The Master ของผู้กำกับพอล โธมัส แอนเดอร์สัน ปล่อยตัวอย่างหนังออกมา 2-3 แบับแล้วครับ แต่ผมไม่ว่างมาแนะนำเสียที และล่าสุดที่หนังได้ปล่อยตัวอย่างฉบับสุดท้ายออกมาเมื่อไม่กี่วันมานี้ ผมจึงถือโอกาสพูดถึงเสียเลยก่อนที่จะล่าช้าไปกว่านี้
แอนเดอร์สันผู้ที่ซึ่งมีผลงานล่าสุดอย่าง There Will Be Blood ไปเมื่อปี 2007 ไป กลับมาด้วย The Master ในปีนี้ที่จากข่าวบอกว่าเป็นหนังที่ใช้ทุนสร้างสูงที่สุดที่แอนเดอร์สันเคยใช้มา นั่นก็คือ 35 ล้านเหรียญสหรัฐ (แต่ถือว่าจิ๊บจ๊อยถ้าเทียบกับหนังจากสตูดิโอใหญ่โดยทั่วไป) ซึ่งเกี่ยวข้องกับผู้นำลัทธิความเชื่อที่ถือกำเนิดขึ้นในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมีสองตัวละครหลักก็คือแลนแคสเตอร์ ด็อดด์ ของฟิลิป ซีมัวร์ ฮอฟแมน ชายหนุ่มผู้มีเสน่ห์และพลังในการโน้มน้าว ที่ได้เป็นผู้ก่อตั้งลัทธิ และอีกคนก็คือเฟร็ดดี้ เควลล์ ตัวละครของฮัวควิน ฟีนิกซ์ ทหารผ่านศึกที่ได้กลายมาเป็นมือขวาของด็อดด์ แต่ภายหลังได้แคลงใจในวิธีการของลัทธิ
ตัวอย่างหนังเน้นไปที่เรื่องราวของสองตัวละครนี้ และแสดงศักดาด้านการแสดงของทั้งฮอฟแมนกับฟีนิกซ์ในแบบที่เรียกว่าน่าจะเข้าตากรรมการออสการ์อย่างจัง ด็อดด์ดูสุขุม ฉลาด เป็นนักวิชาการ แต่เปี่ยมด้วยพลัง และเชื่อว่าตัวเองได้พบเคล็ดลับความสุขของชีวิต ส่วนเควลล์นั้นดูเดายาก คลั่ง เถื่อน และมองหาอะไรสักอย่างที่จะมาชี้นำชีวิตของเขา และทั้งคู่เข้าคู่กันได้อย่างลงตัว โดยมีตัวละครของเอมี่ อดัมส์ เหมือนมาเป็นตัวสอดแทรก
มีการเชื่อกันว่าเรื่องราวนี้อิงมาจากชีวิตของผู้นำ Scientology ลัทธิที่ทอม ครูส และนักแสดงฮอลลีวู้ดหลายคนนับถืออยู่ แต่ฮอฟแมนบอกในบทสัมภาษณ์ของ EW ว่าไม่ใช่ “มันไม่ใช่เรื่องราวของแอล รอน ฮับบาร์ด…ไซเอนท์โทโลจีเป็นหนึ่งในการเคลื่อนไหวใหญ่ของยุคนั้น แต่ยุคนั้นก็มีการเคลื่อนไหวมากมาย ไม่มีอะไรเลยที่ผมประพฤติหรือพูดได้สะท้อนตัวของฮับบาร์ดออกมา ผมคิดว่านี่เป็นเรื่องราวของคนที่มีออร่าเปล่งประกายหรือมีเสน่ห์มากล้นแบบที่ออร์สัน เวลล์ เป็น”
The Master กำลังฉายในเทศกาลหนังต่างๆ ของโลกอยู่ขณะนี้เพื่อเรียกคำวิจารณ์ด้านดีให้มากยิ่งขึ้นให้ดึงดูดออสการ์อยู่ครับ คลิกชมตัวอย่างด้านใน
แม้ดูจะงบสร้างไม่มากเท่าไหร่ แต่ดูจากเนื้อเรื่องและหน้าหนัง น่าจะ “ขายยาก” พอสมควรเลยทีเดียว
ถ้าไม่ได้รับการพูดถึงปากต่อปากว่าเยี่ยมจริง อย่างหนังหวังรางวัลปลายปีทั้งหลาย
อาจจะเจ็บตัว อย่างดีคือเท่าทุน ได้เลยนะเนี่ย
จะเข้าไทยรึเปล่าหนอ เป็นแฟนคลับ PTA ตามข่าวตั้งแต่ประกาศสร้าง ดูหนังตัวอย่างเป็นร้อยๆรอบ
ยิ่งเห็นกระแสรอบฉายทดลอง(อย่างลับๆ)ออกมาดีมากๆๆๆ ว่ากันว่านี้คือว่าที่หนังที่ดีที่สุดของปี
บางคนให้เป็นหนัง best of the decade ต่อจาก There Will Be Blood กันเลยทีเดียว