โซนี่มีแผนเดินหน้าสร้างภาคต่อ The Girl With the Dragon Tattoo โดยไม่มีเดวิด ฟินเชอร์
เมื่อนิยายเล่ม 4 ในชุด Millennium ของสตี้ก ลาร์สสัน ผู้ล่วงลับ กำลังจะวางแผงในไม่ช้า แฟนๆ ของนิยายก็เริ่มหันกลับมาให้ความสนใจแก่ตัวละครสาวรอยสักมังกร ลิสเบธ ซาแลนเดอร์ ทำให้โซนี พิคเจอร์ส ก็ได้หันมาให้ความสนใจในการสร้างภาคต่อหนังจากนิยายชุดนี้เช่นกันครับ
อย่างไรก็ดี แผนการสร้างภาคต่อ The Girl With the Dragon Tattoo อาจไม่ใช่อย่างที่คุณคาดนักหรือชอบนัก ตามรายงานจากเดอะ ฮอลลีวู้ด รีพอร์เตอร์ บอกว่างานนี้คงไม่มีผู้กำกับเดวิด ฟินเชอร์ มารับหน้าที่กำกับ และคงใช้ทุนสร้างน้อยกว่า 90 ล้านเหรียญ ที่ฟินเชอร์ใช้
การที่ฟินเชอร์ไม่ได้กำกับอาจไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเท่าไหร่ ทั้งนี้เพราะทั้งโซนี่กับฟินเชอร์มีความสัมพันธ์กันไม่ค่อยดีจากภาคแรก ที่ฟินเชอร์ใช้งบประชาสัมพันธ์หนังในการทำสแตนดี้ที่เป็นโลหะรูปร่างคล้ายใบมีดโกน แต่ต้องเสียเปล่าเพราะโรงหนังห้ามเอาไปติดตั้งด้วยกลัวจะไม่ปลอดภัยแก่ลูกค้า
อีกแผนการสร้างหนึ่ง ที่อาจจะแตกต่างจากหนังซึ่งดัดแปลงจากนิยายเรื่องอื่นๆ ตรงที่มักเอาไปแบ่งเป็น 2 ภาค แต่ภาคต่อ The Girl With the Dragon Tattoo จะเอา The Girl Who Played with Fire และ The Girl Who Kicked the Hornet’s Nest มารวมเป็นภาค 2 เดียวกัน ซึ่งอาจไม่ใช่เรื่องยากเพราะทั้งสองเล่มมีเนื้อหาต่อเนื่องกัน ไม่ได้จบในเล่มแบบภาค Dragon Tattoo และเล่ม Who Played with Fire ก็ได้รับคำวิจารณ์ว่าเยิ่นเย้อ สามารถตัดทอนให้สั้นได้ หลังจากนั้นโซนี่ก็จะสร้างภาค 3 จาก The Girl in the Spider’s Web เล่ม 4 ของนิยายชุดนี้ที่เขียนโดยเดวิด ลาเกอร์แครนท์ซ ไม่ใช่นักเขียนดั้งเดิม
รายงานบอกอีกว่าเอมี่ พาสแคล ที่ไม่ได้เป็นผู้บริหารของโซนี่ พิคเจอร์ส แล้ว แต่ยังรับหน้าที่อำนวยการสร้างหนังชุดนี้อยู่ ไม่พอใจกับแผนการนี้ ซึ่งจะทำให้เธอต้องทิ้งบทหนังของสตีฟ เซลเลียน ที่ดัดแปลงจากเล่ม 2 ไปก่อนหน้านี้แล้ว และโซนี่ก็ใช้เงิน 7 หลักเป็นค่าจ้าง
ส่วนรูนี่ มารา, แดเนียล เครก และผู้อำนวยการสร้างสก็อต รูดิน ยังเกี่ยวข้องกับโครงการหนังอยู่ไหม ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องนี้ครับ
ถ้าฟินเชอร์ไม่ได้ทำ สิ่งแรกที่คาดเดาได้คือ รสนิยมของภาพและการนำเสนอจะเปลี่ยนไป (ไม่อยากตัดสินว่าจะแย่ลง)
จริงครับ ฟินเชอร์มีหัวทางด้านศิลป์ดีมากๆ
ภาคแรก มันดูดีได้ขนาดนั้นเพราะ ฟินเชอร์ น่ะสิ