ถ้าคุณยังคาใจในหลายประเด็นจากหนัง Prometheus คุณอาจได้คำตอบจากบลูเรย์ฉบับนักสะสมที่จะวางจำหน่ายในเดือนตุลาคมนี้ครับ หนังได้ปล่อยตัวอย่างบลูเรย์ออกมา และรับปากว่า “คำถามจะได้รับคำตอบ”
บลูเรย์และดีวีดีของ Prometheus ที่จะวางจำหน่ายนั้นมีสองแบบครับ แบบพื้นฐานมีสองแผ่นและเหมือนหนังโรงทุกอย่าง กับแบบพิเศษสำหรับนักสะสมที่มีสี่แผ่น ซึ่งนอกจากมีหนังฉบับ 2D และ 3D ให้คุณชมแล้ว ยังมีส่วนเพิ่มเติมพิเศษความยาว 7 ชั่วโมง ซึ่งมีทั้งส่วนที่เป็นความเห็นของผู้กำกับริดลี่ย์ สก็อต กับผู้เขียนบทเดมอน ลินเดลออฟ ส่วนที่เป็นเบื้องหลังงานสร้างของหนัง ฉากที่ถูกตัดออกไป 15 ฉาก รวมถึงฉากเปิดเรื่องกับฉากจบอีกแบบด้วย
ส่วนส่วนพิเศษของหนังที่รับปากไว้ว่าจะช่วยให้คำตอบนั้น สก็อตแย้มเป็นนัยว่า “เราจะได้รู้ว่าเผ่าพันธุ์นี้เป็นใคร” และยังมีส่วนอธิบายการเชื่อมโยงระหว่าง Prometheus กับ Alien ของสก็อต วิวัฒนาการของตัวอสุรกายที่เราเห็นตอนจบหนัง
ส่วนภาคต่อของ Prometheus ที่มีแผนจะออกฉายในปี 2014 และ 2015 นั้น ริดลี่ย์ สก็อต ให้สัมภาษณ์ใน THR ว่า อาจใช้ชื่อว่า Paradise ซึ่งเดิมทีแล้วเป็นชื่อเดิมของหนัง Prometheus ครับ
“ตั้งแต่แรก ผมทำงานโดยตั้งเป้าหมายว่าจะให้มีภาคต่อ ผมยังไม่อยากพบให้พบพระเจ้าในภาคแรก ผมยังเปิดปมเอาไว้ให้ดร.อลิซาเบธ ชอว์ (นูมิ ราเพซ) พูดว่า ฉันไม่อยากลับไปยังที่ที่ฉันมา ฉันอยากไปยังที่ที่พวกเขามา”
สก็อตยังเสริมด้วยว่าแม้ว่าชื่อของหนังจะแปลว่าแดนสวรรค์ แต่มันอาจไม่ใช่สวรรค์จริงๆ ก็ได้ “เพราะพวกผู้สร้างเป็นเผ่าพันธุ์ที่ก้าวร้าวมาก ผมใส่ไว้ตั้งแต่แรกว่าเผ่าพันธุ์ที่เป็นดั่งเทพเจ้าที่คุณจะได้เห็นไม่ได้นิสัยดี พวกเขาไม่ได้เป็นพระเจ้าเลย”
ส่วนสิ่งที่เราจะได้เห็นในภาคต่อนั้น สก็อตเล่าว่า “ผมอยากสานต่อว่าดร.ชอว์ได้ไปไหนต่อ และเธอทำยังไงเมื่อไปถึงที่นั่น เพราะถ้ามันเป็นแดนสวรรค์ สวรรค์อาจไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดว่าเป็น สวรรค์อาจเป็นความหมายโดยนัยถึงสิ่งที่ชั่วร้ายและน่ากลัวก็ได้”
คลิกดูตัวอย่างด้านในครับ
ที่มา: Collider
BD ที่ใกล้คลอดแล้วเหมาะสำหรับนักสะสมหรือคนชอบหนังเรื่องนี้ครับ เพราะมี features ค่อนข้างเยอะ…แต่สำหรับผมขอผ่านไปก่อน…เนื่องจากไม่ต้องการเสียเงินหลักพันไปหาคำตอบที่ไม่ต้องการคำตอบ
เห็นด้วยครับ
+1 ครับ
อีกอย่าง เราต้องการคำตอบในการนำเสนอเรื่องราวในหนัง
ไม่ใช่เอามาเสริม Features แบบนี้
ดูจะเอาเปรียบผู้บริโภคไปหน่อย
ใครไม่รอก็ช่างปะไร แต่ผมรอครับ ถึงรู้อยู่ว่าดูแล้วก็อาจไม่ได้คำตอบอยู่ดี แต่ก็เต็มใจโหลด เอ้ย ซื้อมาดู
หนังเรื่องนี้เหมือนกระเป๋าแบรนด์เนมอ่ะ ถึงจะไม่ค่อยมีคุณค่าประโยชน์อะไรมากมาย แต่ก็ตัดเย็บด้วยวัสดุชั้นเลิศ งานออกแบบปราณีตศิลป์ คุณภาพ และความตั้งใจในการผลิต พอแปะยี่ห้อดังเข้าไปด้วยยิ่งทำให้มูลค่าเพิ่มสูงเกินจริงไปหน่อย แต่ก็เต็มใจซื้อหาเก็บไว้เพราะมันเป็นยี่ห้อ ริดรี่ สก๊อต อิอิ
ส่วนตัวเก็บบลูเรย์เรื่องนี้อยู๋แล้วแน่ๆ เพราะภาพ 3D เรื่องนี้ีดีมากๆ
เลยคิดซะว่า ได้ feature เป็นของแถม มากกว่า
อยากดูภาคต่อ
สำหรับผม ผมว่าจะซื้อเก็บไว้ครอบครองครับ
เรื่องแบบนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความคุ้มค่าหรือไม่คุ้มค่า มันเป็นความสุขที่ได้เป็นเจ้าของหนังเราชอบที่ได้ดูกันในโรงหนัง ผมเชื่อว่าถ้าเป็นแฟนหนังเรื่องไหนก็ตามก็อยากสะสมอะไรที่บ่งบอกความเป็นตัวของตัวคุณ แม้ว่าฟีเจอร์ของมันจะเพิ่มเข้ามาจากในโรงแค่นิดหน่อย อาจเป็นฉากที่ไม่มีในโรงแค่ 30 วิ แต่นั่นแหละครับ ความพิเศษของมันคือความแตกต่างตรงนี้เอง ที่เค้าเรียกว่า “สำหรับนักสะสม”
เหมือนเมื่อครั้งที่หนังเดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ฉายครบทั้ง 3 ภาค ก็มี Extended Edition ออกมา เพิ่มฉากที่ไม่มีในโรงมาหลายฉาก และแน่นอนว่าเมื่อได้ดูแล้วจะรู้สึกซาบซึ้งยิ่งกว่าตอนที่ดูในโรงเสียอีก ถ้าคุณเป็นคนเดียวที่มีดีวีดีหรือบลูเรย์ Collector’s Edition แล้วคุณไปเล่าฉากที่ไม่เคยเห็นให้เพื่อนที่เคยดูหนังเรื่องเดียวกันฟัง เค้าก็จะรู้สึกอยากดูบ้าง และตามด้วยขอยืมแผ่นหนังฉบับนักสะสมของคุณไปดูที่บ้าน
ของบางอย่างมันมีคุณค่าทางจิตใจ เอาค่าเงินมาวัดไม่ได้หรอกครับ
ไซไฟปรัชญา
นั่งดู Prometheus Deleted Scenes+Alternate Ending ล่ะครับ…บอกตรงๆว่าถ้าตัดต่ออีกนิดดดด…!! เสริมนี้นั้น…เสริมนี้หน่อย…หนังมันจะสนุกมากขึ้นไปอีกเยอะเลยล่ะ มาเล่นตัดต่อให้มันปริศนา…มันก็ไม่ได้มีอะไรมากมายอย่างที่คิดหรอก เพราะยังไงซะมันก็ยังเป็นหนังที่เกี่ยวต้นกำเนิดของ Alien อยู่ดี…รอแผ่นออกจะซื้อ BR แน่นอนครับ…!!!
สำหรับผม เนื้อหามันวกวน พยายามแฝงนัยยะ ให้คนดูขบคิด โดยใช้หลักข้อสันนิษฐานต่างๆนาๆ แต่โดยรวมแล้ว ผมว่าบรรยากาศ และ โทนมืดหม่นของหนังมากกว่า ที่ทำให้ดูไม่น่าไว้ใจ และเกิดความหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งถือว่าเป็นจุดขายหลักของหนังเรื่องนี้ ผมว่า ผกก.ริดลีย์ สก็อต เอง ก็ยังุนงงหาทางออกให้กับตัวเองไม่เจอเหมือนกัน สุดท้ายก็เลยรวบรัดให้ A คลอดก่อนกำหนดไปเลย ซึ่งถือว่าไม่สมเหตุผลเอามากๆ ยิ่งโดยเฉพาะการโรมรันพันตูกันตอนท้ายเรื่อง เหมือนดูหนังอุลตร้าแมนมากกว่า>>>สำหรับผม Sigourney Weaver เธอคือสัญลักษณ์คู่ปรับตัวฉกาจของ Aliens ทั้ง 2 ภาค ไปแล้วครับ (ยกเว้นภาค 3 และ 4 ที่ไม่ต่างไปจาก Prometheus ) เพียงแต่ไม่เข้าใจว่า ผกก.สก็อต จะขุดหลุมขึ้นมาหาดีเอ็นเอ อีกไปทำไม ในเมือของเดิม มันก็ดีอยู่แล้ว !
ตกลงเขาให้ Deleted scenes เป็นคำตอบข้อสงสัยทั้งหมดเหรอครับ ผมดูแล้วก็ไม่เห็นได้คำตอบอะไรเท่าไหร่เลย แถมรู้สึกว่าฉากที่ตัดทิ้งก็คือฉากที่ตัดทิ้ง แต่ละอันดูไปแล้วก็ไม่ได้น่าเสียดายอะไรเลย หลาย ๆ อันกลับรู้สึกว่า “ดีแล้วที่ตัดมันทิ้ง” เสียด้วยซ้ำ (ชอบฉากที่ Wickers คุยกับ Weyland ในห้องส่วนตัวที่สุดแล้วอ่ะ เห็นชัด ๆ เลยว่าตัดบทพูดทิ้งแล้วฉากนี้ดูทรงพลังขึ้นเป็นกองเลย)