“แล้วมึงจงจำเอาไว้ว่า มึงต้องเรียกกูว่าคุณจัน” จันดาราบอกคุณหลวง ในตัวอย่างแรกของ “จันดารา ปัจฉิมบท” ด้วยน้ำเสียงที่ไร้เยื่อใย และสีหน้าที่ดูไร้อารมณ์ ซึ่งหน้านิ่งๆ ของมาริโอ้ เมาเร่อ ดูเข้ากันกับประโยคที่พูด ทำให้ดูมีพลังดีครับ มันอาจเป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยม หรือมันอาจเป็นการแสดงอารมณ์ตามปกติของมาริโอ้ที่พอเหมาะพอดีกับบทตรงนั้นก็ได้ เลยทำให้เข้ากันกับบทพูดนี้อย่างมาก อย่างไรก็ตาม สหมงคลฟิล์มได้ส่งตัวอย่างแรกของหนังออกมาแล้ว
ขณะที่ฉบับหนังสือ ตามที่ผมเข้าใจ เป็นเรื่องราวที่สะท้อนด้านมืดของมนุษย์เกี่ยวกับกิเลศราคะต่างๆ แต่หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล ดูจะหยิบเรื่องราวที่อยู่ระหว่างบรรทัดมานำเสนอ นั่นก็คือเรื่องราวการแย่งชิงอำนาจ ใช้การเมืองในบ้านพิจิตรวานิช สะท้อนการแย่งชิงอำนาจของการเมืองนอกบ้าน และก็ทำให้การเมืองทั้งนอกและในบ้านเด่นคู่กันไป
ในภาคที่แล้ว เราได้เห็นจันซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่แท้จริง ถูกคุณหลวงกระทำไม่ต่างจากพจมานในบ้านทรายทอง และต้องหนีออกจากบ้านที่เขาเป็นเจ้าของ เพราะถูกคุณหลวงแย่งไป แต่จากตัวอย่างใหม่แนะว่าจันจะกลับมาทวงบ้านคืน และแก้แค้นคุณหลวง และก็ดูเหมือนจะยังคงสะท้อนการเมืองนอกบ้านอย่างชัดเจนอีกเช่นกัน และเราคงจะได้รู้บทสรุปเมื่อหนังฉาย 7 กุมภาพันธ์ 2556 นี้ คลิกดูตัวอย่างด้านใน
เอ่อ…โดม ปกรณ์ ลัม ….โต่โน่ ภาคิน…เอ่อ ..ช่วยหาคนที่มีเครดิตกว่านี้หน่อยเถอะครับ
55555555555+
เพิ่งจะดู ปฐมบทจบไป มาริโอ้ เป็นจัน ได้ดีมากและเหมาะมาก ทั้งๆ ที่เป็นหนังอีโรติก แต่ทุกฉากที่เป็นฉากร่วมรัก ล้วนมีเหตุผลในตัวของมัน จนนำมาสู่บทสรุป ในตอนท้ายของหนังในภาคแรก นักแสดงทุกคนแสดงดีมาก พอดูจบ ก็อยากจะดูภาค 2 เลย อยากรู้ว่า จันจะแก้แค้นคุณหลวงยังไง แล้วคุณหลวงจะได้รับผลกรรมที่ตัวเองก่อยังไง ผมนับหนังเรื่องนี้เป็นหนังดีที่ควรดูของผมในปีนี้
มาริโอ้มีการแสดงที่ดีขี้นเรื่อยๆถ้าเทียบกับดารารุ่นเดียวกัน ยิ่งได้มาแสดงหนังของหม่อมน้อย แล้วยิ่งหายห่วง หม่อมน้อยกำกับหนังได้ละเมียดละมัยมาก โดยเฉพาะการเค้นอารมณ์นักแสดงทำได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งปัจจุบันผู้กำกับที่กำกับนักแสดงให้เข้าถึงบทบาทนั้นหาได้ยากยิ่ง…
ฟังเพลงนึกว่าหนังแอคชั้น
อยากดู อยากดูครับ ใครที่ดูภาคปฐมบทมาแล้ว ยังไงก็ไม่พลาดภาคปัจฉิมเป็นแน่
โดยรวมนะ ผมไม่ชอบนิยายเรื่องนี้ ตัวละคนอย่างคุณหลวงถูกกำหนดออกมาคล้ายพวกฮิสทีเรีย ที่สำคัญมั่วกามกันทั้งบ้าน มั่วกันไปหมด สำหรับผมเอง มันหดหู่ใจมาก ไม่รู้ว่า ประมูล อุณหธูป แต่งนิยายเรื่องนี้ เพื่อจุดประสงค์อะไร มันไม่ใช่แค่นิยายอิโรติด มันไม่ใช่แค่หมิ่นเหม่ศิลธรรม แต่เนื้อหาเรื่องมันเหมือนเหยียบย่ำขนบที่ดีของสังคมไทยอย่างรุนแรง เหมือนบ้านเมืองนี้ไม่ศาสนายึดเหนี่ยวจิตใจ ลึกๆแล้ว เหมือนผุ้อยู่เบื้องหลังนิยายเรื่องนี้ เคยอยู่ในอาการเก็บกด หรือถูกกดขี่ทั้งร่างกายและจิตใจอย่างรุนแรงมาก่อน จนต้องระบายออกมาเป็นตัวอักษร โดยผ่านสายตาตัวละครอย่างจัน ในมุมมองที่ทั้งน่าสมเพช และ ทั้งสาสมใจ สะใจ ในเวลาเดียวกัน ด้วยที่กล่าวมาทั้งหมด ยังหาเหตุผลไม่ได้ครับว่า นิยายเรื่องนี้ มันให้อะไรกับคนอ่านและคนดู นอก
จาก”กาม-พิฆาต”ล้วน ๆ ซึ่งถึงแม้ว่า มล.พันธุ์เทพ จะนำมาตีความใหม่ แต่กลับเน้นอิโรติก ที่เพิ่มฉากสังวาสที่เน้นท่วงท่า ลีลา อย่างโจ่งครึ่ม ยิ่งทำให้มูลค่าของ ประมูล อุณหทูป แทบไม่เหลืออะไรให้พูดถึงอีกต่อไป เพราะคนส่วนใหญ่รู้จักจันดาราเพียงแค่ นิยายเรทอาร์เรื่องหนึ่งเท่านั้น !
“มันอาจเป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยม หรือมันอาจเป็นการแสดงอารมณ์ตามปกติของมาริโอ้”
5..5..5
ด้วยความเคารพนะครับ
ชอบเวอร์ชั่นหนังสือ
ประทับใจเวอร์ชั่นนทรีย์
แต่เข้าขั้นเกลียดเวอร์ชั่นหม่อมน้อย…รู้สึกเหมือนดูหนังเเผ่นเรทอาร์ธรรมดาๆ
เห็นด้วยครับ
เอ่อ…อาจจะฟังดูเกรียนๆ แต่หนวดมาริโอ้นี่ดูแล้วน่ากดปุ่มให้เก็บเห็ดมาก
…จริงๆนะ
ไม่เกรียนครับ ผมเห็นด้วย ฮ่า
ส่วนตัวผมรู้สึกไม่ชอบหนังเรื่องนี้เลย การตีความของ “จันดารา” เวอร์ชั่นหม่อมน้อย ผิดเพี้ยน เสียความไปหมด พยายามเล่าเรื่องกามตัณหาในบ้านวิสนันท์ คู่ขนานไปกับเหตุบ้านการเมือง ซึ่งผมว่าหน้าสนใจดี แต่การนำเสนอในทางละครทีวีไทยๆ กับมูดแบบตลกขบขัน มันดูจะไม่ส่งเสริมแก่นสารขอหนังเลย ยิ่งแต่จะทำให้เนื้อหาเบาบาง ไร้สาระ และบ้าบอไปกันใหญ่ เข้าทำนอง คิดมาก ทำมาก แต่กลับได้น้อย
ที่ผิดหวังอย่างที่สุดคือความรสนิยมด้านความงามที่แย่มาก โดยเฉพาะงานออกแบบเครื่องแต่งกาย ที่ออกคล้ายงานมองไกล คือเน้นประโคมทุกสิ่งให้ดูเยอะ แต่ขาดความละเอียดปราณีต การวางสี และเลือกใช้วัสดุในการจัดสร้างก็ขาดความพิถีพิถัน รวมทั้งองค์ประกอบศิลป์ งานออกแบบงานสร้างที่ไม่สามารถทำให้เชื่อว่าย้อนยุคสมจริง จะว่าไปก็เหมือนดูละครโทรทัศน์ช่อง 7 และช่อง 3 ซึงผมตกใจมาก ไม่อยากเชื่อว่านี่จะเป็นผลงานของหม่อมน้อย ที่ขึ้นชื่อเรื่องรสนิยมเป็นเลิศ และความละเอียดปราณีต ไม่น่าเชื่อว่าผกก.ท่านนี้จะเคยสร้างบรรยากาศย้อนยุคสมัย ร.5-ร.8 ได้อย่างสมจริง เปี่ยมชีวิตและวิญญาณในละคร สี่แผ่นดิน -_-”
ส่วนเรื่องการแสดง ผมว่าหนังมีปัญหาจากการคัดเลือกตัวแสดงที่ผิดพลาดไปเสียเกือบหมด หรือที่เค้าเรียกกันว่า miscast โดยเฉพาะตัวละครหลักๆ อย่าง จัน, คุณบุญเลื่อง และคุณแก้ว (จริงๆ เคน กระทิงทองที่ mis นะครับ แต่น้องนิวดันเสือกเล่นได้ตลก มีชีวิตชีวา สร้างสีสันให้กับหนัง บวกด้วยกล้ามท้อง และปลีน่องงามๆ เลยอภัยให้ 5555+)
การคัดเลือกที่ผิดพลาดคือ เลือกนักแสดงที่รูปลักษณ์ภายนอก รวมถึงบุคคลิกไม่เหมาะ หรือแตกต่างจากตัวละครโดยสิ้นเชิง เช่น รูปร่างหน้าตา วัย น้ำเสียง ทำให้คนดูยากจะเชื่อ ซึ่งเราจะพบกรณีนี้ใน ละครทีวีเสมอๆ แต่สำหรับภาพยนตร์ซึ่งต้องการความละเอียด สมจริงมากกว่า กรณี จันดารา ถือเป็นเรื่องที่ผิดพลาดมากกกกกกกกกกกที่สุด
มาริโอ้ ทำให้คนดูไม่เชื่อตั้งแต่รูปร่าง หน้าตา ที่ดูยังง้าย ยังไง มันก็ฝรั่งชัดๆ ส่วนเรื่องการแสดงที่ได้รับคำติมาก เพราะมาริโอ้ เป็นคนที่มีปัญหาด้านการออกเสียงเพื่อการแสดงอยู่แล้ว เสียงโมโนโทน ไม่สามารถใช้เสียงสื่อสารอารมณ์หลากหลายได้ ยิ่งต้องเปลี่ยนเสียงตามวัยตัวละครยิ่งแล้วใหญ่ หนังโป๊ะมาก เมื่อดันเอาจุดด้อยของมาริโอ้มาโชว์ตั้งแต่ฉากเปิดเรื่อง ทำให้คนดูถอยห่าง และไม่เชื่อในเหตุการณ์ทั้งหมดที่ตามมาอีกราว 2 ชั่วโมงกว่าๆ อ๋อ อีกอย่างนึงที่ต้องติคือ มาริโอ้ ใช้ภาษากายในการสื่อสารไม่ดีเลย ทั้งสีหน้า ท่าทางที่มันไม่ขับความรู้สึกของตัวละครใดๆ ออกมา ส่วนนี้ผมสังเกตว่า มาริโอ้ไม่พัฒนามาตั้งแต่ รักแห่งสยาม อุโมงค์ ผาเมือง เล่นยังไงก็เหมือนกันหมด
ผมยังไม่ได้ดูฉบับแรกเลย ตกลผมควรจะดูไหมครับ คนนึงก็บอกมาริโอ้เล่นดี อีกคนก็บอกว่าไม งงงนะเนี่ย
ปล.ผมชอบเวอร์ชั่นนทรีย์ นะ