อย่างที่เรารู้ครับว่าสัญญาของโรเบิร์ต ดาวนี่ย์ จูเนียร์ ที่ทำกับมาร์เวล ได้สิ้นสุดลงหลังจาก Iron Man 3 และการจะร่วมงานกันใหม่ก็ต้องมีการเจรจาต่อรองใหม่ The Daily Beast ได้สอบถามประเด็นนี้จากผู้กำกับจอส วีดอน ที่กำลังเดินสายประชาสัมพันธ์หนัง Much Ado About Nothing ของเขาอยู่ และวีดอนก็บอกว่าเขาไม่มีเจตนาที่จะกำกับ The Avengers 2 ถ้าไม่มีดาวนี่ย์ร่วมด้วย
“เขาคือไอร์ออนแมน เขาคือไอร์ออนแมนในแบบที่ฌอน คอนเนอรี เคยเป็นเจมส์ บอนด์ ผมไม่คิดจะทำ The Avengers 2 โดยไม่มีเขา หรือถูกเรียกตัวไปกำกับโดยไม่มีเขา” วีดอนบอก “ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นประโยชน์แก่ผม แก่มาร์เวล หรือแก่ตัวเขา และผมคิดว่าทุกอย่างจะหายห่วง แต่ผมรู้ว่านี่คือฮอลลีวู้ด อะไรพลิกผันได้ตลอด เราต้องพร้อมรับสิ่งที่ไม่คาดฝัน”
มีรายงานเมื่อพฤษภาคมว่าดาวนี่ย์กับผู้บริหารของมาร์เวลและดิสนี่ย์ได้นัดกินมื้อเที่ยงเพื่อพูดคุยกันเรื่องข้อตกลงใหม่ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีข่าวคืบหน้าออกมาว่าตกลงกันได้ไหม หรือจะมีการยื่นข้อเสนอให้ในลักษณะใดครับ เราคงต้องรอดูกันต่อไป
The Avengers 2 จะออกฉายปี 2015
ทำให้คิดว่า การเมืองของฮอลี่วู๊ดมันก็น่าปวดหัวมิใช่น้อย
ผมว่านี่คือส่ิงดีครับ ต้องงัดข้อกับ marvel มั่ง เอะอะอะไรก็จะเปลี่ยนตัวนักแสดงอย่างเดียว
มันติดตาไปแล้ว หาคนที่กวนบาทาแบบนี้จากไหนได้อีก -*-
อยากให้นักแสดงหลักอยู่ครบจนถึง Phase 3 หลังจากนั้นจะเปลี่ยนก็ไม่ว่า
ภาวนาให้ทุกอย่างลงตัวด้วยดี และได้ประโยชน์ชื่นมื่นมุกฝ่ายครับ (รวมทั้งคนดูด้วย)
ปวดกบาลกับ RDJ อุตส่าห์ได้เกิดใหม่กับบทนี้ เรื่องนี้แต่เล่นตัวแบบสุดติ่งจริงๆ ไปมาเดี๋ยวก็จะพาคนอื่นๆเล่นตัวไปด้วย ไม่รู้จะวงแตกในที่สุดหรือเปล่า เผลอๆแค่จบ phase 2 ก็น่าจะวงแตกละ แต่ถ้าต่างฝ่ายต่างผ่อนปรนกันได้ก็พากันไปต่อได้ล่ะนะ ทั้งมาเวลแล้วก็เหล่านักแสดงเอง
ปล.ผมรอดูไอรอนแมนภาคต่อหรือรีบู๊ทโดยไม่มี RDJ ครับ เริ่มรับได้จากความงี่เง่าของเค้า
RDJ ไม่ได้เล่นตัวนะครับ ได้ตามข่าวหรือป่าว เขารับไม่ได้กับที่นักแสดงคนอื่นๆได้ค่าตัวน้อยกว่าเขาหลายเท่า ผมว่าคนแบบนี้สิดี เป็นตัวแทนของนักแสดงที่ต่อต้านผู้ว่าจ้างจอมขี้งก ถ้า RDJ จะไม่ได้เพราะเหตุนี้ก็ไม่เป็นไรครับ Marvel จะได้รู้คุณค่าของนักแสดงมากขึ้น
ตามบ้างตามสื่อไทยน่ะครับ แต่อ่านผ่านๆครับ ถ้านี่เป็นเรื่องจริงๆก็เป็นเรื่องที่ดีเพราะบางตัวละครก็ได้ค่าจ้างน้อยจริง แต่งบการสร้างหนังแต่ละเรื่องมันก็ทีจำกัดของมัน ทางค่ายหนังก็ไม่อยากให้บานปลายมากอยู่แล้ว มันก็ต้องจัดสรรไปหลายส่วนแต่ถ้าเฉพาะค่าจ้างนักแสดงก็กินงบไปเกือบครึ่งหรือกว่านั้น โดยเฉพาะหนังที่รวมดารานักแสดงเยอะๆนี่แบบ AV ผมเองก็ไม่คิดว่าองค์ประกอบหนังมันก็จะออกมาดีได้อย่างที่หวังเหมือนกันครับอันนี้ผมก็ยอมรับไม่ได้เหมือนกันครับ เพราะตามข่าวที่อ่านใน AV ภาคแรกค่าจ้างจะเฉลี่ยๆสูงต่ำกันไปตามค่าตัวของแต่ละคนจากรายได้ แต่เท่าที่อ่านจากข่าวการเรียกร้องในภาคนี้คือจ่ายเต็มๆค่าจ้างของใครของมันและบวกเปอร์เซ็นต์อีกต่างหากถ้าจำไม่ผิดนะครับ
สมมติเฉพาะของ RDJ ค่าจ้าง 50M$ แล้วของดาราคนอื่นๆก็ต้องขึ้นอีกรวมแล้วผมว่าคงเกิน 150M$ สบายๆเลย budget มันก็ต้องเพิ่มขึ้น ความเสี่ยงต่อบริษัทเองก็ต้องสูงขึ้นด้วย เพราะไม่ใช่ว่าภาคแรกได้กำไรเยอะแล้ว ภาคสองก็จะได้ไปด้วยใช่ไหมครับ ถ้าคิดแล้วงบบานปลายมากเกินไป ถึงเวลานั้นถึงไม่อยากเปลี่ยนจริงๆก็ต้องเปลี่ยน แต่อย่างไรซะก็ต้องเปลี่ยนไม่ช้าก้เร็ว นักแสดงก็แยกย้ายไปหาเรื่องอื่นแสดงกันต่อไป ถ้าเป็นอย่างงี้แล้วเราจะโทษฝ่ายไหนล่ะครับ
แต่ส่วนตัวผมก็อยากให้สอนมวย Marvel มั่งเหมือนกัน เพราะสิทธิ์การต่อรองตอนนี้ RDJ สูงกว่านักแสดงคนอื่นเลย แต่ถ้าเค้าไม่มีการผ่อนปรนบ้างก็กอดคอกันล่มเหมือนกันแหละครับ
ผมก็คิดไปหลายๆแง่ เกี่ยวข้องบ้างหรือไม่ข้าง ผิดถูกอย่างไรต้องขออภัยครับ ความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ ผมเองก็ยังอยากดูเค้าแสดงในบทนี้ รวมถึงดาราคนอื่นๆด้วยแต่ถ้าถึงเวลาต้องเปลี่ยนเราก็ทำไรไม่ได้ครับ ได้แต่ดูๆกันต่อไป
คุณได้ตามข่าวแล้ว ตามที่คุณโพส คุณก็คงเข้าใจนะครับ อยากให้นักแสดงงัดข้อ Marvel อยู่เหมือนกัน Marvel studio กำลังไปได้สวย แต่ดันมีปัญหาเรื่องพวกนี้ แต่ผมว่าถ้าหนังไปได้ดีขนาดนี้ จะเพิ่งค่าตัวโบนัสทีหลังก็ไม่เสียหาย แต่นี่ไม่พยายามจะกินเต็ม ผมก็ขอให้ DC รีบๆแซงไปเถิด
ตามข่าวบ้างนะครับ Marvel Studios นี่ขึ้นชื่อในเรื่องของความงกค่าตัวเลยนะครับ RDJ แกไม่ได้เล่นตัวครับ แกออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่เพื่อนร่วมนักแสดง
The Avengers REBOOT!!!
ถ้า มนุษย์เตารีด ไม่ใช่ ป๋าดาวน์นี่ ก็ ทำใจกับ ฐานลูกค้า และแฟนๆ ทั้งตัวป๋าและแฟนๆหนังได้เลยย
เพราะป๋าได้สร้างงง ตัวตน ที่มี ชีวิต มีวิญญาณไว้แล้วว กับบทนี้
คือผมไม่ได้จะเวอร์นะ… แต่ผมนึกภาพที่ Iron man ที่ไม่ใช่ ป๋า ดาวน์นี่ ไม่ออกจริงๆ
ใครจะหล่อ เท่ กวนตรีน คาริสม่าได้อย่างป๋า มีอีกเหรอออ จะหาที่ไหนคร้าบบ
ปล.เรื่องค่าตัวนั้น ป๋าราวกับ ประมุขของศาสนาศาสนานึงเลย หล่อและใจหล่อมากเลยที่ริเริ่ม ความเท่าเทียมกันของค่าตัวนักแสดงง
ต้องทำใจครับ การที่นักแสดงเรียกค่าตัวเพิ่มขึ้นเปนเรื่องปรกติ ดูตัวอย่างอย่างเจมส์บอนครับพี่เครกเราก็เรียกค่าตัวสูงกว่าภาคที่แล้ว ซึ่งมันเป็นปรกตินะในวงการฮอลลี้วู๊ด
แต่ ดาวนีย์นี่ต่างกับลุงเครกนะคือแกเรียกร้องให้เพื่อนๆด้วยซึ่งผมเห็นว่าเป็นสิ่งที่เยี่ยมมากครับ
มันทำให้แกดูเหมือนโทนี่สตาร์กมากขึ้นไปอีก ที่สำคัญพี่แกได้ 50m แล้วเพื่อนได้ 500,000 นี้ ผมว่าแกคงเกร็งมากมายนะั
แต่เห็น จอสวีดอน พูดเรื่องพระเอกเจมส์บอน ผมว่าอนาคตเปลี่ยนแน่ น่าจะภาค 4 เลยแหละ เพราะผมว่า ไออ้อนแมน ต้องหาอะไรที่ท้าทายบ้างและ
จะฦากไว้กับโรเบริต์มันก็ไม่ได้หรอกกกก
อนิจจัง วัฏสังขารา…….
เฮ่อ
หาก Marvel แจกโบนัสน่าจะดีกว่านี้ อย่างน้อยก็แสดงความจริงใจกันบ้าง หนัง Avenger เองก็ทำได้ดีมากๆ รายได้ $1,500 ล้านแม้ว่าจะไม่เข้ากระเป๋า Marvel ไม่ถึง 1/3 แต่มันคือการเพิ่มแฟนๆ ให้กับตัวละครซูปเปอร์ฮีโร่ที่จะมีภาคแยกต่อๆ กันไปแน่นอนอีกหลายต่อหลายเรื่อง และ Avenger 2 อย่างน้อยก็ต้องกระหึ่มตอนเปิดตัวแน่ๆ แต่จะปิดรายรับที่เท่าไหร่ก็อยู่ที่ฝีมือ Marvel เอง
เรื่องเปลี่ยนนักแสดงในหนังภาคต่อ เป็นอะไรที่ค่อนข้างไม่ชอบเอาเสียเลย อย่างบท Rhodey ถ้า Terrence Howard กลับมใน Iron Man 2 และ 3 ผมว่าหนังจะสนุกและจะเนียนกว่านี้แน่ๆ เพราะ Terrence Howard ทำไว้ดีมากๆ กับ Iron Man ภาคแรก
อยากให้ทุกคนอยู่กันยาวๆเลยครับ
มันทำให้รู้สึกผูกพันกับตัวละครมากๆ เหมือนที่ FF 6 ภาคทำได้