หวังว่าคงไม่ช้าเกินไปที่จะเปิดพื้นที่สำหรับหนังที่เข้ามาสักพักใหญ่แล้วให้ได้ออกความเห็นกันนะครับ เริ่มจาก The Wolverine ที่เป็นการกลับมารบบทวูล์ฟเวอรีนในหนังเดี่ยวๆ ของตัวเองอีกครั้งของฮิวจ์ แจ็คแมน ตามความเห็นของนักวิจารณ์แล้วค่อนข้างไปในทางบวกครับ Rotten Tomatoes ประเมินจาก 203 บทวิจารณ์ได้ผลออกมาว่ามีนักวิจารณ์ที่ชอบ 68% คะแนนเฉลี่ย 6.3/10 ครับ เป็นคะแนนที่ดีกว่า X-Men Origins: Wolverine (37%) และ X-Men: The Last Sand (57%) แต่ต่ำกว่าหนัง X-Men ภาคที่เหลือทั้งหมดที่ได้ความชอบเกิน 80% กันหมด ความเห็นโดยสรุปจากนักวิจารณ์ต่อหนังก็คือ ชอบที่ซื่อตรงกับคอมมิคในแง่การนำเสนอตัวละคร แต่องก์สุดท้ายของหนังที่ดูการ์ตูนเกินไป ทำให้หนังถูกตัดคะแนนไปเยอะ
แต่คำวิจารณ์แบบเดียวกันไม่เกิดขึ้นกับ Percy Jackson: Sea of Monsters ครับ การประเมินของ Rotten Tomatoes พบว่ามีนักวิจารณ์ชอบเพียง 39% และได้คะแนนเฉลี่ย 5/10 จาก 98 วิจารณ์ ซึ่งเป็นคะแนนวิจารณ์ที่น้อยกว่าภาคแรก (49%) ที่ก็ไม่ได้คำวิจารณ์ด้านดีสักเท่าไหร่อยู่แล้ว ความเห็นโดยรวมบอกว่าโครงเรื่องกับตัวละครดูซ้ำกับเรื่องอื่นๆ มากเกินไปจนเฝือ และเดาทางได้ ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ได้คะแนนไม่มาก
Kick-Ass 2 ก็ได้คะแนนจากนักวิจารณ์น้อยเช่นกัน ได้เพียง 28% และ 4.7/10 จากการประเมินของ Rotten Tomatoes ซึ่งส่วนตัวแล้วคิดว่าหนังสร้างสไตล์ออกมาได้ไม่โดนใจนักวิจารณ์เท่าภาคแรก จึงทำให้มีการกดคะแนนเยอะมากครับ
ผมยังไม่ได้ดูทั้งสามเรื่อง ยังไม่มีความเห็นครับ ขอให้เป็นหน้าที่ของผู้อ่านเว็บทุกท่านแล้วกันครับ
The Wolverine ในฐานะแฟนการ์ตูน ผมว่ามันคือหนังที่ตีความโลแกนได้สุดยอดมากๆครับ แม้จะไม่ได้ซื่อตรงกับการ์ตูนต้นฉบับของคริส แคลมอนต์ เป๊ะๆ แต่การนำเสนอตัวละครออกมาดีมากๆ เหมือนหนังญี่ปุ่นที่ทำโดยฮอลลีวูดเลย ที่สำคัญ ทาโอะ โอกาโมโตะ น่ารักมาก > <
Percy Jackson 2 หนังดูเด็กมากๆ ไม่เหมาะกับคนที่หวังจะได้แบบตอนดู LOTR หรือ Harry Potter เพราะหนังค่อนข้างสนุกแบบไร้มลพิษมากๆ พอๆกับภาพแรกเลยครับ แต่หนังก้สนุกดูเพลินไปจนจบไม่น่าเบื่อ ตัวละครก็มีสเน่ห์ดี วัยรุ่นน่าจะชอบ
ส่วน Kick-Ass 2 ยังไม่ได้ชมเลย
หนังพี่โลแกน ดีในระดับนึงครับ…ถือว่าสนุกใช้ได้ดีเดียว ทำให้ผมชอบ ญี่ปุ่นขึ้นมาอีกเสต็ปนึงเลย จากเมื่อก่อนคะแนนหดหายช่วงโอลิมปิก
เพอร์ซี่ ยังไม่ได้ดูครับ …แต่ผมเป็น แฟนหนังสือทั้ง10เล่มและเล่มต่อๆไป ยังไงผมก็ชอบครับ
คิกแอส….สนุกน้อยกว่าภาคแรกครับ ทื่อๆ และ ไร้อารมณ์ร่วมครับ
และที่อยากจะประกาศกร้าววคือ…… นักรบครึ่งเทวดา ผมอยากดูมาก แต่พอได้ไปดู
โคะตะระ กากกกกกกเลยครับ ไม่น่าเชื่อว่านี่คือหนังฮอลลีวู้ด เสียดายนางเอก เสียเวลากับหนังเรื่องนี้มาก
และหนังเรื่องนี้ กลายเป็น หนังห่วยที่สุดตลอดกาลของผมไปแล้ววว
..พี่วูล์ฟเล่าเรื่องได้น่าสนใจ มีมุขที่น่าหยิกแบบไม่น่าเชื่อ แต่ออกมาดูดี
ข้อเสียเดียวคือการเชื่อมโยงอารมณ์ไปสู่ความสัมพันธ์ของตัวละครในฉากจบดูยัดเยียดไปนิดนึง..
..เพอร์ซี่ ขนาดไม่หวังมากยังแอบผิดหวัง..กะได้ดูแฟนตาซีเพลินๆแต่เจอกับอาการอิหลักอิเหลื่องัยไม่รุ
สิ่งเดียวที่อินในเรื่องคือม้านิลมังกร..เจ๋งใช้ได้..
..คิกแอส ดูดีช่วงครึ่งแรก..แต่ช่วงท้ายดูทิ้งความสำคัญของตัวละครแล้วตัดเข้าฉากไคลแม็กส์ที่ดูแล้วอารมณ์ร่วมยังไม่เท่าฉากก่อนหน้าตอนเหตุการณ์งานศพด้วยซ้ำ..ความเกรียนแบบคลาสสิคหายไปเกือบหมด…ออกจะซาดิสม์ลูกเดียวซะมากกว่า
ดูเเต่ Kick-ass 2 หนังเน้นความสมจริงในการเป็นฮีโร่ขึ้นมากกว่าภาคเเรก ภาคเเรกผมให้ 8 ภาคนี้ให้ 7.5 เพราะมันดราม่ากว่าภาคเเรกเยอะเเต่ผมชอบนะ
Wolverine ภาคนี้ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นภาคแยกจริงๆ และแทบจะไม่เกี่ยวกับภาคไหนๆเลย ถ้าไม่ใส่จีน เกรย์ เติมลงมา กับตอนท้ายเครดิต
Percy ยังไม่ได้ดู เพราะหน้าหนังไม่ชวนให้อยากดูเท่าภาคแรก
Kick-Ass 2 ภาคนี้โหด ดิบ เถื่อนมาก ขนาดฆ่าตัดคอ ดีที่ยังไม่เห็นชัดเจนมาก แต่ก็เสียความรู้สึกพอควร ไม่เกรียนเหมือนภาคแรก ออกจะดราม่าด้วยซ้ำ ที่สำคัญตัวที่โดดเด่นในเรื่อง และขโมยซีนกลับเป็นตัวฝ่ายผู้ร้าย ทั้ง The Mother F***er และ Mother Ru***a
ดูแต่ kick ass เรื่องเดียว ส่วนตัวดู comic มาก่อน เลยรู้สึกว่าการเล่าเรื่องแบบเดิม หรือการลดระดับความโหดจาก comic ลงมาสร้างความผิดหวังให้แฟนๆพอสมควร
Kick ass
Kick ass2 น่าผิดหวังตั่งแต่เห็นตัวอย่างแล้วครับ พอดูแล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ความเกรียนแบบคลาสสิคหายไปเยอะ เมื่อเทียบกับภาคแรก มีฉากโหดเยอะก็จริงแต่ยังไม่ค่อยสร้างอารมณ์ร่วมเท่าไร ยิ่งตอนสุดท้ายสู้กัน ดูมั่วมาก ไม่ถึงอารมณ์ ไม่สะใจ สิ่งที่ขาดคือฉากต่อสู้วิธีการออกแบบฉากแอ๊คชั่น การตัดต่อ ยังไม่โดนเท่าฉากจบภาคแรก ภาคแรกมีความหนักแน่นจากเสืยงปืนสลับกับเสียงอาวุธอื่นๆที่ใช้ในการต่อสู้ และมุขตลกร้ายแบบโดนๆ มีดราม่ามาเสริมด้วย ตัดต่อก็ดี ภาค2เนื้อหาบทถือว่าโอเค..แต่มีการตายของตัวละครหลักเยอะไป แลดูไม่ค่อยพิถีพิถันไม่สร้างอารมณ์อย่างช้าๆให้เรากินใจเท่าไหร่ ผมให้ 6 คะแนนครับ
The Wolverine 7.5/10
เป็นหนังซุปเปอร์ฮีโร่ที่แตกต่างจากเรื่องอื่นมากๆ ครับ ดูเอเชียมากๆไม่ซ้ำซากจำเจ ได้อารมณ์แปลกใหม่
ถ้าเปรียบเป็นอาหารคงเป็นแฮมเบอร์เกอร์ไส้ปลาดิบ (ฮ่าๆๆ) แม้จะเนิบนาบ แต่เราได้ซึมซับความ
เป็นเอเชีย ความเป็นญี่ปุ่นได้มากๆ เหมือนได้ท่องเที่ยวญี่ปุ่น โลเกชั่นงดงาม นางเอกสวยสุดยอด
น้องผู้ช่วยผมแดงเท่มาก ฉากและมุมกล้องของหนังได้อารมณ์การ์ตูนมากเลยครับ
ฉากไฮไลท์คือ การต่อสู้กันบนรถไฟชินกันเซ็น ที่ฉวัดเฉวียน รวดเร็ว ตื่นเต้น เร้าใจมากครับ
การหักมุมตอนจบก็สร้างเซอร์ไพรส์ให้อ้าปากค้างได้
(แต่ที่แย่งซีนสุด คือ ฉาก End Credit มากกว่า ฮ่าๆๆ)
___________________________________________________
Percy Jackson: Sea Of Monsters 5/10
ข้อดีอย่างเดียว คือ ดูแล้วทำให้หวนนึกถึง แฮร์รี่ พอตเตอร์ เป็นหนังเด็กที่ไม่มีพิษมีภัย
และไม่มีเหตุผลตรรกะใดๆ ใช้จินตนาการล้วนๆ ช่วยเสริมสร้างจินตนาการได้ดีสำหรับผู้ใหญ่
ผมจูงน้องสาววัย 13 ปี ไปดู เค้าชอบมากเลยครับ นี่อาจเป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่า
ผมแก่แล้วหรือ ฮือๆๆๆๆ ฉากประทับใจ คือ ต้นไม้ผู้พิทักษ์ที่เสียสละตัวเองปกป้องค่ายไว้ครับ
___________________________________________________
Kick-Ass 2 8/10
ชอบมากที่สุดในสามเรื่อง แม้ภาคแรกทำได้ดีกว่า แต่ภาคนี้มีเนื้อเรื่องดราม่ามาเสริม มีการแบ่งธรรมมะ
อธรรม ความดี ความชั่ว มิตรภาพ รู้สึกผูกพันตัวละครมาก รักสุดๆ คือ น้องโคลอี้
โตเป็นสาวแล้วสวยแบบแปลกๆดี (ฮ่าๆๆๆ) ขอชมทีมพากย์ไทยที่เก่งในเรื่องแปลงชื่อ
ภาษาอังกฤษเป็นไทย ได้โดนใจวัยเกรียนมากๆ ครับ อย่าง ไอ้ระยำซั่มแม่ อีดึกซ่า ฯลฯ
ฉากที่ประทับใจ คือ น้องโคลอี้แต่งสาวเปรี้ยวไปปราบแก๊งค์เด็กสาวสตรอเบอร์รี้ในโรงอาหารสะใจมากครับ
และฉากน้องโคลอี้ ปะ ฉะ ดะ บนรถกระบะ ครับ (รู้สึกจะมีแต่น้องโคลอี้ทั้งน้าน ฮ่าๆๆๆ)