The Impossible ฉายรอบปฐมทัศน์โลกไปเมื่อกันยายนที่ผ่านมาในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติแห่งโตรอนโต ซึ่งได้รับการยืนปรบมือยาวนานร่วม 5 นาที หลังจากหนังฉายจบครับ หนังค่อยๆสร้างกระแสทีละนิดๆ มานับจากนั้นตั้งแต่การเปิดฉายในสเปน บ้านเกิดของผู้กำกับเจ.เอ. บาโยนา และเปิดตัวทำรายได้ทุบสถิติหนังทุกเรื่องที่เข้าฉายในสเปน นักวิจารณ์บางคนมองด้วยว่าหนังอาจเป็นม้ามืดในการเข้าชิงรางวัลออสการ์ปีหน้า รวมถึงในสาขานักแสดงนำหญิง นาโอมิ วัตต์ ก็มีสิทธิ์ลุ้นเข้าชิงอย่างมากเพราะปีนี้ไม่ค่อยมีหนังที่นักแสดงนำหญิงมีบทเด่นมากเท่าไหร่ครับ
ก่อนหน้าที่หนังจะเข้าฉายบ้านเรา 29 พฤศจิกายนนี้ หนังได้เข้าฉายในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาในอังกฤษ มีรายงานเบื้องต้นว่ารายได้ของหนังอาจทำลายสถิติอะไรสักอย่างในอังกฤษครับ ผมยังไม่ได้ตรวจสอบข้อมูล อย่างไรก็ดี ยวน แม็คเกรเกอร์ นักแสดงนำของหนังได้จัดรอบพิเศษเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาที่โรงแรมโซโห หนึ่งในแขกที่มาร่วมชมหนังก็คือแอนเจลีนา โจลี่ ที่มาร่วมให้กำลังใจแม็คเกรเกอร์ เพื่อนเก่าของเธอ ซึ่งหลังจากชมหนังจบ โจลี่ยกย่องหนังเรื่องนี้อย่างมาก
“เราต่างจำเหตุการณ์สึนามิครั้งนั้นได้ และเราต่างจำได้ว่าดูกันทางทีวี และมันดูอยู่ห่างไกล แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นได้ และผู้คนนับแสนได้สูญเสียชีวิต แต่จากเรื่องราวที่เราอ่านกัน ฉันคิดว่าหลายคนยังคิดว่าเรื่องราวนี้ยังไกลตัว แต่สิ่งที่ผู้สร้างหนังเรื่องนี้ทำก็คือเล่าเรื่องผ่านครอบครัวนี้ให้มันดูใกล้ตัว และเรารู้สึกเหมือนเราอยู่ร่วมเหตุการณ์ และเผชิญร่วมไปด้วยกัน และมันเปลี่ยนเรา ซึ่งมันเป็นสิ่งที่พิเศษมากๆ” โจลี่บอก
โจลี่ยกย่องบทหนังของเซอร์จิโอ ซานเชซ ด้วยว่า “ฉลาดและสง่างาม” และเสริมว่า “และยังมีการกำกับอย่างยอดเยี่ยมของเจ.เอ. บาโยนา มีหลายฉากที่เราดูแล้วทำให้เราคิดว่า พวกเขาถ่ายทำได้ยังไง มันคาดไม่ถึงจริงๆ”
โจลี่ชื่นชอมการแสดงของนาโอมิ วัตต์ ว่าโดดเด่นเป็นพิเศษและดีอย่างมากๆ และบอกนักแสดงหนุ่มน้อย ทอม ฮอลแลนด์ ว่าเธอเป็นแฟนหนังของเขาแล้ว และหวังว่าสักวันจะได้ร่วมงานด้วยกัน แต่คำชมที่ดีที่สุด เธอเก็บไว้ให้แม็คเกรเกอร์ครับ “ยวน ฉันรู้จักคุณมาหลายปี คุณเป็นหนึ่งในนักแสดงโปรดของฉัน และฉันชอบดูคุณเล่นมากๆ แต่ฉันดูหนังเรื่องนี้แล้ว ฉันจำคุณไม่ได้เลย”
โจลี่เสริมอีกว่า “มันรู้สึกแปลกที่จะบอกว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดการแสดงแห่งปี มันไม่จำเป็นต้องให้เครดิตเลย เพราะมันไม่เหมือนเป็นการแสดง มันมาจากความรู้สึกจริงๆข้างใน เป็นอารมณ์ส่วนลึกจริงๆ คุณแทบจะไม่ได้เห็นความรู้สึกเช่นนี้จากนักแสดงบนจอหนัง ในฐานะนักแสดง…ฉันทึ่งมากๆ”
โจลี่ปิดท้ายด้วยการชื่ชมหนังโดยรวมว่า “ข้อพิสูจน์ว่าหนังเรื่องไหนทำสำเร็จก็คือการที่เราได้บางสิ่งติดตัวออกไปด้วยหลังจากการชม และสิ่งที่ได้จากหนังเรื่องนี้ก็คือเราได้ความรู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้อื่นมากขึ้น ให้ความรู้สึกเข้าถึงเพื่อนมนุษย์ด้วยกันมากขึ้น และเราอยากวิ่งกลับไปบ้านและกอดลูก และบอกว่าเรารักพวกเขา ไม่มีสาสน์ใดจะยิ่งใหญ่กว่านี้อีกแล้ว”
ที่มา: Screen Daily
ตอนที่ดูตัวอย่างแรกของหนังเรื่องนี้ มันน่าทึ่ง ชวนให้อยากดูมากๆ แต่ไม่คิดว่าหนังจะสร้างกระแสได้มากถึงเพียงนี้…สุดยอดครับ…อยากดูแล้วละ…
หนังดีนะ แต่ชื่อไทยนี่ซิ เงิบเลย
ผมว่าชื่อนี้ทำให้คนจำเหตุการณ์ได้ดีที่สุดแล้วนะ ไม่ต้องมีมหันตภัย หรืออะไรล้างโลกทำนองนี้
เพลียชื่อไทยเหมือนกัน จบสิ้นแล้วความคิดสร้างสรรค์
.
ได้อ่านข่าวแบบนี้ ทำให้อยากดูขึ้นเป็นเท่าตัวเลย
.
2004 สึนามิ ภูเก็ต มันช่างเป็นชื่อที่อุบาทว์จริง ๆ สหมงคลตั้งชื่อได้แย่มาก
ชอบโจลี่ ชอบยวน ชอบนาโอมิ เป็นการส่วนตัวอยู่แล้วว…อิอิ^^
ไม่ขอไปดู เพราะเห็นแล้วสะเทือนใจครับ
“สึนามิภูเก็ต” จบข่าว ไปชมกันครับ… >_<
แล้วจะให้ชื่อไทยว่าไงครับ “เป็นไปไม่ได้” งี้เหรอ
The Impossible “มหันตภัยมวลน้ำยักษ์ทะลักแผ่นดิน” ชื่อนี้เป็นแงะ
เดอะ อิมพอสสิเบิล *วารีคลั่ง ล้างพิภพ* เวอะไปวะ ฮ่าๆ
ไปดูมาแล้ว สุดยอดมากๆ