สัมภาษณ์ บรรจง ปิสัญธนะกูล ผู้กำกับ “พี่มาก..พระโขนง”

banjong peemakเพื่อเพิ่มเติมข้อมูลให้แก่นักดูหนังที่อยากดู “พี่มาก..พระโขนง” ผลงานล่าสุดของผู้กำกับบรรจง ปิสัญธนะกูล จาก “กวนมึนโฮ“, “คนกอง” และ “คนกลาง” เราจึงขอสัมภาษณ์ผู้กำกับโต้งผ่านทางอีเมลครับ ในบางประเด็นที่แฟนหนังอาจอยากรู้

คำถามส่วนใหญ่ของเราเน้นไปที่ที่มาของหนัง แนวคิดเกี่ยวกับงานสร้าง ที่แฟนๆ และนักดูหนังอาจอยากรู้ว่าทำไมถึงต้องสี่หนุ่มที่เคยร่วมงานกันในคนกอง และคนกลาง และทำไมต้องเป็นตำนานแม่นาคพระโขนง นอกจากนี้ก็ถามเกี่ยวกับโทนของหนัง และเกร็ดเกี่ยวกับการเขียนบทนิดหน่อยครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านเว็บทุกท่านครับ หลังจากหนังฉายแล้ว อาจมีการขอสัมภาษณ์อีกรอบในประเด็นที่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องมากขึ้นครับ

พี่มาก..พระโขนง” เป็นการเอาตำนานผีอันอมตะมาเล่าใหม่ในรูปแบบของหนังสยองขวัญปนตลก มีมาริโอ เมาเร่อ รับบทเป็นพี่มาก และดาวิกา โฮร์เน เป็นแม่นาค ร่วมด้วยณัฏฐพงษ์ ชาติพงศ์, พงศธร จงวิลาส, อัฒรุต คงราศรี และ กันตพัฒน์ เพิ่มพูนพัชรสุข มารับบทเป็นสี่เกลอ ที่เป็นเพื่อนของพี่มาก ที่คอยหาทางบอกพี่มากว่าแม่นาคเป็นผี ทำให้เกิดเรื่องราวที่ทั้งลุ้นและทั้งฮาครับ

หนังจะเข้าฉาย 28 มีนาคมนี้ คลิกอ่านสัมภาษณ์ได้ที่ด้านในครับ

การที่“กวนมึนโฮ” ประสบความสำเร็จอย่างสูงด้านรายได้ ทำเงินระดับร้อยล้านบาท ได้รับคำชมก็มาก ทำให้มีความกดดันไหมว่าการกำกับหนังเรื่องถัดมาอย่าง “พี่มาก..พระโขนง” จะกลายเป็นที่คาดหวังสูงจากผู้ชม หรือแม้แต่จากผู้บริหารในจีทีเอชเอง เพราะอ่านเจอคำสัมภาษณ์ว่าคุณวิสูตร พูลวรลักษณ์ก็คาดหวังสูงไว้กับหนังเรื่องนี้เหมือนกันครับ กลัวไหมครับว่า เราจะทำได้ถึงในระดับที่ผู้อื่นคาดหวังไหม

กดดันครับ แต่ว่าไม่ได้กดดันในแง่รายได้ กดดันว่ามันจะออกมาดีไหม ทำหนังเรื่องนึงใช้เวลาเป็นสองปี ยังไงก็กดดันอยู่แล้วครับอยากให้มันออกมาดี

จำได้ว่าคุณโต้งเล่าว่าไอเดียหนัง “พี่มาก..พระโขนง” มาจากการที่อยากเอาสี่เกลอ ฟรอย, เผือก, เชน และบอมบ์ จาก “คนกลาง” และ “คนกอง” ซึ่งเป็นตัวละครที่คุณโต้งชอบมากมาสร้างเป็นหนังอีก แปลว่าจุดเริ่มต้นของโครงการหนังเรื่องนี้มาจากอยากมีหนังให้สี่ตัวละครนี้ก่อนใช่ไหมครับ จากนั้นค่อยนึกว่าจะให้ทั้งสี่ไปผจญภัยในเรื่องราวไหน แล้วก็มาลงเอยที่ตำนานแม่นาคฯ ใช่ไหมครับ

ใช่แล้วครับ

ทั้ง 4 ตัวละครนี้มีความพิเศษยังไงถึงทำให้คุณโต้งชอบมากจนอยากสร้างหนังยาวให้พวกเขาเลย

ผมว่าเป็น 4 ตัวละครที่เป็นส่วนผสมลงตัว มีเสน่ห์ คือไปไหนก็มีแต่คนเรียกร้องอยากเห็นสี่คนนี้ขยายเรื่องราวเป็นหนังยาวอะครับ แล้วผมก็ชอบที่สี่คนนี้ตลกมาก และยังเป็นคนตั้งใจทำงาน กระตือรือล้นตลอดเวลา ถ้าผมเจอนักแสดงที่เต็มที่ระดับนี้ มันทำให้การทำงานสนุกและง่ายดายมากๆ

แล้วไอเดียการให้ทั้งสี่เกลอมาผจญภัยในเรื่องราวตำนานแม่นาคมาได้ยังไงครับ ตำนานแม่นาคมีจุดเด่นตรงไหนให้เลือกเอามาทำครับ ทำไมเลือกเรื่องนี้แทนที่จะเป็นผีตนอื่นที่อาจดังเหมือนกัน หรือเขียนเรื่องขึ้นมาใหม่เลย แล้วมีพิจารณาตำนานผีเรื่องอื่นไว้ด้วยไหมครับ

ผมว่าตำนานผีไทยเรื่่่องนี้ดังที่สุดนะ เคยคิดถึงว่าจะมีผีหลายๆตัวเลยเหมือนกันครับทั้งกระสือ ปอบ ฯลฯ แต่สุดท้ายก็มาลงเอยที่แม่นาค เพราะรู้สึกเรื่องราวความรักของมากกับนาคคลาสสิคมากๆ แถมพอคิดได้ว่าอยากเล่าในมุมของพี่มากกับเพื่อนก็รู้สึกว่าไอเดียโดนมาก เราเองอยากเห็นมันเป็นหนังจริงๆ

เรื่องราวตำนานแม่นาคเป็นอะไรที่คนไทยคุ้นเคยกันดี รู้ว่าเรื่องราวเริ่มยังไง จบยังไง มีฉากอะไรสำคัญระหว่างนั้น และก็มีการนำมาเล่าหลายครั้งในหลายรูปแบบ กลัวไหมครับว่าผู้ชมจะรู้สึกว่าเป็นเรื่องราวเดิมๆ จนไม่สนใจหนัง “พี่มาก..พระโขนง” มากพอ แล้วคิดว่าจะนำเสนอยังไงให้คนดูหนังทั่วไปรู้สึกสนใจเรื่องราวที่เคยถูกนำมาเล่าบ่อยมากแบบนี้

ไม่กลัวเลยครับ เพราะเราเชื่อว่าเวอร์ชั่นเราตีความไปไกลมาก โดยเฉพาะในแง่อารมณ์ขัน นั่นเป็นเหตุผลนึงที่เรากล้าแคสท์มาริโอ้ในบทพี่มาก เพราะเราอยากให้เวอร์ชั่นนี้แปลกใหม่ที่สุด

ชื่อหนัง “พี่มาก..พระโขนง” เป็นชื่อที่สร้างสรรค์มากเลยครับ ในแง่ที่พยายามจะบอกว่านี่ไม่ใช่เรื่องราวแม่นาคในแบบที่คุณเคยดู ให้ความรู้สึกไม่จำเจดีครับ ที่มาของชื่อหนังมายังไงครับ

ผมเป็นคนคิดชื่อหนังเอง อยู่ๆก็คิดได้ตั้งแต่วันแรกที่คิดจะหยิบตำนานแม่นาคมาทำใหม่เลยครับ ตอนแรกคิดแค่ว่าชื่อมันฮามากๆ แปลกใหม่ดี แทนที่จะเป็นแม่นาค เวอร์ชั่นนี้จะเป็นพี่่มาก แต่พอคุยๆกันต่อไปก็เห็นตรงกันในทีมว่า เรื่องราวของพี่มาก มีอะไรที่เราอยากรู้อีกมาก โดยหนังทุกเวอร์ชั่นก็ไม่ได้พูดถึงเสียด้วย โดยเฉพาะความรู้สึกนึกคิดของเขา

เคยดูหนัง ละคร หรือการนำเสนอเรื่องราวแม่นาคในรูปแบบอื่นมาก่อนไหมครับ แล้วชอบฉบับไหนที่สุด แล้วใช้ฉบับไหนมาอ้างอิงหรือเป็นแรงบันดาลใจ หรือมีฉากคาราวะหนังผีเก่าๆ ไหมครับ

ถ้าดูจริงจังคือ นางนาก ของพี่อุ๋ย นนทรีย์อันเดียวเลยครับ ชอบมากๆครับ คลาสสิคมาก เวอร์ชั่นนี้แหละที่พี่มาก..พระโขนงน่าจะอ้างอิง พาดพิง ล้อเลียนที่สุด 555 แต่พอบทเสร็จ ทำโปรดักชั่นแล้วผมไม่กล้าดูอีกเลย กลัวเหมือน

หนังผีไทยสมัยก่อน จะไม่ค่อยมีหนังผีน่ากลัวจริงจังมาก เกือบครึ่งในหนังผีจะเป็นฉากตลกของการวิ่งหนีผี หรือโดนผีหลอก และหลังจาก “ชัตเตอร์ฯ” แล้ว ผมจึงเห็นว่ามีหนังผีแนวน่ากลัวจริงจังออกมาเยอะมาก อาจจะมี “หอแต๋วแตกฯ” ที่ยังคงเป็นหนังผีตลกอยู่ แต่ก็จะเน้นตลกมากกว่าความเป็นหนังผี หนัง “พี่มาก..พระโขนง” จะอารมณ์คล้ายหนังผีสมัยก่อนใช่ไหม เพียงแต่แตกต่างกันที่งานสร้าง และมุขตลกที่จะเป็นในแนวทางเฉพาะของผู้กำกับและผู้เขียนบท

ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ ผมเองยังรู้สึกว่าคนไทยยังงงๆกับแนวหนังของพี่มากอยู่เลย เพราะมันมีหลากรสชาติ คือถึงจะเป็นหนังตลกเป็นหลัก แต่โปรดักชั่นก็จริงจังมาก มีดราม่าจริงจังด้วย มีความเป็นหนังรัก ผมงงทุกครั้งว่ายังมีคนถามอยู่ตลอด ว่าตกลงมันเป็นหนังตลกรึเปล่า ทั้งที่เค้าก็ขำกับมุขในตัวอย่างมากๆ แต่พอมันมีดราม่า มีท่าทีบางอย่างจริงจังเค้ากลับงง 55 แต่ในหนังจริงไม่งงแน่ๆครับ คนไทยอาจชินกับการที่หนังแนวไหนก็ต้องชัดเจนแนวนั้นไปเลย อย่างหนังผีตลก ก็จะมีแต่แบบ หอแต๋วแตก ท่าทีตลกชัดเจนอะไรไปเลยแบบนี้ ส่วนที่ถามว่าจะเหมือนหนังผีสมัยก่อนมั้ย ผมไม่ทราบเหมือนกันครับ รู้แต่ว่ามันเป็นลายเซ็นต์ผมชัดเจนมาก ใครที่ชอบ คนกลาง คนกอง เรื่องนี้จะพัฒนาไปไกลมากขึ้นครับ

จากที่เห็นในตัวอย่างหนัง “พี่มาก..พระโขนง” ก็มีองค์ประกอบของความเป็นหนังชีวิตรักแบบฉบับละครทีวีหรือ “นางนาก” ของคุณนนทรีย์ นิมิบุตร ด้วย อยากทราบว่าถ้าให้แบ่งสัดส่วนจริงๆ ระหว่างความเป็นหนังชีวิตรัก หนังสยองขวัญ และหนังตลก หนังเรื่องนี้จะหนักไปในทางไหนกว่ากันครับ และอยากให้ผู้ชมสงสารในชะตากรรมความรักของแม่นาคกับพี่มาก หรือฮากับสี่เกลอมากกว่ากันครับ

อารมณ์หลักๆของหนังจะเป็นตลกสัก 70-80 เปอร์เซนต์ครับ ที่เหลือก็จะเป็นความโรแมนติก โดยมีความน่ากลัวแซมอยู่บ้าง ฉากผีของหนังเรื่องนี้จะไม่ได้เน้นน่ากลัว อาจจะมีระทึกขวัญ ตกใจอยู่บ้าง แต่ระดับความกลัวก็ประมาณ คนกอง ใน5แพร่งครับ จะเน้นฮามากกว่า

คิดว่าอะไรคือความสดใหม่ของ “พี่มาก..พระโขนง” ถ้าเทียบกับหนังไทยโดยทั่วไปในช่วงที่ผ่านมาครับ

อารมณ์ขันเสียดสีมั้้งครับ และการกล้าผสมตลกเลอะเทอะกับเรื่องราวที่จริงจัง ดูจบแล้วผมเชื่อว่าจะเก็ทการตีความครั้งนี้ว่าทำไมต้องเป็น พี่มาก..พระโขนง

ผู้กำกับย้ง ทรงยศ สุขมากอนันต์ บอกว่าคุณโต้งเป็นผู้กำกับของจีทีเอชที่มีลายเซ็นชัดเจน คิดว่าคุณย้งหมายถึงอะไรครับ คุณโต้งมองว่าอะไรคือลายเซ็นของตัวเองในงานหนังครับ แล้วมีตัวอย่างของลายเซ็นนั้นใน “พี่มาก..พระโขนง” ยังไงบ้างครับ

ผมคิดว่าลายเซ็นต์ที่ชัดเจนของผมคือวิธีการเขียนบทพูด และอารมณ์ขันร้ายๆ หรือพูดง่ายๆก็คือกวนตีนน่ะครับ 55 ในพี่มาก..พระโขนงจะมีอยู่เพียบเลยครับ ผมว่าฉากเปิดของหนังลายเซ็นต์ของผมชัดเจนมาก แต่ขอไม่สปอยล์ครับ

แบ่งหน้าที่กันยังไงในการเขียนบทร่วมกับคุณเต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี ครับ ให้คุณเต๋อช่วยในส่วนไหนบ้าง ตั้งแต่การคิดฉาก การคิดฉากตลก การคิดบทสนทนา และการวางโครงเรื่อง หรือช่วยกันในทุกส่วนครับ

ทีมผมมีสามคน มีผม เต๋อ และแอ้ม นนตรา คุ้มวงศ์ เราช่วยกันในทุกๆส่วนเลยครับ แต่ผมเองจะเป็นคนลงมือพิมพ์

ตอนเขียนบท นึกภาพมาริโอ้ เมอเร่อ เป็นพี่มาก เลยตั้งแต่ตอนเขียนบทไหมครับ เพราะถ้าจำไม่ผิด คุณโต้งเคยบอกว่าเป็นนักแสดงที่อยากร่วมงานอยู่แล้ว และมุขตลกมาร์คเคอะในตัวอย่างหนังน่าจะมาตั้งแต่ตอนเขียนบทแล้วใช่ไหมครับpee mak image 04

ใช่แล้วครับ เขียนๆไปรู้สึกคาแรกเตอร์เหมาะกับโอ้มาก แต่ตอนแรกก็คิดว่าแต่มันเป็นฝรั่งนะ แต่พอคิดได้ว่าเป็นมาร์คเลยรู้สึกยิ่งชอบกัน เพราะจะได้เป็นการตีความที่แปลกใหม่แบบสุดขั้วไปเลย

โดยธรรมชาติแล้ว ฟรอยด์เป็นคนที่ตกใจแล้วร้องกรี๊ดเสียงแหลมดังลั่นรึเปล่าครับ หรือว่าเป็นบุคลิกตัวละครที่สร้างขึ้น

555 เคยถามฟรอยด์เหมือนกัน ฟรอยด์กรี๊ดครั้งแรกในละครบ้านนี้มีรักแล้วคนชอบกันมาก ผกก.เลยให้ทำใหญ่เลย ใน5แพร่งผมก็มี แต่ชีวิตปกติมันคงไม่กรี๊ดหรอกครับ

มีฉากหนึ่งในภาพนิ่งของ “พี่มาก..พระโขนง” ที่สวยมาก ฉากที่พี่มากกอดแม่นาคจากด้านหลังอยู่ตรงช่องประตู ฉากนั้นมีเบื้องหลังการสร้างช็อตยังไง พอจะเล่าได้ไหมครับ

ไม่อยากจะบอกเลยว่าฉากนั้นจริงๆแล้วเป็นฉากฮา จริงๆช็อตนั้นจะเป็นช็อตที่เล่ามุมมองของสี่เกลอที่แอบมองอยู่ครับ แต่เนื้อเรื่องยังบอกไม่ได้

คิดว่า “พี่มาก..พระโขนง” เป็นหนังที่คุณโต้งเอาทุกอย่างที่เคยใช้ในผลงานก่อนๆ มารวมอยู่ในเรื่องนี้ทั้งหมดไหมครับ เพราะมีทั้งความเป็นหนังรัก หนังสยองขวัญ หนังตลก แล้วยังต้องมีทั้งเทคนิคพิเศษ การแต่งหน้า ฉากแอ็คชั่น และฉากย้อนยุคด้วย

ใช่แล้วครับ ผมคงไม่กล้าทำหนังเรื่องนี้ถ้าประสบการณ์ไม่มากพอ ทั้งการholdเรื่องที่มีหลายรสชาติ ตัวละครที่กระจัดกระจาย โปรดักชั่นใหญ่ ย้อนยุค และการคิดช็อตในซีนใหญ่ๆต่างๆ ขนาดทำหนังเป็นเรื่องที่ 6 แล้วผมยังรู้สึกว่าผมทำงานหนักมาก ไม่มีอะไรง่ายเลย ดีที่ทีมผมดีมาก

มีแผนสำหรับผลงานต่อไปไว้แล้วหรือยังครับ พอจะบอกได้ไหมว่าเป็นอะไรถ้ามีการคิดไว้แล้ว อยากทำหนังแบบไหนอีก

อยากทำหนังที่ไม่มีฮาบ้าง แต่ไม่รู้จะอดใจไหวหรือเปล่า ผมเป็นคนเห็นอารมณ์ขันอยู่ในทุกอย่างตลอดเวลาครับ555

6 comments

  1. ถ้าฮอลลีวูด ผมยกย่อง สปีลเบิร์ก และ เจ.เจ. อับรามส์ แต่หากเป็นเมืองไทยแล้ว ผมให้ คุณโต้ง บรรจง ครับ ยอดฝีมือของวงการของแท้

  2. GTH นี่เป็นศูนย์รวมผู้กำกับยอดฝีมือเอาไว้จริงๆ และพี่่โต้งก็คือยอดฝีมือในแง่ความฮาแบบตลกร้ายจริงๆ (เมษ ธราธร ยังห่างชั้นอีกเยอะ ไม่ได้จะเปรียบเทียบหรือว่าพี่เมษนะครับ แต่มันเป็นแบบนั้นจริงๆอ่ะ ^ ^”)

  3. เรื่องหน้าให้สี่คนนี้เล่นเป็น 4 ยอดกุมาร (ตรี คฑา จักร สังข์ )ไปเลยน่าจะฮา เพราะเคยดูฟรอยด์ เล่น แก้วหน้าม้า ในบ้านนี้มีรักแล้วตลกมากๆ

  4. อยากให้ 4 คนนี้เล่นหนังแนวทหาร กองร้อย 501 ผู้กองยอดรัก หลังๆไม่ค่อยมีหนังแนวนี้เลย น่าจะตบมุขกันฮา ให้เต๋อเป็นพระเอก

Leave a Reply to MOONYCancel reply