โนแลน ใช้เบนเป็นตัวร้ายใน The Dark Knight Rises เพื่อปิดฉากไตรภาคให้แท้จริง

โนแลน ใช้เบนเป็นตัวร้ายใน The Dark Knight Rises เพื่อปิดฉากไตรภาคให้แท้จริง
ก่อนที่ฉากเปิด 6 นาทีของหนัง The Dark Knight Rises จะฉายให้ชมกันในโรง IMAX บางแห่งสุดสัปดาห์นี้ และน่าจะมีตัวอย่างฉบับเต็มของหนังออนไลน์ในสัปดาห์นี้เช่นกัน คริสโตเฟอร์ โนแลน ให้สัมภาษณ์ Hero Complex คอลัมน์ของลอสแอนเจลีส ไทม์ เพื่อรียกน้ำย่อยครับ

โนแลนได้ฉายฉากเปิด 6 นาทีดังกล่าวให้แฟนหนังบางส่วนได้ชมกันไปแล้วจากกิจกรรมนกตื่นก่อนที่เราเคยรายงานไป และยังพาผู้กำกับชั้นนำมากมายไปร่วมชมด้วย เสียงวิจารณ์ออกมาในแง่ดีทั้งหมด และบอกว่าผู้ชมจะต้องทึ่งแน่ๆ จะมีก็แต่เรื่องเสียงพูดของเบน (ทอม ฮาร์ดี) ที่ไม่ค่อยจะมีใครฟังรู้เรื่อง คิดว่าโนแลนน่าจะเอาไปปรับปรุงด้านเสียงใหม่อีกครั้งก่อนหนังฉายจริงครับ

และสำหรับเหตุผลการเลือกเบนมาเป็นตัวร้ายนั้น โนแลนได้อธิบายในสัมภาษณ์ว่าทำไมเขาและเดวิด เอส. โกเยอร์ ผู้ร่วมเขียนบท ถึงใช้เบนมาเป็นตัวร้ายคู่ปรับของมนุษย์ค้างคาว ใน The Dark Knight Rises โดยบอกเหตุผลว่า “เพราะผมต้องการปิดฉากและสรุปจบให้ไตรภาคชุดนี้อย่างแท้จริง ในออกมาทรงพลังและสิ้นสุดจริงๆ”

โนแลนเสริมอีกว่า “สำหรับการเลือกเบน ความแข็งแรงทางร่ายกายเป็นเหตุผลสำคัญ ถ้าต้องการผู้ร้ายที่ดี เราจำเป็นต้องมีต้นแบบ เราต้องมีผู้ร้ายที่มีความสุดโต่งมากๆ โจ๊กเกอร์เป็นตัวร้ายต้นแบบของความเป็นปีศาจ ของความสับสนอลหม่านไร้กฎหมาย และมีอารมณ์ขันที่ชั่วร้าย แต่สำหรับเบนแล้ว เขาเป็นอะไรที่เรายังไม่เคยใช้ในหนังมาก่อน”

โนแลนเคยบอกเอาไว้แล้วว่าอยากทำอะไรให้แตกต่างออกไปในหนังเรื่องนี้ และเบนก็เป็นตัวร้ายที่ใช้พลกำลังทางร่างกายเป็นหลัก “เขาเป็นอสุรกายบนโลกภาพยนตร์อันคลาสสิคก็ว่าได้ แต่มาพร้อมมันสมองอันปราดเปรื่องด้วย ผมคิดว่าเขาเป็นตัวละครที่น่าทึ่ง ผมคิดว่าผู้คนจะต้องประทับใจต่อสิ่งที่เราทำกับเขา”

ส่วนสาเหตุที่โนแลนเลือกทอม ฮาร์ดี มารับบทตัวร้ายนี้ ผู้กำกับจาก Inception บอกว่า “การได้นักแสดงอย่างทอม ฮาร์ดี มาสวมบท เราจะต้องได้อะไรที่พิเศษมากแน่ๆ ทอมเป็นคนที่รู้จักใช้ทุกองศา ทุกท่วงท่าของร่างกายในการเป็นตัวละครในแบบที่สุดยอดนักแสดงทำได้”

“เขาเป็นนักแสดงที่เก่งเรื่องการใช้ร่างกายมากๆ เขาสามารถแปลงสภาพตัวเองได้ และอยู่ในทุกการเคลื่อนไหว เขาไม่กลัวที่จะมองตัวละครจากด้านนอกเช่นเดียวกับด้านใน มันจึงมีความเข้าถึงภาวะจิตใจของตัวละครอย่างลึกซึ้ง แต่ก็ยังรู้ตัวเสมอว่าจะใช้ร่างกายยังไง และรู้ว่าจะใช้รูปร่างในการถ่ายทอดตัวละครนั้นออกมายังไงด้วย คริสเตียน เบล เองก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน”

ระหว่างให้สัมภาษณ์ โนแลนยังเปิดอกถึงความรู้สึกต่อการกำกับหนังอัศวินราตรีภาคสุดท้ายของเขาด้วย “ผมพยายามจะข่มอารมณ์ระหว่างถ่ายทำไว้ ผมพบว่ามันไม่ได้ช่วยให้ผมทำงานได้ดี แต่เราก็รู้สึกจุกอยู่ในคอหอยจริงๆ ที่คิดว่า เอาล่ะ นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะทำงานนี้แล้ว มันเป็นการเดินทางของชีวิตที่สนุกมาก” โนแลนสารภาพ

โนแลนยังเล่าต่ออีกว่า“มันสะเทือนอารมณ์มากๆ ตอนที่เราถ่ายฉากสุดท้ายของตัวละครเหล่านี้ และบอกลาอัลเฟร็ดเป็นครั้งสุดท้าย บอกลาอธิบดีกอร์ดอนเป็นครั้งสุดท้าย และในที่สุดก็ถึงคริสเตียนเป็นคนสุดท้าย ที่ได้บอกลาแบทแมน มันสำคัญมาก รวมถึงตัวละครใหม่ๆ ด้วย ได้ถ่ายฉากสุดท้ายของแอนและคนอื่นๆ มันซาบซึ้งใจมากๆ”

ตัวอย่างหนังของ The Dark Knight Rises น่าจะออกมาในสัปดาห์นี้ครับ ส่วนฉากเปิดความยาว 6 นาที ในโรง IMAX ที่ฉายแปะหน้าหนัง Mission: ImpossibleGhost Protocol มีข่าวที่ยังไม่ยืนยันว่าจะมีเฉพาะที่โรงของพารากอนเท่านั้น

12 comments

  1. .

    อืม แต่ยังไงก็ยังเป็นเรื่องน่ายินดี

    ที่โนแลนจะได้เริ่มสร้างตำนานบทใหม่ จากเรื่องราวใหม่ๆ อีก

    .

  2. ผมเชื่อว่า “เบน” ไม่ได้ทำให้ “Batman” หลังหักแล้วต้องเลิกเป็นไปหรอก แต่คงเป็นด้านอื่นมากกว่า อาจจะทำให้คนดูต้องซ็อตแน่ๆ อ่านแล้วพอจะมองแนวทางที่หนังจะเดินทางไปออกมากขึ้นแล้วครับ อ่านบทความข่าวนี้คิดได้ดำเดียวใหัวก็ดือ “คลั่ง” !!!

  3. เรารู้กันอยู่แล้วว่าในคอมมิค แบทแมนหลังหักเพราะเบน แต่ในหนังผมว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านั้น

  4. ดู 6 นาทีแรกแล้วครับ สุดยอดจริงๆครับ แค่ 6 นาทีแต่ทรงพลังกว่าหนังทั้งเรื่องบางเรื่องอีก

Leave a Reply to lordsaintCancel reply