ดูมาร์ค รัฟฟาโล และจูเลีย โรเบิร์ต สู้เอดส์ในตัวอย่างแรกของหนังทีวี The Normal Heart
พักหลังมานี้ ภาพยนตร์และหนังชุดทางทีวีของเอชบีโอได้ทีมผู้สร้างและนักแสดงระดับเกรดเอบวกของฮอลลีวู้ดมารับบทและอำนวยการสร้างกันมากมายครับ จำได้ว่าเคยอ่านความเห็นของสตีเวน โซเดอร์เบิร์ก บอกว่าเพราะบริษัทผู้สร้างหนังในปัจจุบันไม่ค่อยนิยมสร้างหนังที่ดราม่าเข้มข้นขายการแสดงแบบที่เคยสร้างกันบ่อยๆ ในช่วงยุค 80-90 แล้ว ผู้กำกับหลายคนจึงหอบเอาโครงการหนังในฝันของพวกเขาไปสร้างเป็นหนังฉายทางทีวีแทน หนัง Behind the Candelabra ที่นำแสดงโดยไมเคิล ดักลาส และแมต เดมอน ก็เป็นอีกโครงการหนึ่งที่ผู้สร้างฮอลลีวู้ดไม่ค่อยให้ทุนโซเดอร์เบิร์กสร้างด้วยเหตุผลว่า “เกย์เกินไป” โซเดอร์เบิร์กจึงนำหนังไปทำกับเอชบีโอ
หนังเรื่อง The Normal Heart ของผู้กำกับไรอัน เมอร์ฟี่ จาก Eat, Play, Love และ American Horror Story เป็นอีกโครงการที่เริ่มต้นคล้ายๆ กับ Behind the Candelabra ครับ ตรงที่เมอร์ฟี่และมาร์ค รัฟฟาโล วางแผนที่จะสร้างเป็นหนังในช่วงแรก และทาบทามให้จูเลีย โรเบิร์ต มาร่วมแสดงด้วย การหาทุนสร้างที่ยากทำให้ต้องกลายเป็นหนังฉายทางทีวี แต่จากตัวอย่างหนังที่ออกมาก็ดูแล้วมีศักยภาพจะเป็นหนังชีวิตเข้มข้นที่ให้นักแสดงได้แสดงศักยภาพกันอย่างสุดพลัง จนน่าจะเป็นบทบาทที่มีโอกาสได้เข้าชิงรางวัลกันเลยครับ
หนังดัดแปลงจากบทละครเวทีของแลรี เครเมอร์ ซึ่งมีรัฟฟาโลที่นอกจากรับหน้าที่อำนวยการสร้างแล้วก็ยังรับบทนำด้วยเป็นเน็ด วีคส์ ตัวละครที่ได้แรงบันดาลใจจากเครเมอร์เอง เป็นเรื่องราวในยุค 80 ที่เอดส์กำลังระบาด ยังไม่ได้มีการพัฒนายามารักษา และเน็ดก็พยายามดิ้นรนเพื่อให้ชาวนิวยอร์กได้รับรู้ถึงการระเบิดของเอดส์ และร่วมมือกับเพื่อนที่เป็นเกย์นักรณรงค์ และเพื่อนในวงการแพทย์ เพื่อเปิดโปงการพยายามปิดข่าวของสภาเมืองนิวยอร์ก ส่วนจูเลีย โรเบิร์ต รับบทเป็นแพทย์หญิงเอ็มมา บรูกเนอร์ ที่นั่งรถเข็นเพราะเคยป่วยเป็นโปลิโอ ซึ่งรักษาผู้ป่วยเอดส์มาหลายคน และพยายามทำให้ทุกคนรับฟังถึงการระบาด
หนังยังมีจิม พาร์สัน รับบทเป็นทอม โบ้ทไรท์ นักรณรงค์สิทธิเกย์ ซึ่งเคยรับบทนี้มาก่อนในฉบับละครเวที, แมท โบเมอร์ เป็นฟีลิกซ์ เทอร์เนอร์ นักข่าวที่พยายามช่วยตีแผ่และกลายมาเป็นคนรักของเน็ด และเทย์เลอร์ คิทช์ รับบทบรูซ ไนลส์ นักการธนาคารทีปกปิดว่าตัวเองเป็นเกย์ แต่ภายหลังกลายเป็นนักรณรงค์ต่อสู้เอดส์
หนังจะฉายทาเอชบีโอในอเมริกา 25 พฤษภาคมครับ บ้านเราคงได้ชมทางเอชบีโอเอเชียหลังจากนั้น แต่อาจถูกตัดบางฉากที่เกี่ยวกับเกย์ออก เพราะต้องผ่านการเซ็นเซอร์ของทั้งภูมิภาค คลิกชมตัวอย่างด้านใน
เดอะฮัลค์ นายเปลี่ยนไปเยอะนะ ตั้งแต่ thanks for sharing ละ
อยากเห็นเชลดอน!!
เพิ่งดูจบ ชอบมากค่ะ จริงๆดูประกาศรางวัล Gloden Globe แล้วเห็น Matt Bomer ได้ เลยไปหาดู เหมาะแล้วที่ได้รางวัลค่ะ