มิเชล รอดริเกซ และ ชอว์น โรเบิร์ต กลับมา ใน Resident Evil: Retribution

ตอนนี้ Resident Evil: Retribution ภาค 5 ของหนังผีชีวะกลายเป็นหนังรวมรุ่นมากขึ้นทุกทีแล้วครับ เพราะมีการนำนักแสดงเก่าจากภาคก่อนๆ กลับมารับบทอีกครั้ง ในแบบที่เราเองก็ไม่รู้ว่าจะกลับมาได้ยังไงเพราะเป็นตัวละครที่ตายไปหมดแล้ว

BD รายงานครับว่ามิเชล รอดริเกซ จะกลับมารับบทเรนอีกครั้ง หลังจากรับบทนี้มาแล้วในภาคแรกเมื่อปี 2002 ที่ตัวละครของเธอกลายเป็นซอมบี้และถูกอลิซ (มีลลา โจโววิช) ฆ่าตายอีกที ไม่เพียงแค่นั้น ชอว์น โรเบิร์ต ผู้รับบทเป็นอัลเบิร์ส เวสเกอร์ ตัวร้ายใน Resident Evil: Afterlife ก็จะกลับมารับบทเดิมด้วย

ส่วนที่มีการประกาศออกมาก่อนหน้านี้นอกเหนือจากโจโววิชและเซียนา กิลลอรี (รับบทเป็นจิล วาเลนไทน์) ที่ผมไม่ได้มารายงานให้ทราบก็คือคอลิน แซลมอน (Resident Evil), และบอริส ค็อดโจ (Resident Evil: Afterlife) ซึ่งนี่อาจแปลได้ว่าถ้าหนังไม่มีการย้อนภาคต้น ก็อาจจะมีการโคลนนิ่ง หรือมีการกลายร่างกลายเป็นอย่างอื่นของตัวละครที่เคยมารับบทในภาคก่อนๆ ครับ

หนังกำลังถ่ายทำอยู่ตอนนี้ในโตรอนโต และจะยกกองไปถ่ายกันต่อที่ญี่ปุ่นและรัสเซีย โดยมีแผนออกฉายกันยายน ปี 2012 ในระบบสามมิติ

13 comments

  1. มีทั้งคนชอบและไม่ชอบในเวลาเดียวกัน หนังเรื่องนี้ในความเห็นของผมมันคือโลกคู่ขนานของโลก Resident Evil ซึ่งมี อลิซ เป็นแกนหลักของโลกนี้ กับ โลกที่ในเกมที่ไม่มี อลิซ ดังนั้นถ้าอยากจะมีความสุขกับเกมที่เล่นต้องไม่ชมหนังครับ เพราะเนื้อหามันเดินไปคนละทางตั้งแต่ต้นแล้ว และจริงๆผมขอชมว่าผู้กำกับหนังและทีมผู้สร้างยังคงรักษาเอกลักษณะของหนังได้ดีมากๆตั้งแต่สร้างมา…

  2. หลายคน(โดยเฉพาะแฟนๆเกม) มักจะชอบถามว่า ทำไมหนังที่ทำจากเกม ไม่ทำเนื้อเรื่องตามเกม…คำตอบก็คือ มันทำไม่ได้น่ะสิครับ เพราะเกมมันก็คือสาส์นที่ทำมาอย่างนึง เพื่อนำเสนอในรูปแบบของ “เกม” หนัง (หรือหนังสือ) มันก็ทำมาเพื่อนำเสนอในอีกรูปแบบนึง ลองคิดภาพว่าถ้าทำตามเกมเป๊ะๆ แบบเกมภาคแรกเงี้ย มันจะน่าเบื่อมากเลย เห็นตัวละครวิ่งหากุญแจ หาไอเทม เปิดประตู แต่ถ้าทำเนื้อเรื่องตามเกมเป๊ะๆแบบไม่ผิดเพี้ยน โดยตัดช่วงเล่นเกมออกไปล่ะก็ มันก็จะจบภายในสิบนาทีเท่านั้น (เข้ามาคฤหาสน์ สู้ซอมบี้ วิ่งๆๆๆ เจอบอส ฆ่าบอส จบ)

    มันเลยต้องทำการ “ดัดแปลง” ไงครับ หนังที่ทำจากหนังสือก็เช่นกัน มันต้องมีการดัดแปลงบทภาพยนตร์ บาเกม บทหนัง ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า ผู้สร้างเจ้าไหนจะดัดแปลงบทได้ดีกว่ากัน ส่วนตัวผมว่าที่ดัดแปลงแล้วดีก็เช่น Silent Hill (อันนี้ส่วนตัวชอบมาก เพราะถือว่าเอาองค์ประกอบจากเกมมาใส่ในหนังได้ค่อนข้างลงตัว) หรืออย่าง Doom อันนี้ผมไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ของเกม แต่ดูหนังแล้วก็ค่อนข้างชอบนะครับ

    ส่วนหนัง RE ภาคแรก ผมว่าทำออกมาได้ดีเลยล่ะ บรรยากาศ อารมณ์มันได้เลย ภาคสองก็พอใช้ (ถ้าไม่นับว่า Nemesis มันเล่นกังฟูเป็นน่ะนะ!) ภาคสามนี่เอ่อ…แล้วจากนั้นก็บัดซบมาตลอดครับ -_-“

    • เห็นด้วยครับ เพราะถ้าเนื้อเรื่องหนังเหมือนกับเกมก็จะดูไม่ตื่นเต้นและคาดเดาได้ง่ายมาก ส่วน Silent Hill เกมโปรดตลอดกาลของผมพอมาเป็นหนังก็ถือว่าทำได้ดีระดับหนึ่งครับ อย่างน้อยก็มี gimmick จากเกมส์มาเยอะพอสมควรเลยทีเดียว ตอนนี้รอดูภาคสองอยู่ =]

  3. ภาคแรกสุดยอดมาก ทั้งบรรยากาศ อารมณ์หนัง ลุ้น ตื่นเต้น ได้ฟีล
    หลังจากนั้นก็ตลาดจ๋า บู๊จ๋า ไม่แคร์บรรยากาศเกมส์ แต่เน้นแอ็คชั่นเวอร์ เก่งเทพเวอร์ๆ

    แต่ถ้าไม่อคติ และยึดติดบรรยากาศจากเกมส์มากเกินไป ก็ถือเป็นหนังแอ็คชั่นที่ดูเพลินดีนะครับ

    เป็นหนึ่งในหนังชุดที่ ทำออกมาก็จะตามดูอ่ะ แบบเดียวกับ โกงตาย ยังไงก็ตาย…

    แต่เจ๊โรดมาก็ทำให้น่าสนใจขึ้นเยอะ เพราะผมชอบเจ๊แกมาก นางฟ้า20% นางร้าย80% ไม่แคร์ที่จะมีขี้ดินคราบน้ำมันเปื้อนตามเล็บตามตัว

    แต่เห็นเจ๊แกทีไร … สุดท้าย ม่องทุกที

    ปล.ภาพน่ากลัวมากกกกกกกกกกกก -*-

  4. เห็นด้วยครับ จะไปดูเพราะนู๋มิเชล รอดริเกซนี่ล่ะ ชอบสำเนียงพูดของเธอห้าวดี ช่วงหลังเธอไม่ค่อยได้บทเด่นเลย นับตั้งแต่ S.W.A.T เล่นทีไรตายตลอด

Leave a Reply to Zupra NovaCancel reply