หนึ่งในหนังซัมเมอร์ใหญ่สุดของปีนี้ Transformers: Dark of the Moon ของไมเคิล เบย์ ฉายแล้วเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาครับ ทำรายได้ทุบสถิติมากมาย ขณะที่คำวิจารณ์ต่อหนังก็ย่ำแย่อย่างไม่น่าแปลกใจ
ในแง่ของรายได้ แม้ว่าจะเปิดตัวในสุดสัปดาห์แรกน้อยกว่าภาคสอง Revenge of the Fallen แต่ก็ยังทำรายได้งดงามในสุดสัปดาห์นี้ถึง 97.4 ล้านเหรียญ และเมื่อรวมกับรายได้จากตั้งแต่วันอังคารที่แล้วที่หนังฉายวันแรก รายรับรวมได้มากถึง 162.1 ล้านเหรียญเลยครับ
ส่วนคำวิจารณ์ก็อย่างที่บอกครับว่าถูกสับเละอย่างไม่ต้องสงสัย หนังได้คำวิจารณ์ด้านบวก 38% และทำคะแนนรวมอยู่ที่ 4.9/10 จากการประเมินของ Rotten Tomatoes แต่ก็ถือว่าสูงขึ้นเมื่อเทียบกับ Revenge of the Fallen ที่ได้เพียง 20% และทำคะแนนอยู่ที่ 3.9/10 และต่ำกว่าภาคแรกที่ได้ 57% และทำคะแนนอยู่ที่ 5.8/10
มาดูที่ฝั่งคนดูบ้างครับ หนังได้คะแนนอยู่ในระดับปานกลางจากสมาชิกเว็บ IMDB ที่ 6.9/10 จาก 17,851 โหวตในตอนนี้ และก็ไปในทางเดียวกับนักวิจารณ์ นั่นก็คือสูงกว่าภาคสองที่ได้ 5.9/10 คะแนน แต่ต่ำกว่าภาคแรกที่ได้ 7.2/10 คะแนน
สำหรับความเห็นของผมต่อหนังแล้ว รู้สึกว่าหนังอยู่ในระดับปานกลางหรือดูได้เพลินๆ แต่ไม่ได้รู้สึกมันส์ หรืออยากกลับไปดูซ้ำ สิ่งเดียวที่ทำให้ผมสนใจหนังไปได้ตลอดเรื่องก็คือฉากแอ็คชั่นกับฉากเทคนิคพิเศษที่ดูสวยน่าตื่นตา และเทคนิคสามมิติที่มีคุณภาพดีนับตั้งแต่ Avatar ครับ แต่เมื่อใดที่หนังไม่ได้แสดงฉากเทคนิคหรือฉากบู๊แล้ว หนังไม่สามารถเรียกความน่าสนใจได้มากพอ ราวกับนั่งดูวิดีโอเกมที่มีภาพน่าตื่นตา ที่ไม่อาจทำให้เราอินกับเนื้อเรื่องได้เลย เพราะตัวเนื้อเรื่องนั้นขาดความสมเหตุสมผล ทำให้อารมณ์สะดุดตลอด และไม่อาจสร้างความผูกพันกับตัวละครได้จนเราอยากลุ้นตาม
ถ้าขึ้นชื่อว่าหนัง จำเป็นต้องมีเนื้อเรื่องที่ลื่นไหล สมเหตุผลและน่าเชื่อถือ แม้แต่จะเป็นหนังบู๊หรือหนังจากการ์ตูนก็ตาม ไม่เช่นนั้นก็คงไม่ต่างจากงานโชว์ภาพกราฟฟิก โชว์ฉากสตั๊นท์ หรือการ์ตูนที่มีคนแสดง และบทที่สมเหตุผล น่าเชื่อถือ และการสร้างความผูกพันแก่ตัวละครได้นั้นก็เป็นเหตุผลให้หนังอย่าง Star War, Die Hard, หรือ T2 กลายเป็นหนังที่คลาสสิค
ความสมเหตุผลและน่าเชื่อถือที่ว่านี้ คือในแง่ของแรงจูงใจของตัวละครในการกระทำต่างๆ ซึ่งหลายตัวละครใน Transformers: Dark of the Moon ดูจะมีพฤติกรรมที่ไม่น่าเชื่อถือหรือมีเหตุผลพอ และตัวบทหนังก็ไม่สร้างความผูกพันแก่ตัวละครให้เราลุ้นอยากเอาใจช่วย หลายครั้งดูน่ารำคาญด้วยซ้ำ
ผมให้คะแนนหนังอยู่ที่ 5/10 ครับ แล้วเพื่อนๆ ที่ชมแล้วให้คะแนนเท่าไหร่กันบ้าง
ผมให้ 6/10 มาทำ IRON HIDE/RINOX ของผมตาย ยอมไม่ได้เสียใจมาก – –
ผมเองก็ไม่กล้า Spoil อะไรมาก แต่ไหน ๆ ก็พูดมาแล้ว อยากบอกว่าฉาก IRON HIDE นี่มันแบบว่าทำได้….. มากเลย -*-
ฉากนั้นแบบว่า.. เหมือนโดนหนังหักมุม ตบหน้าไหงไม่รู้ แทนที่จะช็อค+เสียใจที่ iron hide ตาย ผมอ้าปากเหวอเลย คิดได้ไงเนี่ย – -“
ภาค 2 ผมให้ 6.0 ภาคนี้เอาไป 6.5 จริงๆจะให้แค่ 5.5 แต่ +1.0 จากภาพ 3D เลยนะเนี่ย
พระเอก(แซม)ภาคนี้จะมีทำไม ตัดไปซะแก่นเรื่องก็ไม่เสียซักนิด
มีไว้หาเรื่องบุกไปช่วยนางเอกมั้งครับ (ฮา ฮา)
ผมให้ 8.5 ครับ
ส่วนตัวว่ามันส์ดีครับ เคยโพสไปบ้างแล้วในกระทู้ก่อนหน้านี้
สำหรับผมเองยังอยากกลับไปชมอีกรอบนะครับอยากเก็บรายละเอียดฉาก
แต่เนื้อหานี่เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันขาดหลักเหตุและผล ไปจริง ๆ ครับ
ถ้าภาคหนึ่ง 9/10 ภาคสอง 6.5/10 ภาคนี้คงได้ประมาณ 7.5-8/10 ครับ
หนังมีช่วงดี มีช่วงน่าเบื่อสลับกันไป แต่โดยรวมแล้ว ตัวละครแต่ละตัวทำหน้าที่ได้ตามบทบาทแล้ว แม้ว่าจะโดดๆ ไปบ้าง แต่ก็ถือว่ามองผ่านได้ครับ
ผมโหดให้ 3/10 มันหนังโชว์กราฟฟิก เหมือนในเกม เท่านั้น ตัวละครที่ไม่น่าจะตายก็มาตาย (IRON HIDE) โกรธมากๆ ตัวร้ายก็โง่ไปให้ พระเอกไปฆ่าที้งง่ายซะงั้น โง่ยิ่งกว่าการ์ตูนอีก ผมดีใจที่ ไมเคิล เบย์ จะกำกับภาคนี้เป็นภาคสุดท้ายและในอนาคต (ไม่นาน) ผมขอผู้กำกับใหม่ที่ดีกว่านี้ และขอพระเอกใหม่ไปเลยไม่จำเป็นต้องต่อเนื่องรึจะรีบูสไปเลยก็เห็นด้วยที่สุด หนังดูเอามันส์ได้แต่สาระมันต่ำ…!! จนเกินจะรับไม่สมเหตุสมผลทุกภาด เน้นขายของเล่นมากกว่าไรเดอร์ซะด้วยซ้ำ…ผลโดยรวมของผมคือ พอดูได้เท่านั้น…(สุดท้ายก็รอซื้อแผ่นแท้ อิอิอิ)
ให้5/10 ฉากสำคัญเดาได้หมดทุกฉากเลย ดูแล้วไม่อยากกลับไปดูซ้ำอีกรอบ เสียที่ไม่เน้นความสัมพันธ์ของตัวละคร บางฉากอยากจะร้องไห้ตามด้วยซ้ำแต่มันไม่สุดอ่ะครับ แต่อย่างว่าอ่ะนะ เสียใจตั้งแต่ภาค2แล้ว ภาคนี้คงเปลี่ยนอะไรไม่ได้มาก หนังเป็นอย่างที่มันควรจะเป็นแล้วล่ะครับไม่ด้อยไม่ดีกว่าที่ควรเป็นครับ ผมชอบฉากเอฟเฟลคกระจายจริงๆ ดูแล้วเพลิน 3Dก็ใช้ได้ แต่ซับจางอ่านไม่ค่อยรู้เรื่องอ่ะ
ผมว่าหนังของนายคนนี้เน้นแต่ฉากเอกชั่นเวิ่อๆ โดยขาดสมเหตุสมผลเอาซะเลยตั้งแต่ amageddol แล้ว ,มาถึง Pearl Harbor ผมก็เลิกเข้าไปดูในโรงอีกเลย ถ้าจะดูเรื่องนี้ก็คงรอแค่แผ่นเช่า
ฉากต่างๆก็ตื่นตาตื่นใจตามสไตล์ ป๋าเบย์ อยู่แล้วอะครับ ฮ่าๆ แต่เนื้อเรื่องแปร่งๆในช่วงหลังอะครับ เช่น ออปติมัสไพร์มหล่นไปติดสลิงห้อยต่องแต่งอยู่พักใหญ่ ทำไมสลัดออกไม่ได้ ? เป็นถึงหัวหน้าฝ่ายดี ฟันหุ่นตายมานับไม่ถ้วน แต่แหงกอยู่กับสลิง แล้วผู้ร้ายหายไปไหน ทำไมไม่ไปยิงซ้ำ ทั้งๆที่เป็นเป้านิ่งแบบนั้นแท้ๆ แถม เมกาตรอน ทำไมไร้น้ำยาแบบนั้น ต้องให้ผู้หญิงคนหนึ่งไปพูดยั่วโมโห ถึงจะมีแรงฮึดลุกขึ้นมาจากโซ่ตรวน (โถ..) แล้วสุดท้าย ถ้า เมกาตรอน ไม่มาจุ้นล่ะก็ ป่านนี้ ออปติมัน ไพร์ม คงตายโหงไปแล้ว อันนั้นมัวมาตีกันเอง แล้วพระเอกก็ชุบมือเปิบเฉยเลย ฆ่าทิ้งทั้ง 2 คน ยืนเก๊กอีกนิด แล้วตัดบทจบเลย เฮ้อ.. ไมเคิล เบย์ ยังเป็นคนทำหนังที่อ่อนด้อยด้านเนื้อเรื่องมากๆแฮะ ขนาดมี สปีลเบิร์ก มาช่วยโปรดิวซ์นะนั่น คะแนนสุดท้ายผมให้ 6.5/10 ล่ะกัน หนังดูได้เพลินๆครับ แต่ถ้าเนื้อเรื่อง Make Sense กว่านี้ คงจะเข้าท่ามากๆ ><
555+ ตอน ตอนหลงไป ติดสลิงห้อง อะ ก็ มันรัดทั้ง ตัวแขนกับ ขา รัดแค่ 2อย่า แขนกับขาก็ ทำอะไรไม่ได้แล้วเพราะ อาวุธ มัน ก็ ใช่ไม่ได้ถูกปะแต่อันที่ ผู้ร้ายหายไป ไหนหมดก็ ใช่นะ (คงต่อสู้ยุมั้ง) ฮาฮา แต่อันเมกาตรอน ให้ผู้หญิง ยั่วโมโหก็ ใช้นะ (สงใส พูดแล้ว เอาไปคิดมั้ง แล้วอันที่จริง ก็ไม่ได้ยุ ฝ่ายเดียวกันด๊วย) แถมอันที่่ว่ามั่วมาตีกันเอง อะ ไม่หรอก อันที่จริงก็ ยุคนละฝ่ายกัน แถวที่จะว่าก็ คือ หุ่นยนต์ ถึงจะล่ำหน้า กว่ามนุษหลายอย่าง แต่ สติิกับ อารมณ์ มันแตกต่างกันนะ ถ่า ดู ตั้งแต่ภาค แรกก็คงรู้นะว่า ต่างกันแค่ ไหนดูแค่นี้ก็ คงรู้ไม่เหมือน นาย มาไรก็ ติติติ ท่าติ แล้วจะ มาดู ทำ … ไรหรอ คับ ทีคุณ ยังมา ไตรตอง เรื่องของคนอื่นได้่ ถ่าว่างก็ คง ไตร ตองคำพูดตัวเองก่อนจะ พูดละกัล หรือ ถ่า นายว่าเรา เขียน …. ไรก็ ชั้ง เหรอะ สมอง เบบี้ คน ธรรม ดาคงไม่รู้เรื่่องหรอกนะ
แล้ว ถ่า คุณว่า ไมเคิล เบย์ สร้างหนัง อ่อน ด้าน เนื้อเรื่อง แล้วทำไมคุณไม่รองทำหนัง แล้วทำรายได้ ให้เหมือน ไมเคิล เบย์ ละ อย่างคุณ 10ล้านจะเกินปะก็ไม่รู้
ผมให้ 5/10 ครับ ยอมรับว่าฉากแอคชั่นทำได้มันส์ดีมาก เนื้อเรื่องส่วน autobot ช่วงแรกๆดูตื่นเต้นน่าติดตามมากครับ ทั้งที่ไปตามหาชิ้นส่วนยานอาร์ค และการไปตามหา sentinel บนดวงจันทร์ แต่พอหลังจาก IRONHIDE ตายปุ๊บ.. ไหงเนื้อเรื่องมันตุปัดตุเป๊ได้ขนาดนั้นก็ไม่รู้ ยิ่งเนื้อเรื่องช่วงที่ยึดเมืองนี่แบบว่า ตกลงว่าตรูมาดู Transformers หรือว่ากำลังดู Battle:LA ผสม War of the Worlds, ID4 กันแน่เนี่ย?? ดูแล้วหงุดหงิดมากครับ ไหนตอนแรกบอก Decepticons ยึดเมืองร่วม 200 ตัว? ไหงพวก autobot เข้าเมืองกันง่ายขนาดนั้น จุดจับผิดเต็มไปหมด กลายเป็นหนังฝ่ายดีน้อยนิด มาปราบฝ่ายอธรรม ธรรมดาๆไปเลย.. ยิ่งฉากสู้ climax ด้วยแล้ว Megatron โผล่มาแทรกแป๊บเดียว โดนฆ่าตายง่ายไปไหม????? อีกฝ่าย(ไม่ขอspoil) พอเป๋ที โดนหั่นคอเฉยเลย..
ดูแล้วแบบว่าทำไม Michael Bay มีปัญหากับการคิดบทช่วงclimaxมากเลยเหรอ? ภาค 1 ก็ทีแล้ว Megatron ดูด the cube ปุ๊บตายปั๊บ.. แต่พอรับได้ เพราะภาคแรกดูแล้วโอเค ภาค 2 ตอน Fallen โดนฆ่านี่เป็นความห่วยแตกสุดๆของเรื่องเลย โผล่มาอย่างเท่ห์ตัวร้ายเรา Optimus ติดปีกทีเดียว ตายแล้วเหรอ??? ภาคนี้ก็ไม่พ้นกัน..
ยิ่งเนื้อเรื่องของฝั่ง sam นี่ ดูแล้วเป็นส่วนเกินสุดๆของเรื่องเลยครับ ภาคนี้ Shia บทน่ารำคาญมากๆ นางเอกใหม่ก็แข็งทื่อ – -” เป็นส่วนเกินยอดแย่ของหนังจริงๆ..
สรุปก็คือถ้าคิดว่าเสียเงินร่วม 300 ไปดู 3D Action มันส์ๆก็พอรับได้ครับ แต่ถ้า IMAX คงไม่คุ้มพอ โดยรวมแล้วความขัดใจกับความตื่นเต้นก็พอหักล้างกันได้
ฮาฮา คุณก็พูดถูกเยอะและก็ผิดเยอะ นางเอกใหม่ แข๊งยังไงครับก็เป็น บท เข้าเนอะ แถม คุณติติติ แล้วคุณ สร้างหนัง เหมือนเขาได้ป่าว ครับ ถ่าคุณสร้างได้ ไหน โช เอาอันดับ1 ของโลกหน่อยดิ คับ ฮาฮา พูดแล้ว คิดด้วย คับ อันดับหนึ่งไม่ไหว เอา แค่ ให้เกิน ภาคแรกก็ พอ พูดไรมาก็ขอให้คิดหน่อยนะ ไตรตองก่อน เขียนก็ได้
ฮาฮา คุณก็พูดถูกเยอะและก็ผิดเยอะ นางเอกใหม่ แข๊งยังไงครับก็เป็น บท เข้าเนอะ แถม คุณติติติ แล้วคุณ สร้างหนัง เหมือนเขาได้ป่าว ครับ ถ่าคุณสร้างได้ ไหน โช เอาอันดับ1 ของโลกหน่อยดิ คับ ฮาฮา พูดแล้ว คิดด้วย คับ อันดับหนึ่งไม่ไหว เอา แค่ ให้เกิน ภาคแรกก็ พอ พูดไรมาก็ขอให้คิดหน่อยนะ ไตรตองก่อน เขียนก็ได้ ฮา ๆ
ผมก็ให้แค่ 5/10 ขนาดดูในโรงIMAX3D ยังเฉยๆ และเผลอหลับช่วงต้น สำหรับผม Michael Bay ทำหนังสนุกแค่เรื่องเดียวคือ The Rock นอกนั้นห่วยจนถึงเฉยๆ(หมายถึงเนื้อเรื่อง)รอดูอยู่ว่าเมื่อไหร่จะมีคนทำหนังแนว sci-fi ให้ดูแล้วตื่นเต้น ตื่นตาตื่นใจเหมือน The Abyss T2 หรือ Jurassic Park อีก
แหม๋ แล้วคูณสร้างหนังแล้วทำรายได้เหมือน ไม่เคิล เบย์ ป่าว คับ
ถ้าตัดภาค”ล้างแค้น”ออกไป แล้วเอาภาคแรกกับภาคสามมารวมกัน มันก็เข้ากันได้สนิทเหมือนกันนะ
พล็อตเรื่องไม่มีอะไรที่ต่อเนื่องกันเลย เหมือนดูซีรีย์มากกว่า ไม่จำเป็นว่าจะต้องดูครบทั้งสามภาค
ถึงจะดูรู้เรื่อง แต่ที่รับไม่ได้เลยก็คือมุขตลกบ้านๆ ที่ ผกก.เบย์ พยายามยัดเยียดแบบเต็มเหยียดไม่มียั้ง
ก็เลยทำให้หนังดูด้อยค่าไปถนัดใจเลยครับ แต่ถึงยังงัยโดยรวมก็ยังดีกว่าภาคสองครับ !
ผมคิดว่าก็ดีกว่าภาคที่แล้วนะ แต่หลังผมหลับครับ
ไม่น่าเข้ามาอ่านเลยครับ สปอยล์ไปหน่อยนะครับ…ผมยังไม่ได้ดูเลยอ่า…
ตอนออกจากโรงผมให้ 8 แต่ถึงตอนนี้ที่ตกผลึกแล้ว ผมให้ 7 ครับ ภาคนี้ ดีกว่าภาค 2 แต่ ยังด้อยกว่า ภาค 1 ฉากแอคชั่น ตื่นเต้น และทำออกมาได้ดีมาก แต่จุดอ่อนสำคัญก็ยังคงเป็น บทเหมือนเดิม ภาคนี้ดูจะเน้นไปที่เรื่องราวหลัก ทำให้ขาดระเอียดปลีกย่อยไป โดยเฉพาะความสัมพันธ์ของตัวละคร ในขณะที่บางฉากก็สามารถเดาเหตุการณ์ได้ไม่ยาก บางฉากก็พอได้ลุ้นบ้าง และน่าเสียดายที่ shockwave กลับเป็นแค่ตัวประกอบทั้งๆ ที่ควรจะมีอะไรจับต้องได้มากกว่านี้ โดยรวมแล้วเป็นหนังที่ดูสนุกเรื่องหนึ่ง แต่พอออกจากโรงแล้วก็ไม่ได้รู้สึกอะไร ดูแล้วก็แล้วกัน….
ก็ อย่างว่า ภาค แรก มาแรง เป็นหนัง แปลกแนวไม่เคยมีใครสร้าง พอมาภาค 2-3 แล้ว มัน เนื้อ เรื่อง เก่าคุณเลยดูเหมือน ภาคแรก หนุกกว่า
Michael Bay ขี้โกงอ่ะเอาหนังไอซ์แลนมาตัดต่อกับ ทรานฟอร์เมอร์ 3 (ฉากต่อสู้กันบนถนน)ได้ไงอ่ะ มี2 ฉากลด้วยแถมภาคสองฉากเครื่องบินสอดแนมยังซ้ำกับภาคหนึ่งอีกโห่ โกงคนดูชัด ๆ ครับ จุดเสียคือ ตัวร้ายบทจะตายก้อตายเลยอ่ะง่ายมาก ๆ ไหนบอกเก่งนักเก่งหนา เหอร์เศร้าเปลื่ยนผุ้กำกับมั้ย แล้วสร้างภาค 4 ต่อ เอา เจมคาเมรอน มากำกับแทนเลย แต่ความมันโอนะ เอาไป 7.3 นะครับ ยังไงก็ยังรัก บัลเบอบี ครับ รักทรานฟอร์เมอร์ด้วย ครับ สรุปง่าย ๆ ภาค1 ดีที่สุดครับ
ผมให้ 6/10 ครับ จริงๆผมว่าถ้าตัดส่วนเนื้อเรื่องของมนุษย์ แล้วเน้นไปที่หุ่นทั้งหลายโดยตรง อาจจะเวิร์คกว่านี้นะครับ
เอ่อ ที่ผมอ่านความคิดเห็นส่วนใหญ่บอกหนังไม่สมเหตุสมผล แต่ผมว่าเราดูเพราะมันไม่สมเหตุผลมาตั้งแต่ภาคแรกแล้ว เราอาจจะมองภาคแรกดีกว่า ก็เพราะภาคแรกคือหนังรูปแบบใหม่ที่เราไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนในโลกนี้ เราจึงยกให้มันเป็นหนังที่ดีที่เยี่ยมมากเท่าที่เคยมีมาในโลก เพราะกราฟฟิกที่เทพเกินบรรยาย ดูได้แต่อ้าปากค้าง แต่พอมาเริ่มภาคต่อ เราก้อเริ่มเคยชินกับหนังแนวนี้แล้ว จึงไม่ได้ยกย่องมัน แถมทั้งหาเหตูผลสมเหตุสมผลมาตัดทอนคุณค่าของหนังไปอีก กะอีแค่หุ่นแปลงร่างคุณว่ามันสมเหตุสมผลหรอ และผมก็มองว่า ความไร้สาระของตัวละคร พอๆกันทุกภาค ผมเป็นคนดูหนังเน้นอยากเห็นอะไรใหม่ๆ เทคโนโลยีที่นำมาสร้างคือประสบการณ์ใหม่ที่ถือว่าคุ้มค่ากับการดูในโรง3มิติมากก สำหรับคนที่ต้องสมเหตุสมผลไม่ควรดูเรื่องนี้ครับ
เห็นด้วยครับ แต่ที่ว่าไม่สมเหตุสมผลกัน คงไม่ได้หมายถึงเรื่องการแปลงร่างของหุ่นยนต์ เพราะนี่เป็นจักรวาลของหนังเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่อาจจะหมายถึงบทที่อ่อนไป โชว์ให้เห็นว่าหุ่นยนต์ทำไมโง่ขนาดนี้ ทั้งที่เป็นผู้คิดค้นวิทยาการสุดยอดกว่ามนุษย์ทั้งนั้น
เนื้อเรื่องธรรมดา แต่ธรรมดาที่ว่ามีเนื้อเรื่องแค่ครึ่งเรื่อง ความสมเหตุผลต่ำต้อยติดดิน CGเทพ แอคชั่นโคตรมันครับ หักลบกันแล้วให้ความชอบ 7.5/10
พากย์ไทยสนุกกว่าซาวด์แทร็คมากๆครับ
ซาวด์ : พูดกันเร็วมาก มุขที่ปล่อยมาก็ตามไม่ทัน ซับเล็ก+จาง แป๊ก อีก
พากย์ : ลื่นไหล รู้เรื่อง แบ่งเสียงที่เถียงกันหนักเบาได้ดี ไม่รำคาญ เสียงเหมาะกับตัวละครมากๆ
ตอนแรกด่าหนังกระจาย ห่วยมากมาย แต่พอไปดูพากย์ไทย รู้สึกดีขึ้นมาหน่อยเพราะรู้เรื่อง ไม่รำคาญแล้ว
ถ้าใครดูซาวด์แล้วไม่ชอบใจ แนะนำว่าถ้ามีโอกาสได้ดูอีกรอบ ไม่ว่าจะไปดูที่โรง หรือรอแผ่น
ดูแบบพากย์ไทยนะครับ อารมณ์จะดีขึ้นมาหน่อยแน่นอน
ผมให้ 7.5 ครับ เพราะชอบหนังเรื่องนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้วและบวกกับที่รู้แนวทาง
หนังของเฮียเบย์แกว่าไม่ต้องไปสนใจความสมเหตุสมผลในเรื่องบทใดๆทั้งสิ้น!
สำหรับภาค 3 ถ้าเป็นเรื่องฉากแอ็คชั่น ความน่าตื่นตา คะแนนผมให้เกิน 10 แต่…
ในส่วนของการเล่าเรื่องผมเองกลับรู้สึกว่ามันช่างน่ายืดยาดน่าเบื่อโดยเฉพาะกับ
การที่พยายามจะจริงจังเหลือเกิ๊น! ทำให้รู้สึกว่าถ้าภาค 3 นี้ถ้าสั้นลงเหลือสัก 2 ชม.
จะกำลังพอดีและหนังคงมันส์ตั้งแต่ต้นจนจบได้สมบูรณ์มากกว่านี้ครับ
หลังจากดูหนังเฮียเบย์มาจนมาถึงเรื่องนี้ ส่วนตัวผมรู้สึกว่าเฮียแกทำดราม่าออกมาจืดชืด
มาก(คงไม่ใช่แนวถนัด) ผมชอบอารมณ์แบบเด็กผู้ชายจาก Transformers ภาค 1 และ 2
มากกว่าภาคนี้ครับ
หนังทำมาจากการตูนทำได้ขนาดนี้ก็ยอดแล้ว
เนื้อเรื่องให้ 4/10 ครับ แต่ CG ให้ 10 เต็มครับ
เนื้อเรื่องมันทะแม่งๆ นะผมว่า ภาค 2 เนื้อเรื่องเลอะแล้ว ภาค 3 นี้งงไปหมดมีอะไรจับใส่ หลายเหตุการณ์ไม่สมเหตุสมผล ขนาดดูพากย์ไทยยังตามไม่ทัน ตัวร้าย Shock Wave ออกมาแทบไม่พูดอะไรเล้ย มาให้อลังการ ตายแบบตัวประกอบ
ส่วนตัวคิดว่าภาคนี้เนื้อเรื่องแย่สุด แต่เป็นหนัง CG ที่ทำออกมาได้สุดยอดที่สุด ในบรรดาหนังมีคนแสดง
หนังดูเอามันส์อย่างเดียว
ผมว่าคุณเข้าใจผิดคำว่า “ไม่สมเหตุสมผล”ที่หลายๆคนในที่นี้บอกกันอยู่นะคับ ถ้าจะให้อธิบายคือบทหนังไม่ให้ที่มาที่ไปหรือเขียนบทได้ไม่เข้าท่า จึงทำให้ขาดการประติดประต่อเนื้อเรื่องที่ดี คนดูเลยเกิดอาการงงว่าไอตัวนั้นมายังไง ตัวนี้ทำอะไร ฯลฯ เขาเลยกันเรียกว่า”ไม่สมเหตุสมผล” คับ
ดูช่วงแรกๆแทบหลับ แต่หลังๆมันส์ดี ถ้าดูแบบไม่คิดอะไร เอาภาพสวย+มันส์ ก็คุ้มค่าแล้วครับ
บ่นว่าหนังไม่ดี ยังเข้าไปดูกันอีก
ไม่ดีจริง ไม่ได้เงินขนาดนั้นหรอกครับ หนังไม่ได้ทำเอารางวัลนะ ทำเอาเงิน และเขาก็ได้เงินกลับไปก็เท่านั้น
เนื้อเรื่องให้ 3.5/10ครับ cgให้10ครับ
หุ่นจากภาคก่อนก็หายไปเยอะครับ อย่างหุ่นแฝด หรือหุ่นแพทย์อะ จบก็ง่ายเกินไปด้วยศตรูเป็นถึงผู้นำฝ่ายdecepticonกับautobotแต่optimusมีแขนข้างเดียวกับขวานอีกด้าม มันเอาเเรงจากไหนมางัดหัวmegatronฟะแล้วตอนsentinelสู้กับoptimusสวนกันไปตั้วหลายทีไม่เห็นมันเป็นไรเลยเเต่โดนmegatronยิงใส่ไม่กี่โอกก็เข่าอ่อนล่ะ
จบก็ไม่ค่อยดีคิดจะจบก็จบเเล้วพวกdecepticoที่ปล่อยสะพานอวกาศอยุตามมุมต่างๆทั่วโลกไปไหนว่ะ
สรุปว่าหนังมันดีที่cgมากกว่า
อีbeyคงจะหัวตันคิดเรื่องไม่ออกละ
แหม ภาพยนตร์ก็ถือเป็นศาสตร์ เป็นศิลป์ อย่างหนึ่งนะครับ แล้วอีกอย่างผู้บริโภคอย่างผมเสียเงินเข้าไปดูทำไมจะไม่มีสิทธิ์วิจารณ์อ่าครับ ไม่ได้ขอเงินคุณไปดูนะ
ส่วนตัวแล้วว่า ภาคนี้ ดีกว่าภาค 1 แต่ยังไม่เท่าภาค 2 ดูแล้วให้อารมณ์เหมือน เบย์ พยายามจะปรับปรุงแล้ว ให้เนื้อเรื่องมีดราม่า มีการโยงไปยังเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ต่างๆนาๆ เน้นไปที่ชีวิต และผลกระทบต่างๆ ทั้งของ autobot และ แซม แต่ผลรวมก็ยังไม่น่าพอใจเท่าที่ควร การเฉลี่ยบทก็ยังแย่ ฉากแอคชั่น ก็น่าตื่นตาแต่ไม่น่าตื่นใจ รู้สึกว่าจะหลับไป 2 ตื่นด้วย ยาวและยืดเยื้อไปหน่อย แต่ผมประทับใจนะ ตรงที่มีคนฝ่าย ดิเซปติค่อน บ้าง จะได้รู้สึกว่าแซมมีบทบาท มีคนที่เป็นคู่ปรับและต้องต่อกรด้วย หนังเรื่องนี้ผมว่าไม่มีคนคงไม่ไหวมั้งครับ ถ้าเหลือแต่หุ่นยนต์ตีกันอย่างเดียวผมว่าไม่เวิร์คหรอก
ผมก้อว่าเนื้อเรื่องมันแปล่งๆ มันดูไปเรื่อยแล้วมันง่วงไงบอกไม่ถูกก้อมีไอฉากต้อสู้ที่กินขาด ส่วนเนื้อเรื่องและความสัมพันมันมั่วๆตั้งแต่ตอน ironhide โดนฆ่าแล้วยิ่งตอนในเมืองผมก้อลุ้นตั้งนานว่า bumblebeeไปไหนแถมออกมาช่วงแรกที่เข้ายึดเมืองก้อออกมาแค่ช่วยแซมกะผู้พันเลนนิกไว้ พอจะได้สู้อยู่ดีๆก้อตัดไปฉากเปนเชลยซะงั้นงง แถมเกือบโดนยิงตายอีก ไอฉากที่ออปติมัสติดสลิงอีกอดไม่ได้ที่จะหันไปหาเพื่อนแล้วขำ หัวหน้าออโตบอทห้อยต๋องแต๋ง ยิ่งตอนจบก้อเหมือนๆกะทุกคนหละครับตัวร้ายตายง่ายเกินแต่อันนี้ก้อพอเข้าใจได้ว่าฝั่งพระเอกมันเทพ แต่รถในหนังมีการโมมาใหม่สวยมาก ทุกคันเลย โดยเฉพาะบีภาคนี้ไฟโปรเจกเตอร์ด้วย แถมนอกหนังยังโดนรถSUVตำรวจชนกลางเมืองอีกเล่นซะคามาโล่ยับเลย เนื่อเรื่องผมให้ 4 ส่วนฉากต่อสู้กะรถนี้เอาไปเลย 10
ไม่เคยหาเนื้อหาสาระความเป็นหนังรางวัลอะไรกับหนังพี่เบย์เลยคะ หาแต่ความสนุกอย่างเดียว แต่ทุกครั้งที่พี่เบย์เริ่มทำหนังที่เน้นเนื้อหามากกว่าฉากแอ็กชั่นปุ๊ป หนังจะน่าเบื่อทันที ดูอย่าง Pearl Harbor กับ The Island ช่วงเล่าเรื่องเป็นอะไรที่น่าเบื่อมาก แต่ฉากแอ็กชั่นในเรื่องก็ทำได้สนุกจริงๆ
เหมือนกับ TF3 เป็นหนังที่เล่าเรื่องได้น่าเบื่อเรื่องหนึ่งของพี่เบย์ค่ะ แต่ฉากมันส์ๆยังคงทำออกมาได้ตื่นตาตื่นใจเช่นเคย 3d เป็นส่วนที่ช่วยในหนังเรื่องนี้ดูดีขึ้นเยอะ แต่ไม่สามารถทำให้คนดูหนังสนุกหรืออินไปกับเนื้อเรื่องได้เหมือนภาคแรกที่ทั้งสนุก มันส์ ซึ้งนิดๆ รวมกันแล้วมันเจ๋ง กว่าภาคล่าสุดที่พยายามจะดีกว่าสองภาคแรกแต่กลับกลายเป็นความไม่น่าเบื่อ ไม่อิน แต่มันส์ดี ก็แค่นั้นแหละค่ะ
ป.ล.พี่เบย์คะ กลับไปทำหนังบู๊ๆ บทไม่ต้องเริ่ด ขอแค่ดูสนุกแบบลื่นไหลไม่มีสะดุด ให้กระเทยได้กรี๊ดกร๊าก ในโรงหนังเล่นๆนะคะพี่ (พี่เย์จะอ่านออกไหมเนี่ย?)
น่าเบื่อนะคะ ไม่ใช่ “ไม่น่าเบื่อ” ลืมตรวจก่อนส่ง แอร๊ยยยย
หนังเรื่องนี้มีแต่คำถามครับ
ทำไม iron hide ตายแล้วเป็นสนิม ทำไมออฟติมัสไม่เอาเมทริกชุบชีวิต ?
ทำไมระหว่างเค้าสู้กัน เมกะทรอยกลับไปนั่งหลับอยู่อย่างนั้น
ทำไมศัตรูตัวฉกาจต้องตายง่ายแบบกากๆในทุกๆภาค
และอีกมากมาย = =
ภาค 2 ว่าแย่แต่ก็ยังทำให้สนุกได้ ภาคนี้น่าเบื่อเป็นที่สุด อารมณ์ประมาณเมื่อไหร่จะจบเลยครับ
สิ่งที่อยากดูคือ เนื้อเรื่องเมคเซ้นส์หน่อยนึง ไม่ต้องระดับออสการ์
อยากดูหุ่นยนต์แปลงร่าง และห้ำหั่นกันแบบตัวๆ เป็นเป็นหมู่ ไม่ใช่หุ่นยนต์ยิงกันหรือหุ่นยนต์ยิงกับคน
และมุกตลกห่วยๆ เบย์ก็ไม่ปรับปรุงเลย ตัวละครหัวหน้านางเอกไม่จำเป็นต้องใส่มาก็ได้
เสียอารมณ์สุดๆครับ อยากให้ภาคสุดท้ายเป็นที่จดจำมากกว่านี้
ภาคแรกฉากแอคชั่นมันทุกฉาก ไม่ว่าจะดูกี่รอบๆ
ภาคสองเปิดตัวสวยงาม ฉากแอคชั่นตื่นตา เป็นที่จดจำ
ภาคสาม … ตึกถล่มเหรอ เฉยๆ หนอนใต้กินเหรอ กากมากๆ เฮ้ออออ
ไม่ค่อยเกี่ยวกะหนังแต่ขอบอกหน่อยแล้วกันว่า
เมื่อวันที่1-7-54ไปดูTransformers: Dark of the MoonแบบIMAXที่PARAGONมารอบ4ทุ่ม20โรงกว่าจะปล่อยให้คนเข้าไปดูก็5ทุ่มแล้วไม่เท่าไหร่พอคนทยอยเดินเข้าไปผมอยู่ประมาณครึ่งนึงของคนทั้งหมดที่เข้าโรงหนังพอเดินเข้าไปปรากฎทางว่าโรงหนังได้ฉายหนังไปแล้วน่าจะประมาณ5-10นาที(ไม่ร่วมตัวอย่างหนัง)ทั้งๆที่พวกคุณเป็นคนปล่อยให้พวกเราเข้าช้าเองและยังมีคนอีกครึ่งที่ยังทยอยเดินเข้ามามันเอาเปรียบผู้บริโภคชัดๆค่าตั๋วตั้ง450บาทผมควรเรียกร้องยังไงดีครับให้พวกเค้าสำนึก
คือจะบอกว่าเค้าเปฺดให้เข้าก็เกือบ5ทุ่มแล้วแบบแม่งเปิดประตูให้เค้าก็เปิดหนังเลยมึง….เอ้ยคุณบ้าหรือป่าวววววว
คนอย่างเยอะเค้าเปิดให้เค้าผมก็ไปต่อแถวเลยแต่อยู่แถวหลังๆแล้วแย่งเค้าแถวแข่งกะคนอื่นไม่ทันแล้วหนังตัวอย่างเห็นเค้าบอกเป็นเรื่องมิชชั่น อิมพอสฯภาค4ด้วยแต่ผมไม่อะไรกะหนังตัวอย่างมากหรอกแต่หนังจริงมึง…เอ้ยคุณเห็นใจพวกกระผมมั้งไหมกระผมผิดอะไรตรงไหนเปิดให้เข้าก็ไปต่อแถวเลย…….อยากบอกว่าIMAX PARAGON นายอาเฮียมากกๆ
โทษทีนะครับเก็บกดอยากระบายมากๆ
สรุป ไมเคิล go to hell เถอะนะ มีโอกาสเเก้ตัวเเล้ว บทมันยัง….ขนาดนี้
อีหรอบ เดิม ผมให้
ภาคเเรก 6 / 10
ภาคสอง 4 / 10
ภาคสาม 5 / 10
ภาคสุดท้ายนี่ภาพสวยจริงๆนะยอมรับ เเล้วก็เรื่องฉากบู้ ok เเต่อยากจะตายก็ตาย
ดีนะที่ บับเบิ้ลบี ไม่ตาย ถ้าตายผมว่า ไมเคิล ได้นอนกอดเข่าเเน่นอน ฮาๆๆๆ
จบ(~~ลึกซึ้ง~~)
ยังไงผมก็ว่าภาคนี้สนุกกว่าดู resident evil รวมกัน4ภาคหล่ะครับ55555
เยี้ยม
ผมบอกแล้วไม่เคยตีตั๋วเข้าไปดูหนังของนายคนนี้อีกเลยตั้งแต่ Pearl Harbor ขนาดูแค่แผ่นยังเสียดายเวลาเลย ขนาดหนังที่มันเป็นแค่ โปรดิ้ว นะ ยังมีกลิ่นตุๆและบทห่วยๆเหมือนกันเลย
ภาค3นี้ “..พฤติกรรมที่ไม่น่าเชื่อถือหรือมีเหตุผลพอ..”
ทำให้หมดความสนุกไปจริงๆ
ด่าเบย์เกือบทุกคนแต่ดูหนังเบย์กันทุกเรื่อง
ถ้ามีเรื่องต่อไปเข้าก็คงไปดูกัน
น่าสมเพช
ดูหนังแอ็คชั่นแบบเบย์แต่อยากเอาสาระและเหตุผลแถมบทดีๆ
เหมือนไปซื้อฟ้าสฟู้ดกินแต่ดันถามหาวิตะมินหลังอาหาร
ด่าหนังเขาว่าห่วยทุกเรื่องแต่ตีตั๋วดูก่อนใครในอาทิตย์แรก
คิด…ก่อนเข้าไปดูก็รู้ได้ว่าจะเป็นแนวไหนมิใช่หรือ (ก็มันมีมาตั้ง 2 ภาคแล้ว พี่น้องเอ้ย)
ผมคิดว่่าคนส่วนมากคงคาดหวังไว้เยอะเพราะตาเบย์แกย้ำนักย้ำหนาตามสื่อบ่อยๆว่าภาคนี้จะดีขึ้นไม่งี่เง่าเน้นหุ่นมากขึ้นมุขแป๊กน้อยลง ให้ความสำคัญกับบทมากขึ้น บลาๆ แต่สุดท้ายเบย์ก็ยังเป็นเบย์ ระเบิดภูเขาเผาตึกรามบ้านช่องเข้าว่า อย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลัง 555555+
โดยส่วนตัวเนี่ยฉากบู๊ๆหุ่นตีกันทั้งหลายเนี่ย เต็มสิบให้ยี่สิบเลยครับ มันส์ล้างผลาญตื่นตาตื่นใจหลายตอนเลย แต่บทมันมั่วจนดูไปเกาหัวไปจริงๆน่ะแหละ โดยเฉพาะตั้งแต่ครึ่งเรื่องหลังเนี่ย มันมั่วจนชวนมึนจริงๆ แต่ก็โอเคครับโดยรวม อย่างน้อยก็ไม่แป๊กจนน่ารำคาญแบบภาคสอง ถ้าไม่คิดมากดูเอามันส์วันพุธก็คุ้มล่ะครับ
ปล.โฆษณาแฝงเยอะเนอะภาคนี้ทั้งกระดาษ ทั้งคอม ทั้งรถ(อันนี้แน่นอน)อิๆๆๆ
หนังเรื่องนี้ ขอให้ไปดูเพราะอยากดูครับ อย่าไปดูเพราะอยากด่า
หยั่งที่ คุณ kamo ว่าน่ะแหล่ะคับ ก็คาดหวังจะให้ดีขึ้นอบ่างที่เบย์คุยอยู่
แต่ต้องเข้าใจว่า ถ้าคาดหวังมากๆ ก็เสียความบรรเทิง เค้าเน้นบรรเทิง แต่มองหาแต่สาระ
ทีนี้ ไม่ต้องหาแต่หนังสาระเครียดๆ กันเหรอคับ บางอย่าง มันน่าจะผ่อนคลายกันบ้าง
ถ้าอยากได้ที่เพอร์เฟ็ค ลองไปสร้างหนังดูเองคับ แล้วอย่าให้ใครดู อย่าให้ใครติ
ต้องยอมรับว่า ดูหนังไมเคิล เบย์ ทุนสร้างหนา ภาพอลังการ แต่อย่าเน้นสาระ
ภาพบนจอที่เราดู หาดูจากหนังเรื่องอื่นไม่ไ่ด้แน่ๆ คิดให้สบายใจคับ
คือเข้าใจว่าไม่ได้ดั่งใจหลายอย่างกับหนังเรื่องนี้ แต่เห็นว่า ด่ากันเยอะ
แต่ก็ไม่ได้ทำให้อยากดูหนังเรื่องนี้ น้อยลงเลย… อยากดูเอง แล้วก็แบบอยากดูใจจะขาด
ทั้งที่ รู้ว่า ผลลัพธ์จะเป็นยังไง (ก็ดูมาตั้ง 2 ภาคแล้วนี่นะ)
ทำไมผมดูภาคนี้แล้วสนุกกว่าภาคสองอ่ะ -_-
ความไม่สมเหตุสมผลก็มีอยู่ แต่ถ้าไปมองทุกจุด
จ้องจับผิดจนมากเกินพอดี ดูเรื่องไหนมันก็ไม่สนุกหรอกผมว่า
โดยเฉพาะกับหนังเบย์ คนเราทุกคนเกิดมาย่อมมีกิเลสที่ก่อให้เกิดอคติอยู่แล้ว
เพราะงั้นอย่างน้อยผทว่าปล่อยวางเถอะ เขาไม่ได้ทำหนังเพื่อชิงออสการ์
แต่ทำหนังเพื่อเอาตังซึ่งเขาก็ทำสำเร็จสมควรได้รับคำชมมากกว่าคำด่านะผมว่า
ปล.ทำไมผมเบื่อกับฉากบู๊เกินไปในตอนท้ายๆจนแอบคิดว่าเมื่อรายมันจะยิงกันเสร็จซะที ^_^”
อยากบอกว่าตอนก่อนดูหนังลืม ไปฉี่ ผมนั่งโครตทรมาน เมื่อไหร่มันจะจบว้า
ผมว่า ผมไม่คาดหวังแล้วนะ พยายามดูให้สนุกไม่อคติแล้ว แต่ความสมเหตุสมผลความต่อเนื่องมันสะดุดจนรู้สึกอึดอัดอย่างมาก
จริงๆปมของเรื่องโอเค ตอนต้นปูเนื้อเรื่องมาดี แต่สุดท้ายลงเหวหมด การเล่าเรื่องค่อนข้างแย่
แต่ก็ยังดูได้และสนุกพอสมควรไม่เข้าขั้นห่วยหรอกหลายๆท่านอย่าเพิ่งซีเรียสเกินไป
สำหรับผมมันดีที่สุดแล้วไม่ว่าจะความคิดของใคร ๆ คนสร้างหนังไม่สามารถสร้างให้ทุกคนยอมรับกับหนังได้หมด เว้นแต่ว่า คนไหนจะยอมรับในหนังเรื่องนี้ต่างหาก . . .
เห็นด้วยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ผมให้10 เต็มใครจะทำไม ผมชอบอ่ะทำไมละ พูดมากไปได้ไรรึ
เห๊นด้วยพวกที่ ติติ ติแล้ว สร้างหนัง ทำรายได้ เหมือนหนัง เรื่องนี้ป่าวอยากรู้
เห็นด้วยพวกที่ว่า หรือติ ติแล้ว สร้างหนังแล้ว ทำรายได้ได้ดีกว่า รึ ป่าว เท่านั้นเอง พูดแล้วไม่คิด
มันก็เหมือนหนังที่ว่าดูเเล้วมันติดหนะครับว่าจากภาคเเรก ภาค 2 จะเป็นไงนะ
ภาค 3 จะเเก้ตัวได้จริงๆรึป่าว มันก็จะอยากติดตามว่าผลสรุปจะเป็นยังไง
ดูมาตั้ง 2 ภาคเเล้วดูไปเถอะ ภาค 3 หนะ เหมือน avatar นะหระ ส่วนตัวผม
ผมดูผมยังหลับเรื่องนี้ เเต่ภาคต่อผมก็ยังอยากดูอยู่ดีว่าเป็นยังไง
ป.ล.ส่วนคนที่โพสเรปบนของผม คนที่ชื่อ Noctis Lucius Cheram หนะ
ถ้าจริงๆเเล้วถ้าคุณติ ผกก คนอื่นผมว่าทุกคนก็มี สิทธ์ ที่จะทำราย
ได้หมดทุกคนเเหระครับ มันอยู่เเค่ความคิดที่จะบรรเจิดเเละคนดูก็ชอบ
เท่านั้นเอง เผอิญ ไมเคิล ทำได้เเหวกเเนว ตรงใจในภาคเเรกพอดี
ภาค 2-3 เลยมีคน ดูเรื่อยๆเพราะมันน่าติดตามก็เท่านั้น ส่วนเรื่องที่
บอกกันว่า เเซม ไม่ต้องมี บทก็ได้ผมว่าไม่จริง ถ้ามองดีดีเเล้ว เเซม
นั้นสำคัญที่สุดนะสำหรับผม
ครับ..!ๆๆๆ
รู้สึกผิดหวังนิดหน่อย ผมขำนะกับมุกต่างๆ ฉากแอ็คชั่นก็มัน ตื่นเต้น ตระการตาดีนะ แต่โดยรวมรู้สึกไม่สนุกอะ ด้วยเนื้อเรื่อง และ้ด้วยการเปรียบเทียบกับภาค1 20นาทีแรกแถบหลับ หนังอืดมาก
คลิ้นเดมซี่ บทก็เหมือนจะเด่น ก็ไม่เด่น
ยิ่งตอนกลางเรื่อง ที่ดิเซ็บติค่อนบุก แทบจะไม่มีโอกาสรอดกันเลย แต่ไหงตอนท้ายพลิกชนะได้ง่ายจัง
ปัญหาเรื่องบทอาจจะมาจากที่ต้องเปลี่ยนนางเอกจากเมแกน ฟ็อกซ์รึเปล่า เลยทำให้ต้องแก้บทใหม่ เลยอาจจะดูขัดหูขัดตาไปบ้าง ถ้าให้คะแนนก็ 6.5/10 CGต้องยอมรับจริงๆว่าเรื่องนี้สุดยอด
ปล.ไม่ได้เรียนนิเทศ กำกับหนังไม่เป็น แค่ดูมาแล้วก็มาแชร์ ติติงกันบ้าง ก็ดูแล้วมันไม่สนุก คิดเห็นยังไงก็ว่าไปตามนั้น ชอบก็อยู่ส่วนชอบไป ไม่ใช่คิดต่างคอมเม้นท์ไหนก็ไม่นั่งโควทตอบ นี่เว็ปสาธารณะนะครับ
ผมดูแล้วรู้สึกสนุกมากครับ รอบแรกที่ผมดูยังเก็บรายละเอียดได้ไม่หมดแต่ผมเข้าไปดูรอบ2แล้วนั้นมันจะมีที่มาที่ไปของแต่ละฉากให้ดูครับ มีคนถามว่า ปีกของออฟติมัสมาได้ยังไง คุณต้องลองฟังดีๆจะมีฉากๆนึงที่ก่อนที่จะเข้าโจมตีดิเซฟติคอนออฟติมัสจะพูดออกมาว่าประมารนี้ “จะต้องบินเข้าไปสู้กับพวกมัน ตู้คอนเทนเนอร์โดนพวกมันยิง ปีกอยู่ในนั้น ” หลายๆฉากผมว่าทำออกมาได้ดีที่เดียว ผมณู้สึกสนุกและอินไปกับมัน แต่ติตอนจบนิดหน่อย ห้วนไปนิดครับ ^^
ถูกต้องครับ แซม มีบทบาทมากนะครับในเรื่องนี้ วึ้งในการที่เค้ารักรถของเค้า สื่ออารมณ์มาได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะฉากที่ บี โดนจับเป็นตัวประกัน นั้นแหละ ทำเอาผมน้ำตาซึมที่ แซม ทำอะไรไม่ได้ แต่สุดท้ายก็ . . . . สู้เค้าบับเบิ้ลบี !!
ไปกำกับเองซะดีกว่านะ คุณโกรธมากๆที่ตัวที่คุณชอบตายน่ะ คุณรู้สึกผูกพันธ์ใช่มั้ย มันเท่ห์ดีอะไรดี นั่นแหละ สิ่งที่ผู้กำกับอยากให้เป็น เราก็ควรคล้อยตามเรื่อง Iron Hide เป็นตัวนึงที่เก่ง แต่กระนั้นแหละโดนอย่างนั้นใครก็ตาย มันย่อมให้คิดเสมอว่าอะไรก็เป็นไปได้(แต่ผมเศร้าที่ว่าไม่พูดถึง Iron Hide เลยรึไง) เรื่องภาพไม่ต้องพูดแล้วทำซะเนียน ดูแค่เบื้องหลังเห็นแต่ฉากระเบิด พอในหนังจริง ถล่มทั้งตึก ทำได้รึป่าว???
ใครที่คิดว่าแซมไม่สำคัญนี้คิดบ้างรึป่าว ผมรู้ผูกพันธ์กับตัวละครนี้จริงๆ เป็นคนที่ออโต้บอทไว้ใจมากที่สุด ถ้าตัดบทไปนี่สิ ถึงแปลก แต่บางครั้งก็ควรเทบทให้กับ หุ่นบ้างนะ ไอฉากเรื่อยเปื่อย ฉากสัมภาษณ์งานเนี่ยหรืออื่นๆควรตัดไปซะบ้าง (แต่มุกผมชอบนะ ^^)
ง่ายๆใครไม่ชอบ ภาคหน้าไม่ต้องดู แค่นี้จบ โอเครมั้ยทุกคน