เฉินหลงจะเลิกเล่นหนังบู๊ หลังจาก Chinese Zodiac ที่จะออกฉายปลายปีนี้

หลังจากโด่งดังจากหนังบู๊แนวกังฟู “ไอ้หนุ่มพันมือ” (Snake in the Eagle’s Shadow) ในปี 1978 และก็เริ่มหนังบู๊เรื่อยมา จนผลงานล่าสุดที่ได้มาลองในแนวดราม่าบ้างจาก The Karate Kid และ 1911 เมื่อไม่กี่ปีมานี้ เฉินหลงซึ่งปัจจุบันนี้อายุ 58 ปีแล้ว ได้ประกาศจะเลิกเล่นหนังบู๊แล้วครับ หลังจาก Chinese Zodiac ผลงานเรื่องล่าสุดของเขาที่จะเข้าฉายปลายปีนี้ในฮ่องกง

ในรายงานของเทเลกราฟบอกว่า เฉินหลงได้บอกนักข่าวในเทศกาลหนังเมืองคานส์ว่า Chinese Zodiac ซึ่งเป็นงานกำกับ นำแสดง และเป็นหนังฮ่องกงเรื่องล่าสุดของเขาจะเป็นหนังที่คนดูจะได้เห็นเขารับบทบู๊ เฉินหลงให้เหตุผลว่า “จะบอกให้ว่า ผมไม่ได้หนุ่มแน่นอีกแล้ว ผมเหนื่อยมากๆ และโลกก็รุนแรงอย่างมากในตอนนี้ มันกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ผมรักหนังบู๊ แต่ผมไม่ชอบความรุนแรง

เฉินหลงนั้นพูดถึงการอำลาหนังบู๊มา 2-3 ปีแล้ว เขาบอกว่าอยากไปเล่นหนังดราม่า อยากเป็นแบบโรเบิร์ต เดอ นีโร ครับ และเขาเสริมอีกว่าครั้งนี้ เขาพูดจริงแน่นอน

อย่างหนึ่งที่ผมเห็นด้วยกับเฉินหลงก็คือ หนังบู๊ทุกวันนี้รุนแรงขึ้นทุกวัน และก็แข่งกันรุนแรงด้วย หนังบางเรื่องไม่มีความจำเป็นจะต้องรุนแรงก็พยายามจะใส่ความรุนแรงเข้าไป ผมไม่คิดว่าความรุนแรงหรือฉากโหดๆ จะช่วยให้หนังน่าดูขึ้นเสมอไป ความรุนแรงมีในหนังได้ แต่ก็ควรมีในหนังที่ควรมี และหนังบางเรื่องก็พิสูจน์ว่าทำออกมาได้สนุกได้โดยไม่ต้องมีฉากโหดๆเลยครับ เช่น Mission: Impossible – Ghost Protocol เป็นต้น มันอยู่ที่ว่าคุณเล่าเรื่องได้สนุกแค่ไหนมากกว่า

สำหรับ Chinese Zodiac ที่เป็นผลงานล่าสุดนี้ ถ่ายทำในหลายประเทศ เป็นหนังแนวผจญภัย ล่าสมบัติ ปนเรื่องราวความรัก ซึ่งเป็นภาค 3 ของหนังชุด “ใหญ่สั่งมาเกิด” หรือ “Armour of God” ครับ ซึ่งมีนักแสดงนานาชาติมาร่วมสมทบคับคั่ง ได้แก่ควอนซังวู (Volcano High), โอลิเวอร์ แพลท (X-Men: First Class) และเคนนี จี หนังได้ปล่อยคลิปเบื้องหลังงานสร้างที่ตัดต่อค้ายตัวอย่างหนังมาได้สักระยะแล้วครับ คลิกชมได้ด้านใน

24 comments

  1. เศร้าจังง เข้าใจนะว่าแก่
    ตอนเด็กๆแม่ผมพาไปดูหนังเขาทุกๆปีฮะ
    เวลา ตรุษจีน หรือปีใหม่ หนังเขาจะเข้าตลอด

    ช่วงนั้นเป็น First strike อะคร๊าบบ
    พูดถึงกลิ่นโรงหนังยัง จวนๆอยู่ที่ปลายจมูกเลย

  2. ไม่แน่ใจว่า หนังเรื่อง Armour of God เนี่ย ตอนเข้าโรง ใช้ชื่อไทยว่า “ใหญ่สั่งมาเกิด” รึเปล่านะครับ ความจริงก็นานมากแฃ้วนะ ภาค 1 ภาค 2 เสียดายเฮียแกนะครับ พระเอกหนังบู้เอเชียในตำนานคนนึง แต่ก่อนดูหนังเฮียแกในโรง พอหนังจบ ต้องรอดูฉากเบื้องหลัง ก็จะเป็นหนังที่มีคนดูรอดูฉากไตเติ้ลตอนจบจนจบจริงๆ ค่อยพากันเดินออกจากโรง แต่ระยะหลังๆ มาเนี่ย ไม่รู้ทำไมเหมือนกันว่าดูหนังเฮียแก ไม่อินเหมือนแต่ก่อน…

    • ใช่ครับ หนังชุดเรื่อง Armour of God ชื่อฉายโรงภาค 1 นนทนันท์ ตั้งว่า ใหญ่สั่งมาเกิด มีอลันทัม กวนจือหลิน ร่วมแสดง ส่วนภาค 2 สหมงคลฟิล์ม ใช้ชื่อ ใหญ่สั่งมาเกิด 2 ตอนอินทรีทะเลทราย ภาคนี้มี เจิ้งอวี้หลิง ร่วมแสดง ส่วน ฟัดข้ามโลก เป็นชื่อที่ผู้ซื้อลิขสิทะิ์มาทำเป็น วีซีดี ดีวีดี ในระยะหลัง นั่นคือ ยูไนเต็ด โฮม ตั้งชื่อครับ ซึ่งผิดจากตอนฉายโรง ชื่อที่ถูกต้อง ควรเป็น ใหญ่สั่งมาเกิด ครับผม…………………………..

  3. มาแนวเดียวกับ เจ็ทลี เลย ว่่าจะลิกเล่นหนัง พอเอาเข้าจริง จะเป็นโหลแล้วครับ อมพระมาพูดก้อไม่เชื่อ ขี้จุ๊เบ่เบ๊๊

    • ตอนที่เจ็ทลีบอกจะเลิกเล่น เค้าบอกว่าจะเลิกเล่นหนังจีนกำลังภายใน จะเล่น Fearless เป็นเรื่องสุดท้าย แต่ผมไม่รู้ว่า The Flying Sword of Dragon Gate มีการใช้กำลังภายในมั้ย (ฮา)

  4. อย่างเจ๊ท ลี นี่ยังไม่แก่มากไงครับ

    แต่เฉินหลงนี่แก่ของจริงเลย การที่แกจะเลิกเล่นผมว่าแฟนหนังส่วนใหญ่เข้าใจ

    คิวบู๊แกก็ช้าลงเยอะ เสี่ยงมากก็ไม่ได้

    แต่ไอเดียฉากต่อสู้ยังไงต้องยกให้แกจริงๆ ดูสนุกทุกฉาก

  5. อย่างเลียมเนี่ย คิวบู๊แกไม่ต้องเตะ ตีลังกา ม้วนตัวอะไรมาก แบบนี้ดาราอาวุโสเล่นได้อยู่แล้วครับ

    แต่เฉินหลงเป็นอีกแบบเลย ถ้าให้เล่นบู๊แบบเบาๆเก๋าๆเหมือนคาราเต้คิด แกคงเล่นได้สบายเช่นกัน

    เพียงแต่แฟนๆที่ดู คงคาดหวังอะไรที่มันผาดโผนเหมือนก่อน ซึ่งวัยแก่มันตอบสนองไม่ไหวแล้ว

  6. ต้องทําใจครับว่าในระยะหลังๆเฉินหลงเราอาจบู๊ไม่เก่งเหมือนเมื่อก่อนเเล้ว อีกสาเหตุหนึ่งผมว่าแกคงรับประสบการณ์หนังฮอลลีวู้ด มามากพอแล้ว แกผ่านจุดสุดยอดมาแล้ว เกินกว่าที่ใครจะใฝ่ฝันถึง แกก็คงอยากเกษียรตัวเอง…จุดเริ่มต้นก็แบบนี้ทุกคนอ่ะครับ

  7. .
    .
    ที่บอกว่าเล่นบู๊ อาจจะเป็นเป็นว่าไม่ได้เล่นแบบใส่เต็มที่ แสดงเองแบบนั้นมั้งครับ

    ถ้าบทดีๆ ดราม่า บู๊ มีแอ็คชั่นนิดๆ คาดว่าเฮียแกก็คงโอเค ผมรักการแสดงของเฮียแกมากๆ
    .
    .

  8. […] ดูเหมือนว่ารายงานก่อนหน้านี้ที่ว่าเฉินหลงจะลาวงการหนังบู๊นั้นเป็นการตีความคำพูดของเฉินหลงที่ผิดไปจากเจตนาครับ ตามที่เฉินหลงบอกผ่านทาง Facebook ทางการ เฉินหลงบอกว่าเขาตกใจมากที่ข่าวออกไปแบบนั้น และยากยืนยันแก่แฟนๆ ให้รู้ว่าเขายังไม่เลิกเล่นหนังบู๊ แต่สิ่งที่เขาต้องการจะพูดจริงๆ ก็คือ “ต้องการที่จะเล่นฉากผาดโผนเสี่ยงตายในหนังของผมให้น้อยลง เพราะหลังจากเล่นฉากเสี่ยงตายมานานหลายปี และกระดูกหักมากมาย ผมจำเป็นต้องดูแลร่างกายมากขึ้นเพื่อที่จะทำงานให้ได้ต่อไป ผมจะยังคงเล่นหนังบู๊นานาชาติอยู่” และทิ้งท้ายอย่างน่ารักว่า “และจะพัฒนาการใช้ภาษาอังกฤษของผม“ […]

  9. […] ดูเหมือนว่ารายงานก่อนหน้านี้ที่ว่าเฉินหลงจะลาวงการหนังบู๊นั้นเป็นการตีความคำพูดของเฉินหลงที่ผิดไปจากเจตนาครับ ตามที่เฉินหลงบอกผ่านทาง Facebook ทางการ เฉินหลงบอกว่าเขาตกใจมากที่ข่าวออกไปแบบนั้น และยากยืนยันแก่แฟนๆ ให้รู้ว่าเขายังไม่เลิกเล่นหนังบู๊ แต่สิ่งที่เขาต้องการจะพูดจริงๆ ก็คือ “ต้องการที่จะเล่นฉากผาดโผนเสี่ยงตายในหนังของผมให้น้อยลง เพราะหลังจากเล่นฉากเสี่ยงตายมานานหลายปี และกระดูกหักมากมาย ผมจำเป็นต้องดูแลร่างกายมากขึ้นเพื่อที่จะทำงานให้ได้ต่อไป ผมจะยังคงเล่นหนังบู๊นานาชาติอยู่” และทิ้งท้ายอย่างน่ารักว่า “และจะพัฒนาการใช้ภาษาอังกฤษของผม“ […]

Leave a Reply to lastzeyaCancel reply