JEDIYUTH’s Review: The Help
หนังเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของผู้หญิง และพูดถึงสิทธิพลเมืองของคนผิวสีเคยรุ่งเรืองในยุค 90 แต่เป็นหนังที่เชยและประสบความสำเร็จได้ยากไปแล้วในยุคนี้ แต่หนัง The Help ของผู้กำกับเทต เทย์เลอร์ สามารถทำได้ หนังครองอันดับหนึ่งบนตารางหนังทำเงินของสหรัฐอยู่ถึง 3 สัปดาห์ และกลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จทางรายได้แห่งปี สาเหตุน่าจะมาจากการที่หนังเล่าเรื่องได้สนุก เนื้อเรื่องดี และที่สำคัญที่สุดก็คือการมีทีมนักแสดงที่ยอดเยี่ยมมาถ่ายทอดบทบาทอันสุดยอดชวนให้หนังน่าติดตามไปตลอดทั้งเรื่อง
The Help เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในแจ็คสัน รัฐมิสซิสซิปปี้ ปี 1963 ยุคที่การเรียกร้องสิทธิพลเมืองของคนผิวสียังเป็นกระแสสำคัญของสังคมในสหรัฐอเมริกา ถ่ายทอดผ่านสายตาของสาวใช้ผิวสี ซึ่งในที่นี้ก็คือเอบิลีน คลาร์ก (วิโอลา เดวิส) ผู้เป็นสาวใช้ในบ้านของคุณนายคนผิวขาวมาตลอด 17 ปี ผ่านการสัมภาษณ์ของยูจีเนีย ฟีแลน หรือ สกีตเตอร์ (เอ็มมา สโตน) โดยเรื่องราวสะท้อนให้เห็นถึงมิตรภาพและความสัมพันธ์ระหว่างพี่เลี้ยงหรือสาวใช้ผิวสีเหล่านี้กับคุณหนูและคุณนาย สอดแทรกไปด้วยการวิพากษ์การกดขี่และอคติต่อคนผิวสีในยุคนั้น บรรยายกาศโดยรวมของหนังให้อารมณ์ของการผสมผสานระหว่าง Fried Green Tomatoes, How to Make American Quilt และ Steel Magnolia
หนังเปิดเรื่องด้วยฉากที่สกีตเตอร์ตั้งคำถามแรกแก่เอบิลีนว่า “รู้สึกยังไงที่ต้องเลี้ยงดูลูกคนผิวขาว ขณะที่ต้องฝากให้คนอื่นคอยดูแลลูกของตัวเองที่บ้าน” เอบิลีนตอบว่า “รู้สึก…” แล้วเธอก็หันไปมองรูปลูกชายที่เสียชีวิตไปแล้วบนข้างฝาก่อนที่หนังย้อนจะความเป็นมาของตัวละครทั้งสอง และที่มาว่าทั้งคู่มานั่งสัมภาษณ์กันเช่นนี้ได้ยังไง
เรื่องราวเริ่มจากสกีตเตอร์เพิ่งเรียนจบกลับมาอยู่ที่แจ็คสัน อยากที่จะสร้างอาชีพในฐานะนักข่าวและนักเขียน เธอได้เข้าทำงานในสำนักงานหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นที่เธอต้องรับหน้าที่เขียนคอลัมน์ตอบปัญหาแม่บ้าน ทำให้เธอต้องไปขอความช่วยเหลือจากเอบิลีน สาวใช้ผิวสีประจำบ้านของอลิซาเบธ ลีโฟล์ท (อาห์นา โอ เรลลี) เพื่อนสนิทของเธอ
สกีตเตอร์เป็นผู้หญิงที่มีการศึกษาสูงกว่าเพื่อนๆ ต้องการมีอาชีพ มีการงาน มากกว่ารอให้สามีเลี้ยง เธอเป็นคนเปิดกว้าง เปิดใจ และรักในศักดิ์ศรี เมื่อเธอเห็นว่าเพื่อนๆ กระทำต่อสาวใช้ผิวดำอย่างกดขี่และเอาเปรียบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระทำของฮิลลี่ (ไบรซ์ ดัลลัส เฮาเวิร์ด) สตรีผู้นำชุมชนที่ออกกฎห้ามสาวใช้เหล่านี้มาใช้ห้องน้ำในบ้าน ทำให้สกีตเตอร์เกิดความคิดที่จะเขียนหนังสือถ่ายทอดมุมมองของสาวใช้ผิวสี ผู้เป็นกำลังสำคัญของชุมชนแดนใต้ แต่กลับได้รับการปฏิบัติอย่างดูถูกดูแคลน
การสัมภาษณ์ของสกีตเตอร์ในช่วงแรกมีอุปสรรค สาเหตุสำคัญมาจากการที่เอบิลีนกลัวถูกทำร้าย และกลัวกฎหมายของรัฐมิสซิสซิปปี้ที่ห้ามเธอทำเช่นนั้น แต่การได้แรงบันดาลใจจากนักเทศน์ที่สอนเธอว่า“ความกล้าหาญไม่ใช่แค่การไม่เกรงกลัว แต่เป็นการเอาชนะความกลัวและกล้าทำสิ่งที่ถูกต้องเพื่อเพื่อนมนุษย์” และที่สำคัญก็คือการที่เธอทนความร้ายกาจของฮิลลี่ไม่ไหว เธอจึงอยากให้มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง จึงยอมให้สกีตเตอร์สัมภาษณ์ และแอบคุยกันในบ้านของเธอ
เอบิลีนเล่าให้สกีตเตอร์ฟังว่าอลิซาเบธนั้นเป็นแม่ที่ไม่ดีเพียงใด และเธอต้องทำหน้าที่เหล่านั้นแทนในการดูแลคุณหนูคุณหนูเม โมบลี่ย์ ลูกสาววัยเตาะแตะของอลิซาเบธ ที่เรียกเอบิลีนว่าแม่ เอบิลีนมีเพื่อนรักชื่อมินนี่ (อ็อคตาเวีย สเปนเซอร์) ซึ่งช่วยให้เธอกลับมาสู้ชีวิตต่อได้หลังจากลูกชายเสียชีวิตไปขณะทำงานและได้รับการปฏิบัติที่ไม่ดีจากเจ้านายคนขาว มินนี่เป็นสาวใช้ของฮิลลี่ เธอเก่งกาจเรื่องการทำอาหาร มีไก่ทอดสูตรอร่อยที่เธอบอกว่าทำให้รู้สึกดีกับชีวิตได้ และยังมีพายสูตรลับเฉพาะที่ทำให้ฮิลลี่ไม่มีวันลืม เธอเป็นผู้หญิงแกร่ง ใจเด็ด มีอารมณ์ขัน และทำให้ทุกคนที่อยู่ใกล้มีความสุข แต่ในวันที่ฝนตกหนัก เธอไม่อยากไปใช้ห้องน้ำนอกบ้าน เธอจึงถูกฮิลลี่ไล่ออก เธอหางานที่ไหนทำอีกไม่ได้เลย เพราะฮิลลี่เที่ยวไปบอกทุกคนว่าเธอเป็นขี้ขโมย เธอจึงกลายเป็นสาวใช้คนที่สองที่มาเล่าเรื่องราวให้สกีตเตอร์ฟัง
มินนี่ได้งานใหม่ในที่สุดเมื่อเธอมาสมัครเป็นสาวใช้ของซิเลีย ฟุต (เจสซิกา แชสเทน) เพราะเป็นคนเดียวที่ฮิลลี่ไม่ได้มาเป่าหู ซิเลียเป็นอดีตนางงาม สาวทรงโตที่ชอบแต่งตัวโป๊ มีนิสัยเปิ่น ซื่อไม่ทันคน แต่จิตใจดี เป็นผู้หญิงที่ฮิลลี่เรียกว่าเป็น “ผู้หญิงชั้นต่ำ” และแบนเธอออกจากสังคม เลยทำให้เธอไม่มีเพื่อน เธอได้มินนี่มาเป็นพลังสำคัญของเธอ อยู่เคียงข้างเมื่อทุกข์ใจและช่วยเหลือเรื่องงานบ้านแบบลับๆ เธอเองก็ปฏิบัติต่อมินนี่เหมือนเพื่อนเช่นกัน เธอไม่มีความเจ้ายศเจ้าอย่างเพราะก็มาจากครอบครัวที่ยากจน และลืมตาอ้าปากได้เพราะได้สามีรวยผู้ที่รักเธออย่างจริงใจ
เอบิลีนกับมินนี่เล่าเรื่องให้สกีตเตอร์ฟัง โดยทั้งหมดตกลงกันว่าจะใช้ชื่อปลอมเพราะกลัวความผิด แต่เรื่องที่เล่าก็แรงจนอาจทำให้ฮิลลี่แก้แค้นพวกเธอได้ มินนี่จึงเล่าความลับบางอย่างของฮิลลี่ รวมถึงเรื่องที่ฮิลลี่ปฏิบัติไม่ดีต่อคุณนายวอลเตอร์ส (ซิสซี่ สปาเซ็ค) เพื่อให้แน่ใจว่าฮิลลี่จะไม่กล้าทำอะไรรุนแรง เพราะถ้าฮิลลี่ทำก็เท่ากับยอมรับว่าตัวละครอื้อฉาวในหนังสือนั้นคือตัวเธอ อันส่งผลต่อสถานะทางสังคมของเธอ แต่เพียงเรื่องจากปากของสาวใช้สองคนก็ยังไม่อาจทำให้สำนักพิมพ์ในนิวยอร์กยอมที่จะซื้อเรื่องของสกีตเตอร์ เอบิลีนกับมินนี่พยายามเกลี้ยกล่อมสาวใช้ทุกคนก็ไม่มีใครกล้าออกมาพูด แต่ความร้ายกาจครั้งใหม่ของฮิลลี่ที่กระทำต่อสาวใช้คนล่าสุดก็เป็นชนวนให้ทุกคนกล้าขึ้นมา
หลังจากได้ปากคำจากคนอื่นครบหมดแล้ว สกีตเตอร์จึงเหลือเพียงเรื่องเล่าสุดท้ายที่เธออยากเขียน นั่นก็คือเรื่องราวของคอนสแตนตีน (ไซซ์ลี ไทสัน) หญิงรับใช้ชราผิวดำที่ดูแลเธอมาตั้งแต่เด็ก สกีตเตอร์รู้ว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากลเมื่อเธอกลับมาแล้วไม่พบคอนสแตนตีน ชาร์ล็อต (แอลลิสัน แจนนี่) ผู้เป็นแม่ของสกีตเตอร์บอกแต่เพียงว่าลูกสาวของคอนสแตนตีนมารับไปอยู่ชิคาโกด้วย แต่เธอมั่นใจว่ามีอะไรมากกว่านั้นเพราะเธอไม่เคยได้ข่าวคราวของคอนแสตนตีนเลย และเมื่อทราบความจริงจากชาร์ล็อตก็ทำให้เธอหัวใจสลายและโกรธแม่ของเธออย่างมาก
หลังจากหนังสือถูกตีพิมพ์ก็นำไปสู่การปะทะกันครั้งใหญ่ของฮิลลี่และผู้ที่ถูกเธอกระทำทุกคน แต่เธอเองก็ไม่อาจทำอะไรได้มากเพราะกลัวถูกแฉ เอบิลีนถูกอลิซาเบธไล่ออกในที่สุดด้วยการยุยงของฮิลลี่ แต่เธอก็ทำหน้าที่การดูแลคุณหนูเม โมบลี่ย์ ครั้งสุดท้ายได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
นอกจากหนังจะเผยให้เห็นถึงมิตรภาพของคุณนายกับสาวใช้แล้ว หนังยังบอกเราด้วยว่าสาวใช้ผิวสีที่ถูกมองเป็นคนชั้นล่างเหล่านี้มีส่วนช่วยสร้างสังคมอเมริกันแดนใต้ยังไงในการอบรมเหล่าคุณหนูของพวกเธอให้เป็นคนที่ภูมิใจในตัวเอง และหยิ่งในศักดิ์ศรี ซึ่งเราเห็นได้จากฉากการอบรมเลี้ยงดูเม โมบลี่ย์ของเอบิลีน หรือแม้แต่ตัวของสกีตเตอร์เองที่เป็นผู้หญิงที่มีความคิดเป็นของตัวเองก็มาจากการอบรมเลี้ยงดูของคอนสแตนตีน
การกำกับของเทต เทย์เลอร์ เล่าเรื่องแบบทื่อๆ ไม่มีการใช้ภาษาภาพที่จี๊ดจ๊าดและก็กระโดดไปมาแบบไม่ได้มีชั้นเชิงอะไร แต่ใช้การแสดงของนักแสดงเป็นพลังหลักในการขับเคลื่อนให้ชวนติดตามซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากเพราะเทย์เลอร์เลือกนักแสดงหญิงระดับสุดยอดมาใช้งานแม้เพียงบทเล็กๆ ก็ตาม และแม้ว่าตัวละครหลายตัวใน The Help จะเป็นตัวละครตามสูตรหนังคนดำและหนังผู้หญิง บทหนังของเทย์เลอร์ที่ดัดแปลงจากนิยายของแคธริน สต็อคเก็ต ผู้เป็นเพื่อนในวัยเด็กของเขา ก็ใส่ความลึกและเฉดใหม่ๆ ให้ตัวละครเหล่านี้แตกต่างจากหนังแนวเดียวกันที่เคยสร้างมาก่อนหน้านั้น
การแสดงของนักแสดงก็มีส่วนช่วยให้หนังดูเด่นขึ้นมาอีกระดับจากหนังแนวเดียวกัน เดวิสที่เคยเข้าชิงออสการ์จาก Doubt และอาจมีโอกาสเข้าชิงอีกครั้งจากเรื่องนี้ ทำให้หนังน่าติดตามไปตลอดทั้งเรื่อง เธอสามารถถ่ายทอดความเจ็บปวดของชีวิตผ่านน้ำเสียงให้เรารู้สึกตามได้โดยที่หนังไม่จำเป็นต้องมีภาพให้ดู และโดยไม่ให้รู้สึกหดหู่ไปพร้อมๆ กัน การแสดงที่ต้องข่มอารมณ์จากความไม่พอใจต่างๆ ก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม และเมื่อเธอระเบิดอารมณ์ในตอนท้ายก็ทำได้อย่างทรงพลังในแบบที่กำลังพอดี
เฮาเวิร์ด, สเปนเซอร์ และ เชสเทน ก็เป็นตัวละครสีสันสำคัญของเรื่อง และอาจมีโอกาสได้เข้าชิงออสการ์ในสาขานักแสดงสมทบหญิงกันทุกคน หลังจากที่เฮาเวิร์ดทำให้คนหมันไส้เธอมาแล้วใน 50/50 ผู้ชมจะเกลียดเธอมากขึ้นใน The Help เธอเล่นเป็นฮิลลี่ที่ใจร้าย ขี้เหนียว เจ้ายศเจ้าอย่าง เจ้าบงการ ได้อย่างเป็นธรรมชาติมากๆ และไม่ดูเป็นนางร้ายแบบสำเร็จรูป สเปนเซอร์ในบทของมินนี่ก็ใส่อารมณ์ขันได้อย่างถูกจังหวะ และกลายเป็นตัวขโมยซีนในหลายฉาก เชสเทนก็ใช้ความสามารถทางการแสดงให้บทสาวผิวขาวทรงโตโง่ซื่อให้ดูมีมิติใหม่มากขึ้น
สโตนในบทสกีตเตอร์นั้นก็ถือว่าทำได้ดีเช่นกัน ชอบเธอมากในฉากที่ต้องเก็บความรู้สึกที่มีต่อเพื่อนๆ หลังจากเธอรู้เห็นความไม่ดีของคนเหล่านั้น สปาเซ็คในบทคุณนายวอลเตอร์สที่ขี้หลงขี้ลืมก็ทำให้หนังดูสนุก และฉากที่เธอเอาคืนลูกสาวก็เล่นได้อย่างเจ็บแสบไม่ทิ้งลายนักแสดงรุ่นลายคราม แจนนี่ในบทแม่ที่ป่วยเป็นมะเร็งของสกีตเตอร์ก็ทำได้ยอดมาก ฉากที่เธอออกมาปกป้องลูกสาวเพื่อชดเชยความผิดก็ถือเป็นฉากเด่นที่สนุกอีกฉาก
ต่อให้คุณไม่ชอบหนังผู้หญิงหรือหนังคนดำ คุณก็สามารถไปชมหนัง The Help ได้อย่างสนุกครับ เพราะบทบาทการแสดงของนักแสดงหญิงที่เก่งกาจเหล่านี้ครับ และเชื่อว่าจะต้องมีใครสักคนจากเรื่องนี้ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ปีหน้าแน่นอน
คะแนน 8.5 /10
ข้อมูลเบื้องต้นของหนัง
The Help
ชื่อไทย: คุณนายตัวดำ สาวใช้ตัวดี
บริษัทผู้สร้าง: ดรีมเวิร์คส์
บริษัทจัดจำหน่าย: วอลท์ ดิสนี่ย์
วันฉายในไทย: 10 พฤศจิกายน 2554
ผู้กำกับ: เทต เทย์เลอร์
นักแสดง: วิโอลา เดวีส, เอ็มมา สโตน, ไบรซ์ ดัลลัส เฮาเวิร์ด, อ็อคตาเวีย สเปนเซอร์, เจสซิกา เชสเทน, ซิสซี่ สปาเซ็ค, แอลลิสัน แจนนี่, อาห์นา โอ เรลลี, ไซซ์ลี ไทสัน, คริส โลเวลล์ และ ไมค์ โวเกล
เว็บไซต์ทางการ: http://thehelpmovie.com/us/
ไลท์นะ โดยเฉพาะเนื้อหาติดดินดี เหมาะกับสังคมบ้านเราเป็นอย่างมาก ประเภทคนใช้ปะทะคารมใส่เจ้านาย ส่วนเจ้านายก็ร้ายไปหมด ไม่ว่าจะเป็นหน้าตา หรือการพูดจา แนวหนังมันออกมาห้วน
ไม่ต้องอาศัยองค์ประกอบอะไรเลย อยู่ที่บทบาทของนักแสดงล้วนๆ สมควรแล้วที่ได้รางวัล !
เยี่ยมยอดเช่นเคยนะครับท่าน รออ่านรีวิว Hugo อย่างใจจดใจจ่ออยู่น๊า!!!!!
บอกได้คำเดียวว่า หนังบ้านๆอย่างนี้ ทำดีๆมันสนุก ซึ้งกว่าหนังอัลงการงานสร้างซะอีก like อ่ะ!
หนังทำได้ดีน่ะ แต่ยังไม่ถึงขั้นออสการ์ // อ็อคตาเวีย สเปนเซอร์ ถ้าจะได้ออสการ์ ก็น่าจะเพราะบทที่ได้ใจคนดูมากกว่าฝีมือ เพราะเมื่อเทียบกับผู้ร่วมชิง ยังห่างไกล
เพิ่งดู dvd เมื่อคืนเองค่ะ หนังสนุกอีกเรื่องของปีเลย (โดยเฉพาะฉากมินนี้เอาคืน) อิ อิ