The Avengers: ความเห็นหลังชม

The Avengers ได้เปิดฉายไปแล้วกว่า 38 ประเทศล่วงหน้าก่อนในสหรัฐในสัปดาห์ที่ผ่านมา และทำรายได้ทั่วโลกไปแล้วราว 174.8 ล้านเหรียญสหรัฐครับ เป็นการเปิดตัวที่ทำลายสถิติในหลายประเทศเลย โดยเฉพาะในหมู่หนังของเครือมาร์เวลด้วยกันเอง และ boxofficemojo คาดการณ์ว่ารายได้เฉพาะนอกสหรัฐนั้นอาจถึง 600 ล้านเหรียญทีเดียวครับ หลังจากหนังฉายเสร็จสิ้นหมดแล้ว ในแง่คำวิจารณ์เอง หนังก็ได้ไปเยอะโขเลยครับ ตามการประเมินของ Rotten Tomatoes ในตอนนี้ระบุว่าจาก 76 บทวิจารณ์ มีนักวิจารณ์ชอบอยู่ถึง 96% คิดเป็นคะแนนได้เฉลี่ย 8.1/10 ครับ

ในบ้านเรานั้น หนังเพิ่งเปิดฉายรอบปฐมทัศน์ไปเมื่อคืนนี้ รวมถึงรอบมิดไนท์ที่โรงหนังไอแม็กซ์ด้วย ความเห็นส่วนใหญ่ก็ออกมาเป็นแง่บวกทั้งหมดครับ และผมเองซึ่งได้ชมแล้วก็มีความเห็นคล้ายกัน หนังจัดหนักในฉากแอ็คชั่น และทำออกมาได้น่าตื่นเต้น ช่วงหนึ่งชั่วโมงสุดท้ายของหนังนั้นมีฉากที่เข้มข้นทั้งในแง่การเผชิญหน้ากับฉากบู๊ในนิวยอร์กที่วินาศสันตะโร ทำให้หนัง The Avengers สนุกกว่าหนังซูเปอร์ฮีโร่ของมาร์เวลทุกเรื่องที่ผ่านมา(เฉพาะหนังที่มาร์เวลสร้างเองครับ แต่ถ้าเป็นหนังจากตัวละครของมาร์เวล ผมยังชอบ X2 และ X-Men: First Class มากกว่า) 30 นาทีสุดท้ายนี้ประหนึ่งฉากสงครามเลยครับ เพียงแต่สู้กันด้วยพลังพิเศษของซูเปอร์ฮีโร่ เป็นอะไรที่ทั้งน่าตื่นตาและตื่นเต้น ขณะเดียกวันก็ใส่มุขตลกเข้ามาเป็นระยะๆ

ความยอดเยี่ยมของหนังอยางหนึ่งก็คือการแจกบทให้ทุกคนได้เด่นอย่างทัดเทียมกัน แต่ตัวละครที่เด่นกว่าตัวอื่นมักเป็นตัวที่มีความร้ายอยู่ในตัวอยู่แล้ว เช่นโทนี่ สตาร์ก (โรเบิร์ต ดาวนี่ย์ จูเนียร์) ที่ซ่าได้ใจมาก หรือโลกิ(ทอม ฮิดเดลสตัน)ที่โรคจิตประหนึ่งฮันนิบาล เล็คเตอร์ฉบับคอมมิค และฮัลค์ (มาร์ค รัฟฟาโล) ที่ความเกรียนและเดาใจยากกลายให้ตัวละครนี้กลายเป็นขวัญใจของใครมากมาย โดยเฉพาะในฉากสงครามสุดท้ายนั้นที่ฮัลค์ขโมยซีนไปหลายฉากเลยทีเดียว

เป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่เน้นความบันเทิงที่สนุกมากครับ ต้องยกให้จอส วีดอน ในการเล่าเรื่องหนัง The Avengers นี้ ได้ลื่นไหลและมันส์มากๆ ผมให้คะแนนหนังที่ 9/10 ครับ และด้านในนี้เป็นความเห็นบางส่วนจากทวิตเตอร์ที่ไปชมมาเมื่อคืนครับ เพื่อนๆ ที่ชมแล้วชอบหนังแค่ไหนยังไง ให้คะแนนเท่าไหร่ มาออกความเห็นกันเลย

63 comments

  1. ใช่มั้ยครับๆ 😀 ผมเห็นด้วยกับทุกความเห็นเลย ๕๕๕๕+ อดใจรอไปดูรอบสองไม่ไหวแล้ว …แต่ต้องปั่นงานให้เสร็จก่อน orz ….The Avengers สุดยอดจริง!!! (ผมอาาจจะชมมากไปหน่อย พอดีผมชอบมาร์เวลเป็นการส่วนตัวครับ แหะๆ)

  2. ตอนแรกกะว่าจะไปดูพรุ่งนี้กับเพื่อนทีเดียว แต่พอมาเจอความเห็นพี่ยุทธ อยากไปวันนี้เลยอะ! เลิกงานแล้วไปเลยยยยย เดี๋ยวพรุ่งนี้จัดกับเพื่อนอีกรอบ เอาไงดี TT ToT

  3. เพิ่งไปดูมาเหมือนกันครับ สนุกมากๆสมกับที่หลายๆคน(รวมทั้งผมด้วย) รอคอยทุกตัวละครที่เด่นในหนังของตัวมาอยู่เรื่องเดียวกัน ผู้กำกับแจกจ่ายบทให้เท่าๆกันได้ดีมากเลย สุดยอดดดจริงๆ

  4. ดู IMAX ถือว่าหนังทำได้ดีกับการกระจายบทของตัวละครแต่ละตัว และในส่วนของ cg ก็ทำได้เข้าขั้นเทพ รวมทั้งฉาก action ที่ใส่มาตอนท้ายแบบ non-stop มีเพียงที่ไม่น่าเชื่อถือคือมนุษย์ต่างดาวมาบุกโลกด้วยเทคโนโลยีและยุทโธปกรณ์เพียงเท่านี้เองเหรอ แล้วจะไปชนะได้อย่างไร อีกอันที่งงงคืออยู่ๆสภาก็หันไปใช้ nuke ยิงทำลายเมืองซะแล้ว ทั้งที่ยังไม่ได้ต่อสู้และใช้การโต้ตอบเท่าใดเลย ถ้าหมดทางสู้แล้วแบบใน ID4 แล้วก็ว่าไปอย่าง แต่ส่วนที่เหลือถือว่าเป็นหนังอีกเรื่องที่ทำได้เข้าขั้นอภิมหาความบังเทิงทีเดียว

    • ในส่วนที่สภาหันไปใช้อาวุธทำลายล้าง ผมว่าเพราะมนุษย์ต่างดาวมาเยอะมากน่ะครับ เท่าที่ดูพวกฮีโร่ก็แทบจะไม่ไหวแล้ว การใช้อาวุธแรงๆก็เป็นการตัดไฟแต่ต้นลม (ซึ่งหวังทำลายเครื่องที่เปิดประตูระหว่างมิติด้วย) ส่วนยุทโธปกรณ์ที่เปิดประตูนั้นมันเป็นคิวบ์จากแอสการ์ดที่มีพลังเชื่อมไปยังนอกโลกอยู่แล้ว (ดูจากเรื่อง Captain America) ….อันนี้ตามความคิดผมนะครับ อาจจะไม่ได้ถูกทั้งหมด

  5. ผมดูรอบ หกโมงเย็น มีเหตุการณ์ที่ไม่ได้เห็นมานานมากๆในรอบหลายปีนั้นคือคนมาเข้าแถวซื้อชมหนังเรื่องกัยเป็นร้อยๆคนแถวยาวมากๆ…!!! (ซีคอน) เดี้ยวชมแลัวจะบอกความรู้สึกอีกทีครับ.

    • หนังเรื่องนี้ทำให้ผมไม่ผิดหวังเลย หวังว่าบทหนังคงไม่เละเหมือนหนังฮิโร่หลายๆเรื่องที่เคยชมมา แต่เรื่องนี้ที่ได้และทำได้ดีสุดๆ ตัวหนังให้ความบังเทิงได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ที่ผมรู้สึกเสียใจที่สุดในหนังเรื่องนี้ก็คือ (สปอยอย่าง IISJ ห้ามอ่าน…!!!) การจากไปของเจ้าหน้าที่ โคลสัน ที่เล่นเอาผมซึมไปพักนึงเลย เพราะเป็นตัวละครตัวนึงที่ผมชอบและรู้สึกรักมากๆตัวนึงในเรื่องครับ แต่ว่ามันก็สมเหตุสมผลมากๆเพราะมันทำให้เหล่าฮิโร่ที่เคยรู้จักและประสบกับเจ้าหน้าที่ โคลสัน หลายคนได้คิดนั้นเอง…! สรุปว่าหนังเรื่องสอบผ่านในหลายๆด้านแลัว ตอนนี้คงจะต้องเตรียมตัวไปดูที่โรง 4DX และเสียงพาษย์ไทยอีกอย่างล่ะรอบรึอาจจะมากกว่า 4 รอบสำหรับผมเพราะหนังเรื่องนี้ เจ๋งโครตๆ ให้ 9.5/10 (หายไป.5 เพราะโคลสันน่ะแหละ)

  6. ผมว่า จอซ วีดอน เก่งมากครับยิ่งพี่แกเขียนเองกำกับเอง
    ดูจังหวะในหนัง พี่แกฉลาดเอาใจคนดูมากๆ

    แต่ ยังไงๆ ผมชอบ FirstClass มากกว่า

    [และ ยังเทียบ DK ไม่ติด(ถ้านับเรื่อง ซุปเปอร์ฮีโร่)]

  7. ” The Avengers เป็นหนังซุปเปอร์ฮีโร่ที่ดีที่สุดของ Marvel ในตอนนี้เลยครับ ฉากActionก็จัดเต็มจนแทบไม่อยากกระพริบตา ^^ ทุกตัวละครในเรื่องลงตัวหมดไม่มากไป และก็ไม่น้อยไปด้วยครับ อย่ามัวมานั่งคิดอ่านบทความอยู่เลยต้องไปพิสูจน์ด้วยตัวท่านเองว่ามันสุดยอดขนาดไหน “

  8. ไปดูมาสดๆ ร้อนเลย ที่เมเจอร์เชียงใหม่ วันแรงงานคนเยอะมากมายเต็มโรง ฉาก 3Dตอนท้ายสวยงามมาก โดยเฉพาะตอนที่กล้องแพนไปตามการต่อสู่้ของแต่ละคน บนมุมตึก ถนน ช่างไหลลื่นจริง มุขตลกหน้าตายเยอะจริงๆ และ ฮัลค์เป็นตัวขโมยซีนหลายฉากในตอนท้าย การกระจายบททุกคนเด่นมาก ทำได้ไง บทแข็งแรง สรุปคือรักหนังเรื่องนี้ไปเลย ให้ 9/10

  9. วิจารณ์แบบแมวๆ สำหรับความเห็นของผมนะครับ
    The Avengers (8.5 /10 คะแนน)
    นับเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของ Marvel ที่สามารถนำเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่มารวมกันได้ในเรื่องนี้
    นี่เป็นหนังดูเอามันส์ และเอาอยู่เรื่องหนึ่ง (ถ้าคุณไม่หวังความ”ลุ่มลึก”ของเนื้อเรื่อง
    และแน่นอนว่าบทมีจุดโหว่อยู่ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น)
    สิ่งที่ต้องขอชื่นชมเลยคือ …ผกก. Whedon สามารถเกลี่ยบทให้ตัวละครทุกตัวได้อย่างเยี่ยมมาก
    มีความสำคัญเท่ากันหมด ซึ่งตัวละครที่ผมประทับใจมากที่สุดก็คงเป็น The Hulk
    ที่ Mark Ruffalo รับบท ผมรู้สึกว่าแกมีสเน่ห์ในบทบาทนี้มากๆ เป็นตัวสีสันของหนังเรื่องนี้จริงๆ

    สิ่งที่เกินคาด – ตอนแรกกลัวว่า Captain America จะดับในหนังเรื่องนี้ เพราะดูรัศมีแล้ว
    แกแอบด้อยกว่าใครในเรื่องมากๆ (ซึ่งจากปากคำของ Chris Evans เองก็บอกว่า
    กลัวตัวเองเป็นจุดอ่อนของหนัง) แต่เค้าเล่นในหนังเรื่องนี้ได้ดีและเท่ห์ โดดเด่นเลยทีเดียว
    เอาใจผมกับฉากแอ็กชันของเค้าไปเลย

    สิ่งที่ไม่ชอบ – ผมไม่ค่อยชอบเพลงประกอบครับ ผมรู้สึกว่ามันไม่สามารถดึงซีนได้ในหลายๆฉาก
    ยกเว้นองค์ที่ 3 ของหนังที่เข้ากันดีกับภาพ และอีกอย่างที่ผมทนคือความเกรียนของไอรอนแมน
    (รำคาญน้อยกว่าภาค 2) ที่ผมแอบรำคาญ ซึ่งในหนังภาค 1 ไม่เท่าไหร่เพราะผมคิดว่านั่นเท่ห์ดี
    พอมาภาค 2 เหมือนพี่แกจะเกรียนมากไป ผมถึงกับอุทานเลยว่าเมื่อไหร่หนังจะจบเนี่ย
    (รู้สึกแกเกรียนไปทั่วจริงๆ) ทนความเกรียนพี่แกไม่ไหวจริงๆกับภาค 2

    แต่ถึงนี่จะเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ Marvel แต่หนังของ Marvel ที่ผมชอบที่สุด
    ก็ยังคงเป็น X-men : First Class อยู่ดี เพราะเรื่องนั้น มีประเด็นให้คิดต่อเยอะกว่ามาก
    ขณะที่เรื่องนี้ หลายๆคนอาจดูจบแล้วก็จบกัน ^^

  10. ใส่บทเด่นดีครับแต่ละตัวละครผมรู้สึกได้ถึง “สี” ที่เค้าแอบสื่อจางๆมาเลยครับ ส่วนตัวให้ 10/10 เลยครับ เพราะความมันส์ไม่มีจังหวะสะดุดจริงๆ จังหวะเดินเรื่องก็ไม่ค่อยเสียมาก แอบไม่ชอบมุกที่ใส่ มันเยอะไปหน่อย 55 แต่ได้ความฮาทุกเม็ดเลยจริงๆ มันส์ๆ

  11. ผมว่าเรื่องที่ยาที่สุดคือจับบุคลิกของตัวละคร ที่สร้างมาก่อนหน้านี้แล้วจับมารวมกันได้ และยังคงบุคลิกเดิมได้

  12. ขอถามหน่อย ฮะสำหรับแฟนมาเวล ที่ได้ไปดูมาแล้ว

    หญิงสาวเซิฟชุดส้มตอนหลังที่มี วิ่งหนี 1 คัท และมีอีก สี่คัท ที่ วางเฟรมเด่นๆหน่อย
    ที่ตอนจบให้สัมภาษณ์ กับทีวี ว่า กัปตันช่วยเทอไว้

    ผมรู้สึกว่าเธอต้องมีอะไร ในภายหน้าหรือเปล่า ทำไมหน้าคุ้นๆจัง

  13. เป็นการเปิดตัวที่เน้นแอ็คชั่นล้วนๆ ซึ่งพาราเม้าท์เอง ก็คงเสียดายเป็นอย่างมาก เพราะรายได้ของหนังเรื่องนี้ทั้งหมดตกไปเป็นของมาร์เวลและดิสนีย์ ส่วนดาวภูเขาทำได้ก็แค่มอง และให้โลโก้ของมาร์เวลขึ้นหน้าก่อนจะตามมาด้วยโลโก้ของพาราเม้าท์ 100 ปี ส่วนนายทุนอย่างดิสนีย์เองถึงแม้จะไม่มีอะไรเด่นชัดในหนัง เพราะติดด้วยข้อสัญญา แต่รายได้ที่ได้ ก็คงทำให้ภาคต่อของThe Avengers ไปได้สวยอย่างไม่ต้องสงสัย>>>ส่วนบ้านเราเอง ค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง UIP(พาราเม้าท์-ยูนิวเวอร์แซล-เอ็มจีเอ็ม) ก็ได้แต่มองบัวนาวิสต้าโกยเงินทองจากหนังเรื่องนี้อย่างบ้าเป็นหลังเช่นกัน…ส่วนประเด็นหลักของหนังไม่มีอะไรมาก สร้างปมขัดแย้งระหว่างตัวละครให้เกิดขึ้น จนนำมาสู่การพังบ้านเผาเมืองแบบวินาสสันตะโร ซึ่งเป็นจุดขายทีทำให้หนังไซไฟเรื่องนี้เอาคนดูได้อยู่หมัด(โดยเฉพาะพี่ไทย) แน่นอนว่าการรวมตัวของเหล่าซูเปอร์ฮี่โร่ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการรวมตัวครั้งสำคัญ ที่ตัวร้ายอย่าง”โลกิ” กลายเป็นมวยรองบ่อนไปในทันที(ด้วยกระแสของหนังที่มาแรงเกินคาด ก็เลยทำให้คนดูส่วนใหญ่ยอมให้อภัยกับข้อผิดพลาดและช่องโหว่ที่มีให้เห็นเป็นระยะ แต่สิ่งหนึ่งที่หนังเน้นย้ำผ่านคำพูดของตัวละครก็คือ มุมมอง/ยุคสมัย/และความคิด กลายเป็นประเด็นโต้แย้งอย่างรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องของวรรณะ ระหว่างธอร์ กับโทนี่ สตาร์ค หรือ โลกิ กับ เดอะ ฮัลค์ พร้อมฉากสะใจเท้า (ตลกร้าย-ที่คนดูส่วนใหญ่ฮา-ปรบมือ-เพราะกระแสพาใป) ซึ่งก็คงจะเข้ากับสถานการณ์บ้านเมืองเราในขณะนี้ได้เป็นอย่างดี>>>ส่วนช่วงท้าย end credit มีดีจะบอก อย่าเพิ่งลุกออกจากโรงนะครับ !

  14. หนังเรื่องนี้มีโจทย์ที่ยากมากตั้งแต่เริ่มสร้างแล้ว แต่ทีมงานตอบโจทย์ออกมาได้ดีในระดับนึงทีเดียวครับ …แต่ผมว่ามันยังไม่ถึงขั้นที่จะได้คะแนนเต็มครับ
    ส่วนที่ดีๆก็อย่างที่หลายๆท่านพูดคือแบ่งบทให้ตัวละครได้ดี นักแสดงก็เล่นดีขึ้นกล้องทุกคน จังหวะหนังก็ไหลลื่น มุกตลกก็เฉียบทีเดียว แต่สิ่งที่ผมรู้สึกไม่ค่อยปลื้มนักกับหนังเรื่องนี้คือ
    1. หนังไม่มีอารมณ์ซีเรียส ขึงขัง หรือลุ้นมากพอ เอาเฉพาะฉากแอ็คชั่นที่บอกตามตรงว่าไม่ลุ้นเลย ไม่รู้เพราะพวกพระเอกเก่งมากไปหรือเปล่า พวกผู้ร้ายที่ยกโขยงมาทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ ดูๆไปเหมือนเอามาให้พระเอกตบเล่น …ปรกติผมมักคิดอยู่เสมอว่าฉากแอ็คชั่นที่ดีมันต้องทำให้คนดูลุ้นไปด้วยได้ และถ้ามีระเบิดลูกใหญ่อีกหลายๆลูกกับเอฟเฟคตระการตาจะยิ่งเยี่ยม
    2. ไม่มีฉากกระชากอารมณ์ได้อยู่หมัดเลยสักฉาก ซึ่งผมก็ว่ามันก็ต่อจากข้อแรกนั่นล่ะครับ มันน่าจะมีฉากที่แสดงให้เห็นอารมณ์ตัวเอกมากกว่านี้ จะเศร้า สิ้นหวัง ท้อแท้ มิตรภาพอะไรก็ว่ากันไป

    ส่วนอื่นๆที่สงสัยก็คือทำไมหนังเรื่องนี้ส่งบทให้แบลควิโดว์กับฮอคอายเยอะจังเลย ไม่รู้ตั้งใจจะดันหรืออย่างไร …ผมว่าบทสองคนนี้ลดๆไปให้เหลือพอๆกับบทนิค ฟูรี่แล้วไปให้เวลากับฮีโร่หรือผู้ร้ายน่าจะดีกว่าครับ แล้วอีกอย่างที่ผมอยากให้มีคืออยากได้บอสใหญ่เก่งๆเจ๋งๆครับ จะเป็นโลกิแปลงร่างหรืออะไรก็เอามาเถอะครับ ขอตัวที่เก่งๆพวกพระเอกสู้ไม่ได้มาสักตัวได้ไหม 555
    ก็อย่างที่บางคนบอกหนังเรื่องนี้ดูแล้วสนุก แต่จบแล้วก็จบกันไป ถ้าให้คะแนนผมให้ 7/10 ครับ ในหนังมาร์เวล (ไม่นับ X-men) ผมว่าธอร์ครบเครื่องสุดครับ ได้ทุกอารมณ์ …แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ค่าตั๋วร้อยเดียวสำหรับดิอเวนเจอร์ผมถือว่าคุ้มมากครับ

    • ในความเห็นของผมนะ ผมว่าที่พวกพระเอกดูเก่งก็เพราะจากหนังเดี่ยวของแต่ละตัวละครได้บอกศักยภาพไว้แล้ว พอมารวมกลุ่มกัน ก็ต้องเก่งเป็นธรรมดาครับ ส่วนในข้อ ๒ นั้น ก็มาจากข้อแรกแหละครับ ด้วยความที่พระเอกแต่ละคนผ่านอะไรมาเยอะ เพราะฉะนั้นทุกคนไม่ท้อแท้อะไรง่ายๆ
      ส่วนตัวร้ายที่จะร้ายมากๆ ผมขอให้ติดตามภาคสองดีกว่า เพราะเขาเผยตัวร้ายที่จะตอบโจทย์คุณได้ครับ ^^
      ปล. โดยส่วนตัวผมชอบที่มีบทเน้นแบลควิโดว์กับฮอคอายนะครับ ให้รู้ว่ามนุษย์ธรรมดาก็เก่งพอๆกับคนที่มีพลังได้ ….อันนี้เป็นแค่ความคิดเห็นของผมนะครับ ไม่รู้เป็นการแก้ตัวแทนให้หนังหรือเปล่า ๕๕๕๕

  15. ผมชอบมากเหมือน เอา เอนิเมชั่นเรื่องดิอินเครดิเบิ้ล มาบวกกับบุนชูงะ ไม่อยากให้หนังจบเลย สนุกมากมายๆๆ

  16. ผมให้ 8.5/10
    ทั้งสนุก มัน และตลก
    ยกความดีความชอบให้บทของหนัง ที่ผมว่าเขียนมาได้ดี มีการกระจายบทให้แต่ละคนโดดเด่นเสมอกัน และมีจังหวะจะโคน ทั้งช่วงบู๊ ช่วงดราม่า ช่วงตลก มาได้จังหวะ ทำให้หนังไม่เบื่อ
    ที่บอกกันว่า สู้ The Dark Knight ไม่ได้บ้าง หรือสู้ First Class ไม่ได้บ้าง ผมว่าอาจจะดูไม่ยุติธรรมต่อ Avenger นัก
    เพราะผมรู้สึกว่า วีดอน ต้องการสร้าง Avenger ให้มีกลิ่นอายของความเป็น Comic มากกว่า จึงทำหนังออกมาให้มีมุกตลก มีธีมของหนัง แม้กระทั่งมุมมองของฉากบางฉาก ที่ดูแล้วรู้สึกสนุก เหมือนอ่าน Comic ที่เคลื่อนไหวได้ ในฐานะที่เป็นแฟน Comic ผมชอบความรู้สึกตรงจุดนี้มาก
    ส่วนThe DK กับ First Class ดูจะต้องการทำ Comic ให้ออกมาเป็นหนังซะมากกว่า จึงมีน้ำหนักความดราม่าและเป็นเหตุเป็นผลมากกว่าปกติ ซึ่งผมชอบสองเรื่องนี้ในแง่ที่ผมเป็น แฟนหนัง
    จริงอยู่ที่เหตุผลบางจุดจะไม่สนับสนุนกัน แต่มันเป็นแบบนั้นจริงๆถ้าคุณอ่าน Comic เพราะใน Comic มันก็ไม่มีเหตุผลแบบนี้แหละ(บางทียังแถได้อีก ^ ^”)

    ผมตัดถึง 1.5 คะแนนเพราะ Avenger ดันไปใช้เส้นทางของเรื่องแบบอีกเรื่องนึงเด๊ะ คุณลองนึกดูสิ หนังอะไรเอ่ย มี Cube สี่เหลี่ยมๆ สองฝ่ายแย่งกัน แย่งกันไปแย่งกันมา มาจบที่ใจกลางเมือง เอา cube ไปไว้บนตึก พยายามปีนขึ้นตึก มีฉากเปิดสงครามสู้กัน มีทั้งสู้กันบนอากาศ สู้กันบนถนน สู้กันไปสู้กันมาตึกถล่ม นี่มันสูตร Transformer ของป๋าเบย์ ชัดๆเลยนะพี่บ่าววี(ดอน) =_=”

    • ผมเห้นด้วยนะครับ ที่ว่าAvenger มีกลิ่นอายของความเป็น Comic มากกว่า ซึ่งผมก็เป็นแฟนคอมมิคอยู่แล้ว ก็เลยชอบครับ (จะว่าไปหนังฮีโร่ของมาร์เวลในเครือนี้สร้างให้มีเอกลักษณ์แบบนี้แหละ)
      ส่วนเรื่อง cube ผมไม่คิดว่าวีดอนก็อปปี้ป๋าเบย์นะครับ เพราะว่าในการ์ตูน transformer มันมีการแย่งพลังงานกัน แต่พอเป็นหนัง เขาก็เปลี่ยนให้เป็น cube แต่ว่า Avenger มีส่วนหนึ่งที่อิงจากตอนหนึ่งหนังสือการ์ตูน ที่มนุษย์ต่างดาวมาบุกโลกแบบนี้แหละครับ (อ้างอิง http://jediyuth.wordpress.com/2012/02/08/producer-talks-villains-in-the-avengers/#more-5478)

      • อื้มมม คุณ k.ace ทำให้ผมคิดได้ว่า ผมอาจจะคิดมากไปก็ได้ครับ 5555 ^o^”

        ตรงจุดที่ความเป็นคอมมิคส์นี้ อาจจะพูดได้ว่าเพราะ มาร์เวล สร้างหนังด้วยมือตัวเอง เลยเข้าถึงแก่นความเป็นคอมมิคส์ได้ ก็คงจะไม่ผิดนัก

  17. เมื่อวาน วันที่1 เกือบป่วยการเมืองเพื่อไปดูหนัง 55+
    แต่ก็ รอจนถึงเย็น เพราะต้องไปตีแบดจนถึง1 ทุ่ม….ตีเสร็จ รีบเข้าบ้าน อาบน้ำแต่งตัว
    รีบออกมาดูรอบ 3 ทุ่ม คนเยอะมาก ผมโชคดีได้ ตั๋ว ที่นั่งแถวหน้า ช่วงหลัง นั่งตรงกลางเลย
    หนังเรื่องนี้ ทำให้ผม ฮามากกว่ามันส์ซะอีก ฮาแบบ ไม่ยั้งจริงๆ ทั้งบทพากย์ ทั้งบทแสดง…
    ป๋าโทนี่ เกรียนเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ เดอะ ฮัล์ค ก็ เท่ เกรียนๆ เข้าใจยาก…..
    เห็นพ้องต้องกัน อย่างนึงว่า ในฉาก ที่ โลกิ เจอกับ แบล็ค วิโดว์ อารมณ์ประมาณ
    Silent of the lamb ยังไงยังงั้น…..แต่สุดท้ายก็มี แอบฮา…
    กัปตันอเมริกา ผมว่า เด่นสุดนะ..ไม่รู้สิ ผมว่า ถ้าไม่มีเค้าคนนี้ อเวนเจอร์ คงจะสะเปะสะปะ แน่…
    ธอร์..บทบาทที่น่าจะบู๊แหลกแต่ก็ดูจะน้อยกว่าชาวบ้าน แต่จะออกแนวเป็นตบมุขซะมากกว่า…ก็ยังโอเค…
    ชอบ ฮอว์คอายกะ แบล็ค วิโดว์ มากที่สุด ไม่มีพลังวิเศษ ไม่มีอุปกรณ์ไฮเทค แต่ เก่งค่อดๆ
    โอยย ชอบจนเขียนอะไรออกมาเยอะแยะ แต่สุดท้ายย….
    ผมก็หวังว่า ใครบางคนที่จากไปจะกลับมาได้อีกครั้งนึง….แอบมีน้ำตาคลอ…

  18. สนุก ชอบครับ… อาจมีข้อสังเกตที่เหมือนทำให้หนังดูด้อยไปบ้าง (ไม่สมบูรณ์แบบ.. เช่น ไคลแม็กซ์ดูเหมือน Transformer ไปบ้าง, ไม่มีบทบาทของทหารเลย (ถ้ามีก็ยิ่งเหมือนใหญ่ !!), ฯลฯ แต่โดยรวมผมให้แตกครับ

    เพราะจังหวะที่ลื่นไหล มันส์ ฮา อย่างต่อเนื่อง ทำให้หนัง “เอาอยู่” จริงๆ

    ๘.๙ / ๑๐ ครับ^^

  19. ผมไปดูมาแล้วเมื่อวานที่ IMAX 3D เมเจอร์รัชโยธินครับ จ่าย 220 ได้ภาพใหญ่ยักษ์เต็มตามากกกกก แต่ก็อย่างที่หลายท่านว่าไว้ 3D ไม่ได้ต่างจาก 2D เท่าไหร่นัก (ตัวอย่าง Spider Man ยังทะลุจอมากกว่า)

    โดยรวมๆ แล้วเป็นหนังแอคชั่น-ฮีโร่ที่สนุกมากครับ ผมชอบที่หนังสามารถเฉลี่ยบทให้กับฮีโร่ทุกตัวอย่างทั่วถ้วน ไม่มีใครน้อยหน้าใคร และสามารถใช้คาแรคเตอร์ของแต่ละคนมาสร้าง Conflict สร้างแก๊กตลกให้กับหนังได้อย่างลงตัว

    ฉากที่ผมชอบมากคือ ฉากการปะทะคารมณ์ และพลังกำลังกันของฮีโร่ที่ปกติต่างเคยลุยเดี่ยว โดดเด่นที่สุดมาตลอด (ในหนังของตัวเอง) แต่เมื่อต้องมารวมตัวกัน ก็เข้าทำนอง “เสือหลายตัวอยู่ในถ้ำเดียวกัน” ทุกคนมีอีโก้ มีความเป็นตัวตนสูง ไม่มีใครยอมใคร แต่สุดท้ายแล้วเมื่อมีเป้าหมายเดียวกันนั่นคือ รักษาสันติให้กับโลกมนุษย์ ฮีโร่ทุกคนก็ตระหนักได้ และหันหน้ามายอมรับกัน ให้เกียรติกัน เกิดความสามัคคี ทำให้ The Avengers เป็นทีมเวิร์คที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ตัวร้ายหน้าไหนก็ต้องแพ่พ่ายราบคาบ ผมว่าจุดนี้แหละที่โดนใจสาวกฮีโร่ทุกคน ที่ได้เห็นฮีโร่ที่ตัวเองรักมารวมพลังกัน ดูจบก็ฟินนาลเล่กันเลยทีเดียว

    หนัง The Avengers ทำเพื่อเอาใจสาวกฮีโร่โดยแท้ และสร้างความบันเทิงสูงสุด ไม่ให้ต้องซีเรียส หรือคิดหนักระหว่างดู เน้นมันส์แบบจัดเต็ม เน้นรวมพลเหล่าฮีโร่ขึ้นจอ แต่ยังไงเสียถ้าเทียบกันกับหนังที่สร้างจากฮีโร่มาเวลล์ทั้งหมด ผมก็ยังชอบ X-Men 2 และ X-Men First Class มากกว่า ในแง่ของการใส่ประเด็นจริงจังในหนังแอคชั่น-ฮีโร่ได้อย่างลงตัวที่สุด

  20. คุณ jediyuth ครับ ไม่ทราบว่า ข่าวนี้จริงหรือเปล่าครับ พอดีผมไปเจอมาในกระทู้พันธ์ทิพย์ ความเห็นที่ ๔ ครับ http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A12038822/A12038822.html
    (อันนี้มีสปอยล์ สำหรับคนที่ยังไม่ได้ดูหนังไม่ควรอ่านครับ ^^)
    ไม่ทราบว่า คห.นั้น เขาเอาข้อมูลมาจากไหน คุณ jediyuthพอจะทราบข้อเท็จจริงบ้างมั้ยครับ?

    • ที่มาคือ CraveOnline ครับ
      เดี๋ยวจะตามหาต้นฉบับให้ แล้วเอามาแปลครับ
      ก่อนนี้ ไม่กล้าอ่านสัมภาษณ์เท่าไหร่เลย เพราะกลัวเจอสปอยล์

    • หา…!!! ไม่ตายจริงง่ะ…!!! O__o
      นั้นก็แปลว่าหนังมันก็หลอกได้ทั้ง…
      เหล่า ฮีโร่และคนดูไดสำเร็จน่ะซี…!!!

      ผมถึงว่า…มันดูแปลกๆน่ะ แต่กไม่อยากให้
      เจ้าหน้าที่ โคลสัน มาจบที่ภาคนี้จริงๆ !!!
      คงได้เห็นกันในภาคต่อไปแน่ โอยย ดีใจโว็ยยย…

    • เค้าเป็นผู้มีส่วนร่วมก่อตั้ง Avengers เชียวนะ ตายง่ายๆ เสียดายแย่ (ถ้าตายไปจริง เสียดายเหมือนกันนะ)

    • ผมว่าเค้าเป็นตัวละครที่โดนใจหลายคนครับ แฟนๆชอบเยอะ ซึ่งภาคนี้อาจจะทำให้ดูว่าจากไป แต่ถ้าจะแต่งให้รอดก็ทำได้แหละครับ มันก็50-50

    • แฟนคลับ เจ้าหน้าที่โคลสัน เยอะนะครับ ผมเองก็ เป็นส่วนนึง….
      คือ บทของตัวละครนี้ มัน น้อยแต่ได้เยอะอ่ะครับ แล้ว คนดู ก็รู้สึกผูกพันธ์ นะ
      คิดว่า ตอนในหนัง น่าจะ ช่วยทันเวลาพอดี อะไรแบบนี้นะ ฮ่าๆ..

      ปล. ไอรอนแมน 3 ยังต้องเจอกันอยู่นะ เจ้าหน้าที่ โคลสัน

  21. การจะจับ comic มาทำเป็นหนังให้มีกลิ่นอายว่ามันมาจาก comic ผมว่ามันยากนะ
    แล้วยิ่งจับเอาตัวละครหลายๆ ตัวมารวมตัวกันนี้ยิ่งยากเข้าไปอีก
    แต่วีดอนทำได้ง่ะ

  22. ชั่วโมงแรก จะลุกไปซื้อ เอ็มร้อย แหละ น่าเบื่อ และง่วงมาก // พอมาถึงชั่วโมงหลัง ฉาก ถล่ม เกาะแมนฮันตัน ถือ ว่าคุ้มเงิน อลังการจนน่าตกใจ // ดูสามมิติ ภาพไม่เวิร์ค เท่าไร // รักใคร ชอบใคร ดูได้ เพราะเฉลี่ยบท พอดีแป๊ะ // โลกิ หน้าเหมือน ตั๋ว ศรัณยู วงศ์กระจ่าง มากกกกกกกกกกก // ไอรอนแมนลดอีโก้ลงมาก กัปตันก็ดูสนุกกับชีวิตขึ้น // แต่สุดท้ายงานนี้ … ฮัค เอาไปกิน

  23. หนังเรื่องนี้เจ๋งจริงๆ รวมฮีโร่ได้ลงตัวดีมาก
    ตัวที่มีเขา คาดว่าน่าจะมาจาก เรื่อง Hell boy เพราะในเนื้องเรื่อง Hell boy เป็นตัวเปิดประตูมิติเพื่อเอาสัตว์ประหลาดมาทำลายโลก และก็คงสานแนวคิดนี้จึงได้ออกมาเป็น The Avengers ที่เปิดประตูมิติเหมือนกันเพื่อเอาสัตว์ประหลาดมาทำลายโลก ส่วน ฮีโร่ตัวอื่นๆ OK เลย แต่แอบ งง เล็กน้อยที่ ธอร์ มาได้ไง หว่าา แต่ก็ผูเรื่องใช้ได้นะกับตัวร้ายย
    หนังเรื่องนี้ออกแนวจินตนาการ super herro ได้ใจเต็ม 100

  24. ดูไปสามรอบด้วยความเมามันส์ คือมันมีเสน่ห์มากๆเลย ตัวละครทุกตัวมีเสน่ห์มีเอกลักษณ์มากๆ
    ชอบความเกรียนของไอรอนแมน
    ชอบพลังอันเวอร์วึงของพี่ธอร์
    ชอบความซื่อของกัปตัน
    ชอบความเท่ของแบล็กวิโดว์
    ชอบความแม่นของบาร์ตัน
    ชอบการอัดแหลกของฮัลค์
    สุดท้าย ชอบความน่ารักของโลกิ #ไม่ใช่ละ (เป็นตัวร้ายที่ไม่ร้ายเท่าไรเลย งุ้งงิ้งดีค่ะ55)

Leave a Reply to ToRaHCancel reply