วิน ดีเซล แลกค่าตัว Tokyo Drift กับลิขสิทธิ์ตัวละคร Riddick

Riddick tokyo driftดูเหมือนว่าวิน ดีเซล ไม่ได้แค่เล่นเป็นริดดิคเท่านั้นครับ แต่เขายังเป็นเจ้าของบทนี้โดยตรง รวมถึงในทางกฎหมายด้วย ตามรายงานของเดอะ ฮอลลีวู้ด รีพอร์เตอร์

ดีเซลรับบทเป็นริดดิคในหนัง Pitch Black ที่ออกฉายปี 2000 ซึ่งแจ้งเกิดให้เขาเป็นที่รู้จักในระดับวงกว้าง และทั้งเขากับผู้กำกับเดวิด ทูอี้ ก็ตั้งใจสานต่อเรื่องราวให้ตัวละครนี้ แต่ความล้มเหลวของ Chronicle of Riddick ในปี 2004 ได้ทำให้ชีวิตของริดดิคบนจอหยุดอยู่แค่นั้น โชคดีที่ดีเซลใช้กลยุทธในการหาทางสร้างหนังต่อได้จนออกฉายกันยายนปีนี้ในที่สุด

ดีเซลได้โอกาสที่จะสร้าง Riddick เป็นหนังอีกครั้งจากการที่ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส ขอให้เขารับบทรับเชิญใน The Fast and the Furious: Tokyo Drift ในปี 2006 เพื่ออัดพลังให้หนังภาคต่อเรื่องนี้ใหม่ และใช้การรับเชิญของดีเซลเป็นสัญญาณว่าเขาจะกลับมาเป็นศุนย์กลางของหนังอีกครั้ง ดีเซลยอมรับข้อเสนอ แต่แทนที่จะขอรับเงินเป็นค่าตัว เขาขอให้ค่ายหนังมอบลิขสิทธิ์ตัวละครริดดิคแก่เขาและวัน เรซ โปรดักชั่น ของเขาแทน

การที่ดีเซลต้องการเป็นเจ้าของตัวละครนี้ เพราะมันผูกพันกับเขาอย่างมากนั่นเอง มันเป็นบทนำแรกของเขาที่ทำให้เขาโด่งดัง เพราะก่อนหน้านี้ เขาเพียงรับบทสมทบใน Saving Private Ryan และ Boiler Room เท่านั้น “มันเป็นเรื่องราวชีวิตของผม” ดีเซลบอก

ดีเซลไม่ใช่ตัวเลือกแรกที่จะให้มารับบทเป็นริคดิค ผู้กำกับทูอี้บอกในบทความว่าโพลิแกรมต้องการให้สตีเวน ซีกัล มาแสดง แต่ทูอี้กับผู้อำนวยการสร้างท็อด ฟิลด์ เห็นว่าบทนี้คือตัวของดีเซลมากกว่า และสู้จนเขาได้บทมา

หลังจากดีเซลได้ลิขสิทธิ์ตัวละครแล้ว เขากับผู้กำกับทูอี้ก็ประชุมกันในปี 2009 ในห้องครัวที่บ้านของดีเซล เพื่อหาแนวทางของเนื้อเรื่องใหม่ และได้เลือกให้หนังกลับสู่รากเง้าเดิมแบบภาคแรก แทนที่จะเป็นไซไฟลิเกอวกาศแบบภาค 2 ที่ไม่ประสบความสำเร็จทางรายได้ จากนั้นก็นำโครงการไปขายในตลาดหนังที่เทศกาลหนังเบอร์ลินปี 2009 เพื่อหาผู้ร่วมลงทุน

แต่ดีเซลก็ประสบปัญหาอีกในปี 2012 เมื่อกองถ่ายหนังไปถึงมอนทรีออล แต่เงินเกิดหมดเพราะกรมธรรม์ค้ำประกันหมดอายุ ทำให้ถูกสั่งพักการถ่ายทำ “เราแทบจะเรียกได้ว่าถูกไล่ออกจากเมืองเลย” ผู้กำกับทูอี้บอก ดีเซลจัดการช่วยให้หนังได้ถ่ายทำต่อด้วยการเอาบ้านไปจำนองเพื่อเอาเงินมาจ่ายล่วงหน้า เขายอมรับเลยว่าถ้าหนังถ่ายทำไม่เสร็จ เขาจะไม่มีบ้านอยู่แน่ๆ

พวกเขาได้ถ่ายทำกันต่อ และสุดท้ายใช้งบถึง 40 ล้านเหรียญ มากกว่า 35 ล้านเหรียญที่วางแผนแต่ทีแรก และถ่ายทำกันเสร็จภายใน 48 วัน จากนั้นยูนิเวอร์แซลที่ปล่อยลิขสิทธิ์ตัวละครนี้ไปก็เข้ามาช่วยเหลือในแง่การเป็นผู้จัดจำหน่ายหนังให้ และให้ Riddick ได้คืนชีพบนจอในที่สุด

เมื่อกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ดีเซลใช้ช่วงเทศกาลวาเลนไทน์บอกรักและขอบคุณแฟนคลับของเขาที่สนับสนุนเขามาตลอดด้วยการร้องเพลง “Stay” ของริฮันนา และมีคนอัพโหลดคลิปลงยูทูบครับ ชมได้ที่ด้านใน

18 comments

  1. ถึงไม่ค่อยชอบตัวหนังภาคแรกมากนัก และตัวภาคใหม่นี้จะดูเหมือนๆเดิมก็ตาม
    แต่ผมนับถือความพยายามของเค้าเลยจิงๆ

  2. .
    เอาบ้านไปจำนองเพื่อเอาเงินมาข่ายล่วงหน้า <<เอาเงินมาจ่ายล่วงหน้าป่าวครับ อ่านแล้วงงๆ ^ ^
    .

  3. คงประทับใจที่ตัวเองดังจากตัวละครตัวนี้มั้งเลยจะเอามาเก็บไว้แล้วปั้นเองอีกรอบ เดานะครับ 55

  4. .
    ต่อให้ดังคับฟ้า ก็ยังต้องสู้จนหน้าทิ่มดิน

    เป็นคนที่ไม่ลืมว่าตัวเองเกิดมาจากอะไรจริงๆ

    .

  5. อย่าลืมนะว่า บท Riddick นี่แหละ เฮียวินแกประจับใจมาก จน Tigon Studios (สตูดิโอสร้างเกมของเฮียวินเค้า) สร้างเกมจากบท Riddick มาแล้ว 2 รอบ (แถม Review ของนักวิจารณ์สำนักข่าวเกมดังๆ หลายแห่ง ยังให้คะแนนถือว่าสูงเลยทีเดียว)

    เรียกได้ว่า ตัวละคร Riddick นี่ เป็นตัวทำเงินของแกอีกด้วย ทั้งหนังและเกม

Leave a Reply to DePeCancel reply