ถ้าคิดว่าฮอลลีวู้ดเร็วแล้วในการหยิบประเด็นที่เป็นข่าวคึกโครมมาสร้างเป็นหนัง บอลลีวู้ดดูเหมือนจะเร็วกว่าอีกครับ ซึ่งเรื่องที่ว่านี้ก็คือเหตุการณ์การสูญหายของเครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ เที่ยวบิน 370 หรือ MH370 ครับ
ตามรายงานจากวาไรตี้บอกว่าหนังเรื่องนี้ใช้ชื่อว่า The Vanishing Act กำกับโดย Rupesh Paul จากหนังอีโรติก “กามาสุตรา 3D” ซึ่งได้นำโครงการหนังไปเสนอขายในเทศกาลหนังเมืองคานส์ และทำตัวอย่างหนังยาว 90 วินาที ออกมาเพื่อขายแนวความคิดแก่นักลงทุนครับ ทั้งยังทำใบปิดออกมาด้วย โดยใช้คำโปรยว่า ““The untold story of the vanished Malaysian flight.” หรือ “เรื่องราวที่ไม่ได้เปิดเผยของเที่ยวบินมาเลเซียที่สูญหาย”
ผู้กำกับพอลบอกว่าได้แนวคิดการสร้างหนังมาจากการที่เขาได้รับการติดต่อจากนักข่าวชาวมาเลเซีย ที่ยังขอปกปิดชื่ออยู่ เกี่ยวกับทฤษฎีว่าด้วยเรื่องราวที่เกิดขึ้น แล้วพอลก็ใช้เวลา 20 วัน เขียนบทตามทฤษฎีดังกล่าว เพื่อถ่ายทำตัวอย่างหนังขึ้นมา ใช้เวลาถ่ายทำทั้งสิ้น 6 วัน ในบอมเบย์ ประเทศอินเดีย โดยได้ทุนจากนักข่าวมาเลเซียดังกล่าว
พอลบอกว่าเพื่อจะถ่ายทำหนังให้เสร็จ เขาต้องการขอทุนสร้างจากนักลงทุนราว 3.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ใช้เวลาถ่ายทำ 35 วัน และจะใช้นักแสดงกว่า 200 คน โดยมีแผนออกฉายในเดือนสิงหาคมปีนี้
พอลให้สัมภาษณฺถึงความท้าทายของหนังเรื่องนี้ว่า “ผู้คนถามผมอย่างหนึ่ง ถ้าคุณบอกว่ามันเป็นทฤษฎีแล้วเกิดมีการค้นพบเครื่องบินขึ้นมา ซึ่งตรงกันข้ามไปเลย การลงทุนก้จะสูญเปล่า และเราก็จะกลายเป็นคนโง่ นั่นเป็นความท้าทายใหญ่สุดที่ผมเผชิญ”
เขาบอกด้วยว่าจะไม่ทำให้ครอบครัวของผู้โดยสารต้องรู้สึกเจ็บปวดจากหนังเรื่องนี้
คลิกดูตัวอย่างนำเสนอการขายด้านในครับ
ถ่ายทำ 35 วัน? อยากรู้เหมือนกันว่าทฤษฎีการหายไปของเครื่องบินที่ว่าคืออะไร…
เอเลี่ยน จับไปเป็นไปได้ไหมครับ ถ้าจะสร้างหนัง based on true story
ลำที่หายเป็น Boeing 777 แต่ในตัวอย่างเป็น 747
ถ้าทำออกมาจริง แล้วคนเชื่อต้องโดนแบนแน่ๆ ถ้าปดปิดขนาดนี้ มันต้องไม่ใช่ทฤษฎีธรรมดาแน่ๆ อย่างต่ำๆสุดต้องเป็นก่อนการร้ายละหนึ่ง