Countdown: ความเห็นหลังชม

countdown reader reviewหลังจากจีทีเอชกลายเป็นค่ายหนังยี่ห้อฟีลกู๊ดในสายตาของนักดูหนัง ปีนี้จีทีเอชอยากให้นักดูหนังมองมุมใหม่บ้างว่า พวกเขาทำหนังฟีลอื่นก็เป็นนะ (จริงๆ ค่ายนี้ก็ทำหนังสยองขวัญได้ดีไม่แพ้กัน เช่น บอดี้ ศพ19 หรือ เด็กหอ แต่ไม่ค่อยมีใครพูดถึง) จึงได้ส่ง Countdown ของผู้กำกับบาส นัฐวุฒิ พูนพิริยะ ออกมาฉายในช่วงใกล้ปีใหม่นี้ ด้วยเรื่องราวคืนเข้าสู่ปีใหม่ ที่ตัวละครสามตัวต้องมาผจญเรื่องร้ายที่อาจทำให้ตายไม่ได้เห็นปีใหม่จริงๆ

หนังเพิ่งฉายรอบสื่อไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ก่อนที่จะฉายจริงวันพฤหัสบดีครับ ซึ่งตามรายงานของ Bioscope บอกว่ารายได้วันแรกของการเปิดตัวอยู่ที่ 2.28 ล้านบาท อยู่อันดับสอง เป็นของ Chinese Zodiac ที่ทำรายได้ไป 2.91 ล้านบาท ครับ รายรับห่างกันที่หลักแสน จึงยังไม่แน่นอนว่ารายได้ 4 วันของหนังเรื่องไหนจะชนะ คงต้องรอสรุปกันต้นสัปดาห์หน้า

ในแง่ของคำวิจารณ์ ทั้งจากนักดูหนังและคนในวงการ ออกมาแบบหลากหลายครับ มีตั้งแต่ชื่นชมมาก ชื่นชมปานกลาง ชื่นชมว่าควรให้กำลังใจแม้หนังจะไม่สมบูรณ์ และออกไปในทางไม่ชอบเลยก็มี ผมยังไม่ได้ดูหนัง เลยขอรวบรวมคำวิจารณ์และความเห็นส่วนหนึ่งมาให้อ่านกันครับ

เริ่มจากคำวิจารณ์ในทางชื่นชมมากก่อน เริ่มจากวิชชา ผู้กำกับหนังสั้นและนักทำใบปิดหนัง ซึ่งเคยดูหนังสั้นต้นฉบับของ Countdown มาก่อน ให้เกรดหนัง A+ และยกย่องว่า “ชอบมาก สะใจมาก เฮซุสน่ากลัวมาก เหมือนหนังสั้นเป๊ะ บอกแค่นี้แหละ” คุณขจร เจียรนัยพานิชย์ เจ้าของบล็อค khajochi ให้คะแนนหนัง 9/10 และชมหนังว่า ““เคาท์ดาวน์” เป็นหนังแนวระทึกขวัญ มีความลับน่าค้นหามากมาย นักแสดงดี บทดีเกินคาด มีความรุนแรงและเป็นหนังคุณภาพอีกเรื่องของ GTH ครับ” เช่นเดียวกับดีเจกัน เห็น EFM ก็ให้เกรดหนังระดับ A- และบอกในทวิตว่า “หนังดูฝรั่งมาก บทโคตรดี ประเด็นสะท้อนสังคม แทงใจวัยรุ่นไทย โหดในระดับหนึ่ง ช่วงหลังเครียดน้ำตาซึมเลย” อีกความเห็นแบบชมเชยมาจาก ปวีณ ภูริจิตปัญญา ผู้กำกับบอดี้ ศพ19 เขียนลงในทวิตเตอร์ว่า “Count Down : พาคนดูไปสู่ด้านที่มืดที่สุดของชีวิตแล้วกระชากหัวขึ้นมาเขย่าๆๆ ทั้งมันส์ ทั้งสะใจ หนังมีอะไรมากกว่า Splatter House ตลาดๆ” คุณพิง ลำพระเพลิง พูดถึงส่วนดีของหนังที่เขาชอบที่สุดว่า “best casting of the year นักแสดงเก่งๆประเทศไทยมีเยอะ รอแค่บทที่สมเหตุสมผลเท่านั้นเอง สนุกดี

อีกกลุ่มความเห็น จะออกไปในทางชมและติครับ นั่นก็คือบอกทั้งข้อดีและข้อเสีย บอกว่าหนังเรื่องนี้มีทั้งส่วนที่เขาชอบและอยากให้ปรับปรุง หรือชื่นชมหนัง ให้กำลังใจผู้กำกับ แต่ก็แอบบอกส่วนที่เห็นว่าน่าจะดีกว่านี้ได้ เป็นต้นว่า เป็นต้นว่า จิม โสภณ ศักดาพิศิษฏ์ ผู้กำกับจากลัดดาแลนด์ ทวีตบอกว่า “Countdown เต็มไปด้วยลูกบ้าและพลังของผกก.กับนักแสดงสูงมาก แม้บางช่วงจะดูสั่งสอนเกินไปแต่ก็ทำให้อะไรจากหนังเรื่องนี้ไปไม่น้อย ลองไปดูนะครับ” ซึ่งความเห็นอาจคล้ายๆ โต้ง บรรจง ปิสัญธนะกูล ผู้กำกับจากชัตเตอร์ ที่บอกว่าเคาท์ดาวน์ ตามประสางานชิ้นแรก ผกก.ปล่อยของแบบจัดเต็ม อาจเขย่าไม่ลงตัวเต็มที่ แต่พอเข็มเข้าด้ายก็ระทึกและเท่มากกกก ไปดูกันนะครับ

ทีปกร วุฒิพิทยามงคล นักเขียนและนักวาดการ์ตูนเขียนไว้ในบล็อก filmsomeให้หนังเรื่องนี้ที่เกรด B- ชมการตัดต่อและนักแสดงเป็นหลัก แต่ก็พูดถึงจุดที่ไม่ชอบอย่างหนึ่งว่า “ข้อคิดซึ่งสำหรับเราคือดูยัดเข้ามาเกินไป (แต่คนชอบก็มี ซึ่งก็คงแล้วแต่คน สำหรับเรา ไม่ชอบ)” และบล็อก patsonic ก็ตั้งข้อสังเกตว่า “ใจความของหนังเหมือนพยายามสาดยาแรงๆ ใส่คนดู มีแง่คิดที่น่าสนใจในหนังโดยเฉพาะสำหรับวัยรุ่น สะท้อนเหตุการณ์จริงในสังคมเราได้ระดับหนึ่ง เราได้ฉุกคิด เราได้ลุ้น กับเรื่องราวที่อาจจะเดาได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ยังรู้สึกอยู่อย่าง คือเราจะอินกับตัวละครบ้างแต่ก็ไม่มากนัก” บล็อกเกอร์ boyofheaven ให้คะแนนหนัง 3.75/5 และพูดถึงทั้งส่วนที่ชอบและไม่ชอบว่า “ถือเป็นปีใหม่ GTH ที่ดีอีกปี หนังตีโจทย์ที่ตั้งไว้ได้แตก แต่ในแง่อารมณ์ยังไม่สามารถสนอง need ของคนดูเท่าที่ควร มีหลายฉากที่ทำให้ลุ้นมาก แต่ก็มีหลายฉากที่ทำให้เนือยมากเช่นกัน

นอกจากนี้ก็มีความเห็นไปทางลบมากหน่อยก็มี เช่นนักดูหนังและนักวิจารณ์สมัครเล่น เวฟคุง ใหคะแนนหนัง 2.5/5 ลงข้อความไว้ในทวิตเตอร์หลังดูว่า “ใช้สถานที่ปิดตายได้ไม่คุ้ม ตัวละครไม่น่าเอาใจช่วย ถึงแม้จะมีการแสดงที่ดีของ คุณเดวิด และ เรื่องเสียดสีก็ตามkc-eazyworld บล็อกเกอร์หนังและนักดูหนัง ให้เกรด C บอกว่าชอบครึ่งแรกของหนัง และให้เหตุผลที่ไม่ชอบครึ่งหลังว่า “น่าเสียดายที่หนังไม่สามารถปิดฉากได้แปลกใหม่อย่างที่บิ้วไว้ จนเรียกว่าจบได้ Cliche สุดๆก็ไม่ปาน แต่ยังนับว่าเป็นก้าวสำคัญของวงการภาพยนตร์ไทยก้าวหนึ่ง และหวังว่าเรื่องต่อๆไปจะนำหนังเรื่องนี้เป็นต้นแบบ” และ Filmzlap บล็อคเกอร์และนักดูหนังอีกคนก็ให้ความเห็นในทวิตเตอร์ถึงความผิดหวังว่า “หนังดูพยายามเยอะเกินไปจริงๆนะ ทั้งความรุนแรง ที่มาแบบจะเน้นให้ดูโหด แต่เราผ่านหนังอะไรแบบนี้มาเยอะละไง มันเลยดูล้นๆล่กๆ แล้วแต่คนมั้งนะ

เพื่อนๆ ที่ดูมาแล้วชอบ-ไม่ชอบยังไง ให้คะแนนหนังกันคนและเท่าไหร่ ใส่ความเห็น(โดยไม่สปอยล์)กันได้เลยครับ

 

19 comments

  1. ไม่ได้ดีขนาดนั้นมั้งครับ ผมว่าชมเกินไปเยอะเลยนักวิจารอะ คงเพราะเห็นเป็นหนังไทยด้วย เรื่องนี้มันแค่เน้นความตื่นเต้นแค่นั้นไม่มีไรมาก เนื้อเรื่องธรรมดา ไม่สนุกมากขนาดที่นักวิจารบอก เสียดายเงิน เสียดายเวลา ผมไม่ได้มีไรนะ ถ้าคิดจะไปอุดหนุนหนังไทยก็ได้อยู่ แต่ผมว่าเก็บเงินไว้ดูหนังต่างชาติดีกว่าเยอะเลย ความระทึกถือว่าดี ดูกดดัน แต่เรื่องเนื้อเรื่องหรือปม เอาไป0 ไม่มีไรเลยธรรมดามากๆเรื่องนี้ ไม่มีการเน้นเนื้อเรื่องไรให้มาก ตามฉบับหนังไทย

  2. ยังไม่ได้ดู และอาจจะไม่ได้ดูโรง เพราะแฟนไม่ชอบหนังแนวนี้… (-_-‘)

    แต่พล็อตน่าสนใจดี ตัวละครน้อยๆในพื้นที่และเวลาอันจำกัดกับหนังฆาตกรรม !!

    คือ มันเป็นโจทย์ที่เล่นยากมากกกก กับการเป็นหนังยาว มีโอกาสสูงที่จะทำไม่ถึง แล้วก็จะแป้กเอามากๆ
    ขณะที่ถ้าทำถึง ขั้นเทพ หรือแค่เสมอตัว ก็ยังต้องยอมรับในความกล้าที่จะทำอะไรแบบนี้ 😉

  3. ส่วนตัวผมได้สัมผัสเมื่อวานรู้สึกว่าหนังทำได้ดีกว่าที่คิดไว้เยอะนะครับ
    ส่วนตัวไม่เสียดายเงิน แถมรู้สึกคุ้มด้วยครับ

    และที่สำคัญนักแสดงแต่ละคนนี้ เรียกว่าสุดๆครับ
    แต่ที่น่าติสุดนี้ผมว่า พีช แสดงแบบว่ายังดูเหมือนติดความเป็นหนุ่มหน้าใสจากเรื่องอื่นอยู่นะ
    พีค นี่เล่นได้ดีเกินความคาดหมายนะครับ
    เต้ยนี้ก็เล่นได้ดีนะครับ แต่…มันยังไม่ถึงนะครับ
    แต่ต้องชมที่สุดคือ เฮซุส น่ะครับ ชอบมากครับทั้งๆที่ฝรั่งถ้ามาเล่นหนังไทยนี้ตั้งแต่ผมเกิดมานี้ทุกเรื่องนั้นมันดูเป็นฝรั่งของปลอมยังไงไม่รู้ทุกเรื่องเลยนะครับ ซึ่งเฮซุสนี้ก็ยังดูเหมือนของปลอมนะครับแต่ก็โอนะครับน่าจดจำดีครับ(หนังให้บทเยอะน่ะครับแต่เฮซุสก็เล่นได้เรียกว่าเกินความคาดหมายของผมมากครับ) ที่สำคัญเสียงไทยหล่อมาก…อยากรู้ว่าเสียงจริงหรือเปล่า
    (แต่เก่งกันทุกคนเลยครับตบมือ แปะๆๆๆ)

    ที่ผมขอชม GTH แบบสุดใจเลยครับ ปกติผมชอบค่ายนี้นะครับตอนแรกๆสมัย แฟนฉัน เพื่อนสนิท ชัตเตอร์
    มหาลัยเหมืองแร่ กอด หลังๆเริ่มแอนตี้ รู้สึกว่ามันเดินตามรอยเท้าเก่ามากเกินไป จนได้ดูเรื่องนี้จบก็รู้สึกยินดีกับ GTH นะครับที่กล้าก้าวเดินผ่านสิ่งที่เป็นจุดขายของค่าย คือถ้าสมมุติ GTH ยังเดินตามรอยเดิมไปเรื่อยๆนี้มันก็ไม่เสียหายหรอกครับแต่มันจะไม่มีอะไรใหม่(ยิ่งหลังๆนี้ แถบจะไม่มีความแตกต่างกัน คือจดจำแถบไม่ได้น่ะครับ)สำหรับวงการหนังในเมืองไทยเลยจริงๆ ขอตบมืออีกครั้งน่ะครับ แปะๆๆๆ

    ส่วนเรื่องความโหดนี้ผมไม่อยากไปเทียบกับหนังฝรั่งอะไรมากน่ะครับ มันไม่เยอะเกินไป แต่นิดนึงผมว่ามันน้อยไปหน่อย แต่ก็พอเหมาะกับหนังในเมืองไทยแล้วแหละครับ

    ที่สำคัญคือช่วงท้าย
    สปอย*******
    ผมว่าGTH ก็ยังเป็น GTH น่ะครับยังคงให้กำลังใจคนดูน่ะครับในตอนจบซึ่งผมชอบมากสำหรับการจบแบบนี้
    (แต่ถ้าผู้กำกับใจร้ายจบตอนนับ 1 แล้วจบเลยนี้ผมว่าคนดูคง…ฮือฮา…แน่นอนครับ แต่ ผมว่า GTH ไม่กล้าหรอกฮิฮิ)

    สรุป น่ะครับ
    ผมชอบและขอตบมือให้กับ GTH กับการกล้าก้าวเดินผ่านขีดจำกัดของค่ายตัวเองน่ะครับ
    ที่สำคัญคือก้าวแล้วไม่ เป๋ นี้ เยี่ยมครับ และหวังว่าค่ายหนังอื่นๆคงต้องเอาไปเป็นตัวอย่าง(คือเบื่อหนัง ตลก ตุ๊ด ผีตลก รักวัยรุ่น)น่ะครับแล้ววงการหนังไทยจะก้าวไปได้อีกยาวครับ

    • ถูกต้องนะครับ ผมเห็นด้วยกับความคิดของคุณอย่างแรง หนังไทยจะได้พัฒนากับเขาบ้างคือเบื่อหนังไทยมากๆ แนวซ้ำเดิมผมดูหนังไทยเรื่องล่าสุดก็ คน/โลก/จิต ครับสุดยอดจริงๆ

  4. ผมนอนหลับในโรง ไม่เคยดูหนังเรื่องไหนแล้วหลับเลยนอกจากไอ้มดแดงปะทะหนุมาน ตอนแรกคิดว่าจะดูเฉินหลงไปมาอุสามาดูเรื่องนี้ เฮ้อ ว่าแล้วว่าดวงซวย เลือกหนังไม่เคยถูกเลย เปลืองเงินโคตรๆ ขอบอกคนที่คิดจะดูอยู่ว่า ตอนนี้มีเฉินหลงอีกเรื่อง(แต่ยังไม่ได้ดูนะ)

  5. ดูจบแล้ว สรุปสั้นๆว่า เหมือนพยายามเแตกต่างออกไป แต่ตอนท้ายก็ยังคงกลับมาเป็นเหมือนเดิม

  6. เต็ม 100 ผมให้ 4.7 ละกัน ให้คะแนนฉากพีคกับเต้ย

    รู้สึกว่าทำหนังดูถูกคนดูมาก ปรัชญาก็แฝงก็ได้แบบไร้ชั้นเชิงสุดๆ

    ทำ 1 จะโกย 100 เอาเถอะครับ

  7. โดยส่วนตัวแล้ว ผมชอบ GTH ตั้งแต่ทำหนังเรื่อง แฟนฉัน เพราะว่าดูแล้วไม่น้อยหน้าพวกฝรั่งเลยครับ ถึงจะยังไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้แต่ก็รู้ว่าต้องสนุกแน่ๆ

  8. ส่วนผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่นัก
    ข้อใหญ่ ๆ ที่ไม่ชอบคือ
    – sound effect, เพลงประกอบเวอร์น่ารำคาญ เสียงแมลงสาปเดิน, เสียงเลือดไหลผมว่าไม่น่ามี, เสียงเพลงประกอบเหมือนทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ยกตัวอย่าง จับพระเอกตีตูด ภาพมันโคตรตลกเลยแต่เพลงทำอย่างกับโดนเอาปืนจ่อหัวอยู่
    – ปมของแต่ละตัวละครดูเบามาก พอเฉลยแล้วก็ “แค่นี้เองเหรอ”
    – ความโหดน้อยเกินไปมาก หวาดเสียวสุดก็แค่หักนิ้ว ไม่เห็นทรมาณน่ากลัวเท่าไหร่เลย
    ส่วนที่ชอบก็
    – เต้ยน่าร้าก~ คิดว่าแสดงดีกว่าคนอื่นเลย
    สรุปแล้วให้ 5.5/10 ครับ

    • ทั้งนี้ทั้งนั้นผมไม่ได้เสียดายเงินนะถึงจะไม่ค่อยชอบก็เถอะ ยังอยากให้คนอื่นลองไปดูกันอยู่ดี

  9. วิเคราะห์หนัง COUNTDOWN

    เราคิดว่า เฮซุส ในเรื่องก็คือ “JESUS” แต่นำเสนอในแบบฮาร์ดคอ
    Jesus ชาวยิวดั้งเดิมออกเสียงเรียกชื่อนี้ว่า เฮซุส
    หนังพูดถึงเรื่อง

    1. ’’สารภาพบาป” โดยเกริ่นไว้ตั้งแต่ตอนเริ่มคือ บี ไปนั่งอยู่ต่อหน้าบาทหลวง แต่ก็ไม่ได้ตัดสินใจพูดออกไป
    จนได้เจอกับเฮซุสและเหตุการณ์ต่างๆ ทำให้ตนสารภาพบาปออกมา
    “ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรม ก็จะทรงโปรดยกบาปของเรา และจะทรงชำระเราให้พ้นจากการอธรรมทั้งสิ้น” (1ยอห์น1:9)

    2.“ค่าความบาปคือความตาย” ตอนทั้งสามคน เล่าความบาปออกมา เฮซุสก็ได้บอกและจะกระทำอย่างชัดเจนว่าทั้งสามคนต้องตาย ซึ่งความเป็นจริงแล้ว บาปของแพม (นำเงินเดือนที่แม่ให้ช๊อปปิ้งจนหมด และมีอะไรกับแฟนเพื่อน) เป็นบาปที่เล็กน้อย หากเทียบกับความผิดบาปของบี(ขับรถชนครอบครัวหนึ่ง แล้วหนีความผิด มาเมืองนอก) แต่ทั้งสามคนก็ต้องรับโทษเหมือนกันคือความตาย
    พระเจ้าก็ทรงมีสิทธิ์ที่จะทำลายมนุษย์ และจริง ๆ แล้วพระเจ้าได้ทรงกำหนดวันหนึ่งไว้แล้วว่า จะมีการพิพากษาความผิดบาปของมนุษย์ทุกคน และพระองค์ก็ได้ทรงกำหนดวิถีทางแห่งมนุษย์ไว้แล้วว่า
    “มีข้อกำหนดสำหรับมนุษย์ไว้แล้วว่าจะตายครั้งเดียว และหลังจากนั้นก็จะมีการพิพากษา” (ฮีบรู 9:27)
    “เพราะว่าค่าจ้างของความบาปคือความตาย” (โรม 6:23)

    3.เฮซุสบอกว่ามีของดีให้ชื่อว่า เบิกเนตร แล้วก็ยื่น BIBLE ให้ มนุษย์ก็ปฏิเสธ (หนังเน้นให้เห็นทั้งสามคนพูดว่า no!) จุดนี้แสดงให้เห็นว่า เฮซุส เองเป็นคนเสนอสิ่งดีแท้ให้ แต่ แล้วทั้งสามคนก็เลือกที่จะเอาปีนที่อยู่ใน BIBLE แทน

    4. “เป็นใคร?”
    ”กูเป็นพ่อไง”—-> เอซุสบอกตั้งแต่แรกแล้วว่าตัวเองเป็นพ่อ
    * พระเจ้าคือผู้สร้างทุกอย่าง รวมถึงมนุษย์ เปรียบความสัมพันธ์กับพระเจ้าเป็นพ่อ-ลูก

    5.กูเป็นสึนามิ เป็นภัยภิบัติ —-> *ภัยภิบัติ ทุกอยางที่เกิดขึ้น อยู่ในการกำหนดของพระเจ้า
    กูเป็นสึนามิ เป็นภัยภิบัติ เพื่อล้างคนเลวๆ เพราะ ความรัก —-> *พระเจ้ากระทำทุกอย่างเพราะความรัก

    6.เป็นเมืองพุทธ กันใช่มั้ย? ไหนลองท่องศีล5ให้ฟังหน่อย—-> หลายคนอาจเข้าใจว่าหนังเรื่องนี้สอนเรื่องความบาปและผลของบาปโดยพูดสอนทั้งคริสต์และพุทธ แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ *คริสเตียนไม่ใช่ศาสนา และย้ำให้เห็นว่าศาสนาทุกศาสนา และศาสนาพุทธเองที่นับถือกันนั้น เราก็ท่องศีล จำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่ท้ายที่สุดก็ทำตามไม่ได้ อย่างบี เป็นคนที่ท่องศีลได้แม่นแต่กลับเป็นคนที่บาปดูจะร้ายแรงที่สุด (คริสเตียนเชื่อว่าศาสนาทุกศาสนา มนุษย์เป็นคนสร้างขึ้นมา เพราะต้องการสิ่งหนึ่งที่คอยปกป้อง ยึดเหนี่ยวทางใจ เพราะเริ่มแรกพระเจ้ากับมนุษย์สื่อสารกันต่อหน้า แต่มีความบาปมากั้นระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า สิ่งที่หลงเหลืออยู่คือจิตใจเราต้องการสิ่งนี้อยู่ จึงตั้งสิ่งต่างๆขึ้นมา เช่น ในอดีต บูชา พระอาทิตย์ปัจจุบันก็มี ความเชื่อ ลัทธิ ศาสนา ก็เกิดตามมามากมายจากการสร้างขึ้นของมนุษย์เอง โดยเค้าไม่รู้หรอกว่าแท้จริงแล้วสิ่งที่เค้าต้องการคือ กลับมามีความสัมพันธ์กับพระเจ้า ผู้ที่สร้างเขาขึ้นมาเหมือนเดิมตอนสร้างโลก )

    “ทุกศาสนาสอนคนให้เป็นคนดี” เป็นคำพูดที่ถูกต้อง 100 % (แต่ไม่ใช่ทุกศาสนาเหมือนกัน “ดี” ตรงนี้ หมายถึงแค่คำสอนขั้นพื้นฐาน ไม่ใช่หลักข้อเชื่อ คำสอนศีลธรรมขั้นพื้นฐานคืออะไร ? … ก็คือคำสอนที่ว่าอย่าโกหก อย่าล่วงประเวณี ห้ามขโมง ฯลฯ) เพราะถ้าหากไม่สอนให้คนเป็นคนดีแล้ว เขาคงจะไม่ตั้งเป็นศาสนา หรือเรียกว่าศาสนาอย่างแน่นอน ซึ่งพระคัมภีร์ เองก็สนับสนุนคำพูดนี้
    “ศาสนานั้นดีถ้าผู้ใดใช้ให้ถูก” (1ทิโมธี 1:8)
    จากข้อพระคัมภีร์ข้างต้นเราจะเห็นได้ว่า พระคัมภีร์ได้บอกว่า ศาสนานั้นดีถ้าใช้ให้ถูก
    ใช้ถูกอย่างไร ? … ก็คือใช้ให้ถูกวัตถุประสงค์ของมัน
    แล้วศาสนามีขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์อะไรล่ะ ?
    “…ศาสนานั้นทำให้เรารู้จักบาปได้” (โรม 3:2) (กาลาเทีย 3:19)
    จากข้อพระคัมภีร์ข้างต้นนี้เราจะเห็นได้ว่าวัตถุประสงค์ของศาสนาก็เพื่อให้มนุษย์รู้จักบาปได้

    7.ตอนหลังเฮซุส ก์ให้สิทธิ์บี ในการเลือก ว่าจะยิงตัวเองตาย หรือยิงเฮซุส ซึ่งบีก็เลือกยิงเฮสุซ—-> *การที่พระเจ้าลงมาเกิดเป็นพระเยซู แล้วโดนมนุษย์ขึงและตายที่กางเขนเพื่อรับบาปแทน

    8.ตอนสุดท้ายทุกคนมีชีวิตอยู่ ตัวละครทุกตัวอยุ่ครบ ยกเว้น เฮซุส —-> เหมือนเยซู ลงมาเกิด ปรากฏตัว ให้มนุษย์ สำนึก รุ้ว่าตัวเองบาป สารภาพบาป แล้วสุดท้ายก็ตาย และไม่ปรากฏออกมาในตอนท้าย เหลือแค่เพียงเสียง และสภาพห้อง ปุ่มกดลิฟท์ที่หายไป แสดงให้รู้ว่าเฮซุสมีตัวตนอยู่จริง

    9. เสียงเฮซุสขณะประตูลิฟท์เปิดออก ย้ำถึงการมีอยุ่ของเฮซุส และพูดฝากไว้ในตอนท้ายของเรื่องว่าให้ทำตัวดีๆ ไม่งั้นได้เจอกันอีก—-> พระเจ้าให้โอกาสเรา เมื่อเรารู้สึกผิด สำนึกว่าตัวเองเป็นคนบาป และกลับใจอย่างแท้จริง

    10.มีการนำวิวรณ์ ซึ่งกล่าวถึงยุคสุดท้าย(เราพยายามหาแต่นึกไม่ออกจริงๆว่าเป้นวิวรณ์บทไหน)

    *ทั้งหมดนี้เป็นความเข้าใจส่วนตัวซึ่งตรงตามความเชื่อของเรา หากมีความคิดเห็นไม่ตรงกันก็สามารถพูดคุย โต้แย้งได้ =)

  10. เป็นหนังที่โคตรดีมาก ภูมิใจที่สุดที่ประเทศไทยมีผู้ก­ำกับและคนเขียนบทได้ดีมากแบบนี้
    ดูจบคือสำนึกตามหนังเลยอะ และคิดว่าต่อจากนี้จะพยายามทำดี­ทุกๆวัน เว้นห่างจากความชั่วให้มากที่สุ­ดอะ ขอบคุณจริงๆที่ผลิตหนังดีๆแบบนี­้มา#

Leave a Reply to JaebigcCancel reply