The Amazing Spider-Man 2 ในความเห็นของคุณ

?????????????????????????????????The Amazing Spider-Man 2 เข้าฉายในบ้านเราด้วยรอบพิเศษตั้งแต่เย็นวันพุธที่ผ่านมา และความเห็นของผู้ชมก็มีสองฝั่งเลย ทั้งชอบ และไม่ชอบแทบจะพอๆ กัน

ส่วนที่ชอบก็มักพูดถึงการแสดงที่เข้าขากันของแอนดร์วู กราฟิลด์ กับเอ็มมา สโตน รวมถึงการออกแบบฉากแอ็คชั่นที่น่าตื่นเต้นและตื่นตาของผู้กำกับมาร์ค เว็บบ์ บางความเห็นบอกด้วยว่าดีกว่าภาคแรก ขณะที่ส่วนที่ไม่ชอบก็พูดถึงการที่ตัวละครมีมากเกินไป การเล่าเรื่องที่ยุ่งเหยิง บทหนังน่าจะดูเป็นส่วนที่โดนโจมตีมากที่สุดซึ่งบางความเห็นน่าสนใจที่บอกว่าหนังยังไม่สามารถทำให้ติดตาได้ว่าการ์ฟิลด์คือปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ หรือไอ้แมงมุม แบบที่บทหนังของฉบับแซม ไรมี่ ทำให้เชื่อได้ว่าโทบี้ แม็คไกวร์ เป็น หรือบทหนังของ Iron Man ที่ทำให้เชื่อได้ว่าโรเบิร์ต ดาวนี่ย์ จูเนียร์ เป็นโทนี่ สตาร์ก

ความเห็นคล้ายกับความเห็นโดยสรุปของ Rotten Tomatoes ซึ่งจากจำนวนบทวิจารณ์ที่รวมมาตอนนี้ 186 บทวิจารณ์ มีนักวิจารณ์ที่ชอบเพียง 56% คะแนนเฉลี่ย 5.9/10 บางนักวิจารณ์เปรียบเทียบว่าหนังอยู่ระดับเดียวกับ Batman Forever เลย

ส่วนความเห็นจากผู้ชมทั่วไป เราดูได้ที่ imdb ครับ ซึ่งจากสมาชิกที่ลงคะแนนตอนนี้ 4 หมื่นกว่าคน คะแนนอยู่ที่ 7.6/10 อาจมากกว่านักวิจารณ์ และถูกมองว่าอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ แต่ถ้าใครที่ติดตามดูคะแนนของเว็บนี้จะพบว่าส่วนใหญ่แล้วจะมีคะแนนลดลงไปอีกเมื่อเวลาผ่านไป

แล้วเพื่อนผู้อ่านมีความคิดเห็นยังไงต่อหนังบ้างครับ ใส่ความเห็นและคะแนนกันมาเลย หากถ้าจะเผยเนื้อเรื่องสำคัญ หรือสปอยล์ โปรดเตือนก่อนล่วงหน้าด้วยครับ เพื่อให้ผู้อ่านท่านอื่นที่ยังไม่ได้ดูได้เลี่ยงไปก่อน

78 comments

  1. ผมว่าประเด็นในหนังมีค่อนข้างเยอะมาก เลยทำให้บางประเด็นปูเรื่องไม่ค่อยเพียงพอ อย่างความสัมพันของปีเตอร์กับแฮรี่ถ้ามีมากกว่านี้น่าจะอินกับฟีลเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดได้ดีมากกว่า และที่ไม่ชอบอีกอย่างคือไม่น่ามีไรโนเข้ามาตอนท้ายถ้าทิ้งท้ายแค่คนคนนั้นเดินผ่านชุดต่างๆไปแล้วจบให้ดูเป็นปริศนาน่าจะดีกว่า แต่ชอบบทเรื่องความสัมพนของปีเตอร์กับเกวน มันดูจริงมากๆ โดยส่วนตัวถ้าดูเอาสนุกถือว่าดีเลยนะครับ ออกแบบฉากแอคชั่นดีมากๆ ดูแล้วเพลินตระการตาดี และอย่างที่หลายๆ คนบอก ผมว่ามันก็คล้าย Batman Forever จริงๆ นะ จุดกำเนิดของ อีเล็คโตร เหมือนกับ มนุษย์น์น้ำแข็งเลย ^^

    • จริงด้วยครับ จุดกำเนิดคล้ายกัน แถมฟ๊อกซ์กับแคร์รี่ก็เคยเล่นซิตคอมตลกมาด้วยกันเมื่อก่อน แต่ผมว่าถึงจะคล้ายกันในหนัง แต่ผลที่ออกมาผมว่าแครร์รี่ทำให้มนุษย์เจ้าปัญหามีสีสันด้วยฝีมือแคร์รี่ แต่ฟ็อกซ์ยังทำให้อิเลคโตรดูไม่ค่อยมีอะไรเท่าไรเลย

      • คิดว่า ฟอกซื เล่นดีเลยครับ แต่มันเป็นความผิด ผกก ที่ไม่ให้ความสำคัญกับตัวร้ายเท่าไหร่เมื่อเทียบกับเรื่องรัก

  2. ไตรภาคแรกดูครบทุกภาคและยอมรับว่าภาค2เป็นหนังที่ดีและสนุกมากครับ ยังจำอารมณ์ตอนออกมาจากโรงได้ แต่ภาคใหม่ดูเพราะมาร์ค เว็บบ์ เพราะชื่นชอบมากจากหนังรักเรื่องก่อน พูดตรงๆพี่มาร์คแกไม่ได้เก่งประเด็นซุปเปอร์ฮีโร่ แต่เรื่องโรแมนติคแกคล่องจริงๆ และยังสัมผัสได้อารมณ์นั้นจากหนังเรื่องนี้ ชอบแกครับ และก็ชอบกาคใหม่มากกว่าแม้ว่ามันอาจบันเทิงน้อยกว่า เพราะภาคก่อนมันการตูนมากๆ ภาคนี้รสชาติมันแปลกๆลิ้นดี

  3. อย่างอื่นเฉยๆแต่งานภาพผมให้ 10/10 เลย … ดูโรงปกติแค่ต้นๆเรื่องแล้วอยากเดินออกมาซื้อตั๋ว 3D ไปดูใหม่

    • ความเห็นส่วนตัวของผม ผมว่่าสนุกดีนะครับผมไม่เคยอ่านในคอมมิคแต่ก็ทราบมาว่ามัน รันทดกว่านี้เยอะ บางคนบอกว่าเอามารีบูทเร็วเกินไป แต่ผมว่าภาคนี้ที่ทำมันค่อนข้างละเอียดกว่าเยอะ ตัวละครมีความเหมาะสมตามวัย ทั้งตัวปีเตอร์ พาร์คเกอร์ ก็ดูกวนๆเหมือนเด็กวัยรุ่น ด้วย ส่วนตัวจริงๆผมชอบ นางเอกมาก เสียดายมาก แล้วก็ภาวนาให้ภาคสาม นางเอกออกมาสวยถูกใจและเหมาะสมครับ

  4. (สปอยล์)อาจเป็นเพราะ ผกก. กำกับหนังโรแมนติกมาก่อน เลยทำให้หนังเรื่องนี้เหมือนตัดต่อสองเรื่องมารวมกัน ทำให้จังหวะหนังไปไม่สุดเลย และมันไม่เข้ากันด้วย (บางทีก็กลายเป็นรำคาญด้วยซ้ำ)

    แต่ที่ผมขัดใจมากคือปมของอิเล็คโตรมันดูไม่สมเหตุสมผลมากครับ มันไม่ทำให้สามารถเชื่อได้ว่าคนที่แค่ต้องการเป็นที่สนใจจะสามารถลงมือฆ่าคนอื่นได้ ทำให้ตัวหนังจะดูไปทางการ์ตูนจ๋าขัดกับที่ภาคแรกปูไว้ดิบดี อันนี้เป็นสิ่งที่ผมผิดหวังที่สุดเลย (ยิ่งฉากถูกจับแล้วสิ่งที่ทำหลังจากฟื้นคือตั้งชื่อให้ตัวเองนี่..)

    ส่วนฉากแอ็คชั่น ถึงแม้จะมีน้อย แต่ผมว่ามีความสร้างสรรค์ที่สุดแล้วในบรรดาหนังแอ็คชั่นยุคหลังๆ ผมมากครับ ซีจีจะมีบางฉากดูหลอกๆแต่โดยรวมทำได้ดีมาก

    โดยรวมแล้วค่อนข้างผิดหวังมากๆครับ เพราะหวังไว้เยอะด้วย ถึงไตรภาคแรกจะดูน้ำเน่าแต่ความกลมกล่อมมันมากกว่า ขาดนี้ไปไม่สุดเลยซักทาง เสียดายครับ

  5. ชอบที่สุดคืออารมณ์ขันและความกวนของสไปดี้เวอร์นี้ครับ เสียายที่ไม่ได้ปูเรื่องไว้สำหรับเอ็มเจ ไม่รู้จะโผล่มายังไงให้เนียนๆสำหรับภาคหน้า

  6. ยังไม่ได้ดูครับ แต่ถ้าดีระดับbatman foreverผมว่าก็ยังถือว่าดี ดีในระดับมาตรฐานส่วนตัวของผม มันเป็นความดีในระดับที่ผมจะต้องซื้อvdoมาเก็บสะสมดูซ้ำได้อย่างไม่เสียดายกะตังค์
    แต่ความเห็นข้างบนได้เอ่ยถึงมนุษย์น้ำแข็ง(mr.freezeรึเปล่า)ถ้าใช่นั่นมันอยู่ในภาคbatman and robin นั่นหนังยอดแย่ที่สุด

  7. ดูมาแล้วเมื่อวานผมชอบไตรภาคแรกของแซม ไรมี่มากกว่า อันใหม่นี้มันไม่อะเมซซิ่งสมชื่อเลย ผมว่าหนังยาวเกินไปบางช่วงตัดออกก็ได้ และดูเหมือนหนังจะออกมาถุกใจแฟนๆคอมมิคมากกว่าคนทั่วไปนะครับ ซึ่งดูเหมือนว่าอะไรที่แฟนคอมมิคชอบผู้กำกับแกก็ประเคนมาให้หมดมันเลยดูเยอะไป และผมเห็นด้วยว่าบางอย่างมันคล้าย Batman Forever จริงๆนะ(ตอนอิเลคโตรมันอยู่ในห้องแล้วพูดคนเดียวท่ามกลางรูปของ spiderman นี่มันจิมแครี่ที่คลั่งบรูซ เวย์นในBatman Foreverชัดๆ) และส่วนตัวเหมือนโซนี๋จะมัวกังวลกับการปูทางไปหาหนังแยกเรื่องอื่นๆมากเกินไปหรือเปล่า เลยใส่ประเด็นและตัวละครเข้ามาซะยังกะหนังซีรี่ย์ สุดท้ายเลยขาดๆเกินๆเหมือนตอนนั้นที่๋โซนี่สั่งให้ ไรมี่ ยัด วีนอมเข้ามาในหนังภาคสามเลยครับ

    • ว่างั้นแหละ เอาตรงๆผมว่าแทนที่จะหมกมุ่นกับการสร้างภาคแยก ทำภาคต่อให้มันดีสู้ต้นฉบับก่อนเถอะ นี่เล่นกำหนดเลยว่ามึงต้องสร้างภาคแยกอย่างนั้นอย่างนู้น ที่นี้ภาคต่อของเรื่องนี้ เนื้อเรื่องก็คงเป็นอะไรที่คาดเดาได้ แทนที่จะได้อะไรที่คาดไม่ถึง หรือได้ลุ้นว่าตัวร้ายภาคต่อะเป็นใคร นี่เล่นเปิดเผยมาเลย

  8. ส่วนตัวผม นี่อาจจะไม่ใช่หนังสไปดี้ที่ดีที่สุด แต่มันเป็นหนังสไปดี่้ที่แฟนคอมิคสมควรต้องดูทุกประการครับ…

    คะแนนในฐานะแฟนบอย เอาไปเลยเหอะ 10/10

  9. 7/10 ครับ

    ทุกอย่างอยู่ใน Trailer ที่ไม่อยู่ใน Trailer คือ “บทพูด”

    แค่นั้นเลยครับ

    ส่วนตัวแล้ว Trailer นั้นทำได้ดี น่าดูมาก ๆ ถ้าตัดการโปรโมทใน Trailer ออกไปบางอัน เช่น Green Goblin คนดูก็คงเซอไพซ์กันมันส์ ๆ ในโรง แต่นี่ทำให้รู้สึกว่ารู้หมดแล้ว

    มุขต่าง ๆ อยู่ใน Trailer ซะหมด นอกจากนั้นไม่มีอะไรเลย

    ส่วนตัวแล้วผิดหวังมากครับ แต่ถ้าไม่เคยดู Trailer มาก่อนเชื่อว่าจะต้องเป็นหนังที่สนุกมาก ๆ แน่ ๆ (เราดูแต่ Trailer ยังรู้สึกว่าหนังมันเจ๋งเลย)

  10. Spider-Man เป็นหนึ่งในตัวละครซูเปอร์ฮีโร่ที่ผมชื่นชอบมากที่สุด (Spider-Man 2 เป็นภาคที่ดีที่สุดในความคิดผม)
    แต่หลังจากได้ยิน ได้อ่าน คำวิจารณ์ต่างๆ จึงเข้าไปดูแบบไม่คาดหวังอะไรมาก
    ความเห็นหลังการชม ภาพฉากแอ๊คชั่นสวยมากๆครับ ชอบมากๆ ตัว Spider-Man เองก็กวนเหมือนคอมมิคสุดๆ ดูมุขตลกลื่นไหลไม่ฝืนๆเหมือนภาคแรก แต่ที่ผมรู้สึกไม่ดีกับหนังเลย คือประเด็นในหนังที่ต้องการจะเล่น ทั้งเรื่องพ่อของปีเตอร์ ความสัมพันธ์ระหว่างพระเอกนางเอก ความสัมพันธ์ระหว่างพระเอกกับแฮรี่ ไม่มีจุดเชื่อมโยงที่ทำให้รู้สึกว่าประเด็นเหล่านี้สำคัญเลย เหมือนใส่ๆเข้ามาแล้วพยายามจะทำให้มีน้ำหนัก แต่กลับทำไม่ได้ โดยเฉพาะการกำเนิดตัวร้าย และความแค้นของตัวร้ายที่มีต่อพระเอก ดูแล้วรู้สึกว่า Oscorp นี่มันโรคจิตกันทุกคน – -”
    ให้ 7/10 ครับ

  11. ส่วนตัวผมไม่ชอบที่ตัวร้ายทุกตัวใช้พาวเว่อร์สูทที่มาจากแหล่งเดียวกัน คือองค์กรเดสตรอน เอ้ย!!!ออสคอร์ป ครับ^^’
    มันทำให้การเปลี่ยนลุคของตัวร้ายดูง่ายไปนิดครับผม

    • แหะๆ หมายถึงตัวรองสองตัว และตัวอื่น ที่จะดาหน้าเข้ามาในภาค3..ไม่นับตัวหลักของภาคนี้นะครับ…ขานั้นในส่วนของการเปลี่ยนลุคเข้าท่าอยู่..แต่การเข้าด้านมืดกลับชิวไปหน่อย….

  12. ผมเป็นแฟนซูปเปอร์ฮีโร่ทุกเรื่อง Spider-Man 2 ภาคนี้ผมให้ 5.5/10

    ผมยังไม่เชื่อว่า แอนดรู กาฟิล คือ สไปเดอร์แมน ถึงแม้อยากจะเชื่อก็ตามแต่คงจะต้องหลอกตัวเองอย่างมาก

    ปล. เรื่องเล่าเช้านี้มีภาพ ดาราไทยไปสัมภาษนักแสดงสไปเดอแมน แอนดรู ก็พูดจาแบบ ปัดๆ ให้ไปได้แล้ว แอบๆรำคาญอ่อนๆ อีกด้วย นั่งคู่กับมาร์ค เวบบ์

  13. ผมว่าตัวหนังมันก็ไม่ได้แย่หรือห่วยอะไรขนาดนั้นนะครับ ผมว่าก็โอเคเลยนะ การปูดำเนินเรื่องตั้งต้นจนจบผมว่า มาร์คเวบ เขาการทำได้ดีนะ ส่วนตรงดราม่า ผมว่ามันก็ไม่อึดอัดเกินไปนะ ส่วนการ์ฟิว ผมว่าเขาเล่นบท ทั้ง ปีเตอร์และสไปเดอร์แมน ได้ดีทีเดียว สมกับเป็น สไปเดอร์แมนตามฉบับคอมมิค จริงๆๆๆๆๆ

    ผมให้ 9.5/10 เลยครับ

  14. ผมให้ 5/10 ละกันครับเรื่องนี้ แต่ละฉากเหมือนไม่ได้อารมณ์อะไรเลย เรื่องนี้บทพูดซัก 70 % ได้ ที่เหลือ ฉากต่อสู้ ฉากเศร้าที่ควรจะเรียกน้ำตาแต่ตัวหนังทำออกมาไม่รู้สึกจะร้องไห้ตามเลย ดูแล้วง่วงมาก แต่ CG ยอมรับว่าทำออกมาดี แต่ถือเป็นหนังที่น่าผิดหวัง ยังไงสำหรับผม Spider Man เวอร์ชัน โทบี้ ดีที่สุดสำหรับผม

  15. หลังจากรอคอยมานานเป็นปี วันนี้ก็ได้ดูเสียทีกับ Amazing Spider man 2 แต่อยากดูมากแค่ไหน ก็ไม่ยอมดู Trailer หนังเลยนะ คิดดูละกัน ฮ่าๆ เพื่อความสดของความรู้สึกตอนได้เห็น “ครั้งแรก” ในตัวเต็ม ซึ่งระยะหลังๆมานี้ ผมใช้วิธี ไม่ดู Trailer กับหนังที่อยากดูทุกเรื่องเลย และส่วนใหญ่ก็ทำให้อารมณ์ตอนดู สนุกและตื่นเต้น ดีจัง คือถ้าเห็นก่อนจากตัวอย่าง มันก็ลดความแปลกใจไปเยอะนะผมว่า.. ช่างเถอะ มาเข้าเรือ่งกันดีกว่าครับ

    สไปดี้ภาคนี้ เหมือนพัฒนาไปทุกๆส่วนจากภาคแรก เลเวลอัพไปอีกขั้นเลยแหละ โดยเฉพาะฉากแอ๊คชั่นต่างๆ ที่ใส่รายละเอียดมาแบบดูครั้งเดียวต้องมองไม่ครบแน่ ท่วงท่าของสไปดี้หลากหลายมากขึ้น ทั้งท่ากระโดด ท่าเหิน ท่ายิงใย ท่าไต่ใย ไต่ตึก กระโดดหมุนตัว ฯลฯ สารพัดจะใส่เข้ามาให้แฟนๆ ได้เต็มอิ่ม โดยเฉพาะ “สไปเดอร์เซ้นส์” ที่ภาคนี้ จัดหนัก ใส่มาเต็มจนผมอิ่มไปเลย (แอบเซ็งที่ภาคก่อนๆ ไม่ค่อยใช้เล๊ย ซึ่งส่วนตัวชอบสกิลนี้นะ) คือพอใส่ สไปเดอร์เซ้นส์ มาเยอะๆ ผมรู้สึกว่า ค่อยสมเป็น สไปดี้ หน่อย ขอบคุณมาก มาค์ เวบบ์

    ภาคนี้มีความเป็นดราม่าเยอะกว่าภาคก่อนๆ น่าจะ 60% ได้เลย บางช่วงมีแอบอืดนิดๆ เพราะดราม่าติดกันไปนิด แต่ก็มีแทรกมุกตลก และความน่ารักของคู่พระนางที่ทำให้เรารู้สึกดี แต่ความดราม่าก็ใช้ว่าจะไร้อารมณ์นะ ค่อนข้างเล่าเรื่องปูทาง เพื่อมายังจุดสุดท้ายของหนัง ซึ่งก็ยอมรับเลยว่า “ทำได้ดี” ผมว่าคนเขียนบทภาคนี้เก่งนะ จับนู้น จับนี่มาชนกัน มาโยงกันได้เนียนและมีความหมาย พอมาสังเกต มาวิเคราะห์ ก็รู้เลยว่า ผ่านการคิดมาอย่างดี

    สิ่งที่ชอบที่สุดนอกจากแอ๊คชั่นของสไปดี้แล้ว ก็คือ ความที่เคมีเข้ากันแบบสุดๆของ แอนดรูว การ์ฟิล กับ เอ็มม่า สโตน คือต้องเข้าฉากคู่กันทีไร เหมือนเป็นคู่รักแบบที่มาจีบกันกลางกองถ่ายทุกที เล่นกันธรรมชาติสุดๆ ทำให้คนดูได้ยิ้ม ได้หัวเราะเลยล่ะคู่นี้ ชอบสไปเดอร์แมน เวอร์ชั่นที่ แอนดรูว การ์ฟิล เล่นมากที่สุดละ เหมาะที่สุด

    ส่วนตัวร้ายหลักภาคนี้ อิเลคโตร หรือ เจมมี่ ฟ็อกซ์ ดาราระดับแนวหน้าที่การแสดงโคตรจะดี มาเล่นเป็นตัวร้ายในหนังฮีโร่เป็นครั้งแรก บอกตรงๆว่า แอบผิดหวังนิดหน่อย ไม่รู้ว่าบทไม่ส่งหรือยังไง แต่ความน่าเกรงขามของอิเลคโตร ยังไม่เยอะพอ ยังไม่ค่อยรู้สึกกดดันจากความร้ายกาจของพลังไฟฟ้าเท่าไร แต่โดยรวมก็ยังดูเก่ง ดูรุนแรงอยู่นะ ก็สู้ได้สนุกเลยแหละ แต่แค่เสียดายการแสดงของเจมมี่ ฟ็อกซ์

    อีกคนที่ต้องขอพูดถึงคือ แฮร์รี่ ออสบอร์น เล่นโดย Dane DeHaan ที่เล่นเรื่อง Chronicle เป็นเด็กเกรียนมีพลังพิเศษนั้นแหละ ผมติดใจคนนี้มาตั้งแต่เรื่องนั้น พอรู้ว่ามารับบท แฮร์รี่ ยิ่งทำให้อยากดูมากเข้าไปใหญ่ พอดูแล้วให้ สอบผ่านแบบฉลุย บอกได้เลยว่า เมิงแจ้งเกิดแบบเต็มตัวแล้วววว ดีฮาน เอย

    เวลาดูสไปเดอร์แมนแต่ละภาคจบทีไร ผมจะมีความรู้สึกแบบ “เฮ้ย อยากดูดี อารมณ์ยังไม่จบเลยเว้ยเฮ้ย” แต่กับภาคนี้ ผมรู้สึก อึมครึม ทะมึนๆ หม่นๆ อารมณ์มันค้างๆ เคว้งๆ ไงไม่รู้ ฮ่าๆๆ เฮ้อออออ

    เอาล่ะ สรุปโดยรวม “ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง” และก็ควรดูแบบ 3 มิตินะครัช ผมว่าจะไปจัดรอบ 2 กับโรง IMAX ซะหน่อย อ๋อ แล้วก็ถ้าใครสนใจจะไปดูในระบบเสียง ATMOS ก็ไม่ต้องไปดูหรอกนะ เสียงมันไม่ได้ดีขึ้นเลย เหมือนระบบเสียงทำมาหลอกๆมากกว่า ไปดูโรงธรรมดานั้นแหละดีแล้วครับ

  16. ผมว่ามันเหมือนซีรี่ส์มากกว่าจะเป็นหนังภาคต่อนะครับ ประเด็นหลักของภาคนี้คือตัวอิเล็คโตร แต่ดันโดนประเด็นอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้องมากลบและแย่งซีนไปหมดเลย และผมสงสัยว่า มีคนแบบตัวร้ายจริงๆหรือ คือมันดูโรคจิตกันทั้งเรื่อง ทั้งอิเล็คโตรเองที่คิดว่าไม่มีใครสนใจตัวเองขนาดนั้น หรือตัวกรีน ก็อบลิน ที่ดูอารมณ์ร้ายจนน่ากลัวก่อนแปลงร่าง ในฐานะที่เป็นแฟนหนังซุปเปอร์ฮีโร่ เรื่องนี้ทำได้หลากรสมากๆครับ แต่มันก็ยังไม่กลมกล่อมเท่าที่ควร

  17. “นี่ไม่ใช่หนังที่ยอดเยี่ยม แต่เป็น หนังที่แฟนๆคอมิคสมควรจะได้รับ” ถ้าเป็นแฟนคอมมิคแล้วรักในตัวสไปดี้แล้วล่ะก็หนังมันจะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี..คนที่ไม่ได้ติดตามคอมมิคก็อาจจะไม่อินหรือไม่สนุกกับสไปดี้เวอร์ชั่นนี้ก็เป็นได้ 5555.

  18. ผมคิดนะ ถ้าไม่ได้เป็นแฟนคอมมิคสไปเดอร์แมนอ่ะ หรือยังจำเจกับสไปดี้เวอร์ชั่นเก่าหรืออะไรก็แล้วแต่นะ ดูสไปเดอร์แมนภาคนี้เวอร์ชั่นนี้ไม่สนุกหรอก..

  19. รู้สึกผิดหวังครับบ…..เรื่อง”ของ”นางเอก….
    รู้สึกชอบตอนเอ็มม่าร่วมฉากกับแอนดรูว์ทุกซีน….
    รู้สึกผิดหวังกับเนื้อเรื่อง….ที่เบาบางในเรื่องของความสัมพันธ์ เพื่อน พ่อ …และอื่นๆ
    รู้สึกชอบ กรีน ก็อบลิน หลงรักตัวละครแฮร์รี่ ออสบอร์นไปเลย
    รู็สึกเฉยๆกับตัวสไปดี้ ทั้งที่เรื่องนี้เป็นเรื่อง สไปเดอร์แมน….-*-
    ป้าเมย์ทำให้ซีนอารมณ์ พีคมากก น่าจะมีเยอะๆหน่อย…55+

    โดยสรุปแล้วว…ผม ผิดหวังครับ แต่ก็ไม่ถึงขนาด สิ้นหวัง ครับ…
    ปล. จนแล้วจนรอดด เฟลิเซีย น่าจะมีบทบาทอะไรต่อไป ชิมิ ?
    ปล.2 ไม่ต้องมีเอ็มเจก็ได้นะ…ไม่ปลื้มมน่ะ
    ปล.3 ผมไม่ใช่แฟนคอมมิค ผมไม่รู้เรื่องจักรวาลของดีซี…ผมแค่ชอบและไม่ชอบแค่นั้น ขอบคุณครับ

  20. ถ้าตัดเรื่องที่ว่าทางค่ายแก้บทกับที่มาที่ไปของตัวละครออก ผมว่าก็โอเคนะ
    บทสไปเดอร์แมนก็ยียวนเหมือนในหนังสือเลย

    แต่ตัวร้ายอารมณ์มันไม่สุดน่ะ ปูบทมาซะเยอะแต่บทจะแพ้ก็แพ้ง่ายๆ

    เต็ม 10 ให้ 8 ละกัน

  21. โดยส่วนตัวชอบการแสดงของเดน เดอฮานครับ ทำให้เห็นแฮร์รี่ ออสบอร์นในแบบที่ต่างจากของเจมส์ ฟรังโก้ทำไว้ แต่เสียดายผู้กำกับใส่เรื่องนี้เข้ามาน้อยไป สิ่งที่ยอดเยี่ยมของภาคนี้คงเป็นฉากแอคชั่น ซีจี และเพลงประกอบ สิ่งที่ไม่ชอบคงเป็นเนื้อเรื่องที่ค่อนข้างตื้นครับ เหมือนมีตัวละครเยอะไป เลยไม่สามารถเจาะลึกมากได้ คงต้องติดตามในโปรเจคต่อๆไป

  22. ส่วนตัวผมเองให้คะแนน 7.5 เต็ม 10
    น่าเสียดาย เพราะผมให้ภาคแรก 8.5 เต็ม 10
    ผมชอบการปูทางตัวละครกรีน ก๊อปลินนะ แต่รู้สึกว่าความสัมพันธ์ของแฮร์รี่และปีเตอร์มันเบาบางไปหน่อย ที่จะทำให้เกิดเรื่องราวความแค้นของกรีน ก๊อปลิน และปมของอีเล็คโตรก็ตื้นเกินไป ทำให้ไม่เชื่อว่าเขาจะทำได้ขนาดนั้นด้วยเรื่องแค่นี้ ถ้าภาคนี้มีอิเล็คโตรเดี่ยวๆ ผมว่าน่าจะมีเวลาเล่าได้สนุกกว่าการที่มีกรีน ก๊อปลินเข้ามาด้วย
    หนังถูกเล่าเรื่องความสัมพันธ์ของทั้ง ปีเตอร์-เกวน, ปีเตอร์-แฮร์รี่, สไปเดอร์แมน-อิเล็คโตร และชีวิตส่วนตัวของปีเตอร์ด้วย ผมรู้สึกมันค่อนข้างยืดเยื้อในกลางๆเรื่อง และเหมือนมันไปไม่สุด เพราะอัดแน่นเรื่องราวเกินไป ผมเดาว่าเรื่องที่มีตัวละครอัดแน่นขนาดนี้ ทางโซนี่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องอยู่มาก และการที่หนังเดินทางไปในทิศทางแบบนี้ ก็ขอเชียร์ให้ลิขสิทธิ์การสร้างหนังสไปเดอร์แมนกลับไปอยู่กับมาร์เวลซักทีล่ะครับ

  23. 1. ใครคิดว่าหนังเรื่องนี้ไม่สนุก.. ควรไปอยู่กับก๊กวิจารณ์ทรานฟอร์เมอร์ภาค 2 555+ อะล้อเล่นๆ
    2. หนังเรื่องนี้ให้คำตอบที่ว่าสไปเดอร์แมนจะสู้กับตัวร้ายสามสี่คนได้ยังไงแล้วนะ…
    3. เป็นเรื่องปกติที่…. เพราะเธอไม่ใช่นางเอก นางเอกคือแมรี่ เจน นะ
    4. การนำเสนอตัวร้ายทำได้ดีมากครับ.. ชอบมาก ภาคนี้จะเน้นไปทางอิเล็คโตรเพราะอิเล็คโตร…
    5. เรื่องรักรักเป็นเรื่องถนัดของพี่มาร์ค เว็บ อยู่แล้วครับ และแกทำได้ดีมาก เป็นที่ถูกใจของสาวๆ หลายๆ คน
    6. บทดีมากครับ.. ใครที่คิดว่าบทไม่ดีแปลว่าคุณๆ ไม่ได้ตั้งใจดูหนังเลยนะครับเนี่ย
    7. ชอบฉากพูดครั้งแรกระหว่าง แฮรี่ กับปาร์คเกอร์มากครับ.. เป็นการให้ความเคารพ ความสัมพันธ์ระหว่างแฮรี่และปีเตอร์ในไตรภาคเก่า ตอนที่แกตายได้อย่างแท้จริง รู้สึกได้เลยครับ
    8. ส่วนฉากแอ๊คชั่นนั้น.. อาจจะดูเวอร์ๆ ไม่ถูกใจใคร แต่ก็เป็นฉากแอ๊คชั่นที่มีการให้”เหตุผล”ทุกฉากครับ
    ถ้าได้รับคำวิจารณ์เรื่อง.. ภาคต่อไปพี่มาร์คเว็บจะต้องปรับปรุง ให้สมจริงขึ้นแน่ครับ ผมเชื่อเช่นนั้น

  24. ภาคแรกดีกว่าครับ (ปกติหนังแนวนี้ภาคต่อมักจะดีขึิ้น)
    ที่ผมไม่ชอบคือพลอตมันเยอะ แล้วเรื่องมันไม่ลื่นครับ มีความสัมพันธ์ทั้ง
    นางเอก-พระเอก พระเอก-พ่อ ไหนจะตัวร้่ายอีก 2 ตัวคือ อิเล็กโตร กับ ออสบอร์น

    ซึ่งผมว่า แฮร์รี่ ออสบอนเวอร์ชั่นนี้น่าสนใจมาก เสียดายที่บทมันพัฒนาตัวละครเร็วเกินไป
    ตัวอิเล็กโตรปูบทมาเหมือนจะมีประเด็นเยอะ แต่ก็ไปง่ายๆเลย
    ติอีกอย่างคือ แอนดรูว กาฟิล เล่นบทดราม่าไม่เข้าทางเลยแหะ (ภาคนี้บทอารมณ์เยอะ เล่นไม่ถึงเลย)

  25. คอมเม้นเยอะมาก ขอสั้นๆนะคับ รู้สึกเหมือนตอนดู The Amazing Spider-Man1 จบเลย คือ

    “Spider-Man 2 ของ แซม ไรมี่ ดีที่สุด ณ ตอนนี้”

  26. ฉากอินเลิฟมีากเกินไป แต่ชอบการแสดงของพระนางคู่นี้ สมจริงมาก ลำดับฉากบางฉากยังไม่สมูทเท่าไร บางฉากควรมาก่อนแต่กลับเอาไว้ทีหลัง คือสลับกันแล้วทำให้บทมันไหลไปเรื่อย พูดง่ายๆ คือ แทนที่จะกระทัดรัด แต่ได้ใจความ เหมือนไอรอนแมน ผมว่าต้องแก้ไขตรงนี้ ฉากแอคชั่นชอบมากทำได้เยี่ยม (แนะนำให้ดู 3D)

  27. บทความนี้สปอยลืเยอะสุดๆ

    ช่วงแรกๆที่สู้กับไรโน เป็นการเปิดตัวที่ดีมาก ฉากยิงใยที่ดูแปลกๆในภาคที่แล้ว ภาคนี้ทำได้ดีขึ้น ผมคิดเลยว่า เหยดดด กูคงได้ฟินแล้วโว้ยยยย

    แต่หลังจากนั้น ผมก็รู้ว่าผมคิดผิด

    คือ มารืค อาจเก่งเรื่องอารมณ์ แต่การเล่าเรื่องนี่ ยังอ่อนหัด ถ้าคิดจะทำหนังที่มีดราม่าเยอะๆ การเล่าเรื่องก็ต้องดี แบบ tdkr ดราม่าเยอะ แต่เทพโนแลนเล่าเรื่องดีมาก ไม่ง่วงสักฉาก แต่กับเรื่องนี้ ถ้าไม่ใช่คนชอบหนังดรแมนติก เกือบหลับ กว่าจะมีแอ็คชั่น ก็หมดอารมณืแล้ว ฉากที่เจ๋งที่สุดคือตอนสู้กับก็อบลิน แต่ดันยาวแค่ห้านาทีกว่าๆ และสิ่งที่โคตรจะหงุดหงิด ก้คือ สร้างหนังเรื่องนี้เพื่อคนอ่านคอมมิค เพื่อแฟนบอย แต่ดันไม่ได้สร้างเพื่อคนดูหนัง ทำยังกะว่าคนดูหนังมีแค่แฟนการ์ตูนอย่างดียว และอิเล้คโตร เปิดมาดีมาก แต่กลับไม่สานต่อปม เหมือนว่าตอนแรกเปิดประเด็นว่าหมอนี่มันโดดเดี่ยว แต่ตอนจบ กับไม่ปิดประเด็นที่อุตสาห์เปิดมาอย่างดี แถมยังจ้างนักแสดงพระกาฬมาเล่น กลับไปให้ความสำคัญกับดราม่า ความรัก แต่ดันละเลยตัวร้าย ทั้งอิเล็กโตร และแฮรี่ ที่เดอฮานเล่นได้ดี แต่ดันไม่เด่นเท่าไหร่ และขอโทษ เอ็งจะทำหนัง ไม่ต้องยึดตามต้นแบับมากก็ได้ ว่านางเอกจะต้องเป้นแมรี่ เจน เป็นเกว้นไม่ได้ ต้องแมรี่ เจนเท่านั้น เกว้นต้องตาย โทดเถอะ ผมดูหนังของไรมี่ ชอบทุกอย่าง แต่แมรี่ เจนภาระปีเตอร์ชัดๆ เทียบไม่ได้เลยกับเกว็น ทั้งตัวบท ทั้งคนเล่น อยากเห็นเหมือนกัน นางเอกที่ไม่ต้องเป้นภาระ และช่วยพระเอก ไม่อยากให้ตายเลย

    และขอบ่นอีกอย่างนึง ว่าเอ็งจะเปิดจักรวาลให้ใหญ่ขึ้น แต่ทำไมต้องเปิดตัวตั้งแต่หนังยังไม่แายด้วย ทำไมไม่ไปเวอรืไพรส์คนดูในหนัง อยากรู้เหมือนกันวาใครคิดให้เปลี่ยนเรื่องย่อ แก่นของหนังภาคแรก คือการตามหาว่าพ่อของปีเตอรืหายไปไหน แต่ทำแบบนี้ มันไม่ต่างอะไรกับการสปอยลืคนดู และลบเลือนแก่นที่แท้จริง เพียงเพื่อจะเปิดเรื่องสู่ภาคแยกที่ไม่ว่าจะมองมุมไหนมันก้เหมือนตามกระแสอเวนเจอรืชัดๆ แถมคำที่โปรดิวเซอร์พูดว่า การเปิดตัวออสคอรืป จะทำให้คนดูรู้สึกว่า มันไม่ใช่การต่อสู้ธรรมดา แตาจะรู้สึกว่ามีอะไรชักไยอยู่

    ขอโทด แต่เอ็งเอาอะไรคิด คือมันจะเป็นอย่างนั้น ถ้าเอ็งไปเปิดเผยในหนัง เล่นเปิดล่วงหน้า นอกจากฟนบอย มันไม่มีใครตื่นเต้นหรอก แถมแทนที่ภาคต่อไปจะได้ลุ้น ว่ามีอะไรแปลกๆ ว่าตัวร้ายเป้นใคร แต่เล่นบอกแบบนี้ สุดท้ายมันก็เดาทาง ว่ามันต้องเป็น spider vs oscorp spider vs oscorp spider vs oscorp วนซ้ำซากไปเรื่อยๆไม่มีอะไรน่าติดตามเลย(จะว่าไป ไอ้คนนี้ ก็คนเดียวกับที่บังคับให้ยัด เวนอมลงภาคสามนี่นา) ยังดีที่ไหนหนังเล่าส่วนนี้ได้ค่อนข้างดี เลยทำให้ภาคต่อของเรื่องนี้ ดูน่ารอคอยบ้าง

  28. ถึง Spider-Man 2 ของแซม ไรมีจะดีที่สุด แต่โดยส่วนตัวผมว่า แซม ไรมี ไม่ใช่ ปีเตอร์ แอบแก่ และเนิร์ดเกินจำเป็นไป ผมกลับชอบตัสละครของ แอนดรู กาฟิล เสียกว่า
    และผมว่าภาคนี้ทำได้ดีกว่า Spider-Man 3 เสียอีก เพราะตัวร้ายไม่ได้ออกมาเยอะจนเละ แต่มีลำดับในตัวซึ้งผมชอบตรงจุดนี้นะ แม้ว่า แฮร์รี่ ภาคนี้จะแบบว่าไงดี เหมือนไม่มีความสัมพันธ์ไรกับ ปีเตอร์ เลยและการเป็นคนชั่วมันง่ายกันขนาดนี้เลยเหรอก็แบบว่า ก็นะ แปลกดี อิเล็คโตรก็ดูสติแตกแบบแปลกๆถึงมันจะแสดงว่าจิตไม่ปกติมาแต่แรกแล้วก็ตาม และดูจะตายง่ายไปด้วยซ้ำ แต่ต้องขอชมว่าการทำฉากต่อสู้ระหว่างสไปร์ดี้ กับอิเล็คโตร ดีมากจริงๆ เพลงประกอบก็เยี่ยม
    ภาคนี้ส่วนที่ชอบที่สุดคงเป็น ป้าเมย์ บทอินมาก ส่วนฉากเกวนผมกลับเฉยๆซะงั้นทั้งที่พยายามปูมาตลอดเรื่องเพื่อฉากนั้นก็ตาม กลับรู้สึกว่าฉากนั้นควรเอาไว้ในภาค3เสียมากกว่าและกรีนก๊อบบลินไม่น่าออกมาในภาคนี้ มันน่าจะพีคกว่านี้อีก เพราะคนดูจะได้มีเวลาซึมซับกับความสัมพันธ์ของทั้ง3คนนี้มากกว่านี้หน่อย แต่ก็นะเขาอยากจะโปรโมท ซินนิสเตอร์ซิกนี่นะ เอาเป็นว่าให้ 7:10 ละกัน
    ปล.ภาคนี้ถ้าสังเกตุดีๆฉากไม่สมเหตุสมผลเยอะมากจนน่าขัดใจจริงๆ อย่างฉากที่สไปร์ดี้ช่วยแม็ก(อิเล็คโตร)ตอนแรก คือรถแม้งชนกันระเนระนาด ดูยังไงต้องมีคนตายแน่ๆ แต่มึงกลับพุ่งมาตั้งไกลเพื่อช่วยคนเก็บพิมพ์เขียวแค่คนเดียว(-_-*)นึกแล้วก็ขัดใจจริงๆ

  29. ผมว่าหนังเรื่องนี้.. ที่ไม่ค่อยมีใครชอบ มันไม่ได้แย่หรอก แต่เพราะมันคงอาร์ตไป จนหลายคนดูไม่เข้าใจ(อาร์ตในที่นี้หมายถึงหลายด้านนะ)
    1. บทก่อไม่ดี.. เอ้า! ไม่ดีตรงไหน ตัวร้ายก่อเน้นอิเล็คโตร เพราะว่าแกจะตายแล้ว เรื่องรักก่อเป๊ะดี มีคลายปริศนาเรื่องพ่อ มีเรื่องดราม่ากับแฮรี่ ตัวร้ายมาให้เห็นก่อครบ มีอธิบายเรื่องพลังของตัวเอก มีผูกเรื่องไปภาคแยก หนังเรื่องนี้ให้คำตอบครบหมดแล้วนะ ไม่ดียังไงเนี่ย ปวดหัวจริง
    2. พระเอกไม่หล่อ แสดงไม่เก่ง สไปเดอร์แมนกวนตีนไป เอ้า!.. ก็กวนตีนมาตั้งแต่ภาคแรกแล้วไง ก็หน้าตาเหมือนเดิมมาตั้งแต่แรกแล้ว

    • ขออนุญาตลบข้อ 3 นะครับ
      มันฟังดูเป็นการประชดประชันคนที่เห็นต่างไปหน่อย
      ควรให้เหตุผลมากกว่าฉบับของไรมี่สู้ฉบับนี้ไม่ได้ยังไง

  30. อ่านความเห็นแล้ว รู้สึกมีหลายความเห็นแอบกัดคนที่ไม่ชอบนะ

    แนะนำว่าอย่าพาดพิงจะดีกว่า อย่าไล่ไปดูภาคเก่า อย่าหาว่าไม่เข้าใจบท

    ผมคนนึงล่ะที่ว่ามันไม่สุดโดยเฉพาะ ความสัมพันธ์ของปีเตอร์กะแฮร์รี่

    แต่ผมว่าคู่พระนางก็เหมาะสมดี ส่วนตัวร้ายหลักยอมรับเลยว่า แรงจูงใจมันเพี้ยนชัดๆ

    ส่วนแฮร์รี่เห็นด้วยที่บทมันพัฒนาเร็วเกินไป น่าจะค่อยเป็นค่อยไปกว่านี้

    สุดท้ายให้ 6.5/10 ให้เยอะเพราะคู่พระนางลงตัวดีเวลาเข้าฉากคู่กัน

  31. คือไม่เข้าใจกับพวกที่บอกว่า หนังห่วยๆๆๆๆ พวกคุณจะอะไรกันนักหนา เขาทำหนังมาดีขนาดนี้ ก็ดีแค่ไหนแล้ว ผมเองก็เป็นแฟนพันธ์แท้ สไปเดอร์แมนนะ ผมว่าภาคนี้มันก้ไม่ได้เลวร้ายอะไรเลยนะ ดูหนังอ่ะไม่ต้องไปพิถีพิถันมาก ดูเอาสนุกสิครับ วิจารณ์ นู้นนี้ว่า บทห่วย ดราม่าห่วย ผมว่าบทหนัง เขาก็ปูเรื่องดีแล้วนะ

    • การที่หนังทำไม่ได้ดีไปกว่าที่ผ่าน ๆ มา นั่นคือความไม่ดีของหนังแล้วครับ เมื่อเทียบกับตัวอย่างที่โปรโมทชนิดบ้าเลือด มันทำให้คนคาดหวังไปแล้วว่าหนังจะเป็นในแนวทางของซุปเปอร์ฮีโร่มากกว่าชีวิตปีเตอร์ แต่เมื่อมันไม่ใช่ความผิดหวังมันย่อมทวีคูณ ยิ่งจากตัวอย่างหนังจงใจใช้ฉากสำคัญที่โดนตัดออกมาเป็นตัวโปรโมทด้วยมันยิ่งทำให้คนผิดหวังมากขึ้น

    • สำหรับผม.. ผมชอบดู 2D เพราะภาพเข้มข้น และได้เห็นงานภาพชัดเจน
      ส่วน 3D ภาพจะมัวเพราะยังไงก็ใส่แว่นไว้อีกชั้นนึง
      แล้วแต่ครับ.. ของอย่างนี้มันต้องลองเอง ว่าเราชอบแบบไหนครับ

    • ผมว่า 3D นะครับเพราะฉากเขาทำมาสวนมากทุกฉาก ต้องยอมรับว่าการถ่ายภาพและเลือกมุมกล้องของภาคนี้ดีจริงๆถึงบางฉากจะดูหลอกแต่ผมว่าไม่น่าเกิน 20% ครับ ดู 3D เลยครับคุ้มแน่ครับ

  32. ผมว่าก็สนุกดีนะ เพราะไมไ่ด้คาดหวังด้วยแหละ .. ตั้งแต่ภาคแรกแล้ว
    ชอบประเด็นต่างๆ ไม่ว่าจะเรื่องพ่อ-แม่ของปีเตอร์ คือมาบิ๊วได้ดีอะคับ ฉีกจากเดิมๆ ผมว่าเค้าทำงานหนักมากเลยนะเรื่องคิดรายละเอียดเนี่ย

    ชอบคับ แต่ถ้าให้ดูอีกรอบก็..ขอว่างๆนะ หนังนานเกิน ให้ 7/10

  33. ผมว่าพระเอกแสดงได้ดี นางเอกก็แสดงได้เยื่ยม เสียดายที่บทมันเน้นไม่ตรงจุด เสียเวลาไปกับเรื่องรักๆ ใคร่ ดราม่าวัยรุ่นตามประสาวัยทีน จนฉากสุดท้าย ทำเอาความร้ายกาจของอิเลตโตและความเจ้าเลห์แสนแสบของกอบลินโดนความรักของทั้งสองคนกลบซะมิดไม่มีชิ้นดี ผมสรุปเลยว่า เป็นหนังฮีโร่ รักวัยรุ่น และตลกร้าย 7/10 และเมื่อสถานะการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้วในภาคนี้ หวังว่าภาคต่อไปทำให้ได้ดีกว่านี้ ถ้าคิดจะสร้างจักรวาลของตัวเอง

  34. เรื่องนี้ดีมากครับ แต่ดีน้อยกว่าภาคแรก มีที่น่ารำคาญอยู่อย่างนึง คือ ดนตรีตอนตัวร้ายปรากฏตัว มันแบบหูจะแตกเลยครับ

  35. ภาคนี้ที่ดีคงเป็นชุดแมงมุมแหละ นอกนั้นพอๆกับ TAS ภาคแรกเลย ถ้าจะบอกว่าเอาใจแฟนคอมมิคนี้มันก็ไม่ใช่ละเพราะในคอมมิคมันน่าสงสารกว่านี้เยอะชีวิตปีเตอร์อะ เพราะผมก็ตามอ่านคอมมิคบ้างอะนะ

  36. ผมว่าภาคนี้ไม่ได้อยู่ระดับเดียวกับ BATMAN FOREVERนะ แต่อยู่ในระดับเดียวกับ watchmen มากกว่า คือชอบก็ชอบสุดโต่ง ถ้าเกลียดก็เกลียดสุดตรีน

    • ผมยังไม่ได้ดู แต่ชอบ”ความเห็น” นี้
      ส่วนตัวผมนะ มีหนังแนวฮีโร่อยู่2เรื่องที่ดูโรงรอบแรกไม่สนุก คือwatchmen กับbatman begins แต่พอซื้อแผ่นมาดูซ้ำรอบ สอง สาม ซ้ำอย่างตั้งใจกลับสนุก

    • ใช่เลยครับ ไม่ชอบคือไม่ชอบ แต่ชอบก็ชอบเลย
      ผมชอบนะ ชอบความดราม่าของหนังครับ
      และผมเองก็ชอบ Watchmen มากๆด้วย!

  37. ถ้าคนอ่านคอมมิคจะชอบภาคนี้เพราะมันทำเหมือนในคอมมิคมากอาจ
    แต่ถ้าสำหรับคนดูหนังทั่วไปภาคนี้อาจเป็นภาคที่แย่ที่สุด

  38. ขอแปะแค่การที่โซนี่พยายามยัดเยียดประเด็นการเปิดตัว sinister 6 เข้ามาทำให้บทภาพยนต์ภาคนี้เข้าขั้นป่วย
    ส่วนที่เหลือส่วนตัวผมแฟนคอมมิค ให้ 7.5 ครับ

  39. ทำไมโปรเตอร์หนัง ตรงไรโน่ถึงมีคำว่า หม้อน้ำ รถยนต์ อยู่ด้วยอะคับเกี่ยวอะไรกับคนไทยหรือป่าวคับในการ ออกชุดตัวไรโน่คับ

  40. ไม่รู้ว่าทำไม ผมถึงชอบ ภาพยนต์เรื่อง spider-man มากกว่า ภาพยนต์เรื่อง the amazing spider-man<คหสต.คือ มันไม่อเมซิ่งเลยซักนิดเดียว ที่ผมบอกชอบ spider-man เพราะผมชอบทุกอย่างในภาพยนต์ ไม่ได้เจาะจงที่ตัวโทบี้หรือใคร *สรุป เชียร์ภาคเดิมนักแสดงเดิม ผกก.ทีมงานเดิม และ **ปล.คิดถึง บก.เดย์ลี่บูเกิ้ลมาก 5555 ***แต่ไม่ได้บอกว่าภาคใหม่ไม่ดี

  41. ดูแล้วผิดหวังมาก รอบที่ดูมีคนเดินออกจากโรงด้วย เราก็ภาวนาขอให้มันรีบจบซะที เฮ้อ สู้หนังไทยก็ไม่ได้

Leave a Reply to TokyoAutoShopCancel reply