แต่ Mission: Impossible – Ghost Protocol อาจไม่ใช่ภาคที่ดีที่สุดสำหรับผม ผมยังคิดว่าภาคแรกทำได้เหนือกว่าตรงที่เป็นหนังที่มีสไตล์ในการของมุมกล้องและการเคลื่อนไหวของกล้อง รวมถึงมีความเข้มข้นของบทหนังมากกว่า มีความเป็นหนังจารชนมากกว่าตรงที่มีการวางแผนซับซ้อนซ่อนเงื่อนและฉากหักมุม ภาคนี้เป็นภาคเอามันส์และชวนเสียวอย่างเดียว บอกเราตั้งแต่แรกว่าผู้ร้ายเป็นใคร และต้องการจะทำอะไร ซึ่งเหตุผลง่ายๆ ก็คือผู้ร้ายคนนี้เพี้ยน และฝ่ายพระเอกก็ตามไล่ล่าเพื่อขัดขวางแผนการไปตามเมืองต่างๆ จึงไม่ได้ดูเป็นผู้ร้ายที่ไม่มีบารมี
อีกข้อเสียหนึ่งของหนังก็คือเส้นของความตื่นเต้นเร้าใจ หนังเปิดตัวได้น่าตื่นเต้นและทวีความตื่นเต้นไปเรื่อยๆ ราวกับนั่งรถไฟเหาะตีลังกาหรือเรือไวกิ้ง และฉากเหตุการณ์ที่ดูไบคือส่วนที่เสียวซ่านที่สุดของหนังและอยู่ช่วงกลางเรื่อง เหตุการณ์เผชิญหน้าครั้งสุดท้ายที่มุมไบกลายเป็นฉากที่ลุ้นหรือซับซ้อนน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับมอสโกและดูไบครับ มันเลยทำให้ไคลแม็กซ์ไม่สุดติ่งเท่าที่ควร
ผมให้หนังเรื่องนี้ 8/10 ครับ ใครชมมาแล้วมีความเห็นยังไงและให้คะแนนเท่าไหร่บ้าง เชิญใส่กันมาเลย
อ้อ เผื่อใครอยากได้เพลงธีมของหนังที่รีมิกซ์ใหม่เอาไปฟังหรือเอาไปทำริงโทน พาราเมาท์เขาใจดี ให้คุณโหลดเอาไปฟังฟรีที่นี่ครับ และด้านในยังมีคลิปจากหนัง The Incredibles ของแบรด เบิร์ด ที่เอามาตัดต่อโดยใส่เสียงตัวอย่างหนังของ Mission: Impossible – Ghost Protocol เข้ามา ซึ่งผู้ที่ทำคลิปขึ้น ทำได้เนียนจนให้เรารู้สึกว่าถ้าแบรด เบิร์ด ทำให้หนัง The Incredibles เป็นหนังสายลับแบบมิสชันอิมพอสซิเบิลก็คงคล้ายแบบนี้แหละ