Jack the Giant Slayer น่าจะเป็นหนังฟอร์มใหญ่เรื่องแรกของปี 2013 ที่คงจะขาดทุนมโหฬาร ด้วยทุนสร้าง 195 ล้านเหรียญสหรัฐ และถ้าบวกงบการตลาดและการปะชาสัมพันธ์เข้าไปด้วย หนังน่าจะใช้ทุนเกือบๆ 300 ล้านเหรียญ แปลว่าหนังเรื่องนี้ต้องทำเงินทั่วโลกอย่างน้อย 590-600 ล้านเหรียญ ถึงจะได้เท่าทุน แต่หลังจากฉายมาเพียง 2 สัปดาห์ รายได้ทั่วโลกของหนังยังอยู่แค่ราว 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามรายงานของ Boxoffice Mojo ดูแววแล้ว หนังไม่น่าจะปิดตัวเกิน 200 ล้านเหรียญ
ในแง่คำวิจารณ์ หนังก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้คำวิจารณ์ด้านดีสักเท่าไหร่ครับ คำวิจารณ์ออกมาก้ำกึ่งมาก มีนักวิจารณ์ชอบ 58% และคะแนนเฉลี่ยนที่ 5.8/10 จาก 138 บทวิจารณ์ ที่ Rotten Tomatoes รวบรวมมา
สำหรับความเห็นของผมต่อหนัง ผมคิดว่าหนังอยู่ในระดับที่พอดูได้เพลินๆ สนุกและตื่นเต้นเป็นพักๆ ไบรอัน ซิงเกอร์ทำได้ดีในฉากลุ้นระทึก ทำให้เราลุ้นไปกับชะตากรรมของตัวละครตามโดยเฉพาะในฉากที่เอลมอนท์ (ยวน แม็คเกรเกอร์) ต่อสู้กับรอเดอริค (สแตนลี่ ทุชชี) กับฉากยักษ์ถล่มเมืองตอนจบ แต่ที่เหลือแล้วงั้นๆ และด้วยการเราเห็นว่าไบรอัน ซิงเกอร์ เป็นผู้กำกับก็เลยคาดหวังว่ามันน่าจะดีกว่านี้ได้อีกเยอะ
ผมว่าอีกอย่างที่ทำให้หนังไม่ประสบความสำเร็จก็คือหน้าหนังที่ขาดเสน่ห์มาก มันดูไม่มีความสดใหม่ หรือให้ความรู้สึกว่าพิศดารแบบหนังเทพนิยายเรื่อง Snow White and the Huntsman แม้จะรู้สึกว่าหนังสนุกกว่า แต่งานสร้างของ Snow White ชวนให้อยากเข้าไปดูหนังมากกว่า
อีกอย่างก็คืองานเทคนิคพิเศษยักษ์ของ Jack the Giant Slayer ดูการ์ตูนมากๆ เมื่อเทียบกับกอลลั่ม ใน The Hobbit ซึ่งใช้เทคนิคคล้ายกัน
มีความเห็นอย่างไรกับหนังเรื่องนี้ เชิญใส่ความเห็นกันมาเลยครับ
ไม่ชอบ ไม่ลุ้นกับตัวละคร บทตัวร้ายเหมือนจะเวิร์คเสือกตายอย่างง่าย ยวน หล่อกว่าพระเอก
ก็ดูสนุกดี เพลินๆ .. แต่ก็งั้นๆ !!
ไม่มีอะไรน่าประทับใจและน่าจดจำ
ฉากที่ดีที่สุดในเรื่อง คือ กองทัพยักษ์โผล่ออกมาจากป่าไล่ล่าม้าราชา พระ-นาง …
นอกนั้นดูแบบเพลินๆไปเรื่อยๆ มุกก็ดูจืดๆ
เห็นด้วยที่ซิงเกอร์ทำได้ดีในฉากลุ้นระทึก แต่ที่เหลือให้ผู้กำกับโนเนมทำก็ทำได้ครับ น่าจะทำได้ดีกว่านี้จริงๆ
จากข่าวที่ คุณ เจได รายงาน ผมก็ชักจะหวั่นใจกับ X-men: Days Of Future Past แล้วละครับ.. ไม่อยากให้มีชะตากรรมเดี่ยวกับ ผลงาน 2 เรื่องล่าสุดของพี่เขา…กลัวจัง..ขอให้ผมคิดผิด..ขอให้ ไบรอัน ซิงเกอร์ คืนฟอร์ม กับ X-men ภาคใหม่ด้วยเถิด..
.
หลังจากได้ไปดูหนังมา
ก็ไปเห็นทุนสร้างใน boxoffice mojo
ยังตกใจว่า หนังเอาเงินเกือบ 200 ล้านเหรียญไปทุ่ม(ทิ้ง) กับอะไร
เพราะสิ่งที่ปรากฏบนจอนั้นมันไม่เท่ากับเงินที่เสียไปเลย
และไบรอัน ซิงเกอร์ มือตกอย่างน่าตกใจ
และห่วงว่า x men ภาคใหม่ จะออกมาเป็นอย่างไร
.
หนังยังธรรมดาเกินไปครับ เด่นเเต่เเอ็คชั่น เเต่ทางด้านเนื้อเรื่องไม่ไหวเลย ชักหวั่นๆเเล้วกับ X-men: Days Of Future Past ขออย่าให้เเป้กเถอะ
กำไรจาก Box Office คงหมดหวัง คงต้องไปหวังพึ่งรายได้จากลิขสิทธิ์ Cable กับแผ่นเอาแล้วกัน หนังแนวนี้แผ่นน่าจะขายดีอยู่นะ
ดูจากซีจี ผมไม่เชือครับว่าหนังเรื่องนี้ทุนสร้างกว่า 190 ล้าน สร้างกระแสเกินไป และที่แย่ยิ่งไปกว่านั้น กูรูหลายสำนักทายชะตากรรมหนังเรืองนี้ว่าจะไปไม่รอด แล้วก็จริง !~
แสนเสียดายพระเอก…
พี่ไบรอัน มือตกจริงๆแหละ กะเรื่องนี้…
หนังไม่ได้ห่วย แต่ก็ไม่มีอะไรเลย…ออซดีกว่าเย๊อะ….เยอะ
ดูได้เพลินๆ แต่ก็ไม่ค่อยมีอะไรมากคับ ตัวร้ายตายง้ายง่าย พระเอกก้เฉยๆ คับ
จะมีก็แต่เพื่อนที่ไปดูด้วย พูดได้ทั้งเรื่องว่า ”นายพลหล่อมาก”
คิดว่า Oz น่าจะสนุกกว่าเยอะคับ กำลังจะไปดู
Oz ก็แย่พอๆกัน เพราะไรมี่ พยายามเดินเรื่องต่อจาก The Wizard of oz ไปยังจุดเริ่มต้น หนังดูเปราะบางมาก เพราะยุคสมัยมันต่างกัน จึงทำให้หนังดูเชย ขาดเสน่ห์ และจืดชืดเป็นอย่างมาก จุดเด่น ขุดขาย ไม่ใช่ เจมส์ ฟรังโก้ / มิชเชล วิลเลี่ยม ฯลฯ แต่เป็นเจ้าตุ๊กตาเซรามิก ที่เรียกอารมณ์คนดูได้อยู่หมัด มันแปลกมาก>>>โดยรวมแล้ว ถือว่าทำออกได้ผิดหวัง !
+1 เช่นกันครับ และผมยังงงตอนจบอยู่แล้วว่าสุดท้ายพ่อมดออซไปไหน ตัดจบแบบไม่เคลียร์ ห่างชั้นจากงานอลิซของทิม เบอร์ตันอย่างมาก
-2 Oz นี่คนละชั้นกับ Jack เลย Oz เหนือกว่ามาก
หรือถ้าเทียบกับ Alice Oz ก็ยังสนุกกว่าอยู่ดี คำวิจารณ์ก็ดีกว่า
ถ้าลงทุน 190 ล้านจริงนี่ถือว่าขี่ช้างจับตั๊กแตนมากๆครับ
เหมือน prometheus จะใช้เงินไม่ถึงครึ่งของเรื่องนี้ใช่ไหมครับเนี่ย …แต่งานออกมาดูยิ่งกว่ามากกกกก
เอาเงินไปใช้กับอะไรหมดหา
สรุปว่ารอดูแผ่น เสียดายค่าตั๋ว
แย่กว่า Superman Returns อีก