Now You See Me: ความเห็นหลังชม

NOW YOU SEE MENow You See Me น่าจะเป็นหนังที่ทำเงินในสหรัฐของค่ายซิมมิทสูงสุด ถ้าไม่นับหนังชุด The Twilight Saga ครับ หนังใช้ทุนสร้างราว 75 ล้านเหรียญ และทำเงินไปแล้ว 94.4 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังคงเหนียวอยู่ในอันดับที่ 5 ในตารางหนังทำเงินหลังจากฉายมา 4 สัปดาห์ ถือเป็นหนังฮิตเงียบของค่ายเลย ซัมมิทไม่มีบริษัทตัวแทนจัดจำหน่ายนอกสหรัฐ แต่จะขายหนังให้บริษัทจัดจำหน่ายท้องถิ่นเอาไปฉาย และด้วยทุนสร้างที่ไม่สูงมากก็น่าจะทำให้หนังเกือบได้ทุนคืนแล้วจากการขายให้บริษัทต่างประเทศมาซื้อไปฉายครับ

ในแง่คำวิจารณ์ คะแนนวิจารณ์จากการประเมินของ Rotten tomatoes ไม่ได้ดีมาก มีนักวิจารณ์ชอบ 49% และคะแนนเฉลี่ย 5.9/10 จาก 109 บทวิจารณ์ที่รวบรวมมา

ในความเห็นส่วนตัว ผมคิดว่าเป็นหนังที่ให้ความบันเทิงและหลอกล่อเราด้วยชั้นเชิงแบบมายากลเหมือนเรื่องราวในหนัง ทำให้เราหลงไปอีกทาง แล้วมาเซอร์ไพรส์กับตอนจบที่เราคาดไม่ถึง แม้จะไม่ใช่เป็นตอนจบที่แปลกใหม่อะไร ตัวละครธรรมดา แต่ใช้ยอดนักแสดงมาสร้างความไม่ธรรมดาให้ตัวละครเหล่านี้ดูมีเสน่ห์ แต่หนังก็เหมือนกับมายากลที่พอจบกันแล้วก็จบกัน เป็นความสนุกที่ไม่ได้ให้ข้อคิดหรือแรงบันดาลใจอะไรติดตัวออกมา เลยทำให้มันรู้สึกว่าเนื้อเรื่องนั้นเบาหวิว นอกจากนี้ แรงจูงใจในการกระทำของตัวละครก็ยังจับต้องไม่ค่อยได้ ถ้าบทหนังสามารถให้เราเห็นความสำคัญของ “เนตรภาคี” ได้มากกว่าที่ตัวละครพูด ก็จะทำให้หนังมีน้ำหนักมากขึ้น แต่อย่างที่บอกครับ หนังสนุกและน่าติดตาม

แก้ไข: 8/10

ชอบหนังกันแค่ไหน และให้คะแนนเท่าไหร่ ใส่ความเห็นกันได้ครับ

12 comments

  1. เห็นด้วยครับครับ กับประเด็นที่ว่าถ้าเน้นเรื่องแรงจูงใจของตัวละคร กับให้น้ำหนักความสำคัญเรื่องเนตรภาคีมากกว่านี้ หนังจะทำให้มีอารมณ์ร่วมไปกับการกระทำของตัวละคร และรู้สึกอิ่มมากกว่าจะเป็นแค่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นคนดูมายากลทั่วๆ ไป คือแค่ ว๊าว,ประหลาดใจ,ตื่นเต้น แล้วก็หายไปไม่มีอะไรเหลือให้จำ พร้อมกับอาจจะเดินออกจากโรงหนัง พร้อมเครื่องหมายคำถามตัวโตๆว่า สุดท้ายที่ทำไป เพื่อ..? แค่เนี๊ยะนะเหรอ ^^ โดยส่วนตัวชอบการแสดงของ เจสซี่ ไอเซนเบิร์ก กับวู้ดดี้ ฮาเรลสันมากครับ ชอบคาแรกเตอร์ของทั้งคู่ มีเสน่ห์เฉพาะตัวมาก เสียดายเรื่องเนตรภาคจริงๆ ถ้าลงลึกกว่านี้อีกหน่อยจะอินกว่านี้อีกเยอะ อยากเอาใจช่วยตัวละครกว่านี้ มากกว่าจะเป็นแค่คนดูมายากลที่นั่งติดเวทีเฉยๆ ถ้ามีการทิ้งปริศนาเนตรภาคีให้คิดต่ออีกหน่อยคงจะดีกว่า หรือนี่อาจจะเป็นช่องว่างเผื่อไว้ให้ทำภาคต่อของทีมผู้สร้างก็ไม่รู้นะครับ เอ๊ะ หรือดูใกล้ไปเลยโดนมายากลเข้าให้ เหมือนในธีมของหนังที่ว่า.. ยิ่งเข้าไปดูใกล้ๆ ยิ่งโดนหลอกได้ง่าย..^^

  2. ผมชอบนะ…..ถือว่า ดีทีเดียว น่าสนุกและน่าติดตาม แต่ก็ไม่ได้หนักพอที่จะให้คะแนนได้มากกว่า8 ครับ
    แต่ผมก็ยังยยืนยันว่าผมชอบอยู่ดี ^^…

  3. ผมว่า จุดขายมันคือ มายากล แต่สิ่งที่ปรากฎบางอย่างผมก็มองว่ามันยังแฟนตาซีเกินไป เว่อร์เกินไปอยู่ดี เลยรู้สึกว่าความตื่นตามันยังไม่สุด ถึงแม้จะมีเฉลยกล แต่กลที่เฉลยก็แค่บางกลเท่านั้น ส่วนเรื่องการฉีกปรับดัดมุมกันก็ทำให้ผมเขวไปบ้าง แต่ในท้ายที่สุดแล้ว คำตอบที่แท้จริงก็ยังไม่ทำให้แบบร้องว้าวแบบฟินจนถึงขีดสุด แต่โดยรวมแล้วหนังก็สนุกดีครับ เพียงแต่มันแฟนตาซีไปหน่อยซึ่งมันก็ดี แต่ผมคาดหวังให้มันสมจริงกว่านี้หน่อย

  4. ผมชอบในแนวของหนังที่หลอกล่อเราไป ผมจะปล่อยตัวให้หนังมันหลอกผมไปเรื่อยๆ แล้วตบหน้าแรงๆตอนท้าย ซึ่งหนังเรื่องนี้ทำผมกับเพื่อนผมอึ้งเลยล่ะ ชอบเลยครับ

    9/10 สำหรับเรื่องนี้ ขาดเพราะว่า ตอนแรกสุดท้ายหลักมายากลกล่าวไว้ว่า สิ่งแรกคือคำปฏิญาณ ซึ่งเอามาให้ดูให้ตรวจ เหมือนการสุ่ม สองการหักเห เบี่ยงเบนความสนใจจากของธรรมดา ซึ่งที่ทำให้หายไปยังที่แห่งหนึ่ง แต่ขาดส่วนที่ 3 ศักดิ์ศรี ที่ต้องเอาคนที่หายคืนมาให้ได้ คนนั้นหายไปได้ไง หายแล้วทำไมไม่กลับมา
    แต่ Sub ให้ 10/10 เลยครับ ผมต้องร้องโอ๊ะ นั่นคือท่านเจไดนะเนี้ย
    ประมาณนี้ครับ

  5. **** ข้อความผมอาจมีสปอยครับ ***

    หนังเรื่องนี้แรงจูงใจมีน้ำหนักน้อยมากครับ ต่อให้พูดอธิบาย เราก็ยังเข้าไม่ถึง ทำให้เกิดคำถามตามว่า “ทำไปทั้งหมดเพื่ออะไรฟ่ะ” ยิ่งดูจนจบยิ่งจับต้องไม่ได้เลย

    แต่

    ในแง่ความสนุก ผมก็ถือว่าดูได้เพลินนะครับ ถึงแม้จะจับไต๋ได้ตั้งแต่แรกๆแล้วก็ตาม แต่มีสิ่งนึงที่ขัดใจผมมากๆๆๆก็คือ ตัวละครที่ใช้การสะกดจิต หรือพลังจิต ได้ มันหลุดคอนเซปหนังยังไงไม่รู้ครับ คือหนังพยายามเล่าเรื่องแบบว่า “พวกเราวางแผนมาดีนะ” ทุกอย่างมาแบบเหนือชั้น ผ่านการวางแผนอย่างดี แต่พอมีคนที่ สะกดจิต ได้อยู่ในกลุ่ม มันทำให้คิดย้อนไปหลายๆฉาก (แทบทั้งเรื่อง) แล้วก็คิดว่า “ทำไมไม่สะกดจิตไปเลยฟ่ะ”

    ไม่ต้องมองในแง่ “การสะกดจิต” มีจริงหรือไม่นะครับ เอาแค่ความเหมาะสมที่จะอยู่ในเรื่องนี้ดีกว่า บางช็อตนี้อย่างกับ X-Men เก่งอะไรขนาดนั้น

    ถ้าสรุปมาว่าเป็นการเตี้ยมกัน ก็จะรับได้มากกว่านี้เยอะครับ

  6. ให้ 7.5 ครับ จากความบันเทิงล้วน ๆ

    นอกเรื่อง ขอชมนิดนึงครับ
    ผมชอบซับลักษณะที่ไม่ยึดติดกับภาษาเดิมมากเกินไป แต่ประดิษฐ์คำเข้ามา แล้วทำให้ทั้งหมดลื่นไหล

    ที่ชอบ เช่น

    “เนตรภาคี”
    “จตุอาชา” (บางที่เค้าบอกว่า horseman มันคน ไม่ใช่ม้า . . . นานาจิตตังครับ)
    “จิตสัมผัส” (อันนี้ฮา)
    “หงุดหงิม” (อันนี้ฮาสุด แต่หลายคนน่าจะพลาด เพราะซับตรงช่วงนี้มันวิ่งเร็วมาก)

  7. .
    ตอนแรกคิดว่าเป็นหนังตลาด ก็เลยว่าจะรอแผ่น พอดีได้ตั๋วฟรีเลยได้เข้าไปดู

    รู้สึกว่าน่าจะเสียเงินซื้อบัตรมาดูซะตั้งนาน สนุก และเพลินเลย แต่น้ำหนักเนื้อเรื่องของหนังน้อยไป

    ให้ 8/10 ครับ
    .

  8. เห็นด้วยกับผู้แปลซับไตเติล้ครับ ^^ ส่วนตัวก็คิดว่าหนังมันสนุกดีนะ แต่ประเด็นต่างๆในเรื่องที่เป็นแก่นของหนัง มันยังเบาไปหน่อย จนไม่เหลืออะไรให้ถกกันเท่าไหร่หลังหนังจบ เทียบกับหนังที่ใช้มายากลเป็นเนื้อเรื่องออย่าง The Prestige ที่จะมีเงื่อนงำมากกว่า จนการมานั่งเถียงกันหรือดูซ้ำเพื่อเก็บรายละเอียดเป็นความสนุกมากๆ แต่กับ NYSM นี่ตื่นตาตื่นใจกว่า แต่จบแล้วก็จบกัน ไม่ได้อะไรกับมันอีก

    8/10 เท่ากันครับ

Leave a Reply to Qool QooCancel reply