Fast & Furious 6: ความเห็นหลังชม
Fast & Furious 6 น่าจะเป็นหนัง 2D ของฤดูร้อนปีนี้ที่ทำรายได้สูงสุด และน่าจะครองตำแหน่งหนัง 2D ทำเงินสูงสุดแห่งปีจนกว่า The Hunger Games: Catching Fire จะมาถึงครับ รายได้ในสหรัฐจากการฉาย 10 วันตอนนี้อยู่ที่ราว 170 ล้านเหรียญสหรัฐ รายได้จากตลาดโลกอีกราว 310 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนบ้านเราก็ผ่าน 180 ล้านบาทไปแล้ว
หนังยังทำหน้าที่ให้ความบันเทิงได้ในระดับที่ดีในฐานะเป็นหนังซัมเมอร์ด้วยครับ คะแนนจาก Rotten Tomatoes อยู่ที่ 72% ต่ำกว่า 78% ของภาคที่แล้ว แต่ก็ไม่ได้ต่ำขนาดเสียฟอร์ม สำหรับผมแล้ว หนังสนุกในระดับเดียวกันกับภาคที่แล้ว แต่สิ่งที่ชอบมากกว่าน่าจะเป็นฉากเซอร์ไพรส์ท้ายเรื่องที่ทำให้อยากดูภาค 7 ในทันที
Fast & Furious 6 เป็นหนังบู๊ดูเอามันส์ ถ้ามันสามารถตอบโจทย์นี้ได้ สร้างความมันส์ได้ ก็ถือว่ามันสอบผ่านตามจุดประสงค์ และหนังเรื่องนี้ก็ทำได้มากกว่าสอบผ่าน มันมีฉากบู๊บนถนนที่ลุ้นระทึก ขณะเดียวกันก็ซับซ้อน เป็นฉากที่ไม่ได้ถ่ายทำได้ง่ายๆ เลย โดยเฉพาะฉากสู้กับรถถัง ฉากบู๊บนรันเวย์สุดท้ายแม้จะไม่ดูใหญ่โตเท่าฉากรถถัง ไม่ได้ดูซับซ้อนเท่า น่าจะเป็นฉากบู๊ปิดท้ายที่ดุเดือดและมันส์กว่า และความมืดก็ทำให้ฉากนี้ไม่มันส์เท่าที่อยากให้มันส์ แต่ก็สร้างอารมณ์ลุ้น เอาใจช่วยตัวละครได้ไม่แตกต่างกันมาก
สิ่งที่ทำให้ Fast & Furious 6 ทำสำเร็จกว่าหนังบู๊เอามันส์เรื่องอื่นๆ ก็เพราะไม่ได้เน้นแค่ฉากบู๊อย่างเดียว มันมีบทที่ดีในระดับใช้ได้ในการให้เรารู้สึกห่วงใยตัวละคร และมีข้อได้เปรียบกว่าหนังบู๊อื่นตรงที่มีตัวละครที่มีเสน่ห์ที่เรารู้จักกันมาหลายภาคแล้ว ไม่จำเป็นต้องสร้างความผูกพันมาก เพียงแค่ใส่ฉากให้ตัวละครเหล่านี้ได้แสดงบางอย่างให้เราได้รักพวกเขามากขึ้นก็พอ ถ้าทำได้แล้ว หนังก็สามารถจัดฉากลุ้นระทึกอะไรเข้ามาได้หมด คนดูจะไม่รู้สึกงั้นๆ กับฉากบู๊ ฉากเสี่ยงตายต่างๆ เพราะเมื่อคนดูชอบตัวละครแล้วก็จะลุ้นให้ตัวละครเอาตัวรอดให้ได้ ยิ่งจัดฉากที่ดูว่าเสี่ยงตายมาก ยากที่จะฝ่าไปได้ ก็ยิ่งทำให้คนดูลุ้นมันส์ขึ้น
หนังบู๊หลายเรื่องทำให้เราอินกับตัวละครไม่ได้ ต่อให้มีฉากบู๊ที่ซับซ้อน หรือไฮเทค หรืออลังการยิ่งใหญ่กว่าหนังเรื่องนี้ เราก็จะไม่ค่อยรู้สึกมีอารมณ์ร่วมไปกับมันเท่าไหร่ แค่รู้สึกว่าฉากใหญ่โตดีนะ แต่แค่นั้น เหมือนแค่นั่งดูงานโชว์ฉากบู๊อย่างเดียวที่สักพักก็จะน่าเบื่อ เพราะไม่มีอารมณ์เป็นแกนของภาพที่จะดึงให้เรามีส่วนร่วม
อีกอย่างที่ชอบมากๆ ก็คือการกระจายบท ให้ทุกตัวละครหลักได้เด่น มีฉากเท่ ฉากโชว์ ฉากขำ ได้อย่างที่ไม่มีใครถูกกลืนหาย แม้แต่ตัวร้าในเรื่องที่รับบทโดยลุค เอแวนส์ กับ โจ ทาสลิม ก็มีช่วงเวลาได้เด่นเป็นที่จดจำบนจอครับ
ชอบหนังเรื่องนี้แค่ไหนกันบ้าง ใส่ความเห็นกันเลยครับ และอนุญาตให้สปอยล์ได้
ชอบตอนท้ายเรื่องเช่นกัน อยากดูภาคถัดไปทันที อยากรู้พระเอกtokyo driftจะกลับมาภาค7มั้ยอะ
ผมคิดว่าน่าจะไม่มีนะ เพราะดูเกินความจำเป็นไป
(ทั้งที่ใครหลายคนก็อยากให้มี) และดูแล้วพระเอก ภาค3 นี่จะเด็กไปกับการ บู๊ระห่ำ ถ้าเจอพี่เจสันอีก คงแย่แน่ 555
อาจจะมี Sean ก็ได้ครับเพราะท้ายเครดิต Tokyo drift ดอนไปแข่งรถกับ Sean ผมว่าภาค 7 อาจจะเริ่มจากฉากนี้แหละ เพราะเห็นได้ชัดว่าดอนมาสืบหาเหตุการตายของฮาน
.
พระเอกภาค 3 ตอนนี้มันคงไม่เด็กแล้วละ มันผ่านไป 7 ปีแล้วนะ
.
Lucas Black เพิ่งจะ30เองครับ
รันเวย์ยาวมากกกกกกกกกกกก
ยาวจริงๆครับ ยาวจนผมแอบเบร่อๆตอนดูฉากนี้
มันสะใจสนุกเท่สุดยอด ให้ 5 คำนี้เลย
อีกหนึ่งความประทับใจ คือการทำให้หนัง ทุกๆ ภาคเป็นเรื่องเดียวกันอย่างสวยงาม และเนียนมาก (ทั้งๆที่ไม่ได้น่าจะเตรียมการไว้ก่อนโดยเฉพาะฉากจบ) ทั้งการที่ทำให้เรื่องของ เล็ตตี้ มีบทบาททางด้านความรู้สึกผิดให้กับ ไบรอัน แล้วสรุป ดอม ฟันแล้วทิ้งเลยนะ 555
แล้วช่วงที่สู้กับรถถังบนถนนนี่ ดูแล้วอินตามหนังมาก ทำให้ผมลืมไปเลยว่าต้องมีฉากเครื่องบินอีก จนคิดว่าหนังจะจบ สุดยอดมาก
ส่วนฉากสุดท้ายนี่เนียนมากๆ ต้องย้อนไปดูการตายของฮานในภาค Tokyo ซึ่งฉากนี่เราดูเหมือนเป็นอุบัติเหตุ แต่พอมาดูภาคนี่ก็สามารถทำให้ดูเป็นการจงใจชนได้ ถือว่าเก่งมากๆกับการเอามาปะติดปะต่อกัน ท้ายนี่บอกไว้ก่อนว่า “ทอเร็ตโต้ เดี๋ยวเราเจอกัน”
พี่ เจสันมาแว้ว
แล้วอย่างที่คุณ Jediyuth ว่า หนังเรื่องนี้ทำให้เรารักและห่วงใยตัวละครมาก
มันเลยทำให้เราสนใจทุกรายละเอียดของตัวละคร กลายเป็นครอบครัว (และนี่ถ้าทำให้ตัวละครหายไปแบบไม่ชัดเจน หรือ เปลี่ยนคนแสดง) ถือว่าน่าจะมีผลต่อความรู้สึกแฟนหนังอย่างมาก มากยิ่งกว่าเรื่องอื่นๆเลย ผมให้คะแนน เต็ม 10 จากใจแฟนหนังชุดนี้
ภาค 7 จะเป็นภาคที่เกิดขึ้นหลังภาค 3 แน่นอน
งั้นภาค3 ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนภาค 6 อะสิ
หลังภาค 6 นะ พิมพ์ผิด
ถ้าดูแบบไม่ต้องคิดตาม ถือว่าสอบผ่านในการกระจายบทและการสร้างฉากaction แต่เพราะความที่เป็นหนังaction ไม่ใช่หนังsci-fi ทำให้เหตุการณ์หลายอย่างมันค่อนข้างเหลือเชื่อ โดยเฉพาะที่ให้เล็ตตี้อยู่ๆก็รอดมาโดยมีความจำเสื่อม(ไม่รู้เพราะภาคก่อนคิวไม่ว่างหรือเปล่า แต่ผมไม่เชื่อว่าคนสร้างจะคิดเนื้อเรื่องเอาไว้ก่อน และทำให้กลายเป็นหนังเรื่องแรกของเธอที่ตายแล้วฟื้นกลับมาได้) รวมทั้งฝ่ายตัวเอกไม่มีใครเป็นอะไรเลยในฉากบู๊ต่างๆของหนัง แม้ท้ายเรื่องจะมีตายหนึ่งคน แต่เชื่อเถอะหนังก็ทำให้เธอพร้อมจะกลับมาได้อีก (ผมก็แอบเสียดาย เพราะหน้าเธอหวานและสวยดี) สำหรับผมแล้วเรื่องนี้กลายเป็นหนังactionที่พอดูเพลินๆฆ่าเวลาเท่านั้น ผมกลับชอบภาคแรกมากที่สุดที่ดูตรงคอนเซ็ปต์ของหนัง ภาคหลังๆเหมือนหมดไอเดียแล้ว กลายเป็นหนังแนวactionวินาศสันตะโรไป แม้จะพยายามสร้างความเป็นครอบครัวและมีดีตรงการสร้างฉากaction แต่ก็ไม่มีอะไรให้น่าจดจำ
รับไม่ได้กับการที่ Lette แค่สมองเสื่อม ง่ายไปนะ ละครไทยน้ำเน่า เท่ากับ 2 ภาคก่อนหน้า ความสัมพันของเรื่องราว
ภาค 7 ไม่แน่อาจจะกลับไปลุยกันในโตเกียวก็ได้นะครับ เพราะท้ายเรื่องภาค 3 ดอมก็ไปอยู่ในโตเกียว
เมื่อคืนผมดูภาค 4 ต่อท้ายด้วย 5 แล้ว แว๊บมาภาค 3 นิดนึง 4-5 เชื่อมโยงกัน แต่ เปิดฉากภาค 4 ตอนต้นเรื่อง ฮานก็มากับแฟนที่เจอกันในภาค3 จากนั้นก็หายไปเลย……ไม่รู้ว่ามาเข้าทีมกับดอมแบบใหน ในภาค 4…..
สำหรับผม ผมชอบภาค 5 มากกว่านะครับ ภาคนี้ก็สนุกดี เสียแค่ฉาก Action ที่ดูธรรมดา ไม่มีอะไรแปลกใหม่ ผมเลยรอดูบทคุยกัน วางแผนกัน พอถึงฉากแอ๊คชั่น โดยเฉพาะช่วงเครื่องบินตอนท้ายๆนี่จะหลับเลยครับ
รู้สึกอินกับกายตายของจีเซลมากกก ชอบฮานกับจีเซล มากก จิ้นคู่นี้ รู้สึกว่าเป็นคู่ที่น่ารักมากกกก
ช่วงจีเซลตายเป็นอะไรที่เดาได้ตั้งแต่ตอนที่จีเซลคุยกับฮานว่า จะไปตั้งรกรากกันที่โตเกียว…
แต่พอถึงฉากนั้นจริงๆ น้ำตาแอบซึม…..เท่าที่คุยกับเพื่อนๆในเฟส ที่ไปดูและเป็นแฟนหนัง
หลายคนชอบคู่ฮานกะจีเซลนะ….และเสียดายคู่นี้กันจริงๆ
แล้วเห็นด้วยกับพี่เจไดว่า ตอนสเตแธมมาตอนท้าย ผมตะโกนลั่นโรงเลยว่า
“สุโค่ยย ตัวพ่ออีกคนมาแล้วว กะจะไม่ให้รอดูเรื่องอื่นเลยเหรอเนี่ยยค้าบบ “…คนข้างๆหัวเราะใส่่เลย
55+….สรุปว่าชอบครับบ เป้นบทสรุปของทั้ง6ภาค แล้วก็ เป็นจุดเริ่มของภาคใหม่ได้ดีจริงๆ
ไม่รู้สปอยด์ไหม
ผมชอบภาคนี้มากครับ แต่ติดนิดนึงตรง คนที่ตกลงไปบนรันเวย์ ทำไมไม่กลับรถไปดูบ้าง อาจบาดเจ็บสาหัสและพาพอไปส่ง รพ.ได้ ดันมาจอดรถหน้าเครื่องบินระเบิดกันซะงั้น ไม่ห่วงคนล่วงไปมั่งเลย T T มันสามารถกลับรถไปหากันได้แท้ๆ ไม่ได้ตกจากเครื่องบินนะครับ แค่ล่วงไปบนรันเวย์เอง และอีกข้อคือรันเวย์ค่อนข้างยาวมากทีเดียว ผมรู้สึกว่าเครื่องบินเวลาขึ้นมันใช้เวลาไม่ถึง 1 นาทีเองมั้ง จากตอนวิ่งถึงตอนเครื่องขึ้น
ฉากที่จีเซลร่วงลงไปในรันเวย์ โดยที่ไม่ได้กล่าวถึงอีกและคนดูก็คิดว่าเธอตายแล้ว (เที่ยวนี้ไม่มีฉากงานศพเหมือนตอนเล็ตตี้ตาย)ไม่แน่ว่าทางผู้สร้างอาจจะจงใจเก็บไว้เป็นทางเลือก ให้เธอกลับมาอีกครั้งเพื่อแก้แค้นแทนฮาน ก็เป็นไปได้ครับ อันนี้ผมเดาเองล้วนๆนะครับ
สปอยด์!!!
ดูจากชื่อคุณแล้ว ผมไม่เชื่อคุณหรอกคุณเป็นคน ฆ่าฮาน
+1 ผมก็คิดแบบคุณ อยากให้จีเซลกลับมาทวงแค้น เธอสวยควรค่ากับซีรีย์หนังชุดนี้ เพราะเลตตี้เอาแต่ทำหน้าบูดตลอดเวลา คนอะไร๊ อารมณ์เสียได้ตลอด ไม่เคยเห็นเธอยิ้มเลย
อยากให้เปรียบเทียบรันเวย์เรื่องนี้กับ Argo ดูนะครับ อิอิ
ปล. เห็นว่าพระเอกภาค 3 จะกลับมาภาค 7 นะ ไม่แน่ใจแต่เคยอ่านข่าวผ่านตา
ชอบ พี่ดำมากๆๆครับ (Tyrese Gibson) โดยรวมแล้วชอบสมาชิกทุกๆคน เหมือนเป็นครอบครับกันจริงๆเลย
จากความเห็น คุณ porepor
พระเอกภาค 3 ยังเด็กอยู่ครับ ภาค 3 เกิดหลังจากภาค6 นะ
ซึ่งตอนที่ดอมไปหาฉากสุดท้ายก็คือยังเรียนอยู่เลย
ส่วนตัวแล้วรู้สึกด้อยกว่าภาคที่แล้ว ภาคที่แล้วประทับใจมากที่เจ้าหน้าที่ฮ๊อบร่วมมือกับดอม (รวมถึงฉากที่ทีมฮ๊อบโดนยำกินโต๊ะกลางถนน) เมื่อเทียบกับภาคนี้แล้ว ภาคนี้ทำออกมาได้ดีแต่รู้สึกว่าสู้ภาคที่แล้วไม่ได้ในหลาย ๆ เรื่อง
เนื้อเรื่องหลังจากฉีกแนวมาได้ 3 ภาค (หรือวกกลับไปยังจุดเริ่มต้นนะ) ก็เริ่มรู้สึกว่าไม่มีอะไรใหม่แปลกตา อะไร ๆ ก็อยู่ใน Trailer เป็นซะส่วนใหญ่แถมลำดับขั้นตอนก็เดาได้ตั้งแต่ใน Trailer แล้วทั้งนั้น
ความรู้สึกเอาใจช่วยตัวละครสำหรับผมกลับรู้สึกว่ามันมีน้อยกว่าบางเรื่องที่เป็นหนังภาคเดี่ยวซึ่งผมถึงกัยบ่นกับเพื่อน ๆ ใน Facebook ไปว่า “หนังภาค 6 แล้ว เราผูกพันกับตัวละครได้แล้ว แต่ทำไมความรู้สึกเอาใจช่วยมันไม่มีนะ”
ว่ากันตามตรงเป็นหนังที่ถูกผมนำไปเทียบกับ Star Trek : into Darkness มากที่สุดเรื่องหนึ่ง อาจเพราะได้ดูในเวลาใกล้เคียงกันมาก ๆ ซึ่งเรื่องการกระจายบท Fast 6 เองผมว่าอยู่ในเกณดีใช้ได้ แต่สู้อีกเรื่องหนึ่งที่กล่าวไว้แล้วไม่ได้ ทั้งเรื่องกระจายบท ลำดับฉาก รวมถึงความรู้สึกเอาใจช่วยตัวละคร
ตัวหนังเองผมดูไปเบื่อไปแบบให้ความรู้สึกว่า “เมื่อไรจะจบ” ต่างกับ Star Trek ที่รู้สึกว่า “จบแล้วหรอ ไวจังอยากให้มีอีก” ทั้ง ๆ ที่หนังก็ 2 ชม. นิด ๆ เหมือนกัน
ส่วนตัวแล้วผมให้ 7/10 ครับ หนังดูสนุก(และน่าเบื่อบางช่วง) แต่ไม่โดนอย่างแรง
ท้ายเรื่องก็ผิดหวังเพราะเดิมทีเห็นปูทางเรื่องของฮานจะไปโตเกียวมาแล้ว นึกว่าภาคนี้น่าจะลงเอยด้วยฮานรอดตายด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตาม แต่เห็นท้ายเรื่องเลยทำให้เซง (แถมสาวสวยยังต้องจากไปอีก) อีกทั้งยังพี่เจสันที่รู้สึกไม่ชอบให้เล่นบทร้ายอย่างแรง – -“
+1 เห็นด้วยฝุดๆครับ ผิดหวังนิดๆกับ FF ภาค 6 แต่โดนที่สุดกับ Star Trek
ตั้งแต่ดูหนังมาปีนี้ Star Trek ขึ้นที่ 1 ในใจเลย สงสัยคงต้องรอ Man of Steel มาโค่นละครับ เห็นข่าวเมืองนอกเค้าบอกว่าถือเป็นหนังซัมเมอร์ที่ดีที่สุดของปีนี้ รอพิสูจน์ แต่ดู Trailer ไป 10 กว่ารอบ ตราตรึงขนลุกตลอด
Star Trek ลุ้นทั้งเรื่อง ตื่นเต้นทั้งเรื่อง แต่ไม่ชอบตรง ฟื้นคืนชีพนี่แหละ แค่ปูตอนช่วยสาวน้อยตอนต้นเรื่องพอ ไม่ต้องมาทดลองกับสัตว์ให้ชี้ชัดขนาดนั้น
Fast 6 เว่อร์จนอยากหลับ ทำไมต้องชิป เบื่อ! ดอมกระโดดรับเล็ตตี้ เว่อร์มาก ฮ๊อบตอนเสียทีมใน Fast 5 รักเลย แต่ภาคนี้ไม่มีทีม มีแต่ลูกน้องที่ฮ๊อบเองยังไม่รู้ว่า…มันเลยเสียชื่อฮ๊อบเลย ดราม่าน้อยกว่าภาคที่แล้ว
ความรักในครอบครัวเลยดูหลวมๆไป รันเวย์ยาวเกิ้น ตัวโกงก็ไม่ฉลาดมากมาย ซิ่งก็ไม่เทพ รถต่างหากที่เทพ
fast 6 ไม่ เวอร์ ไป หรอก ถ้า เทียบ จากหนังอื่น แล้ว
ที่ ว่า เปงหนัง ที่ สนุก มาก เลย ทีเดียว
ดูแล้วมันส์สุดๆๆ