ใน  The Avengers ทีมสร้างได้ใช้อัลบูเคอร์คี สตูดิโอส์ ในการถ่ายทำ 14 สัปดาห์ เพื่อให้ผู้กำกับจอส วีดอนและทีมงานสร้างฉากที่ยิ่งใหญ่และโดดเด่นที่สุดในเรื่อง นั่นก็คือ เฮลิแคริเออร์ สำนักงานใหญ่ของ S.H.I.E.L.D.

“มันเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินที่บินได้ครับ” ผู้กำกับวีดอนบอก “ตลอดหลายปีที่ผ่านมา หน้าตาของเฮลิแคริเออร์ในการ์ตูนได้พัฒนาขึ้นมา แต่มันก็เป็นป้อมปราการลอยฟ้าเสมอ มันเป็นส่วนหนึ่งของการแลกเปลี่ยนในการเขียนนบทว่ามันจะต้องอยู่ในนั้นด้วย ซึ่งผมก็จะไม่ปฏิเสธหรอกครับ เราได้คุยกันบ่อยๆ ว่าจะทำยังไงให้มันเวิร์ค แต่แบบดีไซน์ที่ผู้ออกแบบงานสร้างของเรา เจมส์ ชินลันด์คิดขึ้นมาได้ก็ทั้งเพรียวลมและเจ๋งมาก และมันก็คาบเกี่ยวอยู่ระหว่างแฟนตาซีและความจริงได้ดีมากๆ ด้วย”

ผู้กำกับกล่าวต่อไปว่า “เฮลิแคริเออร์จะต้องมีเทคโนโลยีล้ำสมัยและมีภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจเพราะมันช่วยกระดับ S.H.I.E.L.D. ให้เป็นสิ่งที่เหนือกว่ากลุ่มคนในถ้ำที่มีคอมพิวเตอร์มากมาย ส่วนหนึ่งของหนังเกิดขึ้นในเฮลิแคริเออร์และมันก็เป็นที่เดียวที่สมเหตุผลสำหรับการให้เอเวนเจอร์สทุกคนมาอยู่ที่นั่นน่ะครับ”

“มันเป็นฉากที่งดงามสำหรับการทำงานจริงๆ และจอสก็อยากจะสำรวจสถาปัตยกรรมของฉากนี้รวมทั้งการออกแบบการให้แสงด้วยครับ” ผู้กำกับภาพ ซีมัส แม็คการ์วีย์บอก “นอกจากนี้ เรายังพยายามให้เขามีอิสระและการเคลื่อนไหวให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อรองรับนักแสดงทุกคนขณะที่พวกเขามีปฏิสัมพันธ์กันบนเฮลิแคริเออร์ ฉากนี้ให้แสงด้วยแหล่งกำเนิดแสงจริงๆ พื้นที่ช่างเทคนิคทั้งหมดถูกขับเน้นด้วยแสงไฟบนคอนโซลและขอบมุมสถาปัตยกรรมอื่นๆ ครับ”

“สิ่งที่ทำให้ผมสนใจผู้กำกับภาพซีมัส แม็คการ์วีย์คือหนังเรื่อง ‘Atonement’ ที่เขาทำครับ” จอส วีดอนอธิบาย “มันมีรายละเอียดมากๆ และลักษณะของทุกคนในหนังก็มีรัศมีบางอย่างที่เป็นของปลอมนิดๆ เพราะหนังเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความทรงจำและเรื่องโกหก เราไม่อยากได้อะไรแบบนั้นใน ‘The Avengers’ แต่ผมก็อยากได้ผู้กำกับภาพที่จะผลักดันผมไปสู่สิ่งที่สวยงามและสง่างามมากขึ้น ที่ผมบอกว่า ‘ผลักดัน’ ผมหมายถึงว่าเขามีไอเดียดี เราจะคุยกันถึงการเซ็ทแสงในรูปแบบทั่วๆ ไปแล้วเขาก็จะทำให้มันเกิดขึ้น เขาเข้าใจมันอย่างดีและเขาก็รู้สึกได้ถึงพลังชีวิตของตัวละครและได้ดึงเอารัศมีภายในของพวกเขาออกมาได้ครับ”

สำหรับทีมผู้สร้าง การทำให้เฮลิแคริเออร์ทำงานได้ทั้งในอากาศและใต้นำทำให้สำนักงานใหญ่ของ S.H.I.E.L.D. น่าเชื่อมากขึ้นขณะที่พวกเขาคอยสอดส่องดูแลความปลอดภัยของโลก “สิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหาสำหรับเราในช่วงเริ่มแรกคือไอเดียที่ว่า เฮลิแคริเออร์จะต้องบินตลอดการดำเนินเรื่อง” เควิน เฟจบอก “ถ้ามีวัตถุขนาดเท่ายานขนเครื่องบินลอยเหนือแมนฮัตตัน ผมคิดว่าคนทั่วโลกคงรู้เรื่องนี้และผมก็คิดว่านิค ฟิวรีคงจะพูดถึงมันในหนังเรื่องก่อนๆ ของเรา”

ผู้อำนวยการสร้างกล่าวต่อไปว่า “เราได้นำเสนอไอเดียเกี่ยวกับ S.H.I.E.L.D. หลายอย่างให้ผู้ชมแล้ว ทั้งไอเดียที่โลกิกับธอร์อยู่ในแมนฮัตตัน ไอเดียของกองกำลังที่รุกราน เราก็เลยบอกไม่ได้ว่า ‘อ๋อ นอกจากนั้น ตลอดเวลาที่ผ่านมา มียานบินลำใหญ่ลอยอยู่ในท้องฟ้าเพื่อคอยติดตามเรื่องต่างๆ’ เราก็เลยตัดสินใจว่า S.H.I.E.L.D. เป็นทีมที่ตอบสนองต่อวิกฤตการณ์และเราควรจะได้เห็นเฮลิแคร์เรียร์ลอยตัวขึ้นจากน้ำในช่วงเวลาสำคัญในเรื่องน่ะครับ”

การเนรมิตชีวิตให้กับเฮลิแคริเออร์ตกเป็นหน้าที่ของผู้ออกแบบงานสร้าง เจมส์ ชินลันด์ ผู้อธิบายถึงวิธีการที่เขาและทีมงานใช้ในการพัฒนาลุคของสำนักงานใหญ่ S.H.I.E.L.D. และปรับเปลี่ยนมันสำหรับการเปิดตัวครั้งใหญ่บนจอเงิน

“เราหมดเวลาไปกับการพยายามจะสกัดเอาแก่นแท้ของเฮลิแคริเออร์มาจากเวอร์ชันต่างๆ ในโลกมาร์เวลครับ” ชินลันด์อธิบาย “ท้ายที่สุดแล้ว เป้าหมายของเราคือการสร้างยานที่น่าทึ่งและมีขนาดใหญ่โต แต่ก็ยังน่าเชื่อว่ามันเป็นยานพาหนะที่กองทัพสามารถใช้ได้จริงๆ ในปัจจุบันนี้ มันเป็นความท้าทายอย่างแท้จริงที่จะสร้างพาหนะที่มีขนาดพื้นที่หนึ่งส่วนสี่ไมล์และทำให้ผู้ชมยอมรับว่ามันเป็นยุทโธปกรณ์ทางทหารจริงๆ น่ะครับ”

“สะพานบนเฮลิแคริเออร์เป็นหนึ่งในโลเกชันที่สำคัญที่สุดในโลกมาร์เวล และเจมส์ ชินลันด์ก็สร้างมันได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจครับ” เควิน เฟจบอก “มันเป็นหนึ่งในฉากที่ใหญ่ที่สุดที่เราสร้างขึ้นบนสเตจเพราะเราอยากได้สิ่งที่โดดเด่นแตกต่างจากสิ่งที่เราเคยทำมา เราอยากให้ผู้ชมรู้สึกถึงบรรยากาศของการได้อยู่บนยานลำใหญ่ ซึ่งเป็นศูนย์บัญชาการสำหรับหน่วย S.H.I.E.L.D. ทั้งหมด เจมส์ได้ใส่เอาลุคและความรู้สึกที่โดดเด่นจริงๆ เข้าไป ซึ่งก็ทำให้มันให้ความรู้สึกที่แปลกใหม่จริงๆ” 

“มันเป็นฉากที่เยี่ยมทีเดียวครับ” แซมมวล แอล. แจ็คสันบอก “การมีสถานที่ประจำของตัวเอง ที่ซึ่งผมสามารถควบคุมยานและควบคุมทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนนั้นได้ เป็นความรู้สึกที่เยี่ยมทีเดียว มันน่าตื่นตาตื่นใจและวิเศษสุด มีคนเยอะแยะวิ่งไปมา ทำโน่นทำนี่ตลอดเวลา มันก็เลยทำให้ผมรู้สึกถึงอำนาจและความเร่งด่วน และงานที่ยานใหญ่แบบนี้น่าจะทำ ทั้งด้วยความสามารถและการรวบรวมข้อมูลข่าวสารที่มันมีอยู่ด้วย”

ควินเจ็ท อีกหนึ่งพาหนะคลาสสิกของมาร์เวล ได้ปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยเช่นกัน ควินเจ็ทเป็นเจ็ททะยานฟ้าที่เอเวนเจอร์สใช้ติดต่อกับเฮลิแคริเออร์และใช้ออกสนามรบ การออกแบบควินเจ็ทเข้ากับเฮลิแคริเออร์ โดยเทคโนโลยีเดียวกับที่ทำให้เฮลิแคริเออร์ทำงานได้ถูกใส่เข้าไปในควินเจ็ทด้วย แต่ในขณะเดียวกัน ภาพร่างของควินเจ็ท ค็อกพิท เครื่องยนต์ที่ด้านหลังและอาวุธของมันก็ทำให้มันให้ความรู้สึกราวกับว่ามันสามารถมีอยู่จริงได้

ที่มา: วอลท์ ดิสนี่ย์ ประเทศไทย