ภาคต่อ Snow White and the Huntsman จะเป็นเรื่องราวของนายพราน และไม่มีคริสเทน สต๊วร์ต

หลังจากมีข่าวอื้อฉาวเรื่องนอกใจแฟนหนุ่ม และแอบไปยุ่งกับรูเพิร์ต แซนเดอร์ส ผู้กำกับวัย 41 ที่มีลูกเมียอยู่แล้ว และภรรยาของแซนเดอร์สก็ห้ามไม่ให้เขาร่วมงานกับสต๊วร์ตอีกถ้ายังอยากรักษาครอบครัวไว้ ทำให้มีการคาดการณ์กันว่าหนังภาคต่อ Snow White and the Huntsman อาจไม่ได้เห็นแซนเดอร์สมากำกับแล้ว ค่ายหนังยูนิเวอร์แซลคงเลือกเก็บนักแสดงนำหญิงที่มีการตกลงเซ็นสัญญาเผื่อเอาไว้มากกว่าผู้กำกับที่เซ็นสัญญาเพียงภาคเดียว แต่กลายเป็นว่ากลับกัน และดูเหมือนยูนิเวอร์แซลหาทางออกให้แก่หนังได้อย่างฉลาดด้วยครับ

ตามรายงานของเดอะ ฮอลลีวู้ด รีพอร์เตอร์ บอกว่าภาคต่อของ Snow White and the Huntsman ได้เปลี่ยนใหม่กลายเป็นภาคแยกที่จะเน้นตัวละครนายพรานของคริส เฮมส์เวิร์ธ แทน จะไม่มีสโนว์ไวท์ในภาคแยกนี้ เพียงแต่อาจมีการกล่าวถึงครับ แปลว่าแซนเดอร์สอาจจะยังคงได้ร่วมงานกับโครงการหนังเรื่องนี้ต่อ(บางแหล่งข่าวบอกว่ายังไม่แน่ชัด บางแหล่งบอกว่าจะมา แต่ไม่มีใครบอกว่าจะไม่มาเลย) และยูนิเวอร์แซลก็ไม่ต้องจ่ายเงินแบบกินเปล่าให้สต๊วร์ตด้วยหากเป็นการทำภาคต่อแบบคัดเลือกนักแสดงหญิงคนใหม่มาแทน และถ้าเรื่องอื้อฉาวเงียบไปแล้ว สต๊วร์ตก็ยังกลับมารับบทสโนว์ไวท์ได้อีกในโครงการใหม่ภายหน้าที่จะมีตัวละครของเธอโผล่ออกมา หรือในหนังภาคแยกสโนว์ไวท์ของเธอเองแบบที่ไม่มีแซนเดอร์สมากำกับครับ แต่ในตอนนี้ สโนว์ไวท์จะพักการออกสู่จอไปก่อน และให้นายพรานมาผจญภัยแทนครับ

การเปลี่ยนแผนงานสร้างครั้งนี้ยังมีผลต่อบทหนังเดิมของเดวิด โคเอ็ปป์ด้วย ตามที่ LA Times รายงานว่าสัญญาของโคเอปป์ได้หลุดออกไป เพราะโครงการหนังได้กลายเป็นอย่างอื่นที่แตกต่างจากบทหนังภาคต่อดั้งเดิมของเขาไปแล้ว โฆษกของยูนิเวอร์แซลให้ความเห็นว่าที่ต้องทำเช่นนี้เพราะ “สตูดิโอกำลังหาทางเลือกใหม่ๆ เพื่อให้ภาคต่อได้ดำเนินต่อไป

เดิมทีนั้น ยูนิเวอร์แซลอยากสร้าง Snow White and the Huntsman เป็นหนังไตรภาค ก่อนที่ข่าวอื้อฉาวจะทำให้มีการเปลี่ยนแผนครับ แต่สำหรับตอนนี้ พวกเขามีแผนจะเปิดกล้องภาคแยกเรื่องนี้ในเดือนกรกฎาคม 2013 หลังจากเฮมส์เวิร์ธถ่ายทำ Thor: The Dark World เสร็จสิ้น

สำหรับสต๊วร์ต เธอเพิ่งถอนตัวออกไปจากหนังเรื่อง Cali ที่เธอต้องสวมบทเป็นสาวเซ็กซี่ยั่วยวน ที่ทำธุรกิจขายหนังสนัฟฟิล์มกับแฟนหนุ่ม ไม่มีการบอกสาเหตุแน่ชัดว่าทำไมถึงถอนตัว แต่ก็มีการเดากันว่ามันอาจตอกย้ำภาพลักษณ์จากข่าวอื้อฉาวของเธอมากขึ้น แต่เธอยังเก็บโครงการหนัง Lie Down in Darkness หนังดราม่าย้อนยุคว่าด้วยปัญหาครอบครัวเอาไว้

7 comments

Leave a Reply