ตัวอย่างฉบับเต็มของหนังซูเปอร์แมน Man of Steel เหาะมาแล้ว

man of steel trailerหลังจากเปิดเว็บไซต์นับถอยหลังสู่ตัวอย่างหนังใหม่มาทั้งวัน วอร์เนอร์ บราเธอร์ส ได้ปล่อยตัวอย่างฉบับเต็มของ Man of Steel หนังซูเปอร์แมนฉบับใหม่ของผู้กำกับแซ็ค สไนเดอร์ โดนการอำนวยการสร้างของคริสโตเฟอร์ โนแลน ออกมาในที่สุดแล้วครับ

ตัวอย่างหนังดูจะบอกเล่าเนื้อเรื่องที่เป็นการตั้งคำถามว่า ถ้าโลกนี้มีซูเปอร์แมนจริงๆ จะเป็นอย่างไร และเล่นกับคำถามนี้ในลักษณะที่ให้ตัวละครที่เป็นมนุษย์ทั่วไปมีปกติกิริยาคล้ายกับตัวละครมนุษย์ในหนัง X-Men ครับ ตรงที่ไม่แน่ใจว่าจะไว้ใจมนุษย์ที่มาจากต่างดาวและมีพลังพิเศษอันน่ากลัวนี้ได้หรือไม่ ขณะเดียวกันก็เผยฉากแอ็คชั่นอันน่าตื่นเต้น ใส่ดนตรีที่ดูทรงพลังทางอารมณ์เข้าไป มีการถ่ายภาพที่งดงามคล้ายกับหนังอาร์ต และใช้การถ่ายทำด้วยระบบพานาวิชั่นที่ให้หนังมีอารมณ์ยิ่งใหญ่แบบมหากาพย์ ซึ่งแน่นอนว่าแนวทางนี้จะถูกใจคอหนังที่อยากดูเรื่องราวเข้มข้นจริงจังแบบ The Dark Knight อาจจะไม่ค่อยโดนใจผู้ที่อยากชมหนังแบบบู๊แหลกและมันส์แบบ The Avengers แต่คนที่ดูได้หลายแนวคงไม่มีปัญหาครับ และผมก็เชื่อว่าแซ็ค สไนเดอร์ น่าจะคืนชีพให้ซูเปอร์แมนได้สำเร็จแน่นอน

Man of Steel มีเฮนรี คาร์วิล รับบทคลาร์ก เคนท์, เอมี่ อดัมส์ เป็นลูอิส เลน, ไมเคิล แชนนอน เป็นนายพลเซ็ดตัวร้าย, ร่วมด้วยเควิน คอสเนอร์, ไดแอน เลน, รัสเซล โครว์, ลอว์เรนซ์ ฟิชเบิร์น, คริสโตเฟอร์ เมโลนี และอีกมากมายครับ ออกฉายมิถุนายน 2013 นี้ คลิกชมตัวอย่างด้านใน

ขอบคุณ @voeten ที่ช่วยแจ้งครับ

Quick Time HD 480 p / 720 p / 1080 p

36 comments

  1. นิยามสั้นๆหลังจากดู ตย.นี้จบ …. “ขน(กรู)ลุกครับ”

    แม่เจ้า เป็น ตย.ที่ทรงพลังสุดๆ

    เปิดเพลงมานึกว่า 300 ยิ่งเจอหน้าเพ่ซุปตอนยังไม่โกนเครานี่มัน สปาร์ต้า ชัดๆ
    แต่พอไปรับออร่ามาแล้ว ครึ่งคลิปหลังเป็นอะไรที่กระพิบตาไม่ได้เลย สุดๆ

    แซ๊ค + โนแลนด์ + ฮาน ซิมเมอร์ = mother of movie

  2. ขอลอกตามค.ห.ด้านบนเลยแล้วกัน รู้สึกแบบนั้นเป๊ะๆ โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!! จะมีอะไรดีไปกว่านี้อีก ผู้กำกับคนโปรด+ฮีโร่คนปราน สวรรคฺ์ชัดๆ ถึงจะไม่ได้เห็นอะไรเยอะกว่าตัวอย่างในงานคอมมิคคอนก็เหอะ ปลื้ม!!! พรุ่งนี้ไปสอบไม่รู้เรื่องแน่ๆ = =

  3. เอาจริงๆ เหมือนปล่อยมาแต่โทนหนังให้ชม ซึ่งอารมณ์หนังหล่อมาก
    ตัวอย่างแบบตีหัว ขายฉากอลังการ คงมีมาให้ชมอีกปีหน้า

  4. ทรงพลัง เร้าอารมณ์จนผมแทบรอไม่ไหวแว้วว!!! …ผมกลับมองว่าหนังไม่น่าจะดราม่าขนาด TDK แฮะ เพราะโนแลนทำแบทแมนเป็นสัญลักษณ์แห่งความกล้าหาญและเสียสละในมุมมืดไปแล้ว ซุปเปอร์แมนก็คือสะญลักษณ์แห่งความดีงามและเมตตาในมุมสว่างเช่นกัน ผมว่าเฮียแซ็คกับท่าโนแลนต้องเคารพในเรื่องนี้อยู่แล้ว หนังออกมาโทนหม่นแต่อารมณ์มันก็ไม่น่าจะหม่นไปด้วยนะ

  5. ดูทรงพลังมาก
    ทั้งดูยิ่งใหญ่ อลังการ สมจริงสมจัง
    โทนหนังเอาอยู่ขนาดนี้แล้ว ก็เหลือเนื้อเรื่อง
    ถ้าเอาอยู่แบบ TDK ล่ะก็ฉลุย

    อีกอย่าง เริ่มเห็นแนวทางของหนังฝั่ง DC ชัดขึ้นเรื่อยๆ
    อย่างงี้ชักจะอยากดู JLA ในอนาคตซะแล้ว

  6. ดูตัวอย่างแล้ว อยากฟัง Theme Song แบบเต็มๆเลยละ เพราะดูทรงพลังอย่างที่คุณเจไดว่า แว่บแรกนึกถึง Gladiator ที่ผมชอบ Theme Song มากที่สุดฟังกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ แม้อารมณ์อาจจะไม่คล้ายกันนัก ตอนนี้ขอให้หนังทำออกมาได้ดี เพราะ Superman The Movie (1978) ยังเป็นหนัง Superman ที่ชื่นชอบมากที่สุดอยู่

  7. สัญญลักษณ์ของซูเปอรฺแมน คือ สกอร์เมนทีม ที่ ปรมาจารย์ จอห์น วิลเลี่ยม เคยทำไว้ในปี 1978 นั่นแหละถือว่า”สุดยอด”แล้ว ถ้าโนแลนต้องการเชื่อมต่อแฟนพันธุ์แท้ของหนังเรื่องนี้จากยุคเซเว่นตี้มาถึงปัจจุบัน จำเป็นอย่างยิ่งจะต้องแถมพ่วงเมนทีมของจอห์น วิลเลี่ยม เข้าไว้ด้วย จะดีเป็นอย่างยิ่งครับ !

  8. โอยยย ชอบที่สุดตรง ที่เล่นกับคนดู(หนังตัวอย่าง)ได้อย่างฉลาด และทำให้ เราสนใจที่จะจิ้นตาม…
    ถ้าซุปเปอร์แมนมีจริง… คุณล่ะ คิดยังไง ? เสียบเข้าลิ้นปี่ทะลุหัวใจผมเลย….
    โลกอาจจะไม่พร้อมยอมรับ แต่ผมพร้อม รีบๆเอามาฉายเหอะ….*-*

  9. ดูจากตัวอย่าง ผมเดาว่าโครงหนังน่าจะเอามาจาก หนังสือการ์ตูน Superman : Birthright รวมกับพล๊อตบางส่วนจากซีรี่ย์ Smallville ที่เน้นด้านดราม่าทั้งคู่ ยังไงก็ขอให้หนังมีความสนุกด้วยแหละนะ ไม่งั้นเดี๋ยวรายได้ไม่ดีอีก

  10. ผมว่าหนังซุปเปอร์แมน ไม่ได้เป็นหนังแอ๊คชั่นตั้งแต่แรก
    แต่การตีความความเป็นซุปเปอร์แมนสำคัญมากในตัวหนัง

  11. อิงกระแส dtk สุดๆครับ
    ก่อนเข้าเทรลเลอร์ จัวมาแบบว่านึกว่าแบทแมนภาคใหม่ ^ ^”

    แต่กลับไม่มีอะไรเหมือนแบทแมนเลย … แบทแมนดูติดดินกว่า และพูดถึงการปะทะกันระหว่างความดี เลว จริง ลวง โดยมีความยุติธรรมอยู่ตรงกลาง
    แต่ซุปเปอร์แมนพูดถึงความรู้สึกของคน (ชายขอบ) ที่มีต่อสังคม

    เดายากครับ เดาจากตัวอย่างหนัง แต่เห็นด้วยว่า ไม่ว่าจะเป็นโทนสีโดยรวม องค์ประกอบภาพ นิ่ง เนิบ ฟุ้ง เล่นกับความรู้สึกล้วนๆ คิดว่ายิงตัวนี้ออกมาแบบการันตีแฟนๆ dtk ไปในตัว

    สิ่งหนึ่งที่เราเห็นชัดๆคือที่ทางบนโลกนี้ (โดยส่วนตัว) มีสองสิ่งที่ทำให้ซุปเปอร์อยู่บนโลกแล้วใช้พลังเพื่อปกป้องมนุษย์ที่เค้าไม่ได้เป็น

    อย่างแรกที่เป็นคือ ชุดซุปเปอร์แมน
    แต่อย่างสองที่ยังไม่เห็นเลยคือ โลอิส เลน นางเอกของเรื่อง

    หรือว่าจะมีภาคต่อ?

    คิดว่าน่าจะมีอีกตัวที่ขายมากกว่านี้หน่อย (ก็ขอกำไรบ้างอะนะ ทำหนังน่ะนะ ประมาณนั้น)
    ผมภาวนาว่าอย่าให้เป็น comin’ of age แบบธรรมดาๆเหมือนหนังทั่วไปด้วยเถอะ สาธุๆๆ

    • tdk ครับ dtk มันอะไรละ แล้วเรื่องมันก็พูดถึงความดีเลวครับ แตกต่างตรงเขาใช้supermanเป็นตัวแทนเพียงคนเดียว คือ supermanต้องเลือกที่จะเป็นคนแบบไหน ไม่ว่าเขาจะเป็นใครหรืออะไรก็จะเปลี่ยนแปลงโลก แล้วเขาก็ติดดินกว่ามากครับ batman มันรวยจะติดดินได้ไง พี่supเรื่องของเขาคือการได้เห็นชีวิตคนธรรมดายังไม่ติดดินอีกเหรอ เขาใช้มันแล้วตัดสินว่าตนควรเป็นคนแบบไหน แล้วนางเอกก็เห็นแล้วครับ ตอนหลังไง จับมือกับพระเอกอะไปหาดูได้ แล้วเรื่องมันก็ให้กำหนดเป็นดราม่าแต่ต้นแล้วครับไม่ธรรมดาครับ

      • มาอีกละ อุตส่าห์หลบมาแล้วนะ ในนี้ก็มีด้วยเอ้อ …
        คุยกันสุภาพ สนุกๆ ดีๆกันน่ะครับ หนังไม่ใช่ศาสนา เคร่งอะไรจะขนาดนั้นพ่อคุณเอ๊ย

        ขอโทษครับ พอดีตอบกระทู้ เลยพิมพ์เร็วไม่ได้เรียบเรียงให้สวยงามอะไร
        ตอบต๊องๆบ้างอะไรบ้างก็ได้ ผมชอบนะ

        ขอปักหมุดไว้นิด ตอบคำถาม

        เรื่องแบทแมนติดดินกว่า
        ผมหมายถึงเรื่องราวที่พูดถึง การเมือง การปกครอง ติดดินคือเล่าเรื่องที่เน้นไปเรื่องของสภาพสังคมแวดล้อมที่เราอยู่มากกว่า (โดยที่สองภาคหลังแทบจะเทเปอร์เซนต์ไปเรื่องผลกระทบที่เกิดขึ้นมากกว่าปมทางจิตวิทยาของตัวละคร)

        แต่ถ้าจะบอกว่าแบทแมนรวยไม่ติดดิน ก็ถูกครับ ……..

        ส่วนซุปเปอร์แมนภาคนี้มันมีแค่เทรลเลอร์มาน่ะ ผมไม่รู้ว่าเนื้อเรื่องจริงๆจะพูดเรื่องอะไร
        ไม่มีหนังเรื่องไหนที่ไม่พูดเรื่องมนุษย์หรอกครับ … แม้แต่หนังหมาแมวก็ทำเพื่อความรู้สึกของมนุษย์ (บุคคลที่สาม/ผู้เสพ)

        คงไม่มีหมาตัวไหนดู beverly hills chihuahua แล้วหัวเราะเอิ๊กอ๊ากหรอกครับ
        หนังมันคือภาพสะท้อนการคงอยู่ของวัฒนธรรมมนุษย์ครับ แม้แต่ documentary ก็ยังเป็นมุมมองของมนุษย์ใช่มั๊ยครับ

        ซุปเปอร์แมนก็ยังคงเล่าเรื่องราวที่คนชายขอบที่เป็นส่วนตัว แต่มันก็สะท้อนความรู้สึกของคนดูได้เช่นกัน (แต่ก็ไม่ทั้งหมด)
        ในขณะที่แบทแมนพูดถึงสิ่งที่แวดล้อมรอบตัวเราและจับต้องได้มากกว่า

        โอเคนะ
        เหนื่อยยย -*-“

      • เอ่อ.คืองี้นะ แบทแมนมันเป็นเรื่องของหุ้นในภาค3 คนติดดินเล่นหุ้น? แล้วสังคมแวดล้อมที่เราอยู่ ผมไม่ได้เล่นหุ้นเรียกว่างงเลยดูตอนนั้น มันคือนั่งจิตในภาค2ที่เล่นกับความรู้สึกคนถ้าให้เถียบกับฝั่งmarvelมันติดดินอยู่แล้วเพราะดราม่า แต่ที่บอกว่าsupermanจะติดดินไม่เท่าเนี่ยเกินไปไหม
        superman เป็นคนต่างดาวที่มาอยู่บนโลก เขาต้องตามหาว่าทำไมตนมาอยู่ที่นี่ และยังต้องอยู่กับคนที่หวาดกลัวเขา มีเพียงพ่อ แม่เขาที่เขาไว้ใจได้ ชีวิตมีอะไร หาปลา ไปทำงานเป็นนักข่าวบ้าง อะไรบ้าง มันเป็นการที่จะได้เห็นสังคมในมุมมองที่แบทแมนไม่สามารถมองได้ เดิมทีเขาทั้งสองก็ตรงข้ามกันอยู่แล้ว เรื่องนี่จึงเหมือขยายเพิ่มจากเรื่องBatmanว่ามีอีกโลกนึงที่จะตอบรับheroแบบนี่ แบบที่กลัว เพราะคงไม่มีใครไปนั่งไว้ใจคนอื่น100เปอร์แน่ ที่ผมบอกไม่ได้จะหาเรื่อง แต่คุณกำลังเปรียบเทียบ2เรื่องนี่โดยไม่จำเป็น อยากให้เปิดใจให้supermanบ้าง หนัง2เรื่องสามารถทำเป็นดราม่าได้เต็มขั้นทั้งคู่ในรูปแบบที่แตกต่างกัน และสร้างมุมมองความคิด ความรู้ หรือความประทับใจให้ได้ในระดับเดียวกันด้วย

      • เอิ่ม … ใจร่มๆละกันนะครับ ขอบคุณท่านเจ้าของ blog มาก
        เอาเป็นว่าไว้หนังฉายค่อยว่ากันนะครับ

        ส่วนเรื่องติดดิน

        คืออย่างรูปแบบ Italian neorealism documentary ที่ใช้อธิบายสังคม สภาพแวดล้อม ไร้การปรุงแต่งน่ะครับ ผมเรียกมันว่าหนังติดดิน
        แล้วสิ่งที่แบทแมนทำแล้วได้รับการยกย่องคือ การใส่ความเป็นหนังสารคดีลงไปในหนังซุปเปอร์ฮีโร่ได้ลงตัวน่ะครับ (ซึ่งมันยากมาก)

        อย่างฉากไล่ล่าของโจ๊กเกอร์กับแบทแมน ถ้าเป็นผู้กำกับบล็อคบัสเตอร์คงไม่มีใครใช้ไทม์มิ่งกับตัดหนังแบบนั้นแน่ๆ

        ถ้าถามว่าคนชอบกันเยอะกับแบทแมนไตรภาค จะถามว่ามันคืออะไร คำตอบอาจจะคล้ายๆกัน
        มันดีน่ะครับ … ดียังไง … “รสชาติ” มันแตกต่าง สมจริง แปลกใหม่ลงตัว (สำหรับคนรุ่นนี้)

        ส่วนซุปเปอร์แมนมีแค่เทรลเลอร์น่ะครับ ที่เห็นก็แค่อารมณ์ ความรู้่สึก
        เอาเป็นว่าตีความ “ติดดิน” ไม่เหมือนกัน

        ก็ … ก็ ไงดี โอเคครับ
        ก็ไม่เหมือนกัน เข้าใจติดดินไม่ตรงกัน มันจะเป็นปลายเปิดทั้งสองด้าน เดี๋ยวมันจะไม่จบ

        ผมก็คงแค่นี้น่ะครับ :))
        ประมาณนี้

      • ผมไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณจะสื่อในความเห็นหลัง ที่บอกว่าsupermanไม่ดูติดดิน เอาความจริงของคนที่จะกลัวในพลังที่ตัวเองไม่อาจควบคุมได้มันต่างจากความจริงตรงไหน ผมไม่รู้ว่าคุณจะพยายามปิดกั้นเรื่องนี่ให้ต่ำกว่าbatmanทำไม บอกไว้ก่อนว่าผมไม่ได้ใจร้อนหรืออะไร เจตนาของผมแค่ต้องการให้คุณเปิดใจให้หนังเรื่องนี่หรือไม่ก็ไม่ต้องไปเทียบกับหนังเรื่องอื่น โดยพักหลังที่คุณพยายามหาจุดต่างมาเปรียบกันทั้งที่ยังไม่ได้ดุหนัง เพื่อ…?

        ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาจะทะเลาะแต่อย่างใดเพียงไม่อยากให้เอาหนังไปเปรียบกันเอง เพราะหนัง2เรื่องเป็นเสมือนพี่น้องกันด้วยซ้ำ ผมไม่ได้มีความรู้สึกใจร้อนหรือโกรธในคำของคุณ เพียงต้องการให้คุณเปิดใจกับหนังเรื่องนี่บ้าง เพราะหากว่าคุณดูหนังเป็น คงรู้ว่าการเปรียบเทียบหนังคือการเสียมารยาทต่อหนังเรื่องนั้น และที่ผมแย้งเรื่อง dtk หรือ tdk ก็คุณเล่นพิมผิดมา2ครั้งผมก็นึกว่าคุณเข้าใจผิดเกี่ยวกับชื่อ

        เอาเป็นว่า ขอให้เข้าใจในความหมายของคำของผมอย่างท่องแท้ด้วย ถึงเรื่องเจตนาของผม ขอบคุณครับ

  12. ขอโทษนะค่ะ เราดูตัวอย่างในนี้ไม่ได้เลย มันขึ้นจอแล้วมีเครื่องหมายเล่น สีแดงเท่านั้น ขอบคุณค่ะ

  13. ผมขอเห็นแย้งครับคุณโนทว่า หนังดีเพราะมันเป็นหนังดี แต่บางคนไม่ชอบ หนังไม่ดีบางคนก็ชอบเพราะรสนิยมต่างหากครับผม บางครั้งผมก็ชอบหนังที่ไม่คอยมีเหตุผลสักเท่าไร บางเรื่องเนื้อเรื่องไม่เท่าไรแต่ภาพโคตรสวย เพลงโคตรเพราะ พระเอกคนโปรด ผมจึงชอบ และผมก็ไม่ชอบหนังบางเรื่องที่ได้รับการยกย่องว่าดีเยี่ยม เช่นหนังของคูบริกเกี่ยวกับเรื่องอวกาศ เกือบทุกสำนักต่างยกย่องกันทั่วทั้งสามโลกว่าเป็นหนังที่ดี แต่ผมดู 4-5 ครั้งกว่าจบได้เวรกรรมจริง แต่ตัวหนังก็เป็นหนังที่ดีแต่ผมรับสาระของหนังหรือสารที่หนังต้องการสื่อไม่รู้เรื่อง แต่ไม่ได้หมายความว่าตัวหนังไม่ดีหรือเป็นหนังที่ห่วย ครับผม

    • เห็นด้วยครับ มองที่คนสร้างจะสื่อออกมาดีกว่า และเสพตรงนั้นให้เต็มที่ สุขไม่สุขหลังเสพก็เป็นเรื่องของรสนิยมของแต่ละคนละ 😉

Leave a Reply to satiCancel reply