ตัวอย่างฉบับเต็มตัวใหม่ของ Man of Steel เหาะมาแล้ว
คาล-เอลถือกำเนิดมาในฐานะเด็กที่มีความพิเศษ และก่อให้เกิดวิกฤติบนดาวบ้านเกิดของเขา หลังจากเขาถูกส่งลงมาบนโลกและได้รับเลี้ยงดูในฐานะคลาร์ก เคนท์ โดยที่ไม่รู้ชาติกำเนิดแท้จริง นอกจากรู้แต่เพียงว่าเขาไม่ได้เป็นคนบนโลกใบนี้ เขาได้เติบโตอย่างรู้สึกโดดเดี่ยว ออกเดินทางเพื่อจะค้นหาที่มาแท้จริงของตัวเอง และเขาถูกส่งมาที่โลกทำไม แต่เมื่อมหันตภัยร้ายได้มาคุกคามโลก เขาต้องเรียกความเป็นวีรบุรุษในตัวเองออกมาเพื่อช่วยปกป้องโลกไว้ และเป็นความหวังเดียวของมวลมนุษย์
ตัวอย่างใหม่ของหนังยาว 3 นาที มีฉากใหม่มากมาย ทั้งบนดาวบ้านเกิดของคาล-เอล และช่วงเวลาวัยเด็ก ดูจะเน้นที่เรื่องราวชีวิตเป็นส่วนใหญ่ก่อนที่จะตัดฉากบู๊ใหญ่ๆ ให้ดูช่วงท้ายที่เป็นการมายังโลกของนายพลซ็อด เพื่อตามล่าตัวเขาครับ แต่ทั้งหมดทั้งมวลอยู่ในโทนแบบหนังดราม่ามหากาพย์ และยิ่งได้การถ่ายทำในระบบจอกว้างด้วยแล้ว ยิ่งทำให้หนังมีอารมณ์แบบหนังมหากาพย์ยุค 60-70 มากๆ แต่ถ้าเทียบกับ Iron Man 3 ที่มีอารมณ์ขันมากกว่าแล้ว หนังอาจทำรายได้สู้ไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าหนังเรื่องไหนจะดีกว่ากันครับ
ในตัวอย่างยังพยายามที่จะไม่พูดชื่อ “ซูเปอร์แมน” ด้วยครับ โลอิส เลนพยายามจะตั้งชื่อให้ แต่ก็พูดไม่จบ และหนังยังบอกที่มาของตัว S ที่หน้าอกด้วยว่า บนดาวของคาล-เอลนั้น มันเป็นตัวหนังสือแปลว่าความหวังครับ
Man of Steel กำกับโดยแซ็ค สไนเดอร์ จาก 300 อำนวยการสร้างโดยคริสโตเฟอร์ โนแลน จากไตรภาค The Dark Knight มีเฮนรี คาร์วิล รับบทคลาร์ก เคนท์, เอมี่ อดัมส์ เป็นลูอิส เลน, ไมเคิล แชนนอน เป็นนายพลเซ็ดตัวร้าย, ร่วมด้วยเควิน คอสเนอร์, ไดแอน เลน, รัสเซล โครว์, ลอว์เรนซ์ ฟิชเบิร์น, คริสโตเฟอร์ เมโลนี และอีกมากมายครับ ออกฉายมิถุนายน 2013 นี้
คลิกชมตัวอย่างด้านใน
Quick Time HD 480 p / 720 p / 1080 p
ไม่ผิดหวังพี่ไม่หลับไม่นอนรอดู TT
เอิ่มมมแบบว่าหนังชีวิต
ผมกลับมองเห็นเป็นอีกอย่างนะครับ ว่าเรื่องรายได้ คงไม่ได้ต่างกันมากนัก
เพราะดุแล้ว ซุ…… คงไม่ใช่จะดราม่าอย่างเดียว ดูจากฉาก บนดาวพระเอกแล้วก็ ฉากโลกถูกรุกราน
ก็ ตื่นตาตื่นใจในระดับนึง แฟนๆซุ….. คงอยากดูกันมากแน่ๆ…
จริงๆแล้วผมอยากดู มนุษย์เหล็กนะ แต่บุรุษเหล็ก ผมก็คิดว่าผมจะไม่พลาดเช่นกัน…
แต่คัวอย่าง คงด่วนสรุปอะไรไม่ได้ นอกจากได้ดูของจริง ซึ่งแนวของโนแลน คงไม่มาเล่นดราม่า บีบน้ำตาให้มากเรื่องอยู่แล้ว น่าจะตีความใหม่ ซึ่งยังคงเป็นปริศนา ว่าจะออกไปทางไหน แต่ที่แน่ ๆ ตัวร้ายอย่างนายพลซ๊อด กับลูกสมุน ที่เป็นศุตรูตัวฉกาจ ซึ่งเป็นคู่ต่อกรกับซูเปอร์แมน ไม่ถือว่าไหม่ครับ เพราะก่อนหน้านี้เคยออกมาวาดลีลาเหลือร้ายให้เห็นมาแล้ว สมัยผู้กำกับ ริขาร์ด เลสเตอร์ ที่ คริสโตเฟอร์ รีฟ สวมบท และ ริชาร์ด ดอนเนอร์(ฉบับไดเร็คเตอร์ คัท ที่ออกเฉพาะดีวีดี และ บลูเรย์ เท่านั้น) ถือว่าเป็นเวอร์ชั่นที่สนุกมากๆตอนหนึ่ง ซึ่งการหวนกลับมาขึ้นจอใหญ่ของนายพลซ๊อด,เออซ่า ครั้งนี้ ไม่น่าจะสร้างความผิดหวังกับคนดูนะ เพียงแต่จะมากไปด้วยปรัชญาให้ขบคิดเหมือนผลงานก่อนหน้านี้อย่าง Memento หรือ Inception หรือไม่ ต้องติดต่อดูกันต่อไป !!!???
โนแลน ไม่ได้กำกับครับ เขาเป็นโปรดิวเซอร์ให้ แซ็ค ซไนเดอร์ กำกับ วิสัยทัศน์ส่วนใหญ่ก็ต้องมาจากสไนเดอร์อยู่แล้ว
แล้วสาวที่มากับซ็อดในภาคนี้ไม่ใช่เออซ่า แต่เป็น ฟาโอร่า ครับ
แซ็ก สไนเดอร์กำกับไม่ใช่เหรอ?
นั่นสิครับ เหมือนพวกเราจะลืมไปแล้วว่า โนเลน ไม่ได้มากำกับ ฮ่าๆ
ผมว่าไม่เป็นไรหรอกมั้งครับ คนที่คิดว่าโนแลนกำกับหรือคนที่รู้แล้วว่าโนแลนไม่ได้กำกับแต่ยังให้เครดิตเขามากๆ แต่ชื่อของโนแลนก็ยังให้เครดิตกับเรื่องนี้อยู่ดี ผมเห็นคนส่วนใหญ่ที่ได้ยินชื่อโนแลนก็อยากดูหนังเรื่องนี้มากขึ้นนี่ครับ ที่สำคัญโนแลนเป็นคนเลือกให้สไนเดอร์มากำกับนะครับ คนที่อวยก็อวยแล้วก็อยากดูเรื่องนี้มากๆ ปล่อยไปเถอะครับ เขาจะได้อยากดูหนังมากขึ้น รายได้หนังก็ยิ่งมากขึ้นนะครับ คือคนที่อวยโนแลนเกินเหตุก็ให้ผลดีแก่หนังครับ
อ๋อ…ไม่ได้ติอะไรครับ ฮ่าๆแค่รู้สึกเหมือนผู้กำกับถูกลืม เลยแซวๆเล่นครับ ขออภัยครับ ^ ^
“ซ็อด” ครับ ไม่ใช่ แซ็ด
ขอบคุณครับ
แก้แล้วครับ 🙂
Son
Sun
Steel
เพลงประกอบ ฟังแล้วขนลุก….แม้จะไม่ได้เอาของเก่ามาใช้ แต่ทำของใหม่ได้แบบคารวะของเก่ามากๆ สัญลักษณ์ S ก็ดีไซน์ได้ยอดมากที่เป็นอักขระของต่างดาว และยังคล้ายกับอักษรของโลก
สไนเดอร์ได้ชื่อคืนแล้วคราวนี้ ^_______^
“ได้ชื่อคืน”?
สไนเดอร์เขาก็สร้างหนังได้ดีมากๆนะครับ แต่หนังของเขาต้องดูทั้งเรื่องจนจบ เขาไม่ได้ถ่ายภาพสวยแปลกตาอย่างเดียว ภาพที่สื่อมันแฝงความหมายและสร้างเนื้อหาบอกเล่าให้กับตัวละครในหนังได้ด้วย แม้ตัวละครจะไม่พูด
หลายคนบอกว่าไม่ปลื่มกับ watchmen แต่ผมว่าเรื่องwatchmenก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรเลย
นอกจากหนังแล้วผมยังอยากจะฟังเพลงประกอบเต็มของหนังด้วย
ไม่ได้คาดหวังนะ แต่ผมว่าเรื่องนี้น่าจะดูสนุกได้มาตรฐานไม่น้อยกว่า 300 กับ watchmen แล้วยิ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับsupermanแล้วด้วย หนังน่าจะมีโทนด้านสว่างมากกว่าและเครียดน้อยกว่าหนังทั้งสองเรื่องที่ว่าก่อนนี้ซึ้งน่าจะทำให้หนังดูง่ายกว่าและคนชอบมากกว่า
เข้าใจครับ ส่วนตัวผมก็ชอบหนังของสไนเดอร์แทบทุกเรื่องนะ แต่หมายถึงเรื่องหลังๆ คำวิจารณ์กับรายได้ค่อนข้างจะดิ่งไปหน่อยน่ะครับ เรื่องนี้น่าจะได้กลับมาทั้งคำวิจารณ์และรายได้นะ
ปล. เรื่องเดียวที่ไม่ได้ดูคือนกฮูกน่ะครับ
ถั่วต้ม ครับ >>>โนแลน นั่งแท่น ผอ. ส่วนสไนเดอร์ ทำหน้าที่กำกับ แต่ถึงยังงัยก็ยัง under โนแลนอยู่ดีครับ เพราะเส้นกราฟชื่อเสียงของโนแลน ดูเหมือนจะพุ่งไกลกว่า สไนเดอร์ ไปหลายขุมนัก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่โดยรวมแล้ว ชื่อของโนแลน จะบดบังสไนเดอร์เสียมิด / แต่สำหรับ ซูเปอร์แมน 2013 / Men of Steel ที่มาพร้อมความอลังการ์แบบทรงเครือง ของ เฮนรี คาร์วิล จะทำให้เราลืม คริสโตเฟอร์ รีฟ ไปได้ชั่วขณะหรือเปล่า อันนี้ น่าคิดครับ ???
ใน Man of Steel
Christopher Nolan เขาเขียนเนื้อเรื่องร่วมกับ David S Goyer และ เป็นแค่โปรดิวเซอร์นะครับ
Christopher Nolan เขาก็บอกตั้งแต่ต้นแล้วว่าจะไม่เข้าไปก้าวก่ายการทำงานของ Zack Snyder
แล้วจะบดบัง Zack Snyder ยังไงครับ
ชื่อเสียง Zack Snyder ก็ไม่ได้น้อยไปกว่า Christopher Nolan นะครับ
หนังของเขาแต่ละเรื่องก็ดีๆทั้งนั้น ทั้ง Dawn of The Dead ทั้ง 300 ทั้ง Watchmen
อาจจะดรอปไปบ้างตอน Sucker Punch
ถ้าจะเทียบเรื่องรางวัลก็อาจจะได้
เพราะ Christopher Nolan เขาทำแต่หนังดีๆได้รางวัลมากมาย
แต่ในเรื่อง Man of Steel ต้องอย่าลืมว่า เป็นหนัง ของ Zack Snyder นะครับ
คริสโตเฟอร์ รีฟ ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ ลืมเวอร์ชั่นของ แบรนดอน เราธ์ ได้แน่นอน (คาดว่านะครับ อิๆ)
น่าดูครับ ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
โนแลนมาแค่โทนกับเนื้อเรื่องครับ แต่ยังไงแล้ว Man of Steel ก็เป็นหนังของ แซ็ค สไนเดอร์ อยู่ดี (โนแลนเคยออกมาพูดไว้) ดูจากไตเติ้ลก็เห็นลายเซ็นของแซ็คได้อย่างชัดเจนแล้วครับ ถ้าเป็นโทนของโนแลนมากๆ เราคงไม่ได้เห็น cg อลังๆ แบบระเบิดภูเขาเผากระท่อมอย่างแน่นอนครับ แต่กลิ่นของความเป็น The Dark Knight Trilogy ก็มีอยู่เยอะพอสมควรเพราะ 1.โนแลนอำนวยการสร้าง 2.เดวิด เอส โกเยอร์ เขียนบท 3.ฮาน ซิมเมอร์ มาทำเพลงประกอบ สรุปง่ายๆว่า Man of Steel = โทนเรื่องกับบทสไตล์โนแลน+งานภาพกับแอคชั่นสไตล์มันๆ ของแซ็ค สไนเดอร์ครับ ใครที่เป็นแฟนของสองผู้กำกับ ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงจริงๆ
ผมเข้าใจแล้วครับ ที่เขาบอกว่าพี่ซุปจะเป็นแสง เป็นความหวัง เป็นอุดมการณ์ ที่บอกว่าจะมีความเกี่ยวกับJL ดูจากตัวอย่างใหม่ คือหลังจากที่พี่ซุปเปิดตัว พวกที่มีพลังพิเศษที่หลบซ้อนไม่กล้าเผยตัวก็จะเอาอย่างพี่แก จะเริ่มออกมาเป็นแบบพี่แกโดยเอาพี่แกเป็นแรงบันดาลใจอะไรเทือกนั้น ตัวอย่างนี้หลุดให้คิดแบบนี้เยอะมาก แต่ผมก็แค่เดาๆนะ 555+ อย่าใส่ใจมากนะครับ
ถ้าเป็อย่างงั้นก็ ดีซ๊่ ครับ
ดูจะปล่อยของออกมาน้อยกว่าตัวอย่างเดิมมากๆ แต่หวังไว้สูงว่า เรื่องนี้จะต้องออกมาครบสูตรแน่ๆ
เป็นหนังที่รอดูมากที่สุดในปีนี้ครับ
เด็กชายจากดาวนาเมกนี่เอง
อีกอย่างที่ดูแล้วน่าจะตัดออกไปคือ การเปลี่ยนเสื้อในตู้โทรศัพท์นะครับ ภาคแรกมาก็มาแนวๆ BatMan หล่ะครับ การหลีกเลี้ยงชื่อ superman มนหนังเป็นวิ่งดีครับ ดูมีความเป็นมนุษย์ และแต่อาจจะมีฉากต่อสู่กันมากกว่าbatman มนภาคแรก แต่ถ้่าประสบความสำเร็จ ตัวแปลน่าจะอยู่ที่ภาค 2 เพราะภาคแรก เริ่นหมดแล้ว
http://www.youtube.com/watch?v=3hH0cAHgZWs
ซับไทย
Epic- Sci-fi Superhero
An accomplish wonder 🙂 This is wonderful.
อาทิตย์นี้มีแต่ตัวอย่างหนังเจ๋งๆแฮะ อยากดูหมดเลยยยย
เป็นแฟนคลับซุปฯตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ ได้ไปดูคริสโตเฟอร์รีฟ(ขออภัยหากพิมพ์ผิด) เล่นเป็นซุปฯ สร้างกระแสให้ผู้คนเอาฝาน้ำอัดลมไปแรกเสื้อกันเป็นบ้าเป็นหลัง.. ซื้อการ์ดซุปกันเต็มไปหมด.. ใครมีเสื้อโลโก้พี่ซุปแล้วแหม..มันช่างเท่ห์เหลือเกิน.. หมดไป 4 ภาค ยังไม่มีภาคไหนๆ สร้างความฮือฮาได้เท่ายุดนั้น.. แต่จากที่ดูตัวอย่างภาคนี้แล้ว .. ผมอยากรู้ว่า .. หากผู้กำกับพยายามสร้างให้ซุปฯจับต้องได้แล้วละก็ จะตอบโจทย์ผ้าคลุมยังไง ว่าทำไมต้องมีผ้าคลุมแดง.. มีเผยให้เห็นวัยเด็กแว๊ปๆ ว่าใส่ผ้าคลุมเล่นอยู่ .. ส่วนเนื้อหาอื่นๆ ผมว่าเล่นได้เต็มที่ ระเบิดภูเขา เผากระท่อม ถล่มตึก จัดกันให้เต็มที่ คนดูชอบ.. ที่เหลือคือความน่าจะเป็นและความสมเหตุสมผลเสียมากกว่า ที่จะทำให้คนดูคล้อยตาม.. และการดำเนินเรื่องจะน่าเบื่อหรือไม่ คาดหวังไว้กับครึ่งชั่วโมงแรกกับการปูพื้น..
จะอย่างไรผมก็อยากดูมากหลังจากได้เห็นตัวอย่างนี้แล้ว.. จะรอชมครับ และอยากให้ประสบความสำเร็จกับการตีโจทย์พี่ซุปใหม่ ให้ได้มีภาค 2 3 ตามออกมาให้ได้.. เป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้ทีมผู้สร้าง..
อื้อหือ นานมาก
ตอนที่มีsuperman the movie ผมยังเด็กมากๆอยู่เลย
ถ้าไม่จินตนาการไปไกลเกินไปนัก อีกสัก 16- 20 ปีข้างหน้า หลังจากหนังชุดนี้ผ่านไปและคนลืมๆซีรีส์smallville แล้วเราอาจจะได้ดูตัวละครนี้ในอีกเวอร์ชั่นใหม่อีกครั้งนึงก็ได้
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ เพราะตอนนั้นยังวุ้น เป็นความรู้ที่ต้องจดจำเลยครับ !
(คอมเม้นท์โชว์แก่กันหน่อย ๕๕+)
ภาค 4 ที่พี่ซุปย้ายไปค่ายแคนนอนแล้ว ผมไปดูที่โรงโอเอด้วยยย !!
สมัยโน้นที่ซีจียังไม่เนียน แบบเห็นขอบรอบตัวคนที่โดนคีย์ซ้อนกับภาพ แค่นี้ก็ตื่นตาแล้ว
(ยิ่งภาค 4 นี่รู้สึกจะโดนว่าอยู่ว่าเทคนิคแย่กว่า 3 ภาคก่อนหน้าด้วย)
ภาค 1-3 ยังเด็กเกินจะไปดูในโรงน่ะครับ โหะๆๆ…
เป็นตัวอย่างหนังที่ดูแล้วขนลุกมากๆ เลยค่ะ ทำตัวอย่างได้ดีมากๆ เลย ไม่พลาดแน่เรื่องนี้ ^^
เป็นหนังเรื่องเเรกที่ผมได้ดูในชีวิต ตอนเด็กๆเเม่พาไปดูในเวอชั่นของ Christopher Reeve ผมตกใจกับความสมจิงในตอนนั้น จนช๊อคสลบคาโรง เเล้วผมก็กลายเป็นคนชอบดูหนังอย่างมากตอนโต ถึงวันนี้เเม่เห็นตัวอย่างหนังเเม่บอก ตอนเด็กๆเห็นตัวกาตูนที่เป็น superman ไมไ่ด้ร้องจะให้ซื้อให้ ทุกครั่งที่ได้รับรู้ว่ากำลังมีเวอชั่นใหม่ผมตั่งตารอไม่ไหวจิงๆ ผูหผันกับตัวละครนี้เหลือเกิน
ท่านกับผมวัยคงจะไล่เลี่ยกัน ผมว่าจะไมเล่าเรื่องส่วนตัวเพราะอาจจะไม่เหมาะสมแต่ก็อดไม่ได้ที่มีหนังเรื่องนี้วนรอบมาสร้างใหม่ ผมเองก็ไปดูเรื่องSuperMan The Movie (Reeve แสดง)นี้ตอนสมัยเด็กๆแล้วหลับคาโรง แม่ต้องคอยปลุกให้ผมตื่นมาดูฉากดาวคลิปตั่นระเบิด ปลุกตอนซูปเปอร์แมนเหาะจากปราการณ์แห่งความสันโดษ ปลุกให้ตื่นเป็นช่วงๆ จริงๆที่หลับไม่ใช่หนังไม่สนุกแต่น่าจะเป็นเพราะยังค่อนข้างเด็กและหลับง่าย ผมจำได้ว่าดูรอบค่ำ ที่หน้าโรงหนังจะมีภาพวาดซูปเปอร์แมนยืนจังก้าอยู่ มันเป็นงานช่างวาดภาพสีลงบนไม้อัดตอกขึ้นโครงแล้วเลื่อยฉลุตามขอบตัดเอาท์ลายจนแลดูเป็นรูปทรงซูเปอร์แมนขนาดสูงเท่าตึกสองชั้นยืนเท้าสะเอวจังก้าอยู่หน้าโรง โดยมีผ้าสีแดงอันเป็นผ้าจริงๆร้อยติดอยู่บนไหล่ของซูเปอร์แมนยักษ์นั้นผืนผ้าสีแดงอันเสมือนดั่งผ้าคลุมไหล่โรยตัวลงมาจนผมซื้งยังเด็กและตัวเล็กสามารถกระโดดขว้างผ้าสีแดงนั้นเล่นได้อย่างสนุกสนาน มันเป็นความทรงจำที่ดีเหมือนกัน
แต่แม่ผมก็เสียตอนที่ SuperMan Returns จะฉายในเดือน กรกฎาคม 2006 พอดี
เสียมจด้วยนะครับ… ไม่แน่ Man of Steel อาจจะสร้างปาฏิหารณ์อะไรให้กับพี่อีกครั้งก็เป็นได้นะครับ 🙂
ผมก็เชื่อว่ามันต้องมีปาฏิหาริย์ เหมือนตอนผมดูข่าว HollyWood ซื้อลิขสิทธิ์อุลตร้าแมน ไปสร้างเป็นหนังใหญ่ ฮีโร่ในวัยเด็ก ว้าววววววววว…!!!
ผมว่าเพลงประกอบมันทำให้ดูสูงส่ง เกินจับต้องได้ยังไงไม่รู้ครับ กลัวจะออกมาแนวเดียวกับฉบับซิงเกอร์ที่หนังดีนะ แต่ไร้ชีวิตชีวา จนดูจบแล้วไม่ค่อยได้ใจคนดู