฉีกแนวจากหนังซูเปอร์ฮีโร่ทั่วไปด้วย

ผู้อ่านชอบหนัง Fantastic Four ในระดับไหนกันบ้างครับ และให้คะแนนหนังเรื่องนี้กันยังไง มาใส่ความเห็นกัน

23 comments

  1. มัวแต่คิดทำหนังที่เชื่อมโยงไปภาคต่อ จนลืมว่าหน้าที่หลักที่แท้จริง…

    คือ “ทำหนังเรื่องนี้ให้ดีก่อน”

    เวลาดูหนังหลายเรื่องๆ ทำไมผมต้องมองข้ามข้อเสีย แล้วพยายามหาข้อดี
    เราต่างรู้ว่า ข้อดี และ ข้อเสีย ทำงานต่างกัน ไม่สามารถหักลบกันได้
    (แต่รวมเป็นหนึ่ง คือหนัง 1 เรื่อง เลยต้องมองภาพรวม)

    อันนี้ว่ากันตามตำราการสร้างภาพยนตร์เลย
    หนังแม่งโคตรแย่ ทุกอย่างแม่งผิดพลาดไปหมด
    แค่คิดว่าจะด่าตรงไหนก็เหนื่อยใจแล้ว

    ถามว่าทำไมถึงกล้าไปดู?
    คือผมอ่านวิจารณ์ / ดูรีวิว Chris Stuckman, Jeremy Jahns และ SchmoesKnow
    อยากดูทันที อยากรู้ว่าจะ doom สมคำล่ำลือไหม

    โห… ไม่ผิดหวังครับท่าน การนั่งดูแม่มไม่มีความหรรษาเลย ทรมาณมาก

    ใครดูเพลินก็โชคดีครับ ลางเนื้อชอบลางยา ไม่ว่ากัน

    ปีนี้ผมได้ดูหนังอย่าง Mad Max, Ex Machina, Inside Out, Antman, MI:5
    แล้วต้องมาเจอคุณภาพแบบนี้ แย่ครับ แย่สุดๆ

  2. ชอบส่วนที่เป็นวิทยาศาสตร์ แต่นอกนั้นเกลียดดดด
    บทพูดยังแปร่งๆ จะมุกหรือจริงจังก็ยังเอาแน่เอานอนไม่ได้ พังที่สุดในสามโลกก

  3. คิดเหมือนคุณเจไดยุทธครับ ตอนดูครึ่งแรกผมชอบมากเลยนะ แม้มันจะยืดๆ อืดๆไปหน่อยก็เถอะ แต่มันดูน่าสนใจอย่างตรงที่แต่ละคนได้พลังมา มันต่างจากเวอร์ชั่นปี 2004 ตรงที่เวอร์ชั่นนั้นดูอภินิหาริย์มาก ชาวเมืองชื่นชม เป็น “พลังวิเศษ” จริงๆ ในขณะที่เวอร์ชั่นนี้มันดูเป็นความผิดปกติของร่างกาย มนุษย์ยางยืดก็ดูน่าสะอิดสะเอียนมากกว่าดูเป็นยอดมนุษย์ มนุษย์หินนี่ก็ดูอึดอัดและรู้สึกทรมานมาก เหมือนร่างกายขยับไม่ได้ตามที่คิด ถูกฝังทั้งเป็นอะไรแบบนั้น

    แต่พอมาถึงช่วงต่อสู้ มันคือแบบ…เห้ย ไอ้ที่ปูมาครึ่งแรกหายหมดเลย ดร.ดูมก็โผล่มาแว้บเดียว ยังไม่ทันแน่ใจเลยว่าพลังของตะแกคืออะไรแน่ สักพักรวมพลังกันปราบได้แล้ว จบ แบบ…อะไรวะ แค่เนี้ย

    ถ้าเป็นผม ผมอาจจะสานต่อตรงที่ดร.ดูมกลับมา มีพลังแล้วนี่ ก็ใช้พลังของตนสร้างประเทศขึ้นมาแบบในคอมิกเลย แล้วรัฐบาลก็กลัวอำนาจตรงนี้ เลยหลอกใช้ให้เหล่าสี่กายสิทธิ์ไปปราบ ซึ่งแต่ละคนก็ไม่ได้ดูอภินิหาริย์แบบการ์ตูน เอาโทน Chronicle มาใช้ก็ได้ ว่าพลังของแต่ละคนจะมีผลข้างเคียงไปคนละแบบ สุดท้ายก็ต้องเป็น Fantastic4 แบบจำยอมๆไป รอภาคต่อมาเล่าเรื่องว่าแล้วจะเป็นยังไงต่อไป รับได้มั้ยกับการใช้ชีวิตแบบนั้น ฯลฯ

    สำหรับผม เรื่องนี้มันไม่เชิงห่วยหรอกครับ แต่มันเสียดายอ่ะ เสียดายว่ามันน่าจะทำได้ดีกว่านี้

  4. แหม่งๆตั้งกะ เห็นข่าวว่า แคส Johnny Storm เป็นคนผิวสิแล้ว แต่เห็นมีข่าวว่า Fox เตรียมจะดันทั้ง X-men ทั้ง FF เป็นหนังจักรวาลเดียวกัน แบบ MCU แถมจ้าง Mark Millar มาเป็นที่ปรึกษา เส้นเรื่อง ด้วย ก็คิดแง่ดีว่า เอาว่ะ Fox คงเอาจริงงานนี้ แถมตลาดหนัง Super Hero ตอนนี้ก็แข่งขันกันสูง คงเตรียมตัวมาดี ไม่ให้พลาดแบบตลาดในอดีตละมั้ง?

    จริงๆเห็น Trailer ตั้งกะต้นๆปี แล้วก็คิดว่า น่าสนใจดีแฮะ ไม่แน่เค้าอาจจินตนาการใหม่ ให้สี่กายสิทธ์เป็นแนว Hard Sci-Fi ก็เป็นได้ ไม่แน่งานนี้อาจมีเซอร์ไพรส์

    แล้วก็ เซอร์ไพรส์ จริงๆ กับ เสียงวิจารณ์ถล่มถลาย (แง่ลบ) เป็นเอกฉันท์ ซะงั้น น่ะ…..เฮ้อ

  5. ครึ่งแรกนี่ชอบเลยครับ พอได้พลังเท่านั้นแหละ มันผิดที่ผิดทางไปหมดทุกอย่างเลย ดูจบก็ไม่ได้รู้สึกเกลียดอะไรแต่คิดว่ามันน่าจะดีกว่านี้ได้มากๆ แอบเฟลมากนึกว่าหนังจะดีกว่านี้ จะได้แอบสะใจคนที่ด่าก่่อนๆ

  6. เสียดายแทน ส่วนผมถ้าได้ร่วมเขียนบทคงโฟกัสเรื่องจักรวาลต่างๆ เพื่อปูทางไปโลกคู่ขนานอย่างX-Men และเปิดทางเผื่อไปจักรวาลดิสนีย์(เพราะเปิดทางจักรวาลคู่ขนานแล้วMarvelก็คงเห็นช่วงทางมาร่วมกัน)
    ส่วนถ้าไม่คืนมาร์เวลไป ภาคต่อไม่ยากครับ หาตัวละครใหม่ แล้วเปิดเรื่องภาค2มาให้ตัวละครใหม่นั่งดูภาคนี้ในทีวีแล้วบอกว่าภาคนี้เอาเรื่องราวของกลุ่มFantastic Four ตัวจริง(ตัวละครใหม่ในรีบู๊ตภาค2)ไปทำแล้วเจ๊ง จบ 555

  7. อยากบอกว่าเรื่องนี้มีปัญหาเยอะมากครับ ตั้งแต่เริ่มสร้างยันสร้างเสร็จเลย ถ้าจะทำภาคต่อหรือรีบูตใหม่อีกรอบ ผมว่าคืนสิทธิ์ให้มาร์เวลน่าจะดีที่สุดแล้วครับ

  8. ห่วยกากนรกครับ อย่าไปดูกันเลย เเต่ถ้าไปดูก็เเล้วเเต่พวกท่านครับ คิดดูนะครับ กรากฟฟิค ด้อยกว่าภาค 2 ที่ฉาย 7-8 ปีก่อน เนื้อเรื่องห่วยซ้ำซาก ดาราห่วยครับ ไม่รู้คัดมาได้ยังไง พระเอก หน้าเออมาก นางเอกหน้าอย่างกับลิง ไอ้คนใช้ไฟเลือกคนผิวสีมาได้ยังไง ส่วนไอ้หิน น่ากลัวครับ สรุป เเม่งห่วยมากหนังเรื่องนี้

  9. ดีครับ ผมเขียนความเห็นของผมไว้ในบล็อกแล้วครับ คือผมรู้ว่าหนังมันแย่ แต่ผมอยากลองมองว่าชอบอะไรในหนังบ้างแทนจะดีกว่า รู้สึกว่ามันท้าทายกว่าการด่าอย่างเดียวน่ะครับ

    http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=pandakun&month=08-08-2015&group=15&gblog=9

  10. มันขาดความสมเหตุสมผล.. ที่ว่าทำไมอยู่ดีๆ BEN ก็กลายเป็นพี่บึ๊กจอมโหดจากที่เป็นเด็กดี กลายเป็นว่าพลิกบทแบบหน้ามือเป็นหลังมือ แล้ว??? รีดหนีออกไปได้แต่ทำไมกลับทำไม่สำเร็จ(ไปอีกมิติเองไม่ได้) หนังแม่งทำให้ทีมพระเอกกลายเป็นรวมตัวห่วย (ไม่ได้วิจารณ์จอนนี่นะ คือ ก็เข้าใจว่าโพตัสก็เป็นโอบาม่าผิวสี อันนั้นรับได้) ที่ผิดหวังสุดๆก็คือ ดูม…. พี่แกเก่งร้ายสุดๆ ทำไมถึงตายง่ายดาย .. ในคอมมิกส์อะ มีภาคที่เหล่าฮีโร่ต้องอึ้งกันด้วย เมื่อได้ล่วงรู้ว่าDOOM แกช่วยจักรวาลไว้ไม่ให้ล่มสลาย

  11. มือเขียนบทยังฟินอารมย์ อยู่กับ promethous ในช่วงแรกๆ พอได้ มาดู amazing spider man กับ captian america 2 อารมย์ ฟิน แกเปลี่ยนทันที ครับ…..ผมเข้าใจนะ

  12. บอกตรงๆ ช่วงแรกเป็นอะไรที่กำลังดีเลย( ถึงแม้ความสัมพันธ์ของตัวละครแต่หละคนยังไม่ชัดเท่าไหร่ ) แต่พอช่วงที่ได้พลังมันก็เริ่มดิ่งลงเรื่อยๆ เหมือนรีบจบไงไม่รู้ ( พวกฉาก Cg ช่วงหลังนี่มันแม่งๆ ) โดยร่วมเป็นหนังที่พอจะดูได้ แต่พอดูจบ มันจะจบแล้วจบเลย ไม่เป็นที่น่าจดจำ
    ปล.1. ในส่วนนักแสดงที่เล่นเป็น Johnny Storm ผมไม่ซีเรียสเท่าไหร่ ว่าเค้าจะเป็นคนผิวสี ผมว่าเค้าเล่น ok ดีนะ (ความคิดส่วนตัว )
    2. คนที่เล่นเป็น Victor นี่หน้าคล้ายๆซัวเรซเลย ตอนดูในโรงตกใจคิดว่าซัวเรซมาเล่นหนัง

  13. ผมก็คิดว่าไม่น่าดูตั้งแต่ประกาศชื่อนักแสดงละ.. พระเอกหน้าเอ๋อมาก มันฮีโร่ยังไงวะ ใครมันคัดนักแสดง

  14. ปกติผมเป็นคนที่ดูหนังแบบโคตรมีความสุขเลยนะครับ คือ ปราศจากอคติทุกประการก็ว่าได้น่ะ แต่หนังเรื่องนี้มันทำให้ทัศนคติด้านบวกในการดูหนังของผมเสื่อมลงทันตาเห็นเลย น่าเบื่อมาก drama 80% action 20% ผมว่า marvel ก็คงปวดหัวกับ f4 ของ fox อยู่เหมือนกัน แต่ก็อย่างที่ว่าแหละทำส่งๆเพื่อยืดลิขสิทธิ์ให้อยู่กับตัวได้นานที่สุดสินะ คืน marvel ไปเถอะครับ fox แล้วหันไปทำ avatar 2 ดีกว่ามั้ง สำหรับ f4 ภาคนี้ ให้ 5/10 ครับ (ช่วยที่สุดแล้วนะ) 555!

  15. ปกติไม่ค่อยพลาดหนังแนวนี้ แต่เรื่องนี้บอกผ่าน เพราะดูไม่มีแววตั้งแต่แรก…รวมทั้งคำวิจารณ์ออกมาเหมือนกันทั่วโลกคือ studio ทำให้หนังพัง..(เพิ่งสังเกตตัวเอกเรื่องนี้เป็นคนที่แสดงใน Divergent และ Insurgent ที่เห่ยมาก)

  16. ผมมองอีกแง่ในแบบคนทั่วไปนะครับ ดูแล้วก็ไม่มีอะไรเสียหาย มันเป็นหนังสไตล์ Super Hero อยู่แล้ว
    เนื้อหาโดยรวมก็ไม่น่าเกลียด ดูเป็นไซไฟ วิทยาศาสตร์จับต้องได้ กว่าหนัง Super Hero ยุคแรก
    แต่ถ้าให้ใส่เนื้อหาหนัก แบบ scifi จ๋าเลย ก็ไม่ตอบโจทย์คนดูส่วนใหญ่
    ก็เลยต้องเป็นสไตล์ปูเนื้อหาแบบ Scifi แต่จบแบบ Super Hero เพื่อให้เด็กจนถึงผู้ใหญ่ดูได้หมด

    โอเคถ้าดูในมุมมองพวกเรา เนื้อหามันทะแม่งครับ หลายจุดดูไม่สมเหตุสมผล
    ผมเองดูตัวอย่าง ก็คาดหวังไว้มาก แต่อีกใจก็คิดใจว่ามันเป็นแนว Super Hero
    ผมเข้าใจว่าคงจะใช้เวลาในการปูเรื่องนานหน่อย ก็เลยต้องรวบรัดเวลาที่เหลือ ให้รีบจัดการ Doom
    ขึ้นชื่อว่าหนัง Super Hero ยังไงก็หนีไม่พ้นเนื้อหาประมาณนี้ครับ

    ส่วนจะทำภาคต่อ หรือรวมกับ X-men หรือไม่ อยู่ที่รายได้รวมครับ ถ้าฝั่งเอเชียทำเงินดี ยังไงก็ต้องมีภาคต่อ
    หนังบางเรื่องเนื้องเรื่องดี คะแนนรีวิวสูง สุดท้ายเจ๊ง ไม่มีภาคต่อ

  17. พยายามอินกับช่วงเวลาวิทยาศาสตร์ของหนัง แต่หนังกลับทรยศเราหลังจากที่ทุกคนได้พลังมา และเรารู้สึกเสียดายตังค์หลังออกจากโรง

Leave a Reply to Panpan FebruErrorCancel reply