Skyfall: ความเห็นหลังชม

หนัง 007 ภาคล่าสุด Skyfall ได้ออกฉายแล้วในยุโรปและบ้านเรา หนังทำรายได้เปิดตัวในอังกฤษทุบสถิติหนังทุกเรื่องเลย ด้วยรายได้รวมเจ็ดวัน 37.2 ล้านปอนด์ ทำลายสถิติเดิมที่ Harry Potter and the Deathly Hallows – Part II ที่เคยทำไว้เมื่อปีที่แล้วครับ ส่วนรายได้เปิดตัววันแรกของบ้านเราอยู่ที่ 11.54 ล้านบาท ตามรายงานของ bioscope ซึ่งมีแววว่าน่าจะเปิดตัวสูงระดับ 50 ล้านบาทในสัปดาห์แรกของการฉายที่บ้านเราครับ

ในแง่คำวิจารณ์ จาก 77 บทวิจารณ์ที่รวบรวมมาโดย Rotten Tomatoes ในตอนนี้ มี 95% ที่ชอบหนังครับ และมีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 8.5/10 ซึ่งเท่ากับคะแนนที่ผมให้หนังเรื่องนี้เช่นกัน ซึ่งสิ่งที่ผมชอบมากที่สุดในหนังก็คือการเอาสูตรอันคลาสสิคของการเป็นหนังบู๊แฟนตาซีสำหรับผู้ชายเอามาแซวด้วยความรัก และการพาเราหวนรำลึกถึงภาคเก่าๆ ได้อย่างมีชั้นเชิง เหมือนวลีในหนังที่บอกว่า “Old dog, with new tricks” ที่เป็นการเอาสูตรประจำของหนังมาใช้และเติมลูกเล่นใหม่เพื่อขับสูตรเหล่านั้นให้ร่วมสมัย เหมือนที่ The Cabin in the Woods หนึ่งในหนังโปรดปีนี้ของผมที่เอาสูตรของหนังสยองขวัญยุค 70-80 มาแซว และคาราวะต่อหนังต้นฉบับอย่าง The Evil Dead ครับ

แต่เหมือนที่ผมคิดว่า The Cabin in the Woods ไม่ใช่หนังสำหรับทุกคน Skyfall ก็เช่นกัน จุดประสงค์หลักของมันก็คือเป็นการปูเรื่องใหม่เพื่อเข้าสู่สูตรเดิมของหนังอันคลาสสิค และเป็นการฉลอง 50 ปีของหนัง ถ้าอยากชมหนังสายลับแบบสมจริง โทนจริงจัง ในสไตล์ Casino Royale ก็อาจจะผิดหวังอยู่บ้าง เพราะ Skyfall คือการกลับสู่ความเป็นหนังแฟนตาซีสำหรับผู้ชายของ 007 อีกครั้ง เพียงแต่ใส่ลูกเล่นใหม่เข้าไปในแบบที่ทำให้หนังดูจับต้องได้มากขึ้นครับ

ไม่รู้ว่ามีใครคิดเหมือนผมรึเปล่า แต่ระยะหลังนี้ ฮอลลีวู้ดสร้างหนังเพื่อบูชาของเก่ากันหลายเรื่อง และบางเรื่องก็ทำออกมาได้ถึง หลายเรื่องกลายเป็นหนังโปรดของผมไปเลย เช่น Hugo และ The Artist ที่ยกย่องหนังเงียบ, The Cabin in the Woods ที่สร้างเพื่อคาราวะหนังสยองขวัญยุค 80, Super 8 ที่สร้างเพื่อคาราวะสปีลเบิร์ก, War Horse, Rango, Looper และ Argo ที่เอาลูกเล่นของหนังเก่ามาใช้ และสร้างบางฉากให้คล้ายหนังคลาสสิค ผมว่ากระแสการหวนถึงความหลังและความดีต่างๆ ในอดีตกำลังมาแรงมาก

จะเขียนวิจารณ์ทีหลังครับ ตอนนี้ขอเปิดพื้นที่ให้เพื่อนผู้อ่านเว็บได้แสดงความเห็นและวิจารณ์กันตามอัธยาศัย และใส่คะแนนให้อย่างที่คุณคิดว่าหนังควรได้ แน่นอนว่าความเห็นหลังชมต้องสำหรับคนที่ชมแล้วมาเขียน มันอดไม่ได้ที่ะเผยเนื้อเรื่องสำคัญของหนัง ขอให้เตือนก่อนนะครับว่าจะสปอยล์หรือบอกเนื้อเรื่องสำคัญ เพื่อคนที่ยังไม่ได้ดูมาอ่าน จะได้รู้ตัวและข้ามความเห็นไปก่อนครับ

27 comments

  1. ผมดู 007 มาบ้าง บางภาค เล่นเกม 007 มาก็บางภาคเหมือนกัน แต่ยังรู้สึกว่าภาคนี้ดูสนุก

    มันผิดคาดไปหน่อยที่คิดว่าภาคนี้จะเล่นกับอะไรใหม่ๆอย่าง ไอเด็นติตี้ คราม มันก็เล่นล่ะ แต่มันไม่ได้ลงลึกหรือหนักเท่ากับเล่นเรื่องความสัมพันธ์ ซึ่งน่าเสียดายมากเพราะมันน่าจะไปเสริมความโหดของตัวร้ายซิลวาได้ดีมากยิ่งขึ้น ถ้าเราได้ดูบทบาทของบาเด็มใน โนคันทรี่่ฟอโอลเมน มา อาจคิดเหมือนกับผมว่า “มันควรจะโหดขึ้นได้อีก” แต่ถึงอย่างนั้น บาเด็ม ก็ได้กลายเป็นตัวร้าย 007 ที่ผมทึ่งไปตลอดกาลเรียบร้อยแล้ว

    พวกฉากบู๊ สู้ มันถึงชั้นในระดับ “บันเทิง” แบบครอบคลุมได้ทุกคน ไม่ได้สงวนที่ไว้เฉพาะสาวกดับเบิ้ลโอ เซเว่น เท่านั้น คุ้มค่ามากๆ

  2. 37.2 ปอนด์ น่าจะตกคำว่า “ล้าน” ไปนะครับพี่ 🙂
    ผมดูแล้วชอบมากเหมือนกัน ปีสองปีนี้คนสร้างหนังกำลัง nostalgia กันใหญ่เลย เราก็พลอยสนุกไปด้วย

  3. ผมไม่ค่อยปลื้มครับ

    อาจเพราะ ผมไม่ได้ผูกพันธ์อะไรมากมายกับหนังชุดนี้ เรื่องแรกของ 007 ที่ดูคือ golden eye
    ฉะนั้น ความคลาสสิคแบบเก่าๆ ไม่ได้ผ่านตาผมมาก่อน

    ผมเคยติดฉบับ เพียซ บรอสแน่น แต่ก็ไม่ได้เอาเป็นตัวยึดว่า 007 ต้องเป็นเช่นนั้น
    เพราะ casino royale คือภาคที่ผมชอบที่สุดของ 007

    ความดิบ บู๊ หมัดลุ่นๆ ผมกลับชอบมากกว่า ความสำอาง ผู้ดีจ๋า // ซึ่งฉบับของ ดาเนี่ยล เคร็ก ทำให้ผมประทับใจในบอนด์ฉบับของเขา ได้ทุกภาค

    .

    ภาคล่าสุด ด้วยความที่ฉากเปิดตัวของอะไรต่างๆทำได้ดี ทำเอาคนที่ไม่ได้คาดหวังอะไร แค่เข้าไปเอาความบันเทิง และ ความมันส์ แบบผม ถูกกระตุ้นต่อมอะดีนารีนความตื่นเต้นเต็มที่

    แต่พอไปกลางๆเรื่องจบจน หนังกลับลดอารมณ์ร่วมทุกอย่างที่ผมหวังไว้ทั้งหมด ทำให้ความรู้สึกหลังดูจบ สรุปได้ออกมาว่า “แค่เนี๊ยะเองหรอ”

    เพราะทั้งฉากเปิดตัวที่ดิบ ตื่นเต้น และลากยาวพอสมควร ทำให้หวังถึงฉากแอ็คชั่น ไคลแม็กซ์ // ฉากเปิดตัวซิลวา ตัวร้ายประจำเรื่อง ที่แค่บทสทนากับบอนด์ช่วงเริ่ม จนถึงวางแผนหักเหลี่ยม MI6 ได้ทั้งระบบ ทำเอาคาดหวังถึงกึ๋นของตัวร้ายที่กินยากมากๆ

    แต่พอหลังรอบฆ่า mญ ไม่สำเร็จ กึ๋นตัวร้ายหายไปเลย เป็นแค่ผู้ก่อการร้ายมีปมจิตๆ ที่ยกพวกไปบุกบ้านพระเอก ที่ฝั่งพระเอกก็ตั้งรับด้วย home alone ฉบับผู้ใหญ่ // รวมทั้งหลายๆช็อตช่วงท้ายที่ห้วนมากๆไปทุกส่วน ความเป็นเหตุเป็นผลของสายลับสุดยอดขนาดนี้ หายไปหมด // ดราม่า mญ ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกอะไรเลย

    ผมจึงสรุปในฟีลผมว่า skyfall มีดีแค่เพลง+ฉากตรีมเปิดเรื่อง เท่านั้น (แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ทำให้ผมพึงใจได้มากกว่า quantum of solace ล่ะนะ)

    6 / 10

  4. ส่วนตัวแล้วชอบ casino royale มากกว่าครับ ตัวหนังก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไร แต่บังเอิญชอบแนวๆภาคที่แล้วมากกว่า ผมเสียดายตัวร้ายภาคนี้มาก ฉากเปิดตัวนี่ทำออกมาอย่างเทพ เล่นเอาขนลุกกันเลยทีเดียว( ผมชอบมากเลยมุข ” ใครชนะ ได้เป็นฝ่ายรุก ” 555 )แต่พอช่วงครึ่งหลังนี่เหมือนที่ท่านอื่นๆว่าไว้ความเทพที่ปูมามันหายไปหมด มันกลายเป็นผู้ร้ายสไตล์ระเบิดภูเขาเผากระท่อมไปหน่อย ส่วนฉากทีล้อเลียนภาคเก่าๆพวกมุขคลาสสิคต่างๆก็ทำให้อมยิ้มได้บ้าง ส่วนตัวแล้วให้ 6 / 10 ครับ (ป.ล.เสียดายสาวบอนด์มาก บทน้อยไปหน่อยครับ)

  5. ส่วนตัวชอบ Skyfall นะคะ….รู้สึกได้ว่าหนังมีอารมณ์ที่เป็นจริงจับต้องได้ อาจจะเพราะด้วยผู้กำกับที่ถนัดงานดราม่าด้วย เลยทำให้รู้สึกเข้าใจความรู้สึกของตัวละครแต่ละตัวที่มีต่อกันได้ดี ภาคนี้บอนด์เหมือนจะมีอารมณ์ขันมากขึ้น ซึ่งทำให้ดูเป็นคนจริงๆที่ไม่มามัวแต่ทำเท่เนี้ยบตลอดเวลา (แม้ภาพลักษณ์ของบอนด์จะมาทางนั้นก็ตาม) รวมถึงตัวร้ายของเรื่องก็ชอบนะคะ (บางครั้งแอบสงสารอยู่หน่อยๆ) เค้าแสดงออกมาแบบคนทีทั้งรักทั้งเกลียด อารมณ์รักมากก็เกลียดมากได้ดีเลยค่ะ และหลายๆสิ่งที่ใส่เข้ามาในหนังแล้วทำให้เรานึกถึงบอนด์ในยุคก่อนๆก็ไม่ได้ขัดตาแต่อย่างใด กลับทำให้รู้สึกกลมกลืนได้เป็นอย่างดีค่ะ

  6. ภาคที่แล้วผมไม่ชอบนะครับแต่ภาคนี้ยอมรับว่าชอบมาก แม้จะมี 2-3 เรื่องที่ดูไม่มีเหตุผลมากนักในเรื่องแต่ก็สามารถที่จะมองข้ามได้ โดยรวมดูแล้วทำให้นึกถึงหนังบางเรื่องอยู่เรื่อย ๆ แต่ก็ยังถือว่าทำออกมาได้ดีมาก

    บางคนไปดูด้วยกันบ่นว่าเบื่อหนังช้าไม่ค่อยมีอะไร แต่สำหรับผมเองกลับชอบ รู้สึกลุ้นและสนุปไปกับมันตลอด แม้จะเดาได้ตั้งแต่ต้น ๆ แล้วว่าจุดจบมันเป็นอะไรแบบไหนก็ก็ยังทำให้ลุ้นได้อยู่ดีครับ

    9/10 ครับ เป็นหนังสายลับที่ตั้งบนหลักความเป็นจริงที่ชอบมากครับ ^^

  7. ตอนแรกผมดูก้อเกิดอาการงงเหมือนกันว่าทำไมตัวร้ายช่วงหลังแสดงอาการไร้เหตุผลและเสียสติพิกล แต่พอมาถึงฉากที่ตัวร้ายกอด M ร้องเรียก mommy แถมยั่วให้เอาปืนยิงหัวตายไปตามๆกันเท่านั้นแหละ…ถึงบางอ้อเลยครับ ไอ้ตัวร้ายตัวนี้มันคนบ้านี่หว่า มิน่ามันถึงได้เพี้ยนไร้สาระได้ขนาดนี้ซึ่งต้องชมบาเด็มว่าเล่นได้ดีเหลือเกินเข้าใจหัวอกหัวใจตัวละครตัวนี้ได้ดีมากๆครับ
    ภาคนี้ผมชอบนะครับ ชอบที่มันยกระดับ 007 จากหนังแอ็คชันป็อบคอร์นธรรมดากลายเป็นหนังคุณภาพระดับนี้ เรื่องแฟนเซอร์วิซก็เรื่องนึง แต่ถึงไม่ได้รู้จัก 007 มาก่อนแต่ได้มาดูภาคนี้ผมว่ามันก็เป็นหนังที่เยี่ยมอย่างไม่มีข้อโต้แย้งจริงๆครับ องค์ประกอบภาพ กำกับศิลป์ ฉากแอ็คชัน นักแสดง ผู้กำกับ ดีเสียจนไม่น่าเชื่อเลยว่านี่หนัง 007 หรือเนี่ย ยกตัวอย่างฉากเปิดตัวผู้ร้ายครับ ให้กล้องแช่ภาพทิ้งไว้แล้วค่อยๆเดินเข้าหากล้องโชว์ความเทพของดาราพร้อมทำการไซโคพระเอกไปในตัว มีหนังแอ็คชันที่ไหนเขาทันกันแบบนี้บ้างล่ะครับ ทึ่งจริงๆ
    casino royale ผมก็ชอบมากเหมือนกันครับ (ในแง่ว่ามันเป็นหนังแอ็คชั่นที่มันส์มากๆ) แต่ ณ ตอนนี้ต้องยอมรับว่า skyfall เหนือชั้นกว่าจริงๆปรบมือให้กับความพยายามในการดึงเอาเนื้อในของ 007 ออกมาขายทั้งๆที่มันน่าจะเป็นของเก่าคร่ำครึไปแล้ว แถมยังทำได้ดีซะด้วย
    ใครไม่ชอบก็คงนานาจิตตังล่ะครับ แต่ที่แน่ๆตั้งแต่ที่ยังไม่ทันได้ฉายใน USA ก็เถอะ 007 ภาคนี้ขึ้นหิ้งกลายเป็นของคลาสสิคไปแล้วครับ

    • ชอบฉากที่แช่กล้องเหมือนกันครับ จากที่เห็นตัวลิฟท์ค่อยๆเลื่อนลงมา คนดูจะเห็นตัวละครอยู่ไกลๆ มันค่อยๆเร้าอารมณืได้ดีมาก ทำให้คนดูกระหายที่อยากจะเห็นหน้าของตัวละครครให้ชัดๆ

  8. ไปดูมาแล้ว เมื่อกี้นี้เอง บอกตามตรงส่วนหนึ่งที่อยากจะไปดูภาคนี้ในโรงก็เพราะอยากจะไปฟังเพลง ของ Adele ในบรรยากาศแบบในโรงด้วย และก็ไม่เคยดูหนัง 007 ในโรงเลย จึงถือโอกาสประเดิมด้วยภาคนี้ซะเลย โดยรวมแล้วชอบภาคนี้ครับ สนุกและมันส์ ไม่ผิดหวัง อาจจะลดความจริงจังไม่เท่ากับภาค Casino Royale แต่ก็ไม่เป็นไร ผมให้ 8.5 ครับ…

  9. แม้จะเป็นแฟนหนังบอนด์ และสะสมทั้ง DVD & BD แล้วทุกภาค แต่เป็นครังแรกที่ไปดูโรง IMAX แล้วเผลอหลับตอนใกล้จบ (อาจเป็นเพราะแสบตาช่วงตอนสาดกระสุนกัน) ตื่นมาช้อยเก็บฉากซะแล้ว ภาคนี้ยิ่งได้แซม เมนเดสระดับออสการ์มากำกับ (แต่ผมก็ไม่เคยชอบหนังแกเลยเซักเรื่อง) ภาคนี้ชอบเพลงและบทสนทนาแค่นั้น ฉาค action และผูัร้ายดูเฉยๆ ที่สำคัญที่สุดในเมื่อเปลี่ยน M, Q และ Moneypenny แล้ว อยากได้ Bond คนใหม่ด้วยท่าจะดี

      • ผมว่าถึงจะเซ็นสัญญารับเล่นบท บอนด์ อีก 2 ภาค..แต่เมื่อถึงเวลานั้นก็อาจจะมีการต่อสัญญาอีกนะคับ..ส่วนตัวผมคิดว่า เคร็ก เหมาะสมกับบท 007มากที่สุด..ภาคนี้ sky fall ผมให้ 9/10 คับ

  10. เห็นด้วยกับทุกความเห็นข้างบน ไม่ว่าจุดแข็งจุดอ่อนของหนัง แต่มั่นใจว่าเเฟน 007 ที่เคยชม 007 มามากกว่า 10 ตอน น่าจะต้องชอบมาก (รายละเอียดต่าง ๆ ของ แฟรนไชส์เป็นเหมือนความผูกพัน)

  11. สนุกกว่าภาคที่แล้ว ชอบ skyfall เหมือนที่ชอบ casino royal หนัง007สองภาคนี้ ภาพและมุมกล่องสวยมากเนื้อเรื่องก็ดูตื่นเต้นได้ลุ้นตามตลอดทั้งเรื่องทุกองค์ประกอบเข้ากันได้ดีแบบว่า casino royal เป็นหนัง 007ที่เป็นจุดเริ่มต้นใหม่แล้วทำได้ดีมากแต่ skyfall ก็เหมือนจุดเริ่มต้นใหม่อีกครั้งที่ทำได้ดีไม่แพ่กัน

  12. จริงจริงอยากอ่าน review คุณ jediyuth ด้วยครับ เห็นว่าจะเขียนฉบับเต็มหลายเรื่องแล้ว แต่สุดท้ายก้อเงียบไป (แต่เห็นตอบ comment) ชอบอ่านมุมมองของพี่มากครับ ( หรือผมพลาดไป)

    ส่วน skyfall ก็สนุกดีครับ เว้นแต่คิดว่าตอนช่วงท้ายจบได้บ้านบ้านบ้านไแหน่อย อยากให้มีฉาก action ที่ peak กวาานี้ เลยออกจากโรงแบบจืดจืด แต่ส่วนตัวไม่รู้สึกผิดหวังอะไรมากครัล

  13. casino royale เป็น Bond ที่ชอบมากที่สุดตั้งแต่ดูมา ซึ่งอาจจะเป็นเพราะชอบแนวการแสดงของ ดาเนี่ยล เคร็ก ด้วยที่ทำให้กลายเป็น Bond ที่แตกต่างจากที่ผ่านมา แต่ที่ต้องชมภาคนี้คือการที่หนังเล่นดึงอารมณ์ออกมาได้ดีมากๆ ตัวหนังก็ถือว่าสนุกเลยแหละ และผมว่าผมชอบมากกว่าภาคก่อนนะ ติดนิดหน่อยตรงท้ายอย่างที่หลายๆคนพูดนั่นแหละ

  14. เพิ่งดูมาเมื่อกี้เองครับ ส่วนตัวต้องบอกว่า ภาคนี้ความเข้มข้นน้อยกว่าสองภาคก่อน แต่ความสนุกยังครบถ้วนเหมือนเดิมครับ (สาวที่ไปดูด้วยกัน ไม่ได้ดูภาคก่อนๆมาเท่าไหร่ ก็บอกว่าสนุกเกินคาดนะครับ โล่งใจ ^^”)

    อาจเพราะธีมของเนื้อเรื่องที่มันดูไม่ค่อยอลังการมั้งครับ คือเริ่มต้นตื่นเต้นนะ อยากรู้ว่ามันจะมีอะไรแฝง มีอะไรอยู่เบื้องหลังหรือไม่ แต่พอมาช่วงท้ายๆ ทำไมมันเป็นแค่การแก้แค้นหว่า เหมือนจู่ๆก็ลืมไปว่าตูวางแผนมาหลายปี ถล่มระบบของโลกได้อย่างง่ายแค่คลิกเมาส์ ตูจะเปลี่ยนแปลงลก ฯลฯ ซิลวาก็ดูเป็นตัวร้ายที่ร้ายทั้งบู๊และบุ๋น เหมือนเอาตัวร้ายของ Die Hard 4 ที่โคตรเก่งงานระบบ มาผสมกับมือบู๊ชั้นเซียนอย่างแบทแมน จะว่าไปมันก็คล้ายๆ Bane นะครับ เก่งรอบด้าน แต่ทำไม…..มาตายน้ำตื้นตอนหลังกันไม่ค่อยสมศักดิ์ศรีเท่าไหร่เลยเนี่ย หะหะ

    อีกอย่างที่ชอบคือ มีการแทรกกิมมิคหลายๆอย่างกลับมาให้ชื่นใจเล่น อย่างรถ คน ของเล่นต่างๆ รวมถึงพวกบทสนทนาหลายตอนที่ไม่รู้เค้าจงใจอ้างถึงบอนด์ภาคเก่าๆรึเปล่านะครับ (อย่างเช่นตอนบอนด์ให้เอากระสุนไปตรวจ บอกว่า for her eyes only เป็นต้น) ดูแล้วก็อมยิ้มไปด้วยเลยครับ

    • ใช่ครับ หลายๆมุขของภาคนี้ เล่นดักแก่ไปหลายคน (ที่ฮาที่สุด ก็คือรถ ซึ่งใครที่ดูภาคเก่าๆ จะจำได้)

  15. เนื้อเรื่องของ SKYFALL ถือว่าค่อนมาทาง DRAMA ซะค่อนข้างมาก ซึ่งก็ส่งผลให้ฉากแอ๊คชันอาจจะลดหายลงไป ไม่เยอะแยะเท่าภาคก่อนๆ แต่ก็ถือว่าไม่ได้เป็นปัญหาแต่เพียงอย่างไร กลับเป็นจุดที่ผมชอบมากๆ เพราะว่าเนื้อเรื่องในภาคนี้จะเน้นไปที่ความตกต่ำขององค์กรสายลับ MI6 ความชราภาพของทั้งบอนด์ และ M เจ้านายของบอนด์ และเจาะประเด็นไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างตัว M เจ้านายของบอนด์ กับตัวบอนด์่ค่อนข้างมาก โดยะเฉพาะในเรื่องของความเสียสละของการเป็นสายลับและความรู้สึกส่วนตัว ด้วยความที่นักแสดงแต่ละคนเล่นได้สมบทบาท สมจริง ที่สำคัญการที่หนังทำให้ตัวละครแต่ละตัวใน 007 จับต้องได้ เข้าถึงได้ ดูเจ็บเป็น เศร้าเป็น ไม่ใช่เป็นซุปเปอร์แมนที่ฆ่าไม่ตาย ทำให้ 007 ดูมีความสมจริงจนคนดูเข้าถึงเนื้อเรื่องและอารมณ์ของหนังได้ไม่ยาก

    และสิ่งที่พิเศษมากๆกับ SKYFALL คือ 007 ในยุคของอาเฮียหน้าโหด เดเนียล เคร็ก นั้นค่อนข้างจะเครียด เนื้อหาค่อนข้างหนัก แต่กับ SKYFALL มีอารมณ์ขันสอดแทรกให้เรายิ้มได้ตลอดทั้งเรื่อง ไปคอยช่วงถ่วงเนื้อหา Drama จนไม่ทำให้ SKYFALL ไม่เครียดเกินไป

    แต่สิ่งที่หายไป และอาจจะทำให้คอหนังแอ๊คชันหลายๆคนอาจจะผิดหวังกับ SKYFALL ไม่ใช่ที่ว่าฉากแอ๊คชันที่ลดลงไป แต่เป็นเนื้อหาที่เข้มข้นน้อยลง ไม่มีลูกเล่นของหนังของหนังสายลับที่ควรจะเป็นเท่าไรนัก ทั้งการสืบสวน ตามล่าหาตัวร้าย เทคนิคสายลับ การหักหลัง การหักมุม หลายสิ่งหลายอย่างของคนที่คาดหวังจะไปดูหนัง Action – Thrller จะหายไปกับ Drama ที่มาทดแทน ส่วนการดำเนินเรื่องเนื้อเรื่องภาคนี้ดูไม่ค่อยลื่นเท่าไร บางช่วงยืด บางช่วงเร็ว และยิ่งในช่วงท้ายๆของหนัง ดูขัดๆ และทำให้อารมณ์ของหนังสะดุดไปพอสมควร

    สิ่งที่สำคัญที่สุดของ SKYFALL เป็นทั้งข้อดี และข้อเสีย คือหนังต้องใช้ความผูกพันระหว่างคนดูกับหนังตระกูล 007 ค่อนข้างมาก มีหลายสิ่งหลายอย่างในหนังที่ดูออกว่าเป็นการหวนรำลึกเจมส์ บอนด์ ภาคเก่าๆ ที่ทำให้คนที่เป็นแฟนเจมส์ บอนด์ จริงๆจะรัก และอมยิ้ม ไปกับการรำลึกต่างๆเหล่านี้ แต่กับนักดูหนังรุ่นใหม่ที่ไม่เคยดูภาคก่อนๆ อย่างผม จะรู้สึกเฉยๆ และรู้สึกงงด้วยซ้ำว่า คนข้างๆเค้ายิ้ม หรือหัวเราะอะไร โดยมุขที่ผมเก็ทสุดคือมุขตอนที่ Q ซึ่งเป็นผู้สร้างอาวุธไฮเทคมาให้เจมส์ บอนด์ แต่กลับสร้างของที่ดู ไม่ไฮเทคเอามากๆจนบอนด์ ประชดว่าไฮเทคจริงๆ ก็ทำให้ผมขำได้ (แต่ผมชอบในการเลือก Q ของภาคนี้ที่ดูเนิร์ดๆ กล้ากัดกับบอนด์ ในอนาคตผมมั่นใจว่ามันจะทำให้เรื่อง 007 มีสีสันขึ้นเยอะมาก) และที่สำคัญคนที่แฟน 007 จะอินกับ Drama กับตัวละครของ SKYFALL ได้มากกว่า

    เพราะฉะนั้น ผมจะไม่แปลกใจเลยว่าคนที่เป็นแฟนหนัง 007 จะบอกว่า SKYFALL สนุกมาก ในขณะที่คนที่ไม่เป็นแฟน 007 อาจจะบอกว่า เฉยๆ ครับ

    >>>>>>> C+ <<<<<<<<<

  16. หลังจากที่ผมไปดูมานะครับ
    Skyfall เป็นภาคที่ผมชอบมากที่สุด
    หนังมีทั้งเนื้อหาที่น่าติดตาม ความบู้ระหำของตัวละคร และการหักมุมที่ทุกคนไม่่คิดมาก่อนว่าจะเป็นแบบนี้
    ตอนแรกก่อนที่จะเข้าก็ยังสงสัยกับชื่อหนัง พลิกรหัสพิฆาตพยัคย์ร้าย ไอ้เราก็คิดว่า บอนด์ โดนตามล่าโดยการถอดรหัส 007 แต่ไม่เข้าไปดูก็รู้ตั้งแต่หนังเริ่มเลยว่าทำไมถึงตั้งชื่อหนังว่า พลิกรหัสพิฆาตพยัคย์ร้าย เพราะตามล่าฮาร์ดดิสที่หายไปนั่นเอง
    ความรู้สึกส่วนตัวนะครับ ความมันส์หนังใช้ได้ เนื้อเรื่องทำออกมาดี แต่ต้องปรับปรุงการตัดฉากบางฉาก
    ผมดูฉากก่อนที่จะเปลี่ยนมาตอนที่ บอนด์ ยื่นอยู่บนดาดฟ้าลอนดอนเป็นอะไรที่แสบตามาก เพราะ ตอนที่หนังอยู่ในฉาก Skyfall มันมึดค่อนข้างนาน เลยทำให้การตัดฉากมาทำให้คนดูรู้สึกแสบตา มาเรื่องการหักมุมขอหนังทำออกมาได้ประทับใจมากเพราะทำตอนจบว่า M ตายเป็นอะไรที่ไม่คิดมาก่อนจริง ๆ
    แต่ก็นะมันก็แล้วแต่ความคิดของแต่ละคน
    ส่วนตัวผมชอบภาค Skyfall สุด ๆ ครับ
    ถ้าเป็นคะแนน ผมให้ 8.5 คะแนน ละกัน
    เรื่อง 007 ผมว่า แดเนี่ยล เคร็ก แสดงได้ดีมากเลยครับโหดดีไม่กลัวตายดี

  17. สปอยยย สุดๆนะครับ

    “จุดประสงค์หลักของมันก็คือการปูเนื้อเรื่องใหม่เพื่อเข้าสู่สูตรดังเดิมของหนังอันคลาสสิค”… ผมเห็นด้วยกับคำกล่าวของคุณ Jediyuth เพราะเป็นประโยคจำกัดความของ ซีรีย์ 007 ภาคนี้ได้ตรงใจผมมากที่สุดครับ

    ผมรู้สึกว่าภาคนี้พยามลดบทบาทของตัวละครบางตัวที่ในที่นี้ผมจะเรียกมันว่าเป็นสูตรสำเร็จของหนัง ซีรี่ย์ 007 อย่างชัดเจน แต่พยามเน้นบทบาทของคนในองค์กร MI6 , ความสัมพันธ์ระหว่าง M กับ 007, ปูมหลังลึกๆ ของ 007 และสิ่งที่สำคัญของภาคนี้ที่พยามสื่อออกมาให้อย่างโจ่งแจ้งและเกือบทั้งเรื่องมากที่สุด ก็คือ เรื่องของการหวนกลับไปนึกถึง อะไรต่างๆ ที่คลาสสิคของหนังชุดเรื่องนี้ ครับ ผมจึงรู้สึกว่า 007 ภาคนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างจะเน้นให้ความสำคัญกับ 007 และ MI6 ค่อนข้างเยอะ

    ซึ่งที่ผมเห็นในภาพยนต์แล้วสนับสนุนในสิ่งที่ผมคิด มีดังนี้ครับ

    1. สาวบอนด์ (เบเรไนซ์) มีบทบาทเพียงแค่ 30% ของหนังเท่านั้น(ในความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะครับ :)) ส่วนผู้หญิงอีกคนที่ดูจะมีส่วนรวมในหนังมากที่สุดรองจาก M ก็คือ สาวบอนด์อีกคนนึ่ง(เซเวอรีน) ที่ สุดท้าย ก็ลงเอยด้วยการเป็น มันนีเพนนี นั้นเอง (M เป็นสาวบอนด์ ที่แท้จริงในภาคนี้ครับผมว่านะ :)) )

    2. ตัวร้าย (ฮาเวียร์) จุดประสงคฺของตัวร้ายในภาคนี้กลับไม่ใช่อะไรที่เป็นสูตรสำเร็จแบบดั้งเดิม เช่น พวกอยากจะครองโลก อยากจะก่อสงครามโลก ค้าอาวุธเพื่อสร้างความวุ่นวาย แต่เป็นในเรื่องของปมฝั่งใจที่เกิดจาก MI6 และตัวของ M เอง

    3. อุปกรณ์ไฮเทค …. Q (Ben) คนใหม่ในภาคนี้ ผมยังคิดว่ายังเป็นตัวละครที่ต้องมีรอพัฒนาการในภาคต่อไปครับ ซึ่งผมไม่ได้ดูจากอุปกรณ์ไฮเทคที่มีอันน้อยนิดในหนังนะครับ แต่ตอนท้ายของเรื่องที่กลับกลายว่าเป็นตัวร้ายในหนังสามารถที่จะควบคุมระบบคอมพิวเตอร์ใน MI6 ทั้งหมดจน Q ต้องกลับไปถามลูกน้องตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้น แต่แน่นอนเค้ากลับมาแก้ไขสถาณการณ์ได้ ( Q เป็นคนบอกเองว่า เค้าเป็นคนสร้าง โปรแกรมๆ นึ่งขึ้น ซึ่งหมายความว่านอกจากเค้าเป็นนักประดิษฐ์แล้วเค้ายังเชี่ยวชาญเรื่องคอมพิวเตอร์ด้วย นั้นไม่ได้หมายความว่าเค้าเก่งแค่ประดิษฐ์ของไฮเทคเท่านั้น) และอีกอย่างนึ่งก็คือจุดไคลแมกของหนังที่เป็นจุดนึ่งที่น่าสังเกตครับ นั้นก็คือ ไม่มีสถาปัตยกรรมโมเดิ้น หรูหราในตอนท้ายของเรื่องที่จะตัดสินระหว่างบอนด์กับตัวร้าย แต่กลับบ้านหลังเก่าของสุดคลาสสิคของ บอนด์ ไม่มีรถยนต์สุดหรู มีแต่รถ แอสตัน มาร์ติน สุดคลาสสิคเช่นกัน และไม่มีปืนล้ำยุคไฮเทคอะไรทั้งนั้น มีแต่ ปืนลูกซองล่าสัตว์ เก่าๆ ของพ่อ และใช้กับดักที่มาจากมันสมองที่ได้ผล

    ส่วนในเรื่องของ บอนด์ จากภาคนี้ที่ผมอยากจะพูดครับ คือว่า ผมมองว่า ซีรี่ย์ 007 ที่แดเนียล เครก แสดง จากสองภาคที่ผ่านมา หนังมีความฉลาดที่พยามให้เราให้เห็นในเรื่องของ พัฒนาการของตัวละคร ตั้งแต่ ภาค Casino Royal ที่ไม่สุขุม บุกบาม เชื่อใจคนอย่างง่ายๆ ให้เริ่มมีเคล้าของความเป็นสายลับมากขึ้น จนมาถึงภาคนี้ ที่เริ่มดูชัดเจนมากขึ้นจาก รอยยิ้ม อารมขัน และความเยือกเย็น ที่มีมากขึ้นของ บอนด์ แต่ผมกลับมองว่า แดเนียล แกยังสอบตกอยู่นิดนึ่งในเรื่องอารมขันนะครับ แหะๆ :)) ซึ่งเรื่องอื่นๆ ของในแง่ของ 007 ในตัว แดเนียล นั้นกินขาดจนกลบด้านแย่บางเรื่องครับ สำหรับผม

    โดยรวมแล้ว สำหรับ SkyFall โดยส่วนตัวแล้วผมชอบมากครับ ด้วยความที่อืนในเนื้อเรื่องและ จุดประสงค์ ของหนัง ทำให้ผมรู้สึกว่าการคาระสะ 50 ปี ของ 007 ที่ผ่านมาในภาคนี้ แฝงไปด้วยทิศทางที่น่าสนใจสำหรับภาคต่อๆไป ที่จะตามมาครับ

    ***** ความคิดเห็นทั้งหมดของผมเป็นความคิดเห็นส่วนตัวสุดๆนะครับ 😀 ถ้ามีความคิดเห็นที่แตกต่างจากนี้ ผมยินดีรับฟัง และ ร่วมกันแชร์ข้อมูลครับ

  18. ผมชอบบอนด์ในแบบ เพียร์ซ มากกว่าครับ
    สายลับที่ดูครบเครื่องดี สุขุม กะล่อน กลุ้มกลิ่ม ไม่บู๊ล้างผลาญเกินไป. ในส่วน Skyfall ภาคนี้ ดูเกินเลยความคลาสสิคไปมาก กลายเป็นหนังตลาด พระเอกเก่งเว่อร์ แบบ taken 2
    ดูๆ แล้วหลับไปเฉยๆ เลย
    ตัวร้ายอ่านง่ายไป ตอนจบ ตายโง่ๆ
    สรุป ผมให้. ไม่ผ่าน ครับ

Leave a Reply to f^i^lmb^u^gCancel reply