Man of Steel สร้างสถิติใหม่ให้รายได้เปิดตัวของหนังเดือนมิถุนายนในสหรัฐ

man of steel 01

UPDATE: ตัวเลขรายได้แน่นอนออกมาแล้วครับ Man of Steel เปิดตัวด้วยรายได้ 116.6 ล้านเหรียญสหรัฐในอเมริกาเหนือ สูงกว่าที่ประมาณไว้คร่าวๆในทีแรก รวมกับรายได้รอบพิเศษในสหรัฐแล้วเท่ากับ 128.6 ล้านเหรียญ (via @ERCboxoffice )

Man of Steel ไม่ได้เพียงทำรายได้สูงสุดในสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ครับ แต่ยังสร้างสถิติรายได้เปิดตัวใหม่ด้วย ด้วยการทำรายได้เปิดตัวหนังสูงสุดประจำเดือนมิถุนายน

ตามรายงานของเดอะ ฮอลลีวู้ด รีพอร์เตอร์บอกว่า หนังกำเนิดใหม่ซูเปอร์แมนของผู้กำกับแซ็ค สไนเดอร์ และขียนบทโดยเดวิด เอส. โกเยอร์ ทำรายได้สูงถึงราว 113.1 ล้านเหรียญ จากการเปิดฉายในสัปดาห์แรก ทุบสถิติเก่าของ Toy Story 3 ที่เคยทำไว้ใน 110.3 ล้านเหรียญ ในปี 2010 และยังทำรายได้เหนือว่า Superman Returns ที่เปิดตัว 84.6 ล้านเหรียญ ในปี 2006 ด้วย รายได้นี้ของ Man of Steel ยังไม่รวมอีก 12 ล้านเหรียญ จากรอบพิเศษในค่ำวันพฤหัสบดี ซึ่งถ้ารวมก็จะเท่ากับทำรายได้ 125.1 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการฉายเกือบสี่วัน

หากรายได้เกิน 100 ล้านเหรียญ แปลว่าหนังภาคต่อชุดนี้ได้กลับมา สตูดิโอได้สร้างหนังในโทนที่ผู้ชมวันนี้ต้องการ นั่นก็คืออะไรที่มืดหม่น” เจฟฟ์ บล็อค รองประธานแหละหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ของเอ็กซิบิเตอร์ บริษัทด้านข้อมูลและการตลาด บอก

แต่แม้ว่าหนังจะโดนใจผู้ชมส่วนใหญ่ จากการที่ได้เกรด A- ของ CinemaScore ซึ่งเป็นคะแนนจากการสำรวจความเห็นหลังชมภาพยนตร์ที่ทำโดยบริษัทด้านการตลาดชั้นนำ แต่หนังก็ดูจะไม่ค่อยถูกใจนักวิจารณ์นัก เพราะมีนักวิจารณ์ชอบเพียง 56% จากการประเมินของเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ครับ

นอกจากเปิดฉายในบ้านแล้ว หนังก็ยังเปิดฉายในตลาดต่างประเทศอีก 24 แห่ง พร้อมกันในสัปดาห์นี้ ซึ่งในรายงานบอกว่าทำรายได้รวม 71.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ Man of Steel เปิดตัวทั่วโลกในสัปดาห์แรกสูงถึง 196.7 ล้านเหรียญครับ

12 comments

  1. ถึงรายได้ดี แต่ก็อย่าหยุดพัฒนานะครับ ดูคำวิจารณ์ข้อดีข้อเสียมาปรับปรุงต่อไป โดยเฉพาะเรื่องบท ผมก็ยังยืนยันคำเดิมว่า เดวิด เอส โกเยอร์ ไม่ใช่คนที่มีฝีมือระดับเทพขนาดนั้น และจะดีกว่านี้มาก ถ้าดีซีใช้บริการบุคลากรในสังกัดของ ดีซีอนิเมชั่น หรือไปง้อ แกรนท์ มอริสัน และ บรูซ ทิม มาช่วยในโครงการนี้ โปรเจคใหญ่ขนาดนี้ ผมไม่คิดว่าโกเยอร์จะเอาอยู่ครับ ถ้าเชื่อมั่นกับโกเยอร์เกินไป แล้วได้บทหนังเห่ย ๆ แบบใน เบลด 3 หรือ โกสไรเดอร์ 2 นี่มันจะเละไม่มีฟื้น

  2. “อลังการงานสร้าง CGบรรเจิด Actionสุโก่ย!!”
    ถ้าใครเคยดู Hunger games ที่มีการถ่ายภาพแบบ Hand held จะรู้ว่ามันทรมานตามากขนาดไหน เจ็บตามากๆ Sup ภาคนี้เหมือนกัน ฉากต่อสู้ และฉากอื่นๆ ถ่ายแบบ Hand held (ตอนนี้ยังปวดลูกกะตาไม่หายเลย) เป็นข้อเสียข้อเดียวของหนังเลย (สำหรับผมนะ)
    ส่วนที่ชอบมากๆคงจะเป็นการเล่าเรื่องแบบไม่เรียงลำดับ เราต้องเรียงลำดับเรื่องราวเอาเอง ไม่น่าเบื่อนะ ชอบมาก(เท่าที่อ่านฟีดแบคก่อนไปดู หลายคนบอกน่าเบื่อ)
    ถึง โนแลน จะนั่งแท่นโปรดิว ก็เถอะ แต่หนังเรื่องนี้ถือว่าเป็นลายเซ็น ของ แซ็ค อยู่ดี (ไม่นับ Hand held นะ)
    แถม +++ ชอบบท,ชอบ Amy Adum,ชอบ ฟาโอร่า โหดมากแม่นางผู้นี้ ผมสั้นด้วย 🙂 ชอบๆ

  3. ถ้าเป็นภาพแบบ handheld เบื้องหลังไม่ยากครับ เพราะเขาใช้ซีจีเข้าช่วย ทำให้ภาพเกิดสั่นไหว เหมือนดูเรียลริตี้ แต่สำหรับคนไทย อาจเป็นอุปสรรค ดูแล้วเวียนหัว เพราะเราคุ้นชินกับภาพแนวราบ และมุมสูงแบบ bird eyes เป็นหลัก แต่ตอนนี้ ก็เริมปรับตัวแล้วครับ>>>อ้อ ลืมไป มีเรื่องหนึ่งที่สงสัยครับ ช่วงเพลงสรรเสริญพระบารมี ของเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ ช่วงท่อนที่ว่า ขอบรรดาล พระประสงค์ใด ผมว่าผิดนะ ที่ถูกต้องคือ ธ ประสงค์ใด มิใช่หรือครับ ซึ่งถ้าพลาดจริง ทำไมไม่มีใครแย้งเลย ผมว่าตาไม่ฝาดนะ ใครตาดี ช่วยเช็คดูอีกครั้งนะครับ !

  4. กำลังจะบ่นเรื่อง กล้องส่าย ฮ่าๆ
    นี่เป๋นเหตุผลนึงที่ ผมตัดคะแนนพิศวาสออก ดูแล้วแทบอ้วกครับ
    อาจจะด้วยคนนั่งข้างๆ มันดูดบุหรี่ และแดกเหล้าก่อนเข้ามาดูหนังด้วย ผมดูไปมึนไป

  5. หนังดีนะ เอฟเฟคก็โอเค เนื้อเรื่องตัดสลับไปมาดูไม่ชวนเบื่อ มีอะไรให้ได้คิด ดูจบแฟนบอกปวดตาเวียนหัว ขอเข้าไปอ้วกในห้องน้ำเลย ท่าจะจริง แต่ปมคอหนัง รู้สึกเฉยๆกับภาพแบบนี้

Leave a Reply to BosCancel reply