ไม่เคยลุ้นรายได้หนังฮอลลีวู้ดแบบนี้มานานแล้วครับ เพราะอยากให้ Pacific Rim ทำเงินในระดับที่ทำให้มีการอนุมัติให้สร้างภาคต่อมาก นี่เป็นหนังซัมเมอร์ปีนี้ที่ผมสนุกและเกือบฟินที่สุด และโดนใจผมกว่า Iron Man 3, Fast & Furious 6, Man of Steel และ World War Z เลย เป็นหนังที่ทำให้กลับไปนึกถึงตอนเด็กอีกครั้งเหมือนที่คำพูดของรุ่นน้องที่ไปดูหนังด้วยกันพูดว่า มันเป็นหนังที่ทำให้เรานึกถึงตอนที่อยากขับหุ่นยนต์ออกไปบู๊กับผู้ร้าย
หนังเรื่องนี้ทำให้นึกถึงการ์ตูนแนวหุ่นยักษ์หรือซูเปอร์โรบ็อทหลายเรื่องมาก เช่น เกรทมาชินกา, เกรนไดเซอร์ ขณะที่เด็กรุ่นใหม่อาจนึกถึงเอวาเกเลียนด้วย สัตว์ประหลาดในหนังก็ทำให้นึกถึงพวกหนังอุลตราแมน มีกระทู้ในพันทิปที่เปรียบเทียบองค์ประกอบของซูเปอร์โรบ็อทกับหนังเรื่องนี้ได้น่าสนใจมาก ลองไปอ่านดูได้ที่นี่ครับ
ตัวเนื้อเรื่องของ Pacific Rim เป็นอะไรที่พื้นๆ ซ้ำซาก คล้ายหนังหายนะหลายเรื่อง แต่ทำได้ถึงและมีพลังในแบบที่ไม่มีหนังซัมเมอร์ฮอลลีวู้ดเรื่องไหนที่ใช้เนื้อเรื่องซ้ำซากแบบนี้ทำได้มานานแล้ว และยังเป็นการเอาโครงเรื่องแบบหนังฮอลลีวู้ดมาตรฐานมามาใส่องค์ประกอบจากการ์ตูนหุ่นยนต์และสัตว์ประหลาดของญี่ปุ่นได้อย่างลงตัวเป็นเนื้อเดียวกัน
สำหรับคำวิจารณ์ของนักวิจารณ์ที่ Rotten Tomatoes รวบรวมมา โดยรวมก็อยู่ในแดนบวกครับ มีนักวิจารณ์ชอบ 72% คะแนนเฉลี่ย 6.8/10 จาก 187 บทวิจารณ์ในตอนนี้ เพื่อนผู้อ่านเว็บที่ไปชมมาแล้วรู้สึกยังไงต่อหนังบ้างครับ ชอบหรือไม่ชอบตรงไหนบ้าง และให้คะแนนกันเท่าไหร่ครับ
ผมชอบมากเลยนะ ดูเสร็จแล้่วอยากทำท่าหุ่ยนต์ตามเลย เท่สุดๆ
ชอบการออกแบบสัตว์ประหลาดกับหุ่นยนต์ในเรื่องนี้ครับ
ชอบฉากที่นางเอกแอบมองพระเอกที่ช่องประตู แล้วแอบยิ้มตอนมีคนมาเคาะ อามรณ์เหมือนหนังวัยรุ่นญี่ปุ่นเลย คิขุอาโนเนะมาก ><
มาถึงระดับที่ไร้ที่ติ ของ CG เนียนอลังการมาก เนื้อเรื่องมีอะไรให้ติดตามตลอดเรื่อง ไม่มีช่วงหน่วงหรือเนือย
และเมื่อดูสามมิติ (หลังจากหมายมั่นว่าซํมเมอร์นี้ เรื่องนี้ดูสามมิติจะเหมาะสุด) ขอบอกว่า 3D เรื่องนี้ เทพมั่กๆ
หุ่นจีนกับรัสเซียตายเร็วเกินไปอ่ะ T_T
ชอบมาก ถึงมากที่สุดครับ
มันทั้งเท่ ทรงพลัง อลังการ สนุก ฟิน ปลุกจินตนาการ และมีลูกเล่นที่ไม่ค่อยซ้ำกับหนังซัมเมอร์เรื่องอื่น แม้บทจะดูตามสูตรก็ตาม แต่กลับมีความกลมกล่อมที่ทำให้หัวใจเราถูกเติมเต็ม
ตอนดูแทบจะคิดว่าตัวเองเข้าไปขับเยเกอร์ร่วมกับตัวละครด้วย หนังทำให้เราอินได้มาก ทั้งที่มันเป็นโลกค่อนข้างเหนือความเป็นจริงอย่างกับการ์ตูนญี่ปุ่น แต่นี่แหละ คือสิ่งที่เราต้องการ
ชอบที่กิลเลอร์โม เดล โตโร บอกว่า นี่เป็นหนังที่ทั้งโลกร่วมมือกันเพื่อช่วยโลก ไม่ใช่หนังเอเลี่ยนที่เอาแต่บุกไปที่อเมริกา และอเมริกาก็เป็นฮีโร่แต่เพียงผู้เดียวอีกแล้ว
ชอบที่หนังยังใส่มุมมองของคู่หูนักวิทยาศาสตร์ ทั้งนิวตัน ไกซ์เลอร์ (ที่ดูแล้วอดนึกถึงเจ.เจ. อับรามส์ไม่ได้)และเฮอร์มานน์ ก็อตลิบบ์ให้เป็นอีกตัวละครเด่น เรียกรอยยิ้มจากความเนิร์ดสุดขั้วและการฟาดฟันปะทะความคิดกับคารมชนิดน้ำไหลไฟดับแบบเต็มไปด้วยสาระและตรรกะ(ในแบบของพวกเขา) ทำให้เห็นว่าถ้าขาดพวกเขาเหล่านี้ไป ลำพังเยเกอร์คงจะเอาชนะไคจูได้ลำบาก ใช้แต่กำลังเข้าสู้โดยไม่รู้จุดยุทธศาสตร์
นักแสดงถึงแม้จะไม่ใช่ดาราตัวพ่อ-ตัวแม่ของวงการ แต่กลับแสดงบทบาทของตัวละครออกมาได้ยอดเยี่ยม ทั้งชาร์ลี ฮันนั่ม, ริงโกะ คิคูชิ และไอดริส เอลบา ที่เล่นเป็นผู้บัญชาการได้น่าเกรงขาม ปลุกใจทหารให้ฮึกเหิม มีความดุดันเอาจริง แต่ก็มีมุมที่อ่อนโยนอยู่ในตัว
และอีกคนที่ลืมไม่ได้คือรอน เพิร์ลแมน กับบทฮันนิบาล เชา ที่กวนโอ๊ย แสบสันต์ เด่นมากแม้จะโผล่มาเพียงไม่กี่ฉาก
เหล่าไคจู ตัวร้ายเอกของเรื่อง ทำออกมาได้น่ากลัวและดูคุกคาม มีการแบ่งประเภทได้น่าสนใจ…แต่เราดูไปก็ยังแยกไม่ออก ^^ ไคจูทำให้เรานึกถึงก็อตซิลล่าแบบไ่่ม่ต้องสงสัย โดยเฉพาะในฉากกลางคลื่นพายุตอนเปิดเรื่อง กับตอนที่มันถล่มโตเกียว มันมีเสน่ห์ลึกลับแบบตัวร้าย ที่ทำให้เราสนใจอยากจะรู้เกี่ยวกับมันมากขึ้น
ส่วนเหล่าหุ่นรบเยเกอร์นั้น คือความฝันที่ออกมาโลดแล่นบนจอ เรารู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ ที่ดูยักษ์และบึกบึนกว่าเหล่าออโต้บอทส์กับดีเซปตอคอนส์เสียอีก แม้เราจะเคยดูการ์ตูนหุ่นยนต์ของญี่ปุ่นเพียงเรื่องเดียวคือกันดั้ม แต่ก็เข้าใจเลยว่าทำไมคนดูหลายคนนึกถึงอีวานเกเลี่ยนกับเรื่องอื่นๆ ที่กิลเลอร์โมนำจุดเด่นและจิตวิญญาณเหล่านั้นมาผสมกันอย่างลงตัวในเรื่องนี้ ชอบการที่นำหุ่นรุ่นเก่าแบบเก๋ามาร่วมทีมกับหุ่นรุ่นใหม่ล้ำยุค (อนาล็อกกับดจิทัล เป็นอีกลูกเล่นที่เราชอบ) แต่สำหรับเรา ฉากที่ทำให้หัวใจเต้นตูมตามกับเยเกอร์มากที่สุด คือตอนที่ยิปซี เดนเจอร์ สะบัดดาบออกมาเป็นไม้ตายในยามวิกฤติ หูยย ฟินสุดๆ มันเท่มากอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ และรู้สึกว่าหุ่นรบในเรื่องนี้ทำออกมาได้เด่นและชัดเจน จำได้ว่าตัวไหนเป็นตัวไหน ของประเทศอะไร ในขณะที่กันดั้มบางทีเรายังแยกไม่ออก เพราะโครงคล้ายๆกันหมด
ไม่ได้ฟินแบบนี้ในโรงหนังมานานแล้ว นับตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน เรื่องนี้ยกให้เป็นหนังโปรดในดวงใจไปเลย
9.5 / 10
หุ่นไต้ฝุ่นตายง่ายไปมะครับ….อุตส่าห์ใช้หนุ่มหล่อล่ำแฝดสาม มาบังคับ
ซึ่งนายสามคนนี้เป็นที่เฟมและป็อบในกลุ่มเพจสาวแท้และสาวไม่แท้ไปแล้ว…ซึ่งเสียดายมากๆ
กลายเป้น ยิปซี ที่ตายยากและเด่นอยุ่ตัวเดียวว…..
ความสนุกผมให้เต็มสิบนะครับ แต่ตัดสามคะแนนเพราะ หุ่นใต้ฝุ่นนี่แหละ ออกมานิดเดียว
แถมตายง่ายเกิ๊นนน…แต่ตัวคนบังคับรอดอ่านะ…
ให้ 7 พอครับ…
ผมว่าที่หุ่นจีนแดงตายง่าย เพราะคนสร้างไคจูมันได้เรียนรู้ความสามารถของหุ่นจีนแดงผ่านไคจูที่ส่งมาที่ฮองกง แล้วโดนหุ่นจีนแดงเก็บไป6-7ตัว(ไม่แน่ใจตัวเลข) แล้วก็ปรับแต่งไคจูให้สามารถต่อกรกับหุ่นจีนแดงที่ใช้ 3 แขน และรวมไปถึงหุ่นที่มีเกราะด้านบนอย่างหนาของหุ่นรัสเซียโดยการพ่นน้ำกรดใส่เกราะ เกราะละลายหมด และสุดท้ายก็โดนไคจูกอริลาจับกดน้ำเดี้ยงเลย
หนังเรื่องนี้คือหนังโรแมนติกสำหรับผู้ชายอย่างผม
ดูจบแล้วคิดถึง ขบวนการ จูแรนเจอร์
เปนหนังฟอร์มยักษ์ที่ดูแล้วฟินที่สุดตั้งแต่ต้นปี
ฟินจุงเบย รอภาคสอง
ไปดูมาแล้วครับ ส่วนตัวคิดว่าเนื้อเรื่องธรรมดา แต่บู็กันสนุกดี แต่ผิดหวังกับ 3D เรื่องนี้จริงๆ
ตอนนี้เป็นหนังซัมเมอร์ที่่ชอบที่สุดของปีนี้
(โดยที่อจจะไม่มีเรื่องต่อจากนี้แซงได้)
และลุ้นทุกอย่างเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้
ให้มันมีอนาคตที่ดีครับ
เพื่อจะได้กลับมาให้แฟนๆ ได้ฟินกันอีกครั้ง
เป็นหนังที่เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดี ได้นึกถึงวัยเด็กที่ดูการ์ตูนญี่ปุ่นอีกครั้ง โดยงานออกแบบฉากและสัตว์ประหลาดต่างๆยังเป็นงานถนัดและเอกลักษณ์ของผู้กำกับคนนี้ที่อยู่ในหนังแกทุกๆเรื่อง แม้ว่าสัตว์ประหลาดจะไม่ค่อยโดนใจผมซักเท่าไหร่ในเรื่องนี้ และมีบางส่วนที่เป็นฮอลลีวู้ดจ๋าไป เช่นการพูดปลุกใจของผู้นำช่วงท้ายทำให้นึกถึงฉากใน ID4 ฉากการเสียสละและตอนจบในช่วงท้ายก็เหมือนหนังเรื่องอื่นๆ แต่หนังก็สามารถเอาผู้ชมอยู่ตั้งแต่ต้นจนจบและคุ้มค่ากับเงินที่เข้าชม หนังเรื่องนี้น่าจะทำเงินให้ค่ายหนังได้ อย่างไรก็ตามยังไม่ใช่งานmasterpiece อยากให้แกกลับไปทำหนังแนว Pan’s Labyrinth แนวมืดหม่นที่ผมชอบมากกว่ามาทำหนังสไตล์ฮอลลีวู้ด
ก่อนผมไปดูผมไม่คาดหวังอะไรไว้มาก กะไปดูเอาเพลินเหมือน transformers เพราะกลัวผิดหวัง .. แต่.. พอได้แล้วทำให้ความคาดหวังผมสูงขึ้นกว่าเดิม.. คาดหวังไว้มากๆ จะต้องมีภาคสองตามมา.. ขอบอกว่านี้เรียกได้ว่าเป็นมาตรฐานของ real robot เลยที่เดียวเชียว.. และถ้า godzilla ทำออกมาไม่ได้เท่านี้ จบแน่.. เพราะนอกจะเป็น real robot โดยแท้แล้ว ยังเป็นหนังสัตว์ประหาดถล่มเมืองที่สมจริงมากๆ ได้อารมณ์ที่สุด โตเอะ และ ซึบูราญ่าต้องปรับมาตรฐานงานสร้างได้แล้ว ถ้าอยากได้กลุ่มลูกค้าเดิมๆ ในแถบเอเซีย และไกคิง ที่กำลังหรือเตรียมการสร้างอยู่นั้น ก็ต้องให้ได้ประมาณนี้ .. อุลตร้าแมนกับสัตว์ประหลาดก็ต้องให้ได้ประมาณนี้ ถ้าทำได้ อุลตร้าแมนดังแน่.. เพราะผู้คนต่างเทใจให้กับ pacific rim ไปแล้ว .. ผมเชื่อว่าตอนท้ายทำเสมือนจะบอกเป็นนัยๆ ว่า.. อาจมีฉบับอนิเมฉายทางทีวี..
ลุ้นที่สุดคือฉากเด็กน้อยที่ต้องเดียวดายกับสัตว์ประหลาดที่แสนจะน่ากลัว.. อย่างน้อยๆ แค่ฉากนี้ก็ทำเอาแฟน godzilla อย่างผมที่ได้ดูตั้งแต่หนังขาวดำ รู้สึกอยากเห็น godzilla มีงานสร้างให้ได้แบบนี้.. สุดยอดมาก.. เวลาเราดู robot สู้กับไคจู หรือ อุลตร้าแมนกับไคจู เราจะรู้สึกว่า ทำไมไม่ทำอย่างนี้ ทำไมจับมันทำอย่างนั้น.. โอ้ยยย แทบทนไม่ได้… แต่เรื่องนี้.. จัดเต็มดั่งใจจริงๆ..
ไปดูกันเถิด จิตนาการในวัยเด็กของผมกลับมาอีกแล้ว.. สุดยอดจริงๆ.. ^^
ผมให้ 9/10 เลยครับ ชอบมาก ผมรู้สึกว่ามันมีเอกลักษณ์และโดดเด่น ตอนแรกนึกว่าก็คงจะไม่ต่างจาก TF เท่าไหร่ แต่มันส์มากๆ ระทึกตลอด มันทำให้ผมรู้สึกว่ามีความหวาดกลัวว่ามันเป็นเรื่องจริง เพราะทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันจริงๆ ไม่ใช่อะไรก็ USA ผมเลยอินสุดๆ ถึงกับต้องไปดู 3D อีกรอบ …..ติงอย่างเดียว ไม่เห็น Coyote Tango เลย แหม เสียดาย น่าจะมีสักหน่อย……. แต่รวมแล้ว ให้ใจไปเลย
หุ่น Cayote tango ในหนังออกมาแวปเดียวครับ ตอนออกมาช่วยนางเอกตอนเด็กจากไคจูปูเสฉวน
จิงคับเสียดาย
กับ มาร์ค 1 ตายอนาถ เสียใจ
มองไม่ออกเลยครับ แต่ขอบคุณครับ ไม่งั้นไม่ทราบเรยว่า คือ coyote tango เพราะแว๊บเดียวจิง ไม่ทันสังเกตุครับ
ฟินเช่นกันครับ เข้าไปแบบไม่ได้คาดหวังอะไรมากเพราะหน้าหนังคือฮอลลีวู้ด แต่พอเปิดเรื่องมาก็กรี๊ดเลย วิธีบังคับหุ่น ห้องควบคุม จนแต๋วแตกเมื่อตอนชักดาบออกมานี่แหละครับ ฟินจนอิ่มเลย 9.5/10 เยอะสุดในรอบปี ไม่มีอะไรฟินเท่านี้อีกแล้ว ^^
ตอนแรกคิดว่าจะเหมือนหนัง “หุ่นยนต์สู้กับก๊อตซิลล่า” แต่พอได้ดูแล้ว มันก็คือหนัง “หุ่นยนต์สู้กับก๊อตซิลล่า” จิงจิง # เนื้อเรื่องไม่ซับซ้อน ดูง่ายง่าย ภาพสามมิติทำดีมาก
I came and came so many times from Nerdgasm, I’ve lost counts.
คำเตือน สปอยยย
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ที่มาตัวละครเรื่องนี้ คล้าย Evangelion เลย ทั้งการนักบินต้องเข้าจิตใจได้กับหุ่น นางเอกมีความสัมพันธ์กับผู้การ การปล่อยตัวหุ่นจากฐานบิน หรือรูปแบบการมาของไคจูที่สไตล์เทวทูตจาก อีวาเกเลี่ยน ถ้าบอกว่าดีเอนเอของพี่ชายมาจากหุ่นที่พระเอกขับนี้ครบเลยครับ
แต่สนุกดีอะมันส์กระจายพังหมด เสียอย่าง บางฉากมันสู้มืดไป ดูไม่ออกว่าถ่ายส่วนไหน
อีกจุดที่ทำให้นึกถึง eva เลยคือช่วงแรกที่นักขับหุ่นสวมหมวกแล้วมีน้ำสีเหลืองๆอยู่ในหมวก นึกถึง entry plug ของ eva เลยครับ ^^
ผมไม่อิ่มสุดอ่ะครับ แอบเนือยกลางเรื่องด้วย แต่ยอมรับว่าก็ดูเพลินๆดี ฉากที่ฮ่องกงก็ลุ้นและมันส์เหมือนที่ real steel เคยทำให้เห็น //
อันนี้อาจเป็น คห.ส่วนตัว รสนิยมผม กับงานกำกับและเล่าเรื่อง ของ ผกก. เดล โตโร่ ก็เป็นได้ครับ ผมไม่ค่อยอิ่ม ฟิน ประทับใจไปทั้งเรื่อง กับหนังแนวแอ็คชั่น ของแกเท่าไหร่ (อาทิ hellboy 1-2) … มันยังไม่สุดสำหรับผม แค่นั้นเอง
แต่บอกอีกทีว่าดูได้เพลินๆ ไม่เสียดายค่าตั๋ว
ส่วนที่ผมไม่ชอบที่สุดในเรื่องคือวิธืการเล่าเรื่องของ ผกก. คือจังหวะของเรื่องมันไม่ส่งดราม่าเลย มันเลยเป็นเหมือนคิวว่า 1 – 2 – 3 นำ้ตาซึมคือดราม่าแล้วนะ…ตัวละครอ่ะดราม่าแต่คนดูคงไม่ค่อยรู้สึกอะไร ผมเองไม่รู้สึกสะเทือนใจแม้แต่ฉากเดียวกับเรื่องราวของผู้ควบคุมหุ่นหลายๆคน
ผมว่าผกก.น่าจะตัดมุมมองพวก Hannibal Chau หรือ back story บ้างก็ได้ คือมีเนื้อหารองรับอยู่แต่ไม่ต้องเล่าจนทะลุขนาดนั้นก็ได้ เหมือน war of the world ที่ไม่ต้องเล่าจนละเอียดแต่หนังก็สมบูรณ์ แถมยังมีเสน่ห์ในแง่ความลึกลับอีกด้วย
ตัวอย่างที่แสดงถึงการเล่าที่มากเกินไปได้ชัดเจนคือฉากที่นักบินเชื่อมจิตอ่ะ (เรียกว่าอะไรจำไม่ได้) พี่เล่นถ่ายให้เห็นหมดตั้งกะเด็กยันโต แถมต้องมีฉากนี้ทุกคนด้วย อมยิ้ม08 ลองสมมติว่าถ้าผกก.ลองเล่าแบบใหม่ เช่นเวลาพระเอก กับ นางเอก เชื่อมกันแล้วกล้องถ่ายออกมาแบบบุคคลนอก ให้ตัวละครทั้งสองรู้กันเป็นความลับสองคนว่าการเชื่อมใจของทั้งคู่นั้นเป็นอย่างไรบ้าง โดยให้เราสังเกตุจากแววตาที่ทั้งสองมีให้กัน ก็น่าจะทำให้เกิดความโรแมนติคและน่าสนใจมากกว่า อันนี้ยกตัวอย่างว่าผมไม่ชอบแนวการเล่าเรื่องของ ผกก.อย่างไร ขนาดอย่างเรื่อง ghost in the shell นี่ทุกตัวละครเชื่อมจิตผ่านกันทาง cyber brain อยู่แล้วไม่เห็น ผกก. จะต้องเล่าแบบเรื่องนี้เลย
ผมก็ชอบส่วนที่เป็นหุ่นสู้กับสัตว์ประหลาด มันเลยพอกล้อมแกล้ม แต่ไม่สุดไงไม่รู้ อยากให้คงพวกรายละเอียดแบบแฟนบอยอย่างในกระทู้แนะนำแต่เล่าเรื่องให้เป็นผู้ใหญ่กว่านี้นิดนึงก็คงจะดี
ทั้งหมดก็ขึ้นกันรสนิยมด้วย บางคนอาจจะชอบ พอดีผมชอบหนังแบบ District 9 มากกว่า Independence day
หมายเหตุ: พอดีผมcopyข้อความที่ผมเขียนใน Pantip โดยลืม edit หลายๆอย่างออกมันก็เลยมีอะไรแปลกๆอย่างการพูดถึงกระทู้แนะนำหรืออมยิ้มน่ะครับ
ชอบมากมายเลย
แอบรู้สึกว่า ไคจู ก็คล้ายๆ เยเกอร์ ตรงที่ ไคจูเองก็อัพเกรดขึ้นมาเรื่อยๆ เหมือนกัน
อย่างตัวที่มี หางโจมตี มีกรด มีปีก กับ ตัวที่มีคลื่นแม่เหล็ก นี่ ส่งมาเพื่อดับ เยเกอร์ได้ทุกตัว
ผมสงสัยอย่างนึงว่า ตอนจบศึกฮ่องกง แล้ว ผู้การประกาศว่า เราเสียคนไป 2 นี่หมายถึงยังไงอ่ะครับ
ตกลงแต่แค่ 2 คนรัสเซีย แล้ว 3 แฝดของจีนนี่ไม่ตายเหรอครับ ผมเห็นส่วนหัวโดนกระชากแล้วเหวี่ยงไปไกลเลยนะ
เค้าบอก 2 ทีม ครับ ไม่ใช่ 2 คน ^^
ขอบคุณครับ
อีกสิ่งนึงที่ผมอยากจะบอกคือ
ฉากดาบ เป็นฉากที่ผมเด้งตัวจากที่นั่งขึ้นมาจนเกือบยืนเลยล่ะครับ
นี่เป็นหนังเรื่องแรกที่ทำให้ผมอินได้ขนาดนี้เลย
เป็นหนังที่ดีมากๆครับ ดูแล้วชอบมาก ฟินสุดๆ ผมให้เรื่องนี้มันส์กว่าทรานสฟอร์มเมอร์อีกครับ ไปดูกันให้ได้นะครับ ห้ามพลาดเลย!
เห็นรายได้ boxoffice แล้ว คงต้องบอกว่าชะตากรรมของ Pacific Rim คงไม่ต่างไปจาก The Lone Ranger !
เห็นด้วยครับ ..มีเสียวแทน
อาจจะเป็นหนังคัลในภายหลังก็ได้นะครับ แฟนเฉพาะกลุ่มเหนียวแน่นไรเงี่ย (รวมทั้งผมด้วย) ^^
ปล. Kaiju ที่บุกญี่ปุ่นในความทรงจำของ Rinko แว๊บแรกที่เห็น ผมตบเข่าฉาด!! นิมัน มนุษย์ดาวบัลตัลที่สู้กับ Ultraman ชัดๆ (ฮา)
สงสัยทางฝั่ง U.S. คงไม่อินเหมือนทางฝั่ง Pacific ><
Pacific Rim มันคือส่วนผสมที่เข้ากันได้อย่างยอดเยี่ยมระหว่างเอาการ์ตูนสาย Super Robot สามเรื่องหลักๆมารวมกัน… Mazinger + Evangelion + Godannar ได้อย่างกลมกล่อมอารมณ์ สะใจขา Otaku แนวหุ่นยนต์อย่างสุดขั้ว สมกับที่ Hideo Kojima ผู้สร้างเกม Metal Gear อวยแบบสุดๆเลย ดูเรื่องนี้แลัวมันได้จิตวิญญาณเหล็กไหลน่ะมันพุ่งกระฉูด…!!! เอาไปเลย 9/10 ตัด 1 เพราะเนิ้อเรื่องธรรมดาเดาทางง่ายไป.
มันส์มากค่ะเรื่องนี้ให้ 10 เต็ม CG เนียนสุดๆ ฉากสุ้ก้มันส์ปลุกอารมณ์อินไปกับหนังมาก พระเอกก้หล่อ นางเอกด้น่ารักฟินมากกกกกกะคุ่นี้ ไปดูเถอะค่ะ รับรองว่าไม่เสียดายตัง เรื่องนี้สำหรับดิฉันว่าสนุกมากจิงๆฟินมากด้วยค่ะ อยากให้มีภาค 2 มากกกกก
ผมไม่มีอะไรจะบรรยายครับให้ 9/10
ไปดูมา 2 วันติด เมกา บางนา
ตอนนี้รายได้ในประเทศไทย ฉายไป 3 วันได้ ห้าสิบล้านแล้ว *0* โดยรวม 38 ล้านเหรียญ อวยเลยครับ มาเยอะๆๆๆๆ อยากดูภาคต่อ 55+
ทุกจุดของเรื่องนี้เอาใจ ผู่้ชาย จริงๆ ครับ ไม่แปลกที่ผู้ชายทุกท่านที่ผ่านวัยเด็กแบบปกติมา จะรู้สึกสนุกสุดฟิน ได้ดูหุ่นยนต์ยักษ์ตบสัตว์ประหลาย หัวหุ่นมาประกอบร่าง ฐานทัพสุดเจ๋ง ปื่นพลาสม่า ดาบ และสุดท้ายนางเอกโมเอะ น่ารักตาแป๋ว อกอิ่ม แอบชอบพระเอก (ซึ่งสาวๆ ส่วนมากจะถามว่าสวยตรงไหน แต่หนุ่มทั่วไปผมว่าก็ชอบแบบนี้หละ เราไม่ได้ชอบสวยขนาดเทพี แต่เราหลงไหลความน่ารักตะหาก)
ผมว่ามะกันคงไม่ฟิน เท่ากับคนไทยเราแน่เพราะเราคุ้ยเคยกับหุ่นยักษ์มากมายมาตั้งแต่เด็ก เอ่อผมหมายถึงคนอายุสักเลขสามเป็นต้นไป แต่ผมว่านี่เป็นเรื่องแรกที่เป็นหนังหุ่นยักษ์ที่ผมคุ้ยเคยกับการที่มันเป็นการ์ตูนที่ผมเคยได้แต่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นหนัง แต่Guillermo del Toro แกจัดให้ผมครับ ผมชอบแกตั้งกะhellboy2 และ Pan’s Labyrinth ผมว่าจินตนาการแกแตกต่างจากชาวบ้านดี แต่เห็นรายได้ในอเมริกาแล้วก็ห่วงๆ ความเห็นทางอเมริการคงมาจากความอ่อนซ้ำซากของเนื้อเรื่อง แต่สำหรับผม หลังจาก transformer 1 และ Die hard 4ในแง่เอามันผมบอกได้คำเดียวอิ่มมาก น้า Guillermo del Toro แกปรุงได้ดีมาก Hollywood ผสมหุ่นญี่ปุ่นแล้วถ่ายถอดทั้งสองอย่างผ่านจินตนาการของแก ผมยังมองไม่ออกเลยว่าใครจะทำได้แบบนี้ที่เอาเนื้อเรื่องง่ายๆมาถ่ายถอดได้ม้นขนาดนี้ ตัวหุ่นดูดิบดี ใหญ่แต่ดิบ สัตว์ประหลาดดูเคมีๆเอเลี่ยนๆและดูยางยืดๆเหมือนหนังก๊อตสิล่าหรืออุตราแมนอย่างที่คุณข้างบนว่าไว้ แต่ผมว่าพี่กันคงไม่ฟินกะผมอะ เห็นด้วยกะข้างบนเรื่องนางเอกและความเป็นหน้งของเด็กผู้ชาย
เช็คจาก boxoffice mojo รายได้ต่างประเทศสูงกว่าในเมกาอีกครับ ณ วันนี้ เมกา 45 $ ล้าน ต่างประเทศ 50$ กว่าๆ ดูแนวโน้มเอเซียจะเป็นลูกค้าหลักหนังเรื่องนี้นะครับ น่าจะไปแตะทุน 190$ ได้เพราะตลาดนอกเมกามากกว่านะ