Jurassic World – ในความเห็นของคุณ

JW-07Jurassic World น่าจะสร้างปรากฏการณ์ทางรายได้ขึ้นมาแน่ๆ ทั้งในบ้านเรา ในบ้านของหนัง และในตลาดโลก แค่เฉพาะรายได้ในบ้านเราก็สูงถึง 23.72 ล้านบาทแล้ว สำหรับการเปิดตัววันแรก และน่าจะทำเงินถึง 100 ล้านบาทในเสาร์หรืออาทิตย์นี้แน่นอน หนังมีแฟนรุ่นเก่าจากเมื่อ 20 กว่าปีก่อนที่รอคอยภาคใหม่ และแฟนรุ่นใหม่ที่ยังชมหนังไดโนเสาร์ กลุ่มผู้ชมของหนังเรื่องนี้จึงล้มหลาม

แต่ในแง่คำวิจารณ์แล้ว มันสมกับการรอคอยแค่ไหน จากการประเมินคำวิจารณ์ของ Rotten Tomatoes บอกว่า อยู่ในระดับปานกลางครับ หนังมีนักวิจารณ์ชอบ 70% ด้วยคะแนนเฉลี่ย 6.7/10 จาก 158 บทวิจารณ์ ส่วนคะแนนจากกลุ่มผู้ชมที่เป็นสมาชิก imdb อยู่ที่ 7.9/10 จาก 13,000 กว่าโหวต (คะแนนน่าจะลดลงอีกเมื่อมีจำนวนโหวตมากขึ้น) ซึ่งเมื่อเทียบกว่าภาคเก่าแล้ว ถึงว่ายังต่ำกว่า Jurassic Park อยู่มาก ที่มีนักวิจารณ์ชอบ 93% คะแนนเฉลี่ย 8.3/10 และได้คะแนนจาก imdb 8.1/10 จาก 489,000 กว่าโหวต แต่หากเทียบกับภาคต่ออื่นๆ แล้ว Jurassic World ได้คะแนนสูงกว่า The Lost World: Jurassic Park (52%, 5.6/10) และ Jurassic Park III (50%, 5.2/10) ครับ

การที่หนังได้คะแนนปานกลางโดยหลักๆ มาจากการที่ไม่อาจสร้างความสดใหม่ สร้างความตราตรึง และมีความคิดสร้างสรรค์ได้เท่าภาคแรก บางความเห็นพูดถึงตัวละครมนุษย์ที่ยังไม่ดึงดูดหรือน่าสนใจพอ และเรื่องราวของมนุษย์ในหนังก็ขาดเหตุผลหลายอย่าง แต่หนังทำได้ดีในแง่การเป็นหนังเพื่อความบันเทิง หรือหนังป๊อปคอร์นสนุกๆ เรื่องหนึ่ง ครับ

เพื่อนผู้อ่านเว็บของเราคิดเห็นกันยังไงต่อหนังบ้างครับ ชอบในระดับไหนกัน มาใส่ความเห็นกันได้

 

31 comments

  1. คหสต ให้ 8.1 /10
    ส่วนตัวชื่นชอบเนื้อหา และมุมมองของเนื้อเรื่องภาคนีี้ (ความสัมพันธ์ระหว่างแรปเตอร์ กับ มนุษย์ : ความไว้เนื้อเชื่อใจ และ ความกตัญญู)
    มีการนำเสนอแบบใหม่แต่ยังมีกลิ่นอายของภาคแรก
    แต่นักแสดง รุ่นเด็กไม่ดึงดูดพอ ที่แสดงได้ดีคือ คริสแพท รองลงมาก็จู้ดี้
    โดยรวมเป็นหนังที่ทำซีจีออกมาได้ดีเสมอต้นเสมอปลาย และ สนุกตื่นเต้น ระทึก อยู่ตลอดเวลา
    ได้ชม IMAX 3D ในรอบแรก
    ตั้งใจจะไปชมรอบที่ 2 ในระบบ 4DX

  2. “…การที่หนังได้คะแนนปานกลางโดยหลักๆ มาจากการที่ไม่อาจสร้างความสดใหม่ สร้างความตราตรึง และมีความคิดสร้างสรรค์ได้เท่าภาคแรก บางความเห็นพูดถึงตัวละครมนุษย์ที่ยังไม่ดึงดูดหรือน่าสนใจพอ และเรื่องราวของมนุษย์ในหนังก็ขาดเหตุผลหลายอย่าง แต่หนังทำได้ดีในแง่การเป็นหนังเพื่อความบันเทิง หรือหนังป๊อปคอร์นสนุกๆ เรื่องหนึ่ง ครับ…”

    เห็นด้วยตามย่อหน้านี้ครับ ฮ่าๆ สงสัยผู้สร้างหนังก็คงเห็นว่า ในแง่ของความแปลกใหม่คงทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว ก็อัดความบันเทิงแบบเพิ่มดีกรีมากกว่าภาคที่ผ่านๆมาซะเลย ทั้งในแง่ของสเกลความโกลาหล (มีคนมากมาย) ไดโนเสาร์เยอะๆ แถมไม่พอเพาะพันธุ์ใหม่มาเฉย (ไดโนเสาร์ธรรมดาเห็นกันมานานแล้ว เช่น T-Rex , Raptor ฯลฯ) แล้วให้เราได้เห็นหน้าตาของสวนสนุกแบบเต็มๆในที่สุด (หลังจากพยายามเปิดมาหลายภาค อ้อ ไม่นับภาค 3 ล่ะกัน)

    ในแง่ของความบันเทิง ผมชอบนะ ดูได้เพลินดี สนุกคุ้มค่าตั๋ว ให้ 7.5/10 ล่ะกันครับ หักออกก็คงเรื่องความแปลกใหม่อย่างที่ว่า ไม่มีอะไรให้ตราตรึงใจหลังหนังจบ

  3. เสียดายอารมณ์เเบบสปีลเบริกเเบบในหนังภาคเก่าๆ ทั้งการประณีประนอมเเบบหนังเด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดี หรือพวกฉากลุ้นระทึกสไตล์สปีลเบริก ซึ่งผมว่ามันเป็นเสน่ห์ใน Jurassic park ภาคเก่าๆที่ทำให้คนรุ่นก่อนประทับใจ

    เเต่ก็เข้าใจที่หนังเลือกที่จะหาเเนวทางกับสไตล์ใหม่ๆให้ตัวเอง เเต่พอหนังเลือกไม่ถูกว่าจะย้อนรอยภาคเก่าหรือไปเเนวใหม่เลยเกิดการยักย่อนไม่สุดสักทาง สุดท้ายเหมือนสะดุดขาตัวเองล้ม กลายเป็นเเค่หนังเอามันส์ตามสูตรหนังยุคนี้ไปซะงั้น

  4. การกลับมาอีกครั้งของหนังไดโนเสาร์ที่ดีที่สุด หลังจากห่างหายไปนานกว่า 14 ปีนับจาก Jurassic Park III และการกลับมาในครั้งนี้ในชื่อ Jurassic World เป็นการตอกย้ำความจริงดังกล่าวได้อย่างชัดเจนที่สุด

    ข้อความข้างล่างนี้อาจจะมีการสปอยไม่มากก็น้อย

    – แค่ฉากเปิดตัว โชว์สวนสนุกและบรรยากาศในพาร์ค ก็ทำเอาน้ำตาจะไหลแล้ว มันเหมือนกับความฝันที่เป็นจริง เพราะหากสมมุติว่ามีพาร์คแบบนี้ในโลกของเราจริงๆ แน่นอนว่าเราก็ต้องการไปเหยียบที่เกาะอิสรา นูบลา สักครั้งหนึ่งในชีวิต

    – พาร์คเก่าของหนังในภาคแรก ไม่ได้ถูกรื้อทิ้งหรือสร้างทับใหม่ แต่ยังคงอยู่ให้แฟนๆได้หวนรำลึกความหลัง รวมไปจนถึงรถจิ๊บ , ป้ายสัญลักษณ์รูปไฟฟ้า 10,000 โวลท์ และอื่นๆ

    – ตัวหนัง มีอธิบายย้ำให้ทราบแล้วว่า ไดโนเสาร์ ในพาร์คทั้งหมดเดิมก็ไม่ใช่มาจากธรรมชาติ แต่ถูกดัดแปลงพันธุกรรม ไว้ให้สำหรับพวกนักวิทยาศาตร์ที่ดูหนังไม่เป็นได้ทราบ

    – สำหรับคนที่รัก แรพเตอร์ อาจจะมีเหตุการณ์ที่ทำให้คุณน้ำตาปริ่มๆได้

    – พระเอกที่กลับมาของเรื่องนี้ที่ทางผู้กำกับพยายามจะปิดเอาไว้อย่างเต็มที่ และใบ้ๆออกมาหน่อยๆก่อนหน้านี้คือ T-Rex นั้นเอง ซึ่งหากใครยังไม่ทราบ T-Rex ภาคนี้ ตามเนื้อเรื่องคือเป็นตัวเดียวกับภาคแรกครับ เธอยังไม่ตายและยังมีชีวิตอยู่มาจนถึงปัจจุบัน

    – ฉากที่ T-Rex เดินออกมา พร้อมกับทำลายโครงกระดูก สไปโนซอรัส ทิ้งซะแตกกระจาย เป็นการแสดงให้เห็นถึงการปฏิเสธบทโง่ๆของ T-Rex ที่ได้รับใน Jurassic Park III และนี่คือการกลับมาของราชาไดโนเสาร์ได้อย่างสมศักดิศรี

    – สุดท้ายขอมอบคำพูดนี้ให้กับ I-Rex ว่า “โดนงาบไปแดก”

    – ตัวหนังมีปูเนื้อหาไว้สำหรับภาคต่อไว้แล้ว

    – ขอบคุณผู้กำกับ Colin Trevorrow ผมรู้ว่าคุณก็เป็นแฟนของหนังเรื่องนี้ตัวยง แต่ก่อนหน้านี้ผมก็สงสัยในตัวคุณเช่นเดียวกันที่ไม่ยอมนำตัวละครหลักจากภาคเก่าๆกลับมาเลย แต่ในเมื่อหนังออกมายอดเยี่ยมประทับใจแฟนเดนตายอย่างผมเช่นนี้ ก็ต้องขอขอบคุณอย่างสูง

    • มีตัวละครเก่ากลับมาคนครับ ดอกเตอร ที่เป็นคนเพราะอินโดมินัส เล็กซ ครับ โผล่มาในนี้ด้วยครับ ซึ่งเคยรับบาทเดียวกันในภาคแรก และคิดว่าคงโผล่ออกมาอีกแน่ ถ้ารายได้ดีจนมีภาคต่อ เพราะเขายังไม่ตาย และเข้าใจว่าหิ้วตัวอ่อนไปกลับบริษัท in gen ด้วย(ให้เดาว่าคงไม่ได้เปิด สวนสัตว แล้วละ แต่คงเพาะไดโนเสาร เพื่อมาขายเป็นอาวุธสงครามแทน)

      ยิ่งช็อตที่ t-rex ทำลายโครงสไปโนซอรัส นี่ขัดเจนเลยที่เขาว่า ภาคนี้คือภาคต่อของภาคแรกแท้จริง ตัดภาค2-3 ทิ้งซะงั้น(สงสัยรายได้ไม่ดี โดนวิจารณเละ)

      • ผมหมายถึงตัวละครหลักครับ อย่างเช่น ดร.แกรนท์ เอยย เป็นต้น แน่นอนว่า ดร.วู เฮนรี่ ก็เป็นตัวสำคัญเช่นกันครับ

        ผมวาดฝันถึงหนังภาคต่อ ซึ่งถ้าเกิดจะมีภาคต่อออกมาจริงๆ ก็คงจะเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ท้าทายมากๆสำหรับคนเขียนบท หากจะใช้ไอเดีย ไดโนเสาร์ติดอาวุธ หรือเอาไดโนเสาร์ไปใช้ในสงคราม คงต้องคิดให้ดีๆละครับ เพราะไอ้พล็อตไดโนเสาร์ติดอาวุธก็เคยเกือบจะถูกนำมาใช้ในภาคต่อแล้ว แต่ล่มไป และบทของหนังในภาคนี้ก็ดูจะใช้แนวคิดของพล็อตดังกล่าวมาปรับเล็กน้อยด้วย

        ดีไม่ดี ภาคต่อไป เราอาจจะได้กลับไป เกาะอิสรา ซอร์น่า ^^
        เพราะถ้าเกาะอิสรา นูบลา บูรณะขึ้นมาอย่างสมบูรณ์แล้ว เกาะอิสรา ซอร์น่า ที่เป็นเกาะไว้สำหรับเพาะพันธุ์ ก็ต้องถูกรื้อฟื้นขึ้นมาด้วยแน่นอน และ InGen ก็อาจจะกำลังแอบทำอะไรอยู่บนเกาะแห่งนั้นก็เป็นได้…

  5. เราชอบมากเลยค่ะ
    แน่นอนว่ามันคลาสสิกสู้ภาคแรกไม่ได้ก็จริง แต่เราชอบมากกว่าภาค 2 และ 3 นะคะ อาจจะเพราะว่าไม่ได้คาดหวังจะพบความสดใหม่อะไร เพราะคิดว่ามันคงยากอยู่ที่จะเอาชนะภาคแรกได้ (ก็ทำไว้ขึ้นหิ้งซะขนาดนั้นนี่เนอะ) แต่สำหรับเราที่เป็นแฟนหนังภาคเดิม โตมากับแฟรนไชส์นี้ เราเลยคาดหวังการสร้างความรู้สึกโหยหา nostalgia อะไรแบบนี้น่ะค่ะ ซึ่งส่วนตัวเราว่าหนังทำจุดนี้ได้โอเคเลย ฉากเปิดตัวพาร์คตอนต้นเรื่องที่มาพร้อมกับธีมเพลงเดิมทำเอาเราร้องไห้เลยค่ะ การได้เห็นพาร์คเปิดแล้วมันตื่นตาตื่นใจมากเลย เหมือนฝันที่เป็นจริงน่ะค่ะ 5555555 TwT
    ตัวเนื้อเรื่องเองเราว่าไม่ตราตรึงเท่าภาคแรก เห็นด้วยที่ว่าตรงพาร์ทมนุษย์มันไม่สมเหตุสมผลอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่ส่วนที่โดดออกมาจนจะทำให้เสียอรรถรสน่ะค่ะ หนังยังดูสนุก มีฉากระทึกให้ลุ้นอยู่เยอะ ช่วงท้ายเรื่องเราเกร็งมากเลยค่ะ
    โดยรวมเราว่าหนังไม่ถึงขั้นขึ้นหิ้ง แต่ก็ถือเป็นหนังภาคต่อที่น่าประทับใจมากๆ ไม่ผิดหวังค่ะ

  6. เกือบจะดีละ ถ้าเกาบทตัวละครให้ดีกว่านี้ บทน่าจะให้พระเอก นางเอก และเด็ก ๆ อยู่ด้วยกันเยอะๆ เพราะแต่ละคนมีคาแรกเตอร์ที่ดีอยู่แล้ว ถือว่าสนุกกว่าที่คิด ไม่มีทางที่จะดีเท่า Jurassic Park แน่นอน
    Jurassic Park เป็นอะไรที่สุดๆ มากตอนเด็ก มันพาผมไปโลกแห่งความฝันที่อยากให้มันเป็นจิงสุดๆ
    อยากให้มี park แบบนี้จริงๆ อารมณ์ร่วมเยอะมาก สงสารลุง John Hammond ที่ตั้งใจสร้าง park
    ฉากทีเร็กซ์ ออกครั้งแรก ตอนไฟดับ ฝนตก ตรึงตาจนไม่มีวันลืมเลย
    ปล. ฉากเด็กๆ นั่งรถไฟฟ้าเข้า Jurassic World แล้วธีมเพลงดั้งเดิมออกมา ผมนี่น้ำตาซึมเลยเหมือนกันคิดถึงๆ

  7. ส่วนตัวรู้สึกผิดหวังมากครับ หลายๆอย่างมันดูไม่สมเหตุสมผล และรู้สึกแย่มากกับการแสดง ผมรู้สึกว่านักแสดงเล่นใหญ่มาก นึกว่าดูละครเวที ทั้งคุณที่อยากได้แรพเตอร์ นักวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่น รวมถึงนางเอก ทุกอย่างมันดูเป็นการแสดงไปหมด ดูแล้วไม่อินเลยครับ lol

  8. ผมให้ 8.5/10 เลย

    เป็นภาคต่อของ jurassic park ที่ดีที่สุด(ดีกว่าภาค 2-3 เยอะ) ที่เคยสร้างมา ทำให้รู้สึกว่าคุ้มค่ากับค่าตั๋วที่จ่ายไปจริงๆ

    ส่วนตัวมีความรู้สึกว่าต้องมีภาคต่อแน่ๆ เพราะดอกเตอร ที่เป็นคนเพาะพันธ อินโดมินัส เล็กซ์ ได้นำตัวอ่อน หรือ ดีเอ็นเอ หรือไข่ ออกจากเกาะไปกลับตัวด้วย ทำให้คิดว่าภาคต่อคงเกี่ยวกับการเพาะพันธไดโนเสาร(น่าจะเป็นพวกกินเนื้อ หรืออินโดมินัส เล็กซ์ นี่ละ) แล้วขายเป็นอาวุธสงคราม ตามที่เคยมีหัวหน้ากองกำลังติดอาวุธ ของ in gen พูดไว้ประมาณว่าแรพเตอร มันเหมาะเอาไปใช้ในสงครามโบรา โบร่า มากนี่ละ เพราะจมูกในการหาเหยื่อที่ซ่อนตัวมันสุดยอด แต่จริงๆแล้วภาคหน้าคงเพาะพันธอินโดมินัส เล็กซ์ละ เพราะมันมีดีเอ็นเอแรพเตอร,ทีเร็กซ์,กบ,งู ด้วย perfect killing machine ชัดๆ แต่…..

    ถ้าภาคหน้าเล่นสร้าวภาคต่อแบบภาค2-3 คือกลับไปเกาะเก่าหรือเกาะไกล้เคียง ไปทำภาระกิจเก็บกู้ งี้ ช่วยคนหลงเข้าไปในเกาะ งี้ จับไดโนเสามาเพื่อเปิดสวนสัตวไหม่งี้ แป้กแน่

  9. ไม่ถึงขั้นผิดหวัง แต่คิดว่าหนัง “play safe” เกินไป

    เป็นหนังเรต PG-13 ที่เอนเอียงไปทาง PG มากกว่า R ไม่เหมือนสองภาคแรกที่อารมณ์ระทึกขวัญทำได้ถึงสุดๆ (เช่น ฉากนางเอกติดตรงกระจกในภาคสอง) และบางฉากนึกว่ากำลังดูหนังสยองขวัญ (เช่น ฉากห้องครัวในภาคแรก) อาจเป็นเพราะหนังเดินเรื่องฉับไวเกินไป แทบไม่มีฉากตื่นเต้นฉากไหนที่ใช้เวลาบิ้วคนดูเหมือนสองภาคแรก (อีกแล้ว) เลย ทำให้อารมณ์ร่วมไม่ซึมซับเท่าไหร่ ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป

    แต่ชอบฉากกรงเล็บแล้วซูมออกมาเป็นอีกาตอนต้นเรื่องมาก ให้อารมณ์กวนๆ ดี เสียดายที่มีฉากแบบนี้ไม่มาก และชอบฉากไคลแม็กซ์มากครับให้อารมณ์เหมือนดู Avengers เวอร์ชั่นดึกดำบรรพ์ (ฮีโร่ช่วยกันตะลุมบอนบอสใหญ่ตัวร้ายหลัก) รวมถึงฉากเปิดตัวพาร์ค ไม่นึกว่าชาตินี้จะมีโอกาสได้เห็นของจริง(ในหนัง)แบบเปิดทำการเต็มรูปแบบ #น้ำตาจิไหล

  10. “The Park is OPEN”

    หนังใช้เวลาในการปูเรื่องช่วงต้นอยู่นิดหน่อย เพื่อบอกเล่าความเป็นมาว่ามันต่อจากภาคแรก( Jurassic Park)ยังไง (ซึ่งไม่เคยดูมาก่อนก็ไม่เป็นไรนะ) กว่าตัวละครจะโผล่มาครบ กว่าตัวหนังจะเริ่มเข้าสู่ปัญหา ก็เริ่มรู้สึกว่าเนื่อยๆเรื่อยๆไปหน่อย ซึ่งฉากพวกสวนสนุก Jurassic World มันช่วยให้ตื่นตาตื่นใจได้เช่นกัน เห็นแล้วก็อยากไปเที่ยวเลย (ฮา) พอจบการปูเรื่องช่วงต้นไปแล้ว จากนั้นหนังก็ใส่แต่ฉากแอ๊คชั่นที่มีทั้งระทึก ตื่นเต้น น่ากลัว เข้ามาแทบตลอด

    มุมกล้องในเรื่องนี้ช่วยสร้างอารมณ์ร่วมในหนังได้อย่างดีเยี่ยม เพราะเมื่อดูบนจอยักษ์อย่าง IMAX แถมเป็น 3มิติ ด้วยแล้ว บางฉากมีสะดุ้ง หรือหวาดเสียวจะโดนกัดได้เลย ซึ่งลักษณะมุมมองในเรื่องนี้ จะเหมือนวางอยู่ในระดับสายตามนุษย์ มันจึงทำให้เราเห็นความใหญ่โตของไดโนเสาร์ ได้อย่างลึกซึ้งมากขึ้น บวกกับ เทคนิค CG ที่สมจริงสุดๆ จะรู้สึกได้ถึงความหนักของไดโนเสาร์ทุกย่างก้าวด้วยซ้ำไป ชื่นชอบมุมกล้องเป็นพิเศษเลย ยิ่งฉากท้ายๆเรื่องนะ อินมากก็เพราะมุมกล้องนี้แหละ ลืมหายใจ มือจิกเก้าอี้ 555+

    สตาร์ ลอร์ด หรือ คริส แพรท บทส่งพี่แกเหมือนกันนะ มีฮาบ้าง มีแมนๆ ดูแล้วพึ่งพาได้ ดูเท่และบึกกว่าตอนเป็น สตาร์ ลอร์ด อีก ผมว่า พี่แกเหมาะกับบทลักษณะนี้นะ เริ่มติดใจอยากดูเรื่องอื่นๆของคริส แพรท อีกจัง
    ส่วนนางเอก บุคลิกน่ารัก น่าติดตามมากอ่ะ มันตลกและลดความกดดันของเรื่องไปได้เยอะ เวลาออกฉากทีไรก็ดูมีเสน่ห์ดึงดูดดี เซ็กซี่ก็ได้ น่ารักก็เป็น ฮาก็ยังได้ แสดงดีสุดในเรื่องนี้ละ

    ส่วนไอหนู เกรย์ (หรือเด็กน้อยที่ โทนี่ สตาร์ค เคยไปซ่อมไอร่อนแมนที่บ้าน ในภาค 3) เล่นเรื่องนี้ดูโตขึ้นมาอีกหน่อย แต่ยังคงน่ารักเหมือนเดิม ต้องใช้คำว่า เล่นได้น่าเอ็นดูหรือเปล่า (ฟังดูแก่) อนาคตไกลแน่เลยไอเด็กคนนี้

    ภาคนี้ อาจจะไม่ให้ความรู้สึกประทับใจ หรือตื่นเต้นสุดๆแบบภาคแรกที่เคยทำไว้ (ก็แหง่ละ) ถ้าจะเอาไปเทียบก็คงไม่ยุติธรรมเท่าไร ถ้าจะมองโดยรวมๆนะ บทหนังมันก็ไม่ได้มีอะไรใหม่ หรือซับซ้อนอะไร ดราม่าก็ไม่เยอะนัก หลายฉากก็เป็นแอ๊คชั่นที่พอจะเดาทางได้ “แต่” มันสนุกจังเลย มันช่างตื่นเต้นจังเลย ฮือฮากันทุกฉากที่ไดโนเสาร์ออกมา เพราะมันดูสมจริง ดูดุร้าย และคาดเดายาก แล้วอย่างที่บอกว่า มุมกล้องมันทำให้เรารู้สึกเหมือนไปยืนอยู่ใกล้ๆไดโนเสาร์เลย รับรู้ขนาดตัวมันได้ขนาดนั้นละกัน ฮ่าๆ ถือเป็นหนังดูเพลิน ตลก น่ารัก ตื่นตาตื่นใจ ลุ้น สนุกยันจบเรื่องอ่ะ

    *** ถ้าเป็นไปได้ อยากให้ดูแบบ IMAX กันนะ สุดติ่งจริงๆ ***

  11. ผมให้ 9.5/10
    ส่วนตัวผมเป็นคนรักสัตวืเลื้อยคลาน + ไดโนเสาร์
    Jurassic Park เปลี่ยนชีวิตผมให้รักไดโนเสาร์

    ภาค Jurassic World ขอจัดให้เป็นภาคต่อที่ดีมากครับ
    หากนักวิจารณ์ผู้ฉลาดนักหนาทั้งหลายต้องการความสดใหม่ คง ต้องไปดูเรื่องอื่นน่ะ เพราะนี่คือภาคต่อ !!

    ทำเงินเยอะๆจะได้ มีออกมาให้ชมกันอีก

  12. จริงอย่างที่หลายคนบอกว่าหนังอาจจะทำเงินไม่มาก
    ส่วนตัวคิดว่าน่าจะทำเงินได้ระดับหนึ่งพอสมควร
    ไม่ต้องอะไรมาก เอาดูแค่สนุกๆ ดูเอามันส์สะใจ
    ผมว่าภาคนี้สนุกกว่าภาคก่อนๆนะ เยี่ยมยอดดีครับ
    เหมือนดูตอนต่อจากภาคแรก (สานฝันเปิดสวนสนุก)
    แม้หนังปูเรื่องเยอะไปหน่อยแต่ความมันส์กลบแทนได้
    คนที่ยังไม่ได้ดูแนะนำให้ไปดูครับ สนุก มันส์ แน่ครับ
    ถามหน่อยครับ ตอนท้ายที่2ตัวกลับเข้าไปในป่า
    ตัวใหญ่ใช่จากกรง9 ตัวเล็กใช่รองหัวหน้าป่าวครับ ?
    ปล.
    2คนจากIronMan3มีบทเยอะกว่าเรื่องนั้นอีก(ฮ่าาา)

    • 2 ตัวที่กลับเข้าป่าไปในตอนท้ายก็มี แรปเตอรตัว(รองหัวหน้าครับ ชื่อบลู เป็นรองหัวหน้าในแก็งค แรปเตอร 4 หน่อ ตัวหัวหน้าตอนแรกคือพระเอก แล้วก็สลับเป็นอินโดมินัส เล็กซ์*เพราะมียีนแรปเตอรเหมือนกัน เลยยอมเป็นลูกน้อง* แล้วก็กลับมาเป็นลูกน้องพระเอกอีกที และก็เป็นตัวสุดท้ายในฝูงที่รอด) อีกตัวก็ทีเร็กซ์(ถูกนางเอกปล่อยออกจากกรง9)

  13. สำหรับผมให้คะแนนไม่ค่อยถูกนะ มีทั้งส่วนที่ชอบและไม่ชอบปนๆๆกันไป
    ผมเพิ่งดูเมื่อวาน พอดูจบถามว่าสนุกไหม ในใจตอบเลยว่าไม่ค่อยสนุก พอมาอ่านรีวิวต่างๆเค้าบอกว่าสนุก ก็เลยแอบมานั่งคิดเหมือนกันว่าเราพลาดอะไรไปหรือเปล่า ความสนุกของเรานี่เป็นยังไง ตอนนี้ก็คงตอบได้แค่ว่าเฉยๆ แต่ก็ดีใจที่ทำออกมา รอมานานได้ดูซะที
    – ตัวเนื้อเรื่องผมว่าเดาง่ายไปหน่อย (คงอยากให้เด็กๆดูง่าย สนุก) เลยทำให้เนื้อเรื่องธรรมดาไปนิด
    – ช่วงครึ่งแรกปูเนื้อเรื่องไม่ค่อยน่าสนใจ แอบเนือยๆ ในบางช่วง พยายามดำเนินเรื่องให้เร็ว แต่ก็รู็สึกเนือยและไม่อิน
    – ปมครอบครัวพ่อแม่ของเด็ก 2 คนคือไม่ต้องมีก็ได้ ถ้ามีขอช่วยขยายอีกนิดนะครับ
    – ตัวบทไม่ค่อยส่งนักแสดงเท่าไหร่ พระเอกช่วงครึ่งแรกดูหล่อ ฉลาด เท่ แต่พอช่วงหลังดูเด็กน้อยไปหน่อย ตอนเล่นการ์เดี้ยนดูน่าติดตามมากกว่า นางเอก รู้สึกขัดๆ ระดับตำแหน่งของนางเอกน่าจะเก่ง รับมือกับสถานการณ์ได้ดีกว่านี้ แต่ตัวบททำให้ดูสับสนเดี๋ยวกล้าเดี๋ยวกลัว งงๆ ชอบสองพี่น้อง แต่…บททำให้ 2 คนนี้เก่งเกินเด็กไปหน่อย เนื่องจากบทไม่ได้ปูเท่าไหร่ว่าสองคนนี้เป็นมายังไงด้วยส่วนนึง
    – นักแสดงบางคนเล่นเหมือนดูซีรี่
    – CG ถามว่าดีไหมก็ดีนะครับ แต่ก็มีบางจุดที่แปลกๆ
    – ที่ไม่ค่อยชอบคือมุขตลก รู้สึกมันมาผิดที่ผิดเวลาบางอันก็แป๊กๆ อย่างมุขคนปล่อยเครื่องเล่นลูกแก้ว ไม่ชอบเลย
    – ในความรู้สึกแรกคิดว่า สวนมันต้องอลังกาลกว้างใหญ่ กว่านี้ แต่ตัวหนังทำออกมาดูมันไม่ใหญ่โตเท่าไหร่เลย (หรือคิดไปเองก็ไม่รู้สิครับ)
    – ชอบฉากที่พี่น้องนั่งในรถลูกแก้วได้ฟีลแบบภาคแรกที่นั่งรถจิีบ แล้วไปเจอกับตัวคอยาวครั้งแรกเลย แต่ก็น้อยไปหน่อย
    – แอบรู้สึกว่ามุมกล้องในเรื่องจะแคบ ไม่ค่อยเห็นมุมกว้างๆ ยกเว้นพวกป่า วิว ตอนที่มีไดโนเสาร์จะมุมแคบ ทำให้รู้สึกมันไม่ค่อยอลัง
    – คิดว่าสวนจะล้ำกว่านี้อีกหน่อย

    สรุปที่พิมพ์มาไม่มีพิมพ์ชมเลยมีแต่พิมพ์ติอย่างเดียว 555 ที่ชอบก็มีนะครับ แต่ก็ไม่อยากพิมพ์มากกลัวจะไปสปอย ฉากดราม่าหลายจุดที่ชอบ ฉากไคลแม็กตอนหลังนี่ก้ชอบมาก แต่ก็อีกหละ อย่างที่บอกไปว่ามุมกล้องมันแคบไปหน่อย ถ้าฉากนั้นถ่ายมุมกว้างมากกว่านี้จะฟินมากกกก ฉากเปิดเรื่องก็ชอบน้า

    สรุปดีกว่าจะยาวไปและครับ
    แนวทางเรื่องผมว่าดี แต่บทและการนำเสนอขาดๆไปหน่อย เลยไม่ค่อยอิน หนังยาวแต่รู้สึกไม่ค่อยฟิน หลายอย่างมันไม่สุด รู้สึกขัดใจมากกว่า ไว้มีโอกาศจะต้องไปเก็บรายละเอียดอีกรอบครับ

    หนังดำเนินเรื่องคล้าย The Avengers 2 แต่รายนั้นดำเนินเรื่องเร็วและเยอะมากในเวลาพอๆกัน แต่อันนี้ดำเนินเรื่องเหมือนเร็วแต่ไม่เยอะ กลางๆไปทางน้อย น่าเสียดายทั้ง 2 เรื่องครับ

    ToPtHeReD

  14. ดูเอามันส์ อย่าคิดมากเลย หนังแบบนี้มันก็ไปได้แค่นี้ละครับ ภาคนี้เน้นนำเสนอสวนสัตว์ ภาคต่อไปตามล่าคนเพราะพันธุ์ ต่อด้วยมีไดโนเสาร์ฝ่ายดีและร้ายขี่ไดโนเสาร์สู้กัน…………ว่าไปเรื่อย

  15. หนังทำให้ Wow ได้ครึ่งเรื่องแรกครับ หลังจากนั้นกลายเป็นหนังก็อดซีล่าปะทะไคจูซะงั้น แต่ก็ทำได้สนุกดีครับ แต่ไม่ถึงขั้นประทับใจ 8/10

  16. 6.5/10
    ความตื่นเต้นไม่ต่อเนื่องครับ ผมว่าตัดต่อออกมาแล้วดูโดดๆไปนะครับ

    แต่รวมๆก็เป็นหนังที่ดูสนุกดีครับ
    แต่ไม่ได้ทำให้อยากตีตั๋วเข้าไปดูในโรงรอบ2 อะครับ

  17. ก็เป็นการรอคอยที่ยาวนาน ภาคแรก ปี 1993 วันนี้ก็ 22 ปี ครับ
    ในที่สุด สวนสัตว์ก็ได้เปิดสักที แค่นี้ก็คุ้มแล้วครับ
    หลายๆเหตุการณ์ หลายๆตัวละคร(ไดโนเสาร์) ก็ออกมาให้นึกถึงภาคเก่าๆ หลายครั้ง หลายตัวครับ
    ดูในโรงดีกว่าครับ เรื่องนี้ ฉากมุมกว้างจะได้เห็นชัดๆ

  18. โดยรวมชอบครับ ชอบครับ ส่วนดีของหนังคือ หนังมีส่วนที่ทำให้นึกถึงภาค 1 ที่ขึ้นหิ้งคลาสสิคอยู่หลายๆฉากดูแล้วคิดถึง ขอว่าส่วนที่ไม่ชอบหลักๆแล้วกันครับ

    – เนื้อเรื่องดูไม่เป็นเหตุไม่เป็นผล การใช้ไดโนในการรบนี่ผมว่ามันดูห่างไกลจากความเป็นไปได้เยอะไปหน่อย

    – เร็กซี่ที่ปูบทมาอย่างเมพ ฉลาดมาก แกะเครื่อติดตามได้ หลอกปั่นหัวคน พลางตัว หลบตัวตรวจจับความร้อน คุณสมบัติเทพพวกนี้หายไปในตอนท้ายกลายเป็นไดโนเสาที่ดุร้ายแบบดาดๆไป

    – ตัวร้ายเล่นใหญ่อย่างที่หลายท่านบอกเหมือนเล่นซีรีย์ ดูไม่มีเหตุผล เกินจริง และ ดูแบนราบมาก

    นอกนั้นผมค่อนข้างโอเคกับการสร้างแบบเอามันในครึ่งหลังที่ถือว่าเดินเรื่องได้กระชับฉับไว และ ตอบโจทย์คนส่วนใหญ่ที่ต้องการความบันเทิงได้เต็มที่

    ผมให้ 7.5/10 ครับ

  19. ถ้าในเรื่องความสดใหม่ ยังห่างไกลภาคแรกนัก ด้านงานตัดต่อ ช่วงหลังฉับไว ช่วงแรกปูทางมาได้โบราณมาก ปัญหาครอบครัว ปัญหาคู่จิ้น เกือบหลับ นักแสดงขาดมิติ ใส่ไปงั้นๆ บทเรียนจากภาคที่ผ่านมา ตัวร้ายยังไงก็โง่กว่าไดโนเสาร์ ไม่รู้ว่าจะมีตัวร้ายเพิ่มเพื่อให้ยุ่งเหยิงหรืออย่างไร เหนื่อยทั้งสองฝ่าย โดนขโมยซีน ฮาาาาา ข้อดีสองอย่างทั้งเรื่อง นางเอก โอโม่ ตมๆๆๆ กับ rex หล่อมากกกก นายมาไม่กี่ฉากแต่นายหล่อได้ใจ

  20. สู้ภาคแรกไม่ได้เลย สนุกตื่นเต้นลุ้นระทึกกว่า คือ แบบว่า ผมคิดว่าตัวอย่างหนัง insidious 3 ที่ฉายก่อนเปิดหนังยังระทึกกว่าอีก ฟังจากเสียงคนตกใจร้องในโรงและตัวผม

  21. หลังจากดู ~ Jurassic World จบ!! = 10/10 เลยสำหรับผมนะ ชอบมากๆ เติมเต็มโลกของสวนสนุกไดโนเสาร์จริงๆ แถมมีอะไรให้คิดถึงภาคเก่าๆ(👉🏻👉🏻เนื้อเรื่องต่อจากภาค1 จริงๆภาคนี้คือภาค2 นั้นแหละ👈🏻👈🏻)เพียบ …… ลุ้นระทึก ตื่นเต้นสุดๆตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงฉากไคลแมกซ์ของเรื่อง 🎉🎉Surprise 🎉🎉 ,แถมมีความน่ารักในความดุร้ายของแรปเตอร์ทั้ง 4 ด้วย(#Team blue😍) ~สมแล้วที่เป็นหนังเปิดตัวสูงสุดตลอดกาล, เป็นหนังที่น่าไปดูอีกรอบของปีนี้ต่อจาก Mad Max : Fury Road ………. #BozoReviews

  22. ผมพึ่งได้มีโอกาสจะไปดูเมื่อวานนี้เอง ส่วนตัวคิดว่าหนังก็พอดูสนุกอยู่ แต่ว่าจะให้ไปตีตั๋วดูซ้ำก็คงจะไม่ ให้คะแนนประมาณ 7.5/10 ครับ ด้วยเหตุผลต่างๆดังนี้
    – หนังพยายามให้ความเคารพ กับหนังภาคเก่าๆที่ผ่านมา โดยใส่รายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ เช่นประตูแบบเดิมที่เราเคยเห็น ชุดนางเอกที่ใส่ที่เป็นสีขาวเรียบทั้งหมด ตัวละครเก่าที่เคยเล่น ระยะเวลาของหนังที่อิงเวลาจริง หรือเพลงเดิมที่ใช้ตอนเปิดสวนที่ติดหูฟังแล้วนึกถึงบรรยากาศเก่าๆได้เป็นอย่างดี มันทำให้แฟนๆที่ชอบหนังชุดนี้ได้น้ำตาซึมกันบ้างละ
    – ไดโนเสาร์พันธุ์ใหม่นี้ก็สุดยอดเลย เหมือนอาวุธสังหารแท้ๆ แต่ว่า!! เฮ้ย!! กลับสู้ทีเร็กแก่ๆเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้วกับแรพเตอร์กระจ้อยร่อยไม่ได้ซะงั้น!
    – การวางบทที่ดูไม่เชื่อมต่อ ราบเรียบลื่นไหลซักเท่าไหร่
    – คริสแพท แสดงดีนะ แต่ว่า ทั้งทรงผม หุ่น นิสัย คาแรกเตอร์แกนี่ไม่ได้แตกต่างจาก กาเดี่ยนเลยซักกะนิด มันเลยทำให้ผมดูแล้วไม่ค่อยเชื่อซักเท่าไหร่ อย่างน้อยก็ลดกล้ามให้ฝีบลงอีกนิด ตัดสกินเฮดซะหน่อย น่าจะดีกว่านี้นะ
    -จริงๆก็มีอีกหลายๆอย่างที่รู้สึกขัดๆอยู่แต่ก็ไม่อยากจะบ่นมาก เพราะเอาเข้าจริงๆแล้วหนังก็ดูสนุกในระดับหนึ่งเลย การ์รันตีจากรายได้มหาศาล! แต่ที่ชอบที่สุดก็นางเอกนี่แหละใส่ส้นสูงแต่วิ่งฉิว ลืมตายเลย ทำได้ไง! เจ๋งอ่ะ 555+

  23. สนุก ตื่นเต้น นี่คือหนังภาคต่อที่ดีที่สุด ของแฟรนไชส์ jurassic ครับ ผมว่าหนังภาคต่อที่ดีไม่จำเป็นจะต้องเหนือกว่าภาคแรกที่มันอลังการขึ้นหิ้งก็ได้ เพราะเดี๋ยวมันจะหมดความขลังเอา ให้ jurassic world 9/10 ครับ ส่วน 10/10 ให้กับ jurassic park ภาคแรกที่กลายเป็นตำนานอีกหน้าหนึ่งของ hollywood คารวะท่าน สตีเว่น สปิลเบิร์ก ครับ

Leave a Reply to boyzkunCancel reply