ขณะที่แฟนๆ กังวลว่าอาจได้ดู The Girl Who Played with Fire ล่าช้าออกไป เพราะผู้กำกับเดวิด ฟินเชอร์ มีงานหลายอย่างอยู่ในมือตอนนี้ ทั้งซีรี่ส์ชุด House of Cards และทั้งอีกสองเรื่องอย่าง Gone Girl และ 20,000 Leagues Under the Sea แต่รายงานล่าสุดจากเดอะ ฮอลลีวู้ด รีพอร์เตอร์ บอกว่าการที่โครงการหนังเรื่องนี้ล่าช้าอาจเป็นเพราะแดเนียล เครก นักแสดงนำชายของเรื่องครับ

แหล่งข่าววงในบอกว่าค่ายหนังโซนี่ได้ทำสัญญาแบบออปชั่นในการให้เครกกลับมาเล่นต่ออีกสองภาค (หมายถึงสัญญาที่ให้สิทธิ์แก่โซนี่ว่าจะจ้างเครกหรือไม่ก็ได้ในอีก 2 ภาค ตามเวลาที่กำหนด) แต่เครกได้เรียกค่าตัวเพิ่มหลังจากหนัง Skyfall ของโซนี่ทำเงินทั่วโลกไปเกิน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ถ้าโซนี่ไม่อาจพาเครกกลับมารับบทนักข่าวหนุ่มมิคาเอล บลอมควิสต์ ได้ ค่ายหนังก็จะให้เขียนบทใหม่โดยตัดตัวละครนี้ออกไปภาคต่อ อย่างไรก็ดี เมื่อนักข่าวติดต่อไปทางตัวแทนของเครก ก็มีการให้ความเห็นกลับมาว่าการเจรจายังไม่ได้เริ่มต้นขึ้น แต่เครกอยากกลับมารับบท (สังเกตดูว่าไม่มีการพูดถึงเรื่องเรียกค่าตัวเพิ่ม แต่ก็ไม่ได้ยืนยันหรือปฏิเสธเสียทีเดียว)

ในรายงานบอกอีกว่าการตัดเครกออกไปจากบทหนังไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะเนื้อเรื่องส่วนใหญ่เน้นไปที่ลิสเบธ (รูนี่ มาร่า) มากกว่า และเธอก็พร้อมกลับมารับบท แต่โซนี่ก็ไม่อยากจะที่ต้องบังคับให้สตีเฟ่น เซลเลียน เขียนบทใหม่ ซึ่งบทหนังเขียนเสร็จและพร้อมให้ดำเนินงานสร้างได้ทันทีแล้ว และจะทำให้โซนี่ต้องเปลืองเงินเพิ่มหากต้องมีการดัดแปลงบทใหม่ และก็ยังไม่รู้ว่าเซลเลียนจะว่างแก้ไขบทให้ไหม เพราะตอนนี้ยุ่งอยู่กับซีรี่ส์ชุด Criminal Justice ทางเอชบีโอ

ส่วนฟินเชอร์นั้น หนังเรื่อง Gone Girl ยังอยู่ในขั้นเขียนบท ยังไม่พร้อมให้เขาลงมือทำอะไร และแม้ว่า 20,000 Leagues Under the Sea น่าจะเป็นงานต่อไปของเขาได้ ก็ดูเหมือนว่าจะยังต่อรองกับดิสนี่ย์ไม่ได้เกี่ยวกับทุนสร้าง และช่วงนี้น่าจะเป็นช่วงที่เหมาะที่โซนี่จะแย่งฟินเชอร์มา เพราะฟินเชอร์เองก็อยากกลับมาบอกเล่าเรื่องราวภาคต่อครับ