เฮนรี คาวิลล์ บอกว่าบทหนัง Man of Steel เป็นหนึ่งในบทหนังที่ดีที่สุดที่เคยอ่าน

ขณะที่นำเสนอหนัง Immortals ในงานคอมมิค-คอน 2011 เฮนรี คาวิล นักแสดงนำของหนังยังคงเปิดปากเงียบเกี่ยวกับรายละเอียดของ Man of Steel หนังซูเปอร์แมนฉบับยกเครื่องใหม่ ที่กำกับโดยแซ็ค สไนเดอร์ ครับ แต่เขาได้รับอนุญาตให้พูดได้ว่า “เป็นหนึ่งในบทหนังที่ดีที่สุดที่ผมเคยอ่าน” ( via The Playlist)

คาวิลล์อาจพูดด้วยความสัตย์จริง หรืออาจกลัวคริสโตเฟอร์ โนแลน ผู้อำนวยการสร้างของหนัง ฆ่าเอาก็ตามที แต่บทหนังที่ว่านี้เขียนโดย เดวิด เอส. โกเยอร์ จาก The Dark Knight Rises ครับ และหากเป็นจริงดังว่าก็ถือเป็นข่าวดีอย่างมากต่อหนังเรื่องนี้

ภารกิจสำคัญอย่างแรกของคาวิลในการสวมบทซูเปอร์แมนก็คือการฟิตหุ่นให้ตัวใหญ่กว่าบทพระเอกใน Immortalsสำหรับหนังเรื่องต่อไป ผมหนักขึ้นกว่าใน Immortals ถึง 25 ปอนด์แล้วในตอนนี้ ร่างกายที่ใหญ่ขึ้นขนาดนี้ได้เตรียมพร้อมทางอารมณ์ให้แก่ผม มันสอนให้เรารู้จักเจรจาและเอาชนะการเจรจา มันสอนให้สังเกตคำโกหกในหัวของเรา เหมือนที่ครูฝึกบอกว่า มันไม่จำเป็นต้องสนุกเพื่อที่จะสนุก” (ไม่เข้าใจว่าช่วงท้ายหมายถึงอะไรเหมือนกันครับ)

ในข่าวที่เกี่ยวข้องกัน Man of Steel ได้เลื่อนฉายจากกำหนดเดิม ธันวาคม 2012 ที่ต้องแข่งกับ Django Unchained ของเควนติน ตารันติโนกับลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ, Lone Ranger ของกอร์ เวอร์บินสกี้ และ จอห์นนี่ เดปป์ และ The Hobbit: An Unexpected Journey ของปีเตอร์ แจ็คสัน ไปเป็นกลางมิถุนายน 2013 แทนครับ

และในข่าวที่เกี่ยวข้องกันอีกข่าว ฉากเปิดเรื่องใน Superman Returns ฉบับของไบรอัน ซิงเกอร์ ที่ถูกตัดออกไปจากหนัง แต่นำเข้าใส่ในฉบับบลู-เรย์ นั้น ได้ออนไลน์ออกมาให้ยลแล้วครับ ฉากยาวเกือบ 6 นาทีนี้ ใช้งบประมาณทางเทคนิคพิเศษถึง 10 ล้านเหรียญสหรัฐเลยครับ

คลิกชมด้านใน

6 comments

  1. “แต่บทหนังที่ว่านี้เขียนโดย เดวิด เอส. โกเยอร์ จาก The Dark Knight Rises ครับ”

    ขยายนิดนึง เท่าที่ผมรู้มา ใน “The Dark Knight Rises” เดวิด โกเยอร์แค่ “เขียน story” ร่วมกับคริส โนแลน ส่วน screenplay เขียนโดยพี่น้องโนแลนครับ

  2. ตามเ้ข้าที่ดูจากต้นข่าว จากที่ว่า

    It teaches you how to negotiate and win the negotiation. It teaches you how to notice the lie in your head. As my trainer says, ‘It doesn’t have to be fun to be fun.’ ” Sure, whatever that means.

    เข้าใจว่าน่าจะหมายถึง การฝึกร่างกายของตัวนักแสดงเอง ช่วยเสริมทางด้านอารมณ์ของเขาด้วยครับ คือทำให้รู้จักมีสติรู้เท่าทันอารมณ์และความรู้สึก เช่นว่า ให้ยอมรับว่าตัวเองกำลังเสแสร้ง เพื่อให้คนอื่นรู้สึกดี (ประมาณว่า คนอื่นถามว่า สนุกไหม? ก็ต้องตอบว่า สนุก ทั้งที่จริงๆอาจจะรู้สึกไม่สนุก)

    น่าจะความหมายประมาณนี้ครับ

  3. อ่านะ พี่แกอาจจะเคยอ่านบทไม่เยอะละมั้ง เท่าที่ดูจากประวัติการแสดง ว่าแต่ อยากเห็นชุดฉบับใหม่จัง จะแนวๆ หม่นๆ เหมือนฉากเปิดไบรอัน แบบนี้อ่าป่าวแต่ที่เดา ในเรื่องที่ โนแลน บอกจะลดพลัง อย่างน้อยตาเลเซอร์ คงไม่มีแล้วแหละ อาจจะเหลือบินได้ กับแรงเยอะ แต่คงไม่ผิวหนังทนทานเว่อร์นัก

Leave a Reply to panda2airCancel reply