สหมงคลฟิล์มส์ได้ปล่อยภาพนิ่งแรกอย่างเป็นทางการของหนังบู๊สามมิติ “ต้มยำกุ้ง 2” ออกมาประชาสัมพันธ์แล้วครับ มีจา พนม ยีรัมย์ เป็นตัวโชว์แรงสำคัญในทั้งสามภาพเหมือนที่เขาเป็นตัวเอกในหนังเรื่องนี้ มีภาพตั้งท่าเตรียมบู๊, ภาพบู๊กับนักสู้ต่างชาติ และภาพขี่มอเตอร์ไซค์ไล่ล่าบนถนนที่ดูเป็นฉากการไล่ล่าที่เอพิกมาก ด้วยจำนวนรถมอเตอร์ไซค์ที่มองคร่าวๆ แล้วน่าจะเกือบร้อยคัน
มร.กิลเบิร์ต ลิม รองประธานกรรมการบริหารอาวุโส ฝ่ายต่างประเทศ บ.สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล ยังบอกมาในจดหมายข่าวที่มาพร้อมกับสามภาพนิ่งด้วยครับว่าหนังได้รับการตอบรับอย่างดีมากที่ตลาดหนังเมืองคานส์ เมื่อได้เอาฟุตเตจหนังยาว 30 นาที ไปฉายแสดง “เป็นที่น่ายินดีที่ว่าทุกคนที่ได้ดูแล้วล้วนแต่ชอบหนังของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุกคนต่างทึ่ง และตื่นเต้นไปกับการได้เห็นฉากแอ๊คชั่นของ โทนี่ จา ในระบบ3มิติ ได้เห็นการต่อสู้ในรูปแบบเรียลแอ็คชั่นอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในสไตล์ของโทนี่ จา และที่ถูกพูดถึงอย่างมากที่สุดคือฉากแอ็คชั่นยาวต่อเนื่องแบบนันสต็อปซึ่งน่าจะพูดได้ว่ายาวที่สุดถึง 16.18 นาที”
แปลว่าหนังเรื่องนี้จะมีฉากต่อสู้ต่อเนื่องยาวถึง 16.18 นาที ไม่รู้ว่าจะเป็นฉาก long take แบบในภาคแรกที่ผมทำให้ผมซึ่งบ้า long take ฟินมากๆ ไหม
ในจดหมายข่าวบอกด้วยว่าหนังจะเข้าฉายปลายปีครับ แปลว่าน่าจะเลื่อนจากสิงหาคมที่เป็นกำหนดเดิม คลิกชมรูปทั้งสามด้านใน
ภาพสุดท้ายนี่…
ภาพสุดท้ายนี่แหละ…
แว้นๆๆๆๆๆๆๆ
จีจ้าไปไหน
เลี้ยงลูกครับ คลอดเมื่อ ม.ค. นี่เอง
ภาพสุดท้ายเป็นลายเซ็นของไทยเลย
ภาพสุดท้ายนี่หลายความหมายเลยน่ะเนี่ย
จะกี่คอมเม้นก็ชอบภาพสุดท้ายครับ ชอบจริงๆ เหมือนตุ๊กๆ กับเรือหางยาว อารมณ์ร่วมของคนไทย
ภาพสุดท้ายขโมยซีน
อีกฝั่งนึงรถอย่างติด คงจะเซ็งกันมาก
ถ้าผมอยู่ฝั่งตรงข้ามที่ติดอยู่นั่น คงเคืองไม่น้อย ฮาๆๆๆ
ถ้ามีฉากต่อสู้ยาว16นาทีจริง ก็เป็นหนังบู๊ที่แย่อีกแล้ว
ปัญหาของคนทำหนังค่ายนี้ คือ ทำหนังบู๊ก็บู๊กันสะบั้นหั่นแหลก…….ทำหนังสยองขวัญ(ผี)ก็สยองขวัญตลอดเวลา……..ละเลยความสำคัญของพล็อตเรื่องและบทหนังอยู่เสมอ
ดูหนังจาพนมทีไร…….หนังจบแทบจะอ้วกออกมาเป็นเท้าจาพนมทุกที
หนังบู๊ผมไม่เห็นจำเป็นต้องบู๊กันตลอดเวลาเลย…..หนังฮอลลีวู้ด หนังฮ่องกง….ต้นเรื่อง ถึงกลางเรื่อง มีฉากบู๊แค่่นิดๆหน่อย…..จะบู้กันหนักๆก็แค่ช่วง ไคลแม็กซ์ ของเรื่อง เท่านั้นเอง
เนื้อเรื่องสำคัญที่สุด ถึงฉากบู๊จะดีแต่เนื้อเรื่องห่วยเหมือนภาค1ละก็ก็ เจ๊งแน่ เขาน่าจะยอมจ้างคนเขียนบทเก่งๆนะ ไม่ใช่เขียนกันเอง