มาร์ก ฟอสเตอร์ ไม่กลับมากำกับภาคต่อ World War Z และฉากจบดั้งเดิม
World War Z ภาคต่อ จำเป็นจะต้องหาผู้กำกับใหม่เสียแล้วครับ แบรด พิตต์ ให้สัมภาษณ์แก่เดอะ ฮอลลีวู้ด รีพอร์เตอร์ ว่า มาร์ก ฟอสเตอร์ ซึ่งกำกับภาคแรก จะไม่กลับมากำกับภาคต่ออีก
โครงการหนังภาคต่อสงครามโลกซอมบี้ในตอนนี้ “อยู่ในระยะตั้งไข่” ตามที่พิตต์ซึ่งรับหน้าที่ร่วมอำนวยการสร้างด้วยบอก “เรายังคุยกันอยู่ เราจะสืบหาบทหนัง เรามีแนวคิดเยอะมากที่จะดึงมาใช้ ยังไม่มีใครเขียนอะไร แต่เรากำลังระดมความคิดอยู่”
เดิมที World War Z มีกำหนดฉายในปี 2012 แต่เลื่อนมาฉายซัมเมอร์ปีนี้ เพื่อถ่ายซ่อมฉากจบใหม่ที่สมเหตุผลกว่า ซึ่งทำให้เกิดข่าวลือว่าพิตต์กับผู้กำกับฟอสเตอร์ทะเลาะจนไม่มองหน้ากัน แต่เดมอน ลินเดลอฟ ซึ่งถูกเรียกตัวให้มาเขียนบทฉากจบใหม่ยืนยันว่าไม่เคยเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว “เรื่องที่ว่าพวกเขาไม่คุยกันนั้น ผมไม่เห็นกับตา และที่สำคัญกว่านั้น เวลาที่แบรดคุยถึงมาร์ก และมาร์กคุยถึงแบรด ต่างให้เกียรติกันดี ราวกับว่าเป็นหุ้นส่วนทางความคิดสร้างสรรค์ที่พยายามจะแก้ปัญหาด้วยกัน”
สำหรับฉากที่ถูกถ่ายทำใหม่ของ World War Z รายงานจาก Movies.Com บอกว่า เริ่มต้นตั้งแต่ตอนที่เครื่องบินออกจากเยรูซาเล็มครับ เหตุการณ์ระทึกขวัญบนเครื่องบินจนถึงตอนที่ไปสถาบันทางการแพทย์ที่เวลช์จนจบ เป็นฉากที่ถ่ายทำใหม่ทั้งสิ้น ของเดิมก็คือเครื่องบินปลอดภัยแล้วไปลงจอดที่มอสโก ใครที่ติดเชื้อถูกประหารหมด ที่เหลือรวมถึงเจอรี่ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารรบกับซอมบี้ เจอรี่ถูกยึดโทรศัพท์
หลายเดือนต่อมา เจอรี่ได้กลายเป็นกำลังสำคัญของกองทัพกวาดล้างซอมบี้ของรัสเซีย และมีส่วนช่วยให้ทหารรัสเซียเอาชนะซอมบี้ได้ในสงครามครั้งใหญ่ที่จตุรัสแดง ซึ่งมีฉากใหญ่กว่าที่เยรูซาเล็ม เพราะพบว่าอากาศหนาวจัดทำให้ซอมบี้ขยับตัวไม่ได้ เจอรี่ยังได้ช่วยพลทหารหญิงที่มาด้วยกันจากเยรูซาเล็มจากทหารรัสเซียที่ข่มขืนเธอ และได้โทรกลับไปหาภรรยาในที่สุด
เมื่อโทรกลับไป เจอรี่พบว่าภรรยาอยู่ที่ค่ายลี้ภัย ซึ่งทุกคนที่จะอยู่รอดได้ต้องมีบางอย่างแลกเปลี่ยน ภรรยาของเจอรี่จึงใช้ตัวเอง เธอยอมมีอะไรกับทหารที่เคยช่วยพวกเขาจากหลังคาตึก (แมทธิว ฟ็อกซ์) เพื่อแลกกับความอยู่รอด เจอรี่จึงเสาะหาเรือและเดินทางพร้อมกับเพื่อน กลับไปหาภรรยา
**หมายเหตุ** ขอแก้ข้อความย่อหน้าสุดท้ายจากความว่า “ทาสรัก” เป็นใช้ตัวเองเพื่อแลกเปลี่ยนกับความอยู่รอดครับ คำเดิมอาจห้วนและให้ภาพอีกแบบเกินไป
ดีนะที่ได้พี่เดมอน มาเขียนบทเพิ่มให้
ผมว่าแนวคิดตอนจบแบบเดิม มันเกล่อๆ ชอบกล
“เจอรี่พบว่าภรรยาอยู่ที่ค่ายลี้ภัยและต้องตกเป็นทาสรักของทหารที่เคยช่วยพวกเขาจากหลังคาตึก”
ใครต้นคิดบทนี้ครับเนี่ย คนแต่งละครหลังข่าวแถวนี้เรอะ
เห็นด้วยๆ
ที่เคยอ่านเรื่ิงย่อ มันไม่เชิงทาสรักนะครับ เเต่ประมาณว่าด้วยตัวเป็นหญิงลำพังกะลูก ในภาวะวิกฤตเลยต้องหาผู้ชายมาช่วยเหลือ ให้ชีวิตดำเนินต่อได้
น่าจะคล้ายๆ ตัวละคร เชน ที่มาดูแลเมียกับลูกพระเิอกใน Walking Dead แน่เลยครับ
รู้สึกเห็นด้วยกับการเปลี่ยนตอนจบครับ = =
แต่ก็เสียดายฉากสงครามครั้งใหญ่ที่จตุรัสแดง เพราะหลังจากนั้นหนังดรอปไปเยอะ
ถ้าเป็นไปตามข่าวที่ออกมาจริง ก็สมควรด้วยประการทั้งปวงแล้วครับที่มีการเปลี่ยนบทช่วงหลัง
แต่ผมกลับชอบฉากจบนะครับ ดูมันระทึกขวัญและได้อารมณ์ลุ้นกว่าฉากที่เน้นยิงเอามันส์กันมากกว่า
ก็นับเป็นโชคดีแล้วที่งานนี้ สตูดิโอ สั่งให้มีการแก้ฉากครึ่งหลังใหม่
เสียดายที่เขาไม่เอาฉากจบอีกอันมาใส่ในแผ่น blu ray T-T
รู้สึกเสียดายเงินนิดๆ
เพราะพบว่าอากาศหนาวจัดทำให้ซอมบี้ขยับตัวไม่ได้ … ไม่ต้องเป็นซอมบี้ผมก็ขยับตัวลำบากนะ ถ้าเป็นที่รัสเซีย ดูไม่น่าเป็นการค้นพบเลย
ไหนๆก็ถ่ายมาแล้วก็ใส่ๆมาให้ดูหน่อยก็ดีครับ อยากดูเหมือนกัน ^^
ดีแล้วที่เขียนบทใหม่
ฉากจบจริงที่ได้เห็นในหนังนี่ เทพมากๆ
ชอบแบบที่ฉายโรงครับ นำเสนอได้เล็กแต่ใหญ่ น้อยแต่มาก
ฉากจบแบบที่เห็นๆกันเจ๋งกว่าเยอะ ซีนค้นพบโคตรกดดันและโคตรเท่เลย แต่ก็อยากดูฉากที่จตุรัสแดงเหมือนกัน T^T
.
ที่จริงมีฉากจัตุรัสแดงก็ได้นะ แล้วพระเอกก็แอบเห็นว่าซอมบี้ไม่ทำร้ายคนติดเชื้อ
จึงหาทางสืบหาศูนย์วิจัย จนได้ว่า มีเหลืออยู่อีกที่ ที่ยังไม่โดนโจมตี แต่การจะเข้าไปก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
จึงพูดให้นายทหารรัสเซียคนนึงคล้อยตาม แล้วนายทหารจึงแอบพาพระเอกไปที่ศูนย์วิจัยพร้อมกับทหารสาว
จากนั้นก็ตามเนื้อเรื่องเดิม
.
ฉากจบในรัสเซีย ออกแนวเครียดนะเนี่ย มีเรื่องการข่มขืนด้วย แต่อย่างว่าถ้าเกิดเหตุการณ์นั้นจริงๆ คงไม่มีใครมามัวคิดแต่เรื่องศีลธรรมกันหรอก แล้วหนังก็จะกลายหนังสงครามแบบเต็มตัวเลย เข้ากับชื่อหนัง World War Z พอดี ฉากจบในโรงก็ถือว่าลงตัวไปอีกแบบ แต่อยากเห็นการรบระหว่างทหาร พลเรือน กับซอมบี้แบบเต็มรูปแบบมากๆ
รู้สึกว่า ถ้าแบรดพิตต์เป็นคนตัดสินใจเองว่า ท้ายเรื่องที่เล่ามา ห่วยเกินรับได้ ถือว่าเฮียเป็นคนใจกล้ามากๆ กล้าทิ้งเงินหลายสิบล้านเพื่อสร้างตอนจบใหม่ ที่อาจจะไม่อลังการเท่าพล็อตทีีเล่ามา (และแอบลดต้นทุนตอนจบใหม่ด้วยซ้ำ) แต่เป็น peak ที่ทำให้ดูแล้ว รู้สึกว่า “อิ่ม” หลังดูหนังจบ (เรื่่องย่อที่เล่ามา ถ้าเป็นแบบนั้นจริง คงไม่ประทับใจหลังออกจากโรงเท่าไหร่)
จบแบบที่ฉายดีกว่าจริงๆ แต่อยากดูที่ถ่ายมา ทั้งทหารหญิงโดน และ เมียพระเอกโดน