Transformers: Age of Extinction – ในความเห็นของคุณ

TFM4 image 06Transformers: Age of Extinction เข้าฉายในบ้านเราแล้วตั้งแต่เมื่อค่ำวันพุธที่ผ่านมาครับ และกระแสก็ออกเป็นสองฝั่งค่อนข้างชัดเจน คือไม่ดีก็แย่เลย แต่สำหรับความเห็นเบื้องต้นจากนักวิจารณ์ในสหรัฐส่วนใหญ่ออกไปในทางแย่

คะแนนจากการประเมินของ Metacritic บอกว่าหนังได้ 30/100 ซึ่งต่ำที่สุดกว่าทุกภาค เมื่อเรียงจากภาคแรกได้ 61/100 ภาคสองได้ 35/100 และภาคสามได้ 42/100 ส่วนคะแนนจากการประเมินของ Rotten Tomatoes ก็ไปในทางเดียวกัน หนังมีนักวิจารณ์ชอบตอนนี้ 18% โดยได้คะเนนเฉลี่ยที่ 3.8/10 เปรียบเทียบกับภาคแรกที่ชอบ 58% คะแนนเฉลี่ย 5.8/10 ภาคสอง 19% – 3.9/10 และภาคสาม 36% – 4.9/10

แต่ไม่ว่าคะแนนจากนักวิจารณ์จะออกมายังไง หนังเรื่องนี้ก็ยังเป็นหนังที่ผู้คนตั้งตารอคอยไปชมกัน หนังทำเงินในบ้านเราไปแล้ว 40 ล้านบาท จากการฉายรอบพิเศษวันพุธรวมกับเมื่อวานนี้ ซึ่งเฉพาะรอบค่ำวันพุธก็ได้ถึง 15 ล้านบาทแล้ว มากกว่ารายได้เปิดตัวหนังรอบปกติในบ้านเราของหลายเรื่องด้วยซ้ำ

ขณะที่ในสหรัฐก็มียอดจองตั๋วล่วงหน้าสุดสัปดาห์นี้ที่ Fandago เกิน 96% ไปแล้ว มีโอกาสสูงที่จะทำเงินเกิน 100 ล้านเหรียญในสหรัฐสุดสัปดาห์นี้ครับ ในรายงานบอกด้วยว่า 92% ที่จองตั๋วเคยดูภาคหนึ่งภาคใดมาก่อน, 83% เป็นแฟนของผู้กำกับไมเคิล เบย์, 76% บอกว่าการที่ได้มาร์ค วอห์ลเบิร์ก มารับบทนำทำให้เลือกดูหนัง และ 75% บอกว่าไดโนบ็อททำให้อยากมาดูหนังมากขึ้น

แล้วเพื่อนผู้อ่านเว็บไซต์ของเราล่ะครับ ชอบหนัง หรือไม่ชอบยังไงบ้าง ถูกใจแค่ไหน เทียบกับสามภาคแรกแล้วชอบอะไรมากกว่า แล้วอะไรที่ทำให้อยากไปดูหนังเรื่องนี้เป็นพิเศษครับ

52 comments

  1. ชม Transformers 4 ของอีตา ผกก. ไมเคิล เบย์ ผู้ที่กลืนน้ำลายตัวเองกลับมาทำอีกครั้ง…! ผลสรุปเลยก็คือหนังเรื่องนี้ออกมาได้….!? ดีกว่าทุกภาคที่ชมมาเลยน่ะ..!! มันคือหนังที่เหมือนกับเป็นการกลับมาชดใช้ความผิดในไตรภาคแรกที่แกได้สร้างไว้ได้…!? มุขแรกที่แกยิงก็เล่นเอาผมไปขำแลัว “หนังเดี้ยวนี้โครตห่วยแตกมีแต่หนังภาคต่อหนังรีเมทบ้าบอ…” หนังสนุกได้เรื่อยๆมีหลายช่วงบทตัวละครใช้ได้ ไม่เละเทะเหมือน 3 ภาคแรก เวลาหนังยาวมั่กๆเกือบ 3 ชม. เลย…!

    แต่ก็ยังมีข้อเสีย เพราะตัวหนังยังคงใช้มุขเดิมๆ ก็แน่ล่ะอย่าไปหวังกับเรื่องบทที่สมจริงจากหนังแนวนี้…ที่อีตานี่กำกับเลยน่ะจ้ะ. ข้อเสียจริงๆอีกเรื่องเป็นหนังที่ดูรอบเดียวไม่ได้ต้องดูรอบสอง (เสียตังล่ะ อิอิ) เพราะลายละเอียตของหุ่นในเรื่อง T4 มันเยอะเอามากๆ…!!! ผมให้ 8/10 เลยล่ะกัน…

    ที้งท้ายไว้ว่า “นายเยี่ยมมากตาเบย์” 555+

  2. เนื้อเรื่องเปิดมายืดซะจนน่าเบื่อ ต้องรอเข้ากลางๆเรื่อง เรื่องการแปลทับศัพท์นี่ไม่ว่าหรอกคำว่า”เซนเซ” “ไฮกุ” ก็ด้วยแต่คนที่ไม่ได้เรียนญี่ปุ่นคงไม่รู้ความหมาย และรายละเอียด ส่วนดาบที่หุ่นสีฟ้าใช้ แทนที่จะใช้ดาบญี่ปุ่นคะตะนะแบบเซฟิรอธ แต่ดันไปใช้ดาบใหญ่คลาวด์จากไฟนอลซะนี่

  3. ส่วนตัวให้ 4/10 ผมดูมาตั้งแต่ภาคแรก ภาคนี้ก็ไปดูแบบไม่คาดหวังอะไรเพราะรู้อยู่ว่าหนังของเบย์ไม่ต้องไปคาดหวังเรื่องบทหรือความลึกของตัวละครอะไรอยู่แล้ว กะว่าไปเอามันส์อย่างเดียวว่างั้นเหอะ แต่พอดูจบ…มันกลับไม่มันส์ ไม่สนุก แถมตั้งแต่กลางเรื่องไปจนจบผมเบื่อฉากแอคชั่นและระเบิดในหนังมากกกกกก มันเยอะและยาวนานเกินไปจนเลยความมันส์ไปแล้ว ฉากแอคชั่นก็ไม่มีความแปลกใหม่และแห้งแล้งอารมณ์ร่วมมากๆคือไม่รู้สึกลุ้นหรืออะไรตามเลย จนผมอยากให้มันตีกันไปให้จบๆเร็วๆ ส่วนตัวภาคที่ดีที่สุดของหนังเรื่องนี้คือภาคแรกครับ แต่บางท่านอาจจะชอบก็ได้ ต้องไปชมด้วยตัวเองครับ^^

    • คิดเหมือนผมเลย หนังไม่มีอะไรใหม่ หมดความสด ความรู้สึกร่วมกับตัวละครหายไปเยอะ ปล.ลองสังเกตดีๆ ตัวประกอบมนุษย์ที่เข้าฉาก จะมีจังหวะขาดเกินของการแสดงตลอด ดูไปเรื่อยๆ นึกว่าท่านเบย์เอาฉบับยังไม่สมบูรณ์มาฉายบ้านเราก่อน. แต่ความมันส์ยังถล่มทลายเหมือนเดิม

  4. คือ ถ้ายกเรื่องบท ที่ไม่แน่น ง่ายเกินไปหลายช่วง หรือบทสนทนาที่ดูแบบไตรภาคเดิมอีกแล้ว (แม้ไม่น่าำรำคาญเท่า) ไว้บนหิ้ง … ไปดูเอามันส์อย่างเดียว

    มันก็ยังแบ่งเป็นอีก 2 ฟากอยู่ดี ..
    มันจะมีฟากที่ มันส์ shift miss วายป่วง อลังการระเบิดคว่ำรถมหาศาล บันเทิงไปกับภาพแอ็คชั่น nonstop เป็นช่วงๆตรงหน้า กับ ฟากที่ไม่อินไปกับภาพตรงหน้า เพราะมัน “เหมือนๆกันหมด” อารมณ์พีคมันไม่มี เพราะมันแพลนๆเท่าๆกันไปตั้งแต่แรกยันแอ็คชั่นสุดท้าย ประมาณ บิ้วไม่ขึ้นไม่แตะอารมณ์เอาเลย

    ซึ่งก็ว่าไม่ได้ เพราะมันแล้วแต่ฟีลคนจริงๆ

    ผมโชคดีที่ฟีลตรงกับฟากแรกมากกว่า แม้จะมีตะหงิดๆตรงบทบ้างไรบ้าง แอ็คชั่นแพลนๆบ้างในช่วงท้ายๆ แต่ก็พยายามทำสมองโล่งๆ ดูเรื่อยๆ ก็ยอมรับว่า หนัง tf ภาคนี้ ก็มันส์สุดติ่งดี ดูทุ่มเต็มแม็กซ์ เพื่อแฟนๆ tf ที่อั้นฉากแอ็คชั่นหุ่นตีกันจาก ไตรภาคแรกมาเต็มที่ …

    ที่อึ้งคือ เบย์ ทำฉากแอ็คชั่นภาคนี้ ขนาดนี้ แต่ไหงทุนสร้างดันน้อยกว่า ภาค 3 อีกหว่า.. 160m ไม่ถึงหรือเกิน 200m ได้เยี่ยงไร เพราะภาพที่เห็น ระเบิดที่จัดมา รถที่คว่ำไป cg ที่เนรมิตขึ้น .. ยังไงๆมันก็มากกว่า ภาค 3 อย่างน้อยก็ 2 เท่าอ่ะ ….

    ผมชอบ มาร์ก วอลเบิร์ก เล่นมากครับ ผมว่าภาคนี้ที่เหมือนยกเครื่องนักแสดงใหม่ แล้วได้ฟีลใหม่จริงๆ ก็พี่มาร์กนี่แหละ ดูเข้ากันกับโลก tf ให้การแสดงที่พอดีๆ ไม่เกินเบอร์ ไม่น่ารำคาญ ไม่โดนหุ่นกลบ .. ถ้า ไชอา ลาเบิฟ เคยเ่ล่นได้เข้าขากับ บัมเบิ้ลบี ในภาคแรก ยังไง ภาคนี้ พี่มาร์กก็เล่นได้เข้ากับออฟติมัสไพรม์แบบนั้นเลย เป็นฟีลที่ดูโตขึ้น

    ตราบใดที่ เบย์ ยังคงไว้ซึ่งการกำกับแบบนี้ ไม่ใส่ตัวละคร-บทพูด-ตลกฝืด น่ารำคาญๆเกินลิมิตเข้ามาแบบภาค 2-3 ผมก็ยังคงติดตามหนังหุ่นชุดนี้ต่อไป แม้คำวิจารณ์จะต่ำเตี้ยยังไงก็ตาม เพราะมันตอบโจทย์ความบันเทิงของผมได้ ….

  5. สาวกพี่เบย์ครับ เชียร์เต็มที่ หนังพี่ผมเน้นบันเทิงเป็นพอครับ
    และพี่ตอบโจทย์นี้ของผมในหนังทุกๆเรื่องของพี่ครับ
    กำกับภาค 5 ไปเลยพี่ หาสาวๆแจ่มๆมาอีกครับ สายตาพี่คมสุดๆอยู่แล้ว

  6. สำหรับผมๆว่าโอเคครับ
    คือโดยส่วนตัวไม่ชอบการตัดต่อเร็ว(เกินไป)ของเบย์ บางช่วงมีมุขฝืดที่ไม่เข้ากับเนื้อเรื่อง เหมือนตัดอารมณ์เกินไป ยิ่งสำหรับภาคนี้ฉากแอคชั่นก็ซ้ำๆเดิมๆ ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมาก
    แต่ด้วยความที่เป็นแฟนทรานสฟอร์เมอร์+ไดโนบอทส์ ก็ถือว่าโอเค
    7/10 ครับ

  7. 01.หนังยาวมาก 165 นาที สงสัยอยากให้เป้นหนังมหากาฬไตรภาคแต่ถ้าดุแล้วก็เหมือนจะอลังการ แต่ก็ไม่นะ! มันน่าเบื่อเพราะผู้กำกับยัดเยียดอะไรที่ไม่จำเป็นมาบ้างก็ไม่รู้ หลายฉากมีโดยไม่จำเป็น ไม่มีการเกี่ยวโยงอะไรกันทั้งนั้น แค่เล่าแล้วทิ้ง
    02.ฉากมันส์ โอเค ก็ดูได้แต่ไม่ได้หวือหวามากมาย เพราะก็มุขเก่า ๆ ของป๋าไมเคิล เบย์นั้นล่ะครับ ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง ดูปุ๊บรู้ปั๊บ
    03. ในระบบ สามมิติ ฉากเปิดตัวหวือหวานะ แต่หลังจากนั้นก็ หนังสามมิติทั่ว ๆ ไปและปวดตามาก ๆ ในช่วงหลัง
    04. เตรียมตัว เตรียมเวลาไปให้เยอะ เพราะ หนังยาวมากยิ่งรวมโฆษณาจาก SF ไปด้วยหนังเรื่องนี้คือ 4 ชั่วโมงอัพ
    05. ติ่งเกาหลีที่จะไปชมผลงานของ ฮันเกิง อดีตสมาชิกบอยแบนด์ Super junior อย่าฝันที่จะได้เห็นอย่างเต็มที่เพราะที่ออกมาแทบจะนับวินาทีได้
    06. การออกแบบหุ่นยนต์ไม่ได้ดู ติดตา เทห์ หรือจดจำ อะไรเลย (หรืออาจะเพราะตัวบทเองทำออกมาเช่นนั้นด้วย) ผมมองว่าผมยังจดจำตัวละครจาก เวอร์ชั่นเก่า ๆ ได้ดีกว่าและมองว่า ตัวละครจากชุดเดิมดูมีชีวิตกว่าชุดนี้

    สรุป: ถ้าไปดูเพราะให้กระหายอยาก ไปดูเพราะชอบหุ่นยนต์ ก็แนะนำให้ไปดู
    ส่วนกลุ่มดูหนังอย่างซีเรียส อาจจะไม่ชอบมากหนักกับสิ่งที่ต้องอดทนนั่งดู

    • บทฮันเกิง ออกน้อยกว่าไอ้หนุ่มตี๋ที่อยู่ในลิฟท์อีกครับ
      ส่วนตัวละครของหลี่ปิงปิงก็นะ มีไว้ทำไมก็ไม่รู้

  8. หนังดูเอามันส์ บทหนังทำให้ดูมีอะไรมากขึ้นนิดหน่อย แต่ตัวละครค่อนข้างเป็นตัวประกอบจับต้องไม่ค่อยได้(มีแค่ไม่กี่ตัวที่เราเข้าถึง)

    พฤติกรรมตัวละครหลายตัวค่อนข้างทำให้เรารำคาญและหัวเสียกับความไม่สมเหตุสมผล

    แต่ก็ถือว่าเป็นหนังที่ดูเอามันส์ได้เรื่องนึง(แต่ไม่มีอารมณ์อยากไปดูซ้ำเลยซักนิด) ฉากที่ทำให้ลุ้นได้ก็มีอยู่หลายฉากโดยเฉพาะช่วงบู๊ตอนท้าย และไดโนบอทเทร์มาก >_<

  9. ผมดูแล้วเกือบหลับ ความรู้สึกค่อนไปทางเสียดายเงินมากกว่าครับ
    ขนาดผมไม่ได้คาดหวังอะไรแล้วแท้ๆ
    แต่เจอบทที่ไม่มีแก่นสารอะไร
    บวกกับการเติบโตของตัวละครที่ปุบปับแบบแปลงๆ
    ทำเอาผมเผลอหาวออกมาเลย
    แถมการตัดต่อของภาคนี้ก็กระโดดไปกระโดดมาจนงง
    ฉากบู๊ก็ออกไปทางเฉยๆเสียมากกว่า
    ถึงช่วยท้ายๆจะทำออกมาค่อนข้างดี
    แต่มันก็เดิมและบางที่ก็ออกไปทางน่ารำคาญเสียด้วยซ้ำ
    สรุปผมให้แค่ 3/10

  10. ดูเอามันส์ครับ…..บทและเนื้อเรื่องอาจจะดูแกว่งๆ แบบว่า ไม่ค่อยมีอะไรลึกซึ้ง
    หรือผูกพันธ์ประทับใจอะไรเท่าไหร่
    ยิ่งกับลูกสาวหรือแฟนลูกสาว ยิ่ง ไม่จำเป็นเลยก็ได้มั๊ยย เหมือนไอ้แดงในพี่มากพระโขนง
    แต่ อย่างที่หลายๆคนกล่าวครับ มันไม่มีอะไรสดใหม่ หรือ การจูงใจลดลง
    แต่ก็ …. ดูได้ครับ….
    เพราะอย่างที่บอกแต่แรกว่า ดูเอามันส์…
    ปล. ผู้หญิงในไตรภาคนี้ ผมว่าขาดสเน่ห์แบบที่เมแกน มีครับ ส่วนแฟนหนุ่ม ก็ บลา บลา บลา…
    ปล.2 พี่มาร์ค….ไม่หล่อมากแต่เร้าใจ ค่อดๆๆๆๆๆ

  11. คำเตือน หนังเรื่องนี้ ไม่เหมาะสำหรับผู้สูงวัยและผู้มีเหตุผล เพราะไม่มีแม้แแต่ common sense ใดๆ รู้ว่าท่านเบย์มีงบเยอะ จึงล้างผลาญเต็มที่ และรู้ว่าอยากให้เด็กๆสนุก แต่ดันลืมคนต้องการเหตุผล แม้ซักเสี้ยวหนึ่งก็ยังดี นี่มันหนังนะไม่ใช่เกมส์ ต้องมีชีวิตจิตใจกันบ้าง แม้แต่คนแสดงเหมือนกับต่างคนต่างเล่น รบกันโครมครามคนก็เหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น และต่อให้ใช้กระสุนพลาสติกต้องมีคนบาดเจ็บและล้มตายมากกว่านี้หลายร้อยเท่า ผมว่าถ้าอาหลองมีงบเท่าเบย์น่าจะทำหนังได้ดีกว่า ผิดหวังและเสียดายเงินสุดๆ กว่าทุกภาค

  12. แยกเป็นข้อๆแล้วกัน
    ข้อดี
    1.แอ็คชั่นเท่โคตรๆ ช่วงแรกเฉยๆแต่พอไคลแมกซืช่วงท้าย จัดเต็ม สุดยอดมาก////ยอมรับ ถึงเบย์จะทำหนังแล้วบทห่วยแก เนื้อหาไร้สติ แต่เรื่องฉากแอ็คชั่น เฮียแกเทพจริง
    2.โลเคชั่น ตอนแรกหงุดหงิดเหมือนกัน ที่ไปถ่ายที่จีน แต่พอดูจริงประทับใจ มันได้ฟีลที่แตกต่าง แปลกใหม่จากภาคก่อนๆดี
    3.นางเอก คือ ถึงเธอจะเพี้ยนบ้าง แต่ผมว่าเธอดูเป็นผู้เป็นคนกว่าเมแกน ฟอกซื เยอะ
    4.ไดโนบอทย์ บทตัวประกอบแต่ โคตรเท่
    5.หุ่นตัวร้าย ชอบฉากแปลงร่าง ที่เปลี่ยนจากรถเป็นชิ้นส่วนเล็กๆแล้วมารวมเป้นหุ่น ล้ำโคตร
    6.เพลง แอบหลอน แต่เท่และมันส์สุดๆ
    ข้อเสีย
    1.บทบรรลัยมาก////แต่ทดแทนด้วยแอ็คชั่นคุณภาพ
    2.โทนหนังมันเครียดๆแอบโหด ฉากต่อสู้ดูเป็นพวก จอมยุทธ์มากกว่า ทรานฟอเมอร์ แต่ดูไปก็คงชิน และฉากต่อสู้ก็ยังมันส์เหมือนเดิม
    สรุก ถ้าคุณตัดสินโดยใช้มุมมองหนังวิจารณ์ นี่คือหนังที่บรรลัย กาก ห่วยแตกที่สุด แต่ถ้าคุณตัดสินแบบคนดู นี่คืหนังที่ดีโคตรๆเรื่องนึง

    เชียร์ให้ได้พันล้านครับ

  13. ชอบมากๆคับ อาจเป็นคนชอบหนังแอคชั่น หุ่นสีดูสดขี้น มีความคล้ายมนุษย์มากกว่าทุกภาค อยากเห็นหุ่นยนต์มากกว่านี้ เน้นคนน้อยลง เอาเฉพาะคนที่จำเป็น รอดูภาค5 ว่าตอนจบ ออพติมัส จะไปลุย กับ ยูนิคอร์น ยังไง…ยูนิคอร์น จะกลับมาที่โลกไหม…จำนวนหุ่นที่มีอยุ่บนโลก จะต่อกรกับ ปริมาณกองทัพที่ยกพล ออกมาตอนช่วงต้นๆได้อย่างไร….จะมีหักมุมเฉพาะกิจ ที่ ออพติมัส กับ กัลวาตรอน จะรวมมือกันลุย กัลวาตรอน รึป่าว…..รอภาค 5 คับ ปี 2016

  14. เห็นตัวละครมนุษย์แล้วเหมือนดู armageddon เป๊ะๆ ในเวอร์ชั่นมีที่หุ่นยนต์

    ยอมรับว่าแรกๆหนังดูมีพัฒนาการขึ้นนะ autobots สู้กับ วิวัฒนาการของมนุษย์ที่สร้างขึ้น(ก๊อปขึ้น)มาเพื่อปกป้องโลกได้ด้วยตัวเอง พล๊อตดูน่าสนใจ

    แต่หลังๆนี่เละและซ้ำซากมาก อยากให้ไปดูงานฝ่ายศิลป์ฉากแอ๊คชั่นของหลายๆเรื่องบ้าง อย่าง Marvel DC ไรนี้บ้าง มันไม่ใช่แอ๊คชั่นโพลนๆ ถ่าย landscape เมือง แล้วใส่ cg หุ่นวิ่งไปมา ยิงๆ ระเบิดๆ –” หุ่นยนต์ก็ไม่ใช่แค่ออกแบบให้มาเป็นแค่มนุษย์ในร่างเหล็ก เตะๆ ต่อยๆ ถือปืนยิง ดาบฟัน -“- (กลุ้ม) ใส่ฟังชั่นเด็ดๆออกมาบ้าง (Iron Man ตัวเล็กๆแต่ชุดเกราะยังทำไรได้เยอะกว่า ไปเปิดการ์ตูนหุ่นญี่ปุ่นดูๆบ้างนะ) ส่วนเหาะได้ก็ดันวิ่งทั้งเรื่อง –” เพลียๆๆๆ เป็น 2.45 ชม. ที่ไร้ความครีเอทอย่างสาหัส

  15. อาจมีสปอยเน้อเจ้า…
    1. ผมว่ามันเหมือนกับไตรภาคเดอะฮอบบิทของปีเตอร์ แจ๊คสันอะ.. ที่ภาคแรกเป็นหนังเดอะฮอบบิทจริงๆ
    ส่วนภาค 2 ก็พอคุยกันได้ และทรานฟอร์เมอร์ภาคนี้ก็เป็นทรานฟอร์เมอร์จริงๆ ครับ.. ส่วนภาคสองไว้คุยกันได้
    2. บทยังมีหลายอย่างที่ไม่เคลียร์ครับ.. เช่น เรื่องจุดกำเนิดของทรานฟอร์เมอร์ และเรื่องของตัวละครที่เพิ่มมามากมาย มีวงล้อจากหนัง battleship มาด้วยนะ.. และเอเลี่ยนหรือตัวอะไรก็ไม่รู้ที่โผล่มาได้ไง คงต้องรอภาคหน้าครับ
    3. ว่าด้วยเรื่องของไมเคิลเบย์.. มุมกล้องเรื่องนี้แกโหดสุดๆ อะ เช่น ฉากขับรถไล่ล่าตอนแรกๆ
    4. ถึงแม้อยากให้ไมเคิล เบย์มากำกับให้ครบไตรภาคเหมือนที่ปีเตอร์แจ็คสันเคยทำไว้ใน the hobbit เพื่อให้หนังจบสวยหน่อย.. แต่ผมก็ยังหวังอยากให้ผู้กำกับอย่างคริสโตเฟอร์ โนแลนหรือดาร์เรน อโรนอฟกี้ มาสานต่อครับ.. พูดถึงโนแลนแกไม่มาแน่ล่ะ แต่ถ้าดาร์เรนนั้นน่าจะเหมาะสมอยู่ครับ.. เพราะแกน่าจะมาช่วยในเรื่องของเอฟเฟ็คหุ่นยนต์ให้ดูสมจริงขึ้นไปอีก.. ถ้าแกมาทำแล้วล่ะก็ เราอาจจะได้เห็นเอฟเฟ็คหุ่นยนต์ที่สวยมากๆ ครับ.. และแกน่าจะช่วยในเรื่องของบทและจังหวะในหนังให้ดูเหมาะสมขึ้น.. อาจจะถูกใจแฟนๆ ขึ้นมาบ้าง.. ใครจะไปรู้ล่ะครับ
    สุดท้าย.. ใครคิดว่าฉากบินออกนอกโลกของออพติมัส ในตอนสุดท้าย เหมือนซุปเปอร์แมนบ้างครับ.. หรือผมคิดคนเดียวเนี่ย 555+

  16. ไม่อยากจะเชื่อว่าหนังสไตล์ไมเคิล เบย์ ทำหนังแอ็คชั่นเกือบหลับแบบนี้ ผมคาดหวังไว้ประมาณนึงว่าจะดีกว่า ภาค 2-3 แต่กลายเป็นว่า แย่กว่าอีก มีแค่ตัวไดโนบ๊อทเท่านั้นที่รู้สึกใจชื้นมาบ้าง แต่นอกนั้น ทั้งมุกเก่าๆ ทั้งเรียบเรียง ทั้งเล่าเรื่อง มันน่าเบื่อ

    แล้วอีกอย่างที่ผมรู้สึกคือ ความเชื่อมโยงระหว่างหุ่น กับ มนุษย์ ไม่ลึกซึ้งเท่า ไตรภาค ทำให้รู้สึกว่า มาร์ค วอลเบิร์คมีแค่นี้เหรอ ???

  17. ไปดูแบบไม่คาดหวังอะไรอยู่แล้ว ถ้าถามว่าสนุกไหมก็สนุกนะ แต่อัดฉากแอ็คชั่นมาให้จนน่าเบื่อมากๆๆๆๆๆ ยิ่งหลังๆคือหุ่นออกมาตายกันเหมือนหนังสงครามที่คนยิงกันตายง่ายเหลือเกินยิ่งทำให้เบื่อจนไม่อยากดู ผมจนบอกกับเพื่อนว่าถ้าดูเอามันส์คุ้มค่าแน่นอน ส่วนเรื่องคุ้มค่าตั๋วไหมหนังทุนสร้างขนาดนี้ค่าตั๋ว200คิดว่าคุ้มไหมล่ะคับ

  18. บทห่วย ตัวละครน่ารำคาญ
    ไม่ต้องมีเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น
    ยิ่งดูยิ่งเหนื่อย เมาหุ่นด้วย เกือบอาเจียน
    ใส่ฉากแอคชั่นระเบิดตึกก็พอแล้ว

    ชอบภาคนี้น้อยที่สุด

    เหมือนจะทำให้ดูใหม่ แต่ไม่มีอะไรแปลกใหม่เลย

    ปล. หนังพี่เบย์ก็แบบนี้แหละ…

  19. ผมดูแล้วก็ดีอยู่น้าาาา รู้สึกประหลาดใจที่มีหลายคนติเยอะมากขนาดนี้
    ภาคนี้ดีกว่าทุกภาค จริงๆ
    บางอย่างในภาคนี้ถูกเพิ่มขึ้น เช่นบทภาคนี้ผมว่าลึกกว่าทุกภาค ซับซ้อนกว่าเยอะ แต่ยังดูเข้าใจง่าย ฉากวินาศสันตะโลถล่มเมืองก็ยาวนานถ้าเปรียบเป็นอาหารก็กินอิ่มกันจนถึงคอหอย(นี่ชมนะ)
    ดูแล้วไม่เสียดายตังค์

    • ใช่ครับ ผมว่าหนังก็ไม่ได้แย่อะไรนะครับ ดูสนุกเพลินๆ อาจเป็นเพราะเขาตั้งความหวังไว้สูงกันรึป่าว พอหนังออกมาซ้ำแนวทางเดิมๆ ก็เลยไม่สบอารมณ์ ผมว่าคนดูน่าจะชินกับอีตาเบย์ได้แล้วนะ เพราะหลังๆงานเขาดูออกทะเล เน้นวินาศสันตะโร จะให้โอเคแบบ THE ROCK กับ BADBOY 1 คงไม่มีวันได้เห็นแล้วล่ะ

    • ไอ้ที่ว่าองค์ประกอบโดยรวมดีขึ้น อาจจะจริง แต่ยังไง ๆ หนังเรื่องนี้มันก็จัดอยู่ในเกณฑ์แย่อยู่ดีแหละครับ พอซีรี่ย์หมดมุกเรื่องนำเสนอหุ่นยนต์แบบใหม่ ๆ นี่ก็ไม่มีอะไรให้น่าติดตามเลย เพราะหนังเรื่องนี้มันขายได้แค่ประเด็นนี้ประเด็นเดียวแหละครับ ภาคนี้เลยปล่อยมุกหุ่นไดโนเสาร์มาอีกรอบ กะว่าจะเพิ่มความสดให้หนังได้บ้าง แต่พอองค์ประกอบโดยรวมมันแย่ หุ่นไดโนเสาร์แค่ 3 – 4 ตัวมันก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก แต่สำหรับเด็ก ๆ คงชอบหุ่นไดโนเสาร์ล่ะมั้ง

      ไอ้ฉากระเบิดตูมตามต้องท้าย ๆ นี่มันมีดีกว่าที่ผ่านมาก็ตรงที่ฉากระเบิดมันยาวกว่าเยอะล่ะมั้งครับ ปกติระเบิดกันแค่ 20 – 30 นาทีท้าย ๆ ภาคนี้ล่อเข้าไปเกือบ ๆ 45 นาที

  20. หนังสนุกตามสูตรสำเร็จหนังซัมเมอร์ฟอร์มยักษ์ แต่ไม่มีอะไรใหม่ เหล่าทรานส์ฟอร์เมอร์ก็ไม่น่าดึงดูด

  21. เส้นเรื่องซ้ำ ทำเหมือนเดิม

    1. โม้ๆ แล้วก็ซื้อรถเก่าๆแบบ ภาค 1
    2. ฉากมนุษย์รุมยิงปืนใส่ หุ่นยนตร์ ตอนต้นเรื่อง แบบภาค 3
    3. รวมพลประชุมเพลิงแบบ ภาค 1
    4. ฉากยิงๆตรงกลาง 4 แยก กระโดดเหมือนกบ แบบภาค 1 หรือ 2 เนี่ยแหล่ะ
    5. ฉากสโลว ขับรถชนรถอีกคัน แล้ว สโลวภาพ เอื้อมมือรับ พระเอก แบบภาค 3 มั้ง
    6. ฝ่ายลูกน้อง กาวาธอน เอฟเฟ็กดี อลังการณืงานสร้าง แต่ฝีมือขี้กาก เหมือนลูกน้องตัวร้ายทุกภาค
    7. หอบๆหิ้วๆ ของสำคัญประจำเรื่อง วิ่งขึ้นที่สูง ให้ฮอ หรือเครื่องบินมารับ
    8. สุดท้าย ยืนเก็ก เรียง 1 แบบทุกภาคที่ทำมา

    ที่นึกได้

  22. ถ้าผมจำไม่ผิด พี่เจได เคยโพสคลิปที่มี บับเบิ้ลบี เต้นอะครับ
    และอีกหลายๆฉาก เหมือนในหนังถูกตัดไปหลายตอนป่ะครับ
    ปล.ดูละฟินมาก แต่อึ้งเลย ตอนมันบิน ” นึกว่าดูหนังผิดเรื่อง ” 555

  23. รบกวนพื้นที่ในกระทู้นี้หน่อยนะขอรับ ไม่เกี่ยวกะหนังโดยตรง แต่ก็เป็นเรื่อง Transformers

    คือตอนนี้ มีกระทู้แนะนำเกี่ยวกับ หนัง Transformers ที่กำลังฉายอยู่ตอนนี้ในPantip ตามนี้

    http://pantip.com/topic/32257278

    แล้วเนื้อหาในกระทู้นี้ มีการอ้างอิงว่า ทางบริษัท Hasbro (เจ้าของสิทธิ์ Transformers ใน อเมริกา) ได้ทำการขโมยนำสิทธิ์ของเล่น Diaclone ไปจดสิทธ์บัตรในอเมริกา จนเกิดคดีความฟ้องร้องกับทาง Takara (เจ้าของสิทธ์ของเล่นชุดนี้ในญี่ปุ่น)

    จนเกิดคดีความฟ้องร้องขึ้นมาเรื่องการมีสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายและเจ้าของลิขสิทธิ์ของทรานส์ฟอร์มเมอร์สขึ้นมา
    เนื่องจาก Hasbro ได้ทำการช่วงชิงการจดลิขสิทธิ์ ทรานส์ฟอร์มเมอร์สไปก่อนผู้ให้กำเนิดอย่างTAKARA ทำให้เกิดการฟ้องร้องขึ้นมา
    โดยสุดท้ายแล้ว สิทธิ์ในการจัดจำหน่ายของทรานส์ฟอร์มเมอร์ส ในญี่ปุ่น คือ TAKARA ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของที่แท้จริงและบิดาผู้ให้กำเนิดทรานส์ฟอร์มเมอร์ส ส่วนHasbro ได้รับสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายทรานส์ฟอร์มเมอร์สทั่วโลก (ยกเว้นญี่ปุ่น)

    [Spoil] คลิกเพื่อซ่อนข้อความฟังดูอาจคล้ายกรณี อุลตร้าแมน ที่มีคนไทย ฟ้องขอลิขสิทธิ์กันนะครับ แต่ไม่เหมือนครับ
    กรณีนี้ คือ HASBRO ขโมย ผลงาน ของ TAKARA โดยการ จดลิขสิทธิ์ ที่อเมริกา
    ดื้อๆ แบบกรณีข้าวหอมมะลิไทย ที่เราขายกันมา 100 ปี จู่ๆ อเมริกาจดซะงั้น

    ด้านบนเป็นเนื้อหาที่เจ้าของกระทู้เขียนขึ้น

    ซึ่งเป็นข้อมูลที่ผิดนะครับ ไม่ทราบว่าคุณเจ้าของกระทู้ไปเอาข้อมูลแบบนี้มาจากไหน?

    เรื่องจริงๆก็คือ ทางHasbro กับ Takara ติดต่อซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้ากันอย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกประการครับ ก่อนหน้านี้ทาง Takara ได้ซื้อสิทธ์ของเล่นชุด G .I.Joe มาจำหน่ายในญี่ปุ่นโดยใช้ชื่อว่า Combat Joe และต่อมาจะเอารากฐานของเล่นชุดนี้ไปพัฒนาต่อ เป็นMicroman และ Diaclone (ซึ่งก็จะเป็นต้นแบบให้ Transformers ต่อไป)

    ทีนี้ช่วงปี 1984 ทีมงาน Hasbro มาดูงานแสดงของเล่นในญี่ปุ่นแล้วถูกใจพวกหุ่นแปลงร่าง จากชุด Micromanและ Micro Change กับรถแปลงร่างใน Diaclone เข้า ก็เลยขอซื้อสิทธ์หุ่นพวกนี้ไป Rebrand เป็น Transformers ในสหรัฐ ครับทีนี้พอของเล่นประสบความสำเร็จ ทาคาระ ก็เอา ทรานส์ฟอร์เมอร์มาจำหน่ายในบ้านตัวเอง บ้างแล้วประสบความสำเร็จ ก็เลยเลิกทำ ทั้งไดอาโคลน และ ไมโครแมน มาผลิต ทรานส์ฟอร์เมอร์ ขายมั่งซะเลยโดย ทาคาระจะมีสิทธ์จัดจำหน่ายในญี่ปุ่นส่วน Hasbro จะรับผิดชอบในอเมริกา กับทั่วโลกครับ

    ส่วนเรื่องกรณ๊ฟ้องไม่ฟ้องนี้ ผมยังค้นไม่เจอนะ เจ้าของกระทู้นั้นเขาหาข้อมูลมาจากไหน รบกวนเอามาให้ดูกันบ้างก็ดีนะ เห็นเป็นเรื่องเล็กๆน้อย แต่ผมคันไม้คันมือไม่อยากให้ปล่อยผ่านน่ะ (ชาติเราวอดวายก็เพราะข้อมูลข่าวสารผิดๆถูกๆนี่แหละ)

    lส่วนนี่แหล่งข้อมูลผม

    http://tfwiki.net/wiki/Takara

    lส่วนนี่เป็นบทสัมภาษณ์แปลอังกฤษของ Noboyuki Okuda ผู้ออกแบบของเล่น ไดอาโคลน และรองประธานของ Takara/Tomy

    http://www.tformers.com/article.php?sid=525

    ในบทสัมภาษณ์แกกล่าวไว้โต้งๆว่า Transformers เกิดจากการร่วมมือกันระหว่างทั้ง ฮาสโบรและ ทาคาระ เอง ทางฮาสโบรขอให้ ทาคาระผนวก สองซีรี่ย์ระหว่ง คาร์โรบอทและไมโครเชนจ์เจอร์ด้วยกัน ครับ…….

    คืออยากวานให้ท่านที่มี ID Pantip ช่วยเอาข้อมูลด้านบนไปแปะให้เค้าดูหน่อยจะได้ไม่เข้าใจผิดๆกัน ถึงจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆก็เหอะ ตัวผมสมัครแต่บัตรผ่านเลยเข้าไปตอบในกระทู้ข้างต้นไม่ได้ครับ……

    เพิ่มเติม 1ในทีมออกแบบ ของเล่น Diaclone มี โชจิ คาวาโมริ ผู้ออกแบบ เมคานิกดีไซน์ใน Anime Macross ร่วมอยู่ด้วย…..

  24. เฉยๆกับบท การเดินเรื่องช่วงแรกช้า น่ารำคาญ พ่อลูกไร้แก่นสาร แฟนลูกตัวประกอบ BEE ไม่มีก็ได้ หลี่ ปิงปิง บทพูดเยอะ แต่ไม่มีอะไรน่าค้นหา หมาต่างดาว เออเจ๋งดี ก็คุ้มดีครับ เพราะได้ตั๋วฟรี ดูครั้งเดียวรู้เรื่อง อิ่มฉากแอคชั่น แต่เนื้อเรื่องมันก็ไร้แก่นสารตั้งแต่ภาค 2 แล้วนิครับ ไม่ซีเรียส 5/10

  25. ผมอาจเห็นต่างจากหลายๆคอมเม้น ผมว่าภาค ก็ดูดีนะ (แต่หนังนานจริงๆ น่าเบื่อนิดนึง แต่รับได้)
    นั่งอ่านคอมเม้นมา เอ่อออ…หนังคงอยากจะนำเสนอเรื่อง ผู้สร้าง คล้ายๆ โพรมีธีอุธ คอคอมมิคคงรู้ดี ว่าเกิดจากอะไร หนังคงจะปูทางไว้ภาค 5-6 เดาว่าคงเน้นในอวกาศ ส่วนตัว ชอบบทของ Lockdown แกพูดประมาณว่า
    “พวกมนุษย์ ช่างไม่รู้อะไรซะเลย ในจักรวาล แต่ละดวงดาวที่ข้าผ่านมาก็ไม่ได้แตกต่างกัน คิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล” โดนมากกก
    ภาคนี้คงเน้นไปที่จุดกำเนิด แต่ขอเกริ่นก่อนด้วย ฉากแอ็กชั่น ดราม่าทั้งคนและ TF
    #ผมมองไปที่ความโลภของคน ที่ตามล่าพวกดิเซปติคอนหมดแล้ว สิ่งที่ต้องการไม่เพียงพอ เลยต้องตามล่า ออโต้บอท ทั้งที่พวกเค้าอยู่ฝ่ายโลก เพราะความโลภเห็นแก่เงิน เห็นพวกออโต้บอทเป็นสิ่งของ มันเลยทำให้ ออฟติมัส ระเบิดอารมณ์ ผมอินกับจุดๆนี้มากกว่า คิดดู เค้าหนีจากดาวเค้าที่ล่มสลาย มาอยู่บนโลกแบบ อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น ทำในสิ่งที่ทำได้ แต่ภาคนี้ กลับทำกับพวกเค้าแบบนี้!! ส่วนบทของคน แอ๊กชั่น ผมมองเป็นส่วนประกอบของหนังคับ

    • ผมก็ชอบตรงที่อ๊อพติมัส กร้าวร้าวขึ้น ดูจะโหดนิดๆ ไม่โลกสวยเหมือนเดิม
      แต่เสียดายนิดหน่อยตรงที่เกราะหรือร่างกายอ๊อพติมัสตอนเป็นหุ่นถูกออกแบบเปลี่ยนไปเยอะขนาดนั้น ดูไม่เหลือเค้าเดิมของรถบรรทุกเลยโดยเฉพาะตรงขาที่จะต้องมีล้อ4วงติดอยู่ข้างๆ แต่ก็เข้าใจว่ามันถึงเวลาที่สมควรต้องเปลี่ยนแล้ว แต่ก็ดูบึกบึนปราดเปรียวสวยไปอีกแบบ

    • เห็นด้วยครับ
      นี่ไงจุดเนื้อเรื่อง ซึ่งผมก็รู้สึกเหมือนกับคุณนี่แหละ
      แต่หลายๆคนกลับมองว่ามันไม่มีเนื้อเรื่องซะงั้น
      จริงๆแล้วมันเป็นเนื้อเรื่องที่ดูมีอะไร
      มากกว่าแค่ฝ่ายดีฝ่ายเลว แย่งลูกเหลี่ยมๆในภาค 1-3 เสียอีก

  26. สนุกดีครับ ชอบ วอลเบิร์ก

    TF4 ให้ 8/10
    องค์ประกอบของทีมสร้าง

    นักวิจารณ์ผู้ฉลาดทั้งหลายให้คะแนน ต่ำ แบบโหดไปนะครับ 3.8/10
    ลองให้คะแนน มนุษย์เหล็กไหลเมืองไทยเหลือเท่าไหร่ -2.3/10

  27. หนังสนุกดีครับ ยาวเกือบ3ชม. ผมดูแบบ3d รู้สึกคุ้มค่ามาก ภาคนี่้รู้สึกให้บทบาทความเป็นฮีโรีของออฟติมัสมากดีครับ ทั้งความเป็นผู้นำ ความเสียสละ กล้าหาญ ไม่เห็นแก่ตัว (ผมดูการ์ตูนเรื่องนี้มาตั้งแต่20กว่าปีที่แล้ว ชอบออฟติมัสในแบบนี้มากครับ) และได้เห็น ไดโนบอท อีกครั้ง ซึ่งต้องปราบพยศมันให้ได้หนังคิดได้จ๊าบดีจริงๆ แฟนๆเด็กหนวดอย่างผมคงชอบมากที่ไมเคิล เบย์ เอาไดโนบอท เข้ามามีบทบาทในภาค4นี้ครับ อ้อในหนังมีแต่รถหรูหรามาแปลงร่างสู้กันมันดี (ชอบ pagani มาก) ดีใจที่เปลี่ยนพระเอกซะทีนะครับ ผมให้ 95/100 ครับ หักไปหน่อยเพราะงงกับบทสนทนาครับ นอกนั้นถูกใจมาก เดี๋ยวเป็นแผ่นค่อยซื้อเก็บอีกที

  28. TF4 หลังจากที่ผมได้ค่อนข้าง ผิดหวังครับเมื่อเปรียบเทียบกับทั้ง 3 ภาค ที่ผ่านมา คือผมเป็นคนที่ชอบ Transformers มาก หลงไหลเลยก็ว่าได้แต่มาภาคที่ผมรู้สึก ผิดหวังเล็กๆกับ ไมเคิล เบย์ ดังนี้
    1.เฮียแกเขี่ยหนุ่นที่ไม่ค่อยมีบทเด่นทิ้งอย่างหน้าสงสารและทารุณมาก อย่างฉากที่ แร็ตเชต ถูกฆ่าอย่างไม่สมศักศรีเลย หน้าสงสารมาก
    2.ฉากแปลงร่างของหนุ่นแต่ละตัวถูกตัดออกจนแทบจะไม่เหลือ
    3.บับเบอร์บี ไม่หน้ารักเหมือนแต่ก่อน

    หนังอะสนุกด้วยความชอบTransformersเป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้วแต่ภาคนี้แย่สุด(สงสารพวกที่ถูกฆ่า)

Leave a Reply to K.AceCancel reply