เขาว่าคนที่ชอบรำลึกความหลังมักเป็นคนแก่ แต่ที่จริงแล้ว หากอดีตวันวานมีความหวานมากพอ เราไม่ต้องแก่นักก็ย้อนนึกถึงความหลังน่ารักๆ เหล่านั้นได้ แค่สัก 25 ปีให้หลังที่การใช้ชีวิตแตกต่างจากยุคนี้มากก็มีความหลังชวนให้นึกถึงเช่นกัน เหมือนกับที่ผู้กำกับยุทธเลิศ สิปปภาค เปรียบเทียบว่าการทำหนังผลงานเรื่องล่าสุด “ตุ๊กตารักแป้งมาก” ของเขา ก็คือการหวนนึกถึงอดีตดีๆ เหล่านั้น

“การทำหนังของผม เหมือนการเดินออกจากบ้านมาทำงาน ทำโน้น ทำนี่ สนุกไปเรื่อยๆ จนเมื่อเรารู้สึกว่าเราเดินมาไกลมากพอ และหันกลับไปมองที่จุดเริ่มต้น มันเหมือนเรากลับไปนับหนึ่งใหม่ อยากกลับไปหาอดีต ผมเชื่อว่าทุกคนเป็นเหมือนกัน เราห่างบ้านมานานแล้วคิดถึงบ้าน อารมณ์ของการทำหนังมันเกี่ยวข้องกับยุคสมัย มันเกี่ยวข้องกับโรงเรียนเก่า เพื่อนเก่าๆ คนรักเก่า มันเป็นความหลัง เป็นอาการโหยหาอดีต ที่ทุกคนก็น่าจะเป็น ขึ้นอยู่กับว่าจะเป็นเมื่อไหร่ แต่สำหรับผมมันเป็นเร็ว เหมือนอยู่ดีๆเราก็คิดถึงบรรยากาศเหล่านั้น” ยุทธเลิศกล่าวไว้ในเบื้องหลังของหนังที่ทางฝ่ายประชาสัมพันธ์ส่งมาให้เรา

หนังเป็นเรื่องราวของหนุ่มน้อยชื่อ”ตุ๊กแก” (จิรายุ ละอองมณี) ที่ถูกเลี้ยงเเละเติบโตที่เมืองโบราณริมฝั่งโขงอำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ชีวิตวัยเด็กคลุกคลีอยู่หลังโรงหนังช่วยครูป๋อง วาดคัทเอ้าท์ให้โรงหนัง “เพชรเชียงคาน” จนตุ๊กแกได้สิทธิพิเศษจากลุงคนเฝ้าโรงหนัง ให้ได้ดูหนังฟรีทุกเรื่องที่เข้ามาฉายในโรงหนังประจำอำเภอเเห่งนี้

เมื่อโตขึ้น ตุ๊กแกเข้าไปเรียนศิลปะที่กรุงเทพฯ จนจบชั้น ปวช แล้วก็ตัดสินใจออกมาช่วยเพื่อนรุ่นพี่ในกองถ่ายเพราะความที่อยู่กับหนังมาจนชอบหนังเป็นชีวิตจิตใจ เเละในเวลานั้นเองตุ๊กแกได้พบกับ “คุณแป้ง” (ชนม์ธิดา อัศวเหม) คุณหนูลูกสาวนายอำเภอที่เคยเรียนอยู่ชั้นเดียวกับตุ๊กแกในอดีตเมื่อสิบกว่าปีที่เเล้ว ตุ๊กแกไม่เคยลืมเด็กหญิงแป้งที่จากเชียงคานไปโดยที่เขาไม่มีโอกาสได้ร่ำลาคนนี้ไปจากความทรงจำเลย แต่การได้พบกับแป้งในครั้งนี้กลับไม่เหมือนดังเช่นในอดีต แป้งเปลี่ยนไปทั้งใจเเละกายจนตุ๊กแกเเทบจะจำเด็กหญิงที่แสนดีของเขาไม่ได้ แต่ด้วยความทรงจำอันดีในอดีต ตุ๊กแกตัดสินใจทิ้งทุกอย่างก่อนจะทุ่มสุดตัวเพื่อจะทำให้แป้งกลับมาเป็นแป้งคนเดิมที่เขาเคยรู้จัก แม้ว่าจะต้องเสี่ยงกับการที่เขาจะสูญเสียเธอไปตลอดชีวิตก็ตาม

ยุคที่ตุ๊กแกเติบโตคือยุคที่ยังไม่มีโทรศัพท์มือถือ ยุคที่ไม่มีอินเตอร์เนตที่ยุทธเลิศพบว่ามีเสน่ห์ที่จะนำมาเล่าต่อ และการเลือกเชียงคาน จังหวัดเลย เป็นสถานที่ถ่ายทำก็เพราะเมืองมีเสน่ห์ของอดีตที่ถูกรักษาไว้ ทั้งยังมีความผูกพันเป็นพิเศษกับตัวของเขาด้วย “วันนี้มันถึงจุดที่ผมคิดถึงบ้านเกิดแล้วอยากย้อนกลับไปถ่ายหนังที่นั่น ย้อนกลับไปที่ยุคปี 2528-2532 เป็นยุคที่วัยรุ่น ไม่ได้มีอินเตอร์เน็ต ไม่มีเฟสบุ๊ค ไม่มีโทรศัพท์มือถือใช้ แต่สามารถสื่อสารความรักให้เกิดขึ้นได้ มีอารมณ์ร่วมในสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ในแบบที่ ถ้าเราเอามาเล่าผมคิดว่ามันได้แชร์ยุคสมัยที่น่าจดจำ ซึ่งปัจจุบันนี้คนในยุคนั้นคงจะเป็นพ่อแม่คนไปหมดแล้ว วันนี้เรื่องราวต่างๆ ได้มีโอกาสถ่ายถอดให้คนรุ่นใหม่ได้เห็นและได้สัมผัสบรรยากาศเหล่านั้น “เชียงคาน” เป็นสถานที่ที่ผมได้ไปเที่ยวและรู้สึกว่าเป็นเมืองที่ไม่ค่อยเปลี่ยน ถึงแม้จะมีการพัฒนาการท่องเที่ยวเยอะมาก คือมันยังแช่แข็งบรรยากาศเดิมๆไว้ได้อยู่ คนที่ไปเที่ยวเชียงคานเหมือนคนที่คิดถึงอดีต มันเป็นเหมือนศูนย์รวมคนที่คิดถึงอดีต ผมเลยผูกเรื่องให้ ตุ๊กแกเป็นเด็กที่นั่น และมีความผูกพันกับโรงหนัง “เพชรเชียงคาน” เมื่อเติบโตขึ้นก็ได้ไปดำเนินชีวิตในกรุงเทพฯจนเกิดเรื่องราวต่างๆขึ้นมากมาย”

นอกจากนี้ ตุ๊กตารักแป้งมาก จะยังสะท้อนเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของวัยรุ่นยุคนั้นด้วย “สมัยนั้นแฟชั่นมันจะเป็นแฟชั่นจ๋ามาก เพราะว่าเขาจะทำตามกันทั้งเมือง ใช้ของแบบเดียวกัน ใส่ชุดแบบเดียวกัน ร้านเสื้อผ้าก็จะซื้อที่เดียวกัน ไปเที่ยวที่เดียวกัน เรียกว่ายุคบูติก ที่เที่ยวต้องเป็นพาเรซ คนไหนเที่ยวทุกวันก็จะเจอกันตลอด ต่างจากสมัยนี้ที่จะมีความเป็นตัวตนกันเยอะขึ้น ที่เที่ยวก็จะหลากหลายทั้ง อาร์ ซี เอ ทองหล่อ หลังสวน และอีกหลายๆ ที่ คือมันกระจายไปหมด ผมเลยรู้สึกว่ามันน่าบันทึกไว้ เพราะแฟชั่นคือการทำอะไรตามกัน ทั้งการแต่งตัว ร้องเพลง สถานที่เที่ยว รถซิ่งโหลดเตี้ย แม้กระทั่งหนังก็ต้องทำหนังเอาใจวัยรุ่นยุคนั้น สิ่งเหล่านี้ต้องถ่ายทอดเป็นภาพอย่างเดียว ใครที่เกิดทันยุคนั้นถึงจะนึกออก บางอย่างมันเก่าจนไม่มีภาพบันทึกไว้ ภาพนิ่งก็หายากมาก เลยอยากจะเก็บความทรงจำนั้นไว้เป็นภาพให้คนอื่นได้เห็น”

แล้วทำไมตัวเอกต้องชื่อตุ๊กแก “ผมมองว่าตุ๊กแกเป็นสัตว์ที่น่าเกลียด คนส่วนใหญ่ต้องเกลียดตุ๊กแก แต่ผมเชื่อว่าคนที่ได้ดูหนังเรื่อง”ตุ๊กแกรักแป้งมาก” จะลืมความน่าเกลียดของตุ๊กแกไปชั่วขณะ แต่จะกลับมานึกถึงความน่ารักของตุ๊กแกที่เป็นคนแทน”

“ตุ๊กแกรักแป้งมาก” จะเข้าฉาย 28 สิงหาคมนี้ครับ หนังมีด.ช. ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์ ร่วมรับบทเป็นตุ๊กแกวัยเด็ก และด.ญ. ชนิกานต์ ตังกบดี เป็นแป้งวัยเด็ก