Whiplash – ในความเห็นของคุณ

Whiplash reader reviewเราอาจไม่ต้องพูดถึงความเห็นจากนักวิจารณ์แล้วสำหรับ Whiplash เพราะเราเคยพูดไปแล้ว มองข้ามไปที่รางวัลออสการ์เลยดีกว่า ซึ่งตามคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญด้านรางวัลที่ goldenderby นำมาสรุป หนังมีโอกาสสูงที่สุดที่จะเข้าชิง (และอาจได้รางวัลไปเลย) ก็คือในสาขานักแสดงสมทบชาย จากบทบาทครูจอมโหดของเจ.เค. ซิมมอนส์ รองลงมาคงเป็นในสาขาเทคนิคด้านเสียง, สาขาตัดต่อ, สาขาบทดั้งเดิม ตามลำดับครับ ขณะที่ในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมก็ดูเหมือนจะยังพอมีโอกาสบ้าง แต่ไม่มาก ขณะที่ไมลส์ เทลเลอร์ กับ ผู้กำกับเดเมียน แชเซลล์ ที่แม้จะทำหน้าที่ได้ดีมาก แต่ก็คงยากที่จะแซงคู่แข่งอื่นๆ ที่แข็งกว่ามากในปีนี้

หนังเรื่องนี้เข้าฉายทั่วไปในบ้านเราตั้งแต่ 30 ตุลาคมครับ ความเห็นส่วนใหญ่ก็เป็นบวกมาตั้งแต่ตอนที่ฉายรอบพิเศษก่อนหน้านั้นราวเกือบสัปดาห์แล้ว และรอบน่าจะน้อยลงแล้วในตอนนี้เมื่อมีหนังใหญ่อย่าง Interstellar เข้า และอาจไม่เหลือรอบแล้วเมื่อ The Hunger Games: Mockingjay – Part 1 เข้าฉายครับ ผู้ชมที่ชอบหนังดนตรี และหนังเขย่าขวัญ อาจต้องรีบหาชมกันในช่วงนี้ก่อนลาโรงครับ

ชมหนังเรื่องนี้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้าง เชิญมาแบ่งปันกันเลย

 

5 comments

  1. สิ่งที่รู้สึกขัดใจอยู่บ้าง ในช่วงฉากสุดท้าย
    เข้าใจว่าบทหนัง ต้องมีเรื่องราวที่ช่วยส่งให้ หนังไปถึงจุด peak
    แต่เป็นไปได้เหรอครับ ที่เฟลทเซอร์ จะยอมเอาอนาคตตัวเอง อีกทั้งอนาคตของลูกวงอีกหลายชีวิต มาทิ้งไป
    เพื่อจุดหักมุมนั้น
    ทั้งที่เฟลทเซอร์ก็อยู่ในจุดยืนที่มีสภานะภาพที่ลำบาก
    ลูกวงทุกคนอายุก็มากแล้ว ซึ่งก็น่าจะหวังเวทีประกวดเวทีใหญ่นี้เป็นตัวชี้อนาคตทำมาหากิน
    ทั้งๆที่ เฟลทเซอร์ เป็นคนต้องการความสมบูรณ์แบบ ที่ไร้ที่ติ
    ไม่ต้องการให้ตัวเอง วงของตัวเอง มีจุดด่างพร้อยอย่างเด็ดขาด
    ซึงบทหนังช่วงต้นก็ปูทางให้ เพลทเซอร์ เป็นคนแบบนั้น

    ถึงจะรู้สึกสะใจกับฉากจบมาก แต่ดูขัดแย้งกันจริงๆ

    • เฟลทเซอร์คงไม่กลัวเรื่องแค่นั้น
      เค้ามันพวกบ้าความสมบูรณ์แบบจริงๆ
      อีกอย่าง มันเป็นบททดสอบตัวพระเอก
      ถ้าทำพลาด
      ยังมีเพลงอื่นๆ ที่เล่นกันต่ออีก
      พระเอกพลาด ใครๆ ก็ดูเป็นว่าเพราะกลองห่วย

  2. โคตรมัน โคตรชอบครับ
    ถึงจะเป็นเพลงแจ็ส แต่ทุกครั้งที่ตีกลองรู้สึกอย่างกับหนังแอคชั่น ดุเดือดถึงเลือดถึงเนื้อมาก
    โดยเฉพาะฉากปะทะตอนสุดท้าย ราวกับนีโอ 200 คนสู้กับสมิธ 3ล้านคน หนังจบตอนกำลังพีค ๆ ด้วยอารมณ์ล้นออกมาต่อข้างนอกโรงเต็มไปหมดเลย

    การแสดงก็เยี่ยมมาก ๆ ตัวพระเอกดูเป็นเด็กแหย ๆ ที่สิ้นหวัง เครียดดี
    ส่วนครูฝึกก็โหด เลว เท่ โอ้ย ชอบไปหมดครับ
    10/10 ไปเลย

Leave a Reply