อีกเพียง 6 สัปดาห์ที่หนังจะฉาย Jupiter Ascending ของพี่น้องวาชาวสกี้ นำแสดงโดยแชนนิ่ง เททั่ม และ มีลา คูนิส ก็มีการเปลี่ยนวันฉายข้ามปีไปเป็น 6 กุมภาพันธ์ 2015 ซะแล้วครับ ส่อลางไม่ดีเท่าไหร่สำหรับตัวหนัง (ซึ่งที่จริงก็มีวี่แววไม่ค่อยดีเท่าไหร่มาก่อนหน้านี้ เพราะมีรายงานว่ากระแสตอบรับหลังการประชาสัมพันธ์ของวอร์เนอร์ บราเธอร์ส ออกมาไม่ค่อยดี และถูกคาดการณ์จากผู้เชี่ยวชาญว่าจะเป็นหนังแป้กแห่งปีเรื่องหนึ่ง)
กำหนดฉายดั้งเดิมของหนังคือ 18 กรกฎาคมปีนี้ เป็นวันฉายที่วอร์เนอร์ฯ เคยวางไว้ให้หนังฟอร์มใหญ่ทำเงินของค่ายมาตลอด อย่างหนังไตรภาค The Dark Knight ของคริสโตเฟอร์ โนแลน ครับ ส่วนสาเหตุของการเลื่อนฉายนั้น แดน เฟลล์แมน หัวหน้าฝ่ายจัดจำหน่ายในประเทศของค่ายบอกในประกาศ (via THR ) ว่าเพื่อให้พี่น้องวาชาวสกี้ “มีเวลามากขึ้นในการทำเทคนิคพิเศษกว่า 2 พันช็อต ในหนัง ให้เสร็จสิ้น การที่หนังฉายในเดือนกรกฎาคม ทำให้พวกเขาไม่อาจทำงานให้เสร็จทันเวลาได้ ประเด็นหลายอย่างที่เราคำนึงถึงก็คือเพื่อให้พร้อมสำหรับการฉายในตลาดอินเตอร์ เพราะในตลาดต่างประเทศต้องใช้เวลาเพิ่ม”
กำหนดฉายเดิมของหนังทุน 150 ล้านเหรียญเรื่องนี้ ชนกับหนังตลก Sex Tape ของคาเมรอน ดิแอซ, The Purge: Anarchy และ Planes: Fire & Rescues แต่เมื่อย้ายกำหนดฉายแล้วก็จะไปชนกับ Mortdecai ของจอห์นนี่ เดปป์ และ Seventh Son ของเจฟฟ์ บริดเจส แทน
การย้ายวันฉายยังทำให้วอร์เนอร์ฯ ต้องเลื่อน Run All Night ของเลียม นีสัน ที่วางกำหนดฉายไว้ 5 กุมภาพันธ์ออกไปก่อนโดยยังไม่มีกำหนดแน่นอน และเท่ากับต้องยอมทิ้งเงินที่ลงทุนด้านการตลาดไปแล้วก่อนหน้านี้ที่ใช้กับทั้งใบปิด, ตัวอย่างหนัง และสื่อโฆษณาต่างๆ ครับ
ผมมั่นใจว่าหนังต้องสนุกแน่ๆ
แต่ถ้าเข้าฉายตอนนี้ก้อเจ๊งแน่เหมือนกัน
เพราะปีนี้หนังเบียดเสียดกันเยอะมาก(ดูจากสไปดี้ ก็อตจิ x-men ที่ฉายติดกันเป็นแพ)
เป็นเพราะเจอบอลโลก หนังหลายเรื่องเลยเลื่อนหนีกันเยอะ(แต่ป๋าเบย์ขอชนเต็มๆ บอกว่าวัดกันไปเลย 5555)
แล้วทีนี้เรื่องนี้คงเลื่อนไม่ทัน คนอื่นจองพื้นที่เต็มแล้ว เลยเลื่อนยาวๆไปปีหน้าซะเลย จะได้ปรับหนังเพิ่ม โปรโมทใหม่ให้มีกระแส อย่างน้อยก้ออาจพอเอาตัวรอดได้(แบบ g.i.joe2 ไง)
คนอเมริกัน สนใจบอลโลกด้วยเหรอ!?!
อเมริกาไม่สนใจบอลโลก แต่คนทั่วโลกสนใจ ดังนั้นโอกาสสูญเสียรายได้จากตลาดโลกจะเยอะ จะหวังพึ่งตลาดในประเทศก็ไม่ได้ เพราะดูหน้าหนังแล้ว คนอเมริกันก็ไม่ค่อยตอบรับเรื่องนี้เท่าไหร่
อ่านย่อหน้าสุดท้ายแล้วจี๊ดเลย…Run All Night😵😵😵😵
อยากให้เขาทำ The matrix ภาคใหม่จังครับ
คือพล๊อตมันไม่น่าสนใจ ขายแต่ความอลังการ
ขายแต่ภาพเวอร์ๆ มันไม่มีอะไรสดใหม่ที่จะเป็นปัจจัยให้ประสบความสำเร็จเหมือนสมัย The Matrix ได้แล้ว
ผมว่าที่ต้องแก้คือทำยังไงให้ตัวหนังมันดูน่าสนใจมากขึ้นมากกว่า
ไม่ใช่แก้ให้เอฟเฟคต์สวยขึ้นยังไง ….
ต้องทำการตลาดใหม่หมดเลย โปสเตอร์ ใบปิดหนังเหมือนหนังบ้าบอๆ ย้ายไปฉายนี่เเหละดีเเล้วเพราะหนังใหญ่มากนะทุนสร้าง 200 ล้าน
แม้ว่าปัจจุบันหนังBox Office ไม่จำเป็นต้องอยู่ในช่วงซัมเมอร์แล้ว แต่การเลื่อนไปไกลซะขนาดนั้น และเป็นเดือนก.พ.ด้วยแสดงว่าหนังต้องมีปัญหาเยอะแน่ๆ และที่สำคัญทุนสร้างค่อนข้างสูงซะด้วย (เท่าที่ดูมาหนังซัมเมอร์ปีนี้ยังไปไม่สุดซักเรื่อง ทำให้เรื่องนี้อาจมีความเสี่ยงสูงมาก) และหนังของพี่น้องคู่นี้หลัง The Matrix ก็แป๊กมาตลอด ตอนก่อนฉาย The Matrix จำได้ว่าหนังก็โดนวิจารณ์อย่างหนักว่าเทคนิคพิเศษได้เต็ม 10 แต่ตัวหนังได้แค่ 4-5 คะแนนเท่านั้น แต่หนังก็ทำเงินจนมีภาคต่อในที่สุด ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะออกหัวหรือก้อยกันแน่..ยังไงก็ขอเอาใจช่วย เพราะแนวหนังแกค่อนข้างล้ำและเต็มไปด้วยปรัชญา รวมทั้งถือเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจในการทำหนังให้แก่ผู้กำกับอื่นอีกหลายคน
อันที่จริง Cloud Atlas ได้รับคำชมเยอะนะครับ แต่รายได้มันสวนทางกับคำชมเหลือเกิน
“ติดขัดเรื่องเทคนิคพิเศษ”
แปลเป็นภาษาชาวบ้านคือ “กลัวเจ๊ง”
กลัวจะเป็น เดินหมากผิดตัวเดียว ล้มทั้งกระดาน
ครั้งแรกที่เห็นข่าวเลื่อนข้ามปีนี่ก็อึ้ง เพราะเห็นใกล้จะเข้าฉายแล้ว กำลังรอไปดู ยังคิดเลยว่าเอ๊ะเราแปลภาษาอังกฤษผิดหรือเปล่าหว่า… ท่าจะมีปัญหาหนักจริงๆ
ปล. ชอบ Cloud Atlas นะ หนังทำออกมาย่อยง่ายกว่าตัวหนังสือมาก แต่ไม่ค่อยชอบ The Matrix ภาคหลังๆ เลย