ตามคลิปสัมภาษณ์เบื้องหลังหนัง Nymphomaniac ตัวแรกที่ปล่อยออกมา ไชอา ลาเบิร์ฟ พ่อหนุ่มนักแสดงเก่าจากหนังดิสนี่ย์ ซึ่งได้บทเจอโรมในหนังอีโรติกมหากาพย์โจ๋งครึ่มของผู้กำกับลาร์ส ฟอน เทรียร์ เรื่องนี้ บอกว่าผู้อำนวยการสร้างของหนังขอให้เขาส่งรูปองคชาติ หรืออาจเรียกให้น่ารักว่า “ไชอาน้อย” ไปให้ เพื่อแลกกับการได้เล่นบทในหนัง
“ข้อมูลแรกที่เราได้ และผมคงไม่มีวันลืมเรื่องนี้ เพราะว่าทีมงานของผมมีปฏิกิริยาออกมาแบบกลัวกัน ก็คือคำร้องขอจากฝ่ายงานสร้าง ไม่ใช่ลาร์ส ให้ส่งภาพถ่ายองคชาติของผมไปให้”
ลาเบิร์ฟยอมทำตามคำร้องขอ ซึ่งเขาเชื่อว่าเป็นการทดสอบว่าเขาพร้อมจะเล่นบทหนังที่โจ๋งครึ่มนี้แน่ไหม แล้ว 20 นาทีต่อมา เขาก็ส่งภาพถ่ายไปให้ ทำให้ทีมงานมั่นใจว่าเขาพร้อม
แล้วทำไมลาเบิร์หต้องลงทุนขนาดนี้ เขาบอกว่ามันเป็นโอกาสที่จะทำให้เขาได้รับบทที่มีด้านมืดมากขึ้น “ก่อนหน้านี้ในอาชีพของผม ผมรับบทเป็นคนธรรมดาสามัญที่เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์อันเหลือเชื่อ เจอโรมเป็นโอกาสให้ผมได้เล่นบทคนที่กักฬระ หยาบคาย เลวทราม และมีอำนาจนิดๆ”
คำให้สัมภาษณ์นี้ดูเหมือนจะต่างจากปีที่แล้วตอนเริ่มงานสร้างที่ลาเบิร์ฟเล่าว่าเขาต้องส่งคลิปของการมีเซ็กซ์ของเขากับแฟนสาวไปให้ครับ ลาเบิร์ฟเคยเล่าด้วยว่าในหนัง นักแสดงต้องมีเซ็กซ์กันจริงๆ แต่ผู้อำนวยการสร้างออกมาบอกทีหลังว่าเป็นแค่การเสแสร้งว่ามีเพศสัมพันธ์ จากนั้นใช้นักแสดงแทนมาเล่นฉากที่ต้องเห็นอวัยวะเพศด้านล่างแทน รวมถึงการทำเทคนิคพิเศษเพื่อให้ดูว่านักแสดงเหล่านี้มีเพศสัมพันธ์กันจริงๆ
แต่หลังจากได้บทแล้ว ปัญหาเรื่องภาษาดูเหมือนจะเป็นอุปสรรคตามมาครับ “ลาร์สไม่ได้เขียนมาเป็นภาษาอังกฤษ มันต้องแปลออกมา และก็มีบางอย่างที่ตกหายไประหว่างการแปลความ มุขตลกที่ผมไม่เข้าใจตอนที่อ่านมัน…ผมไม่คิดว่าผมเข้าใจทั้งหมด แต่หลายอย่างทำให้ผมอึ้ง หลังจากได้ดูหนังแล้ว ทุกอย่างจึงกระจ่างอย่างรุนแรง ในตอนนั้นมันไม่สมเหตุผล แต่ผมเชื่อใจลาร์ส เพราะงานที่แย่ที่สุดของเขาดีกว่างานที่ดีที่สุดในฝันที่ดีที่สุดของผม”
ในการเข้าถึงตัวละคร ลาเบิร์ฟเล่าว่า “เราต้องถามตัวเอง เราคือคนที่ชอบท้าตีท้าต่อย หลงตัวเอง และดึงมันออกมา ขยายมันทั้งหมดให้ใหญ่ขึ้น ผมจึงเป็นเหมือน American Psycho ที่ไม่มีฉากฆ่าฟัน หลายอย่างต้องขอบคุณคริสเตียน เบล ในหนังเรื่องนั้น เพราะเจอโรมในความคิดของผมคือคนที่หลงตัวเอง และนึกถึงแต่ตัวเอง”
ผมไม่คิดว่า Nymphomaniac จะได้เข้าฉายในบ้านเราครับ หนังเรต 20+ แบบนี้ทั้งเสี่ยงต่อการไม่ได้รับอนุมัติให้ฉาย และถึงได้ฉายก็ต้องฉายในวงจำกัดมาก อาจไม่คุ้มค่าพอสำหรับผู้จัดจำหน่าย แต่หนังภาคแรกจะได้เข้าฉายในสหรัฐมีนาคมนี้ และภาคสองในเมษายนครับ
คลิปสัมภาษณ์อยู่ด้านในครับ
